เปิดงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2563

วช. 2 ส.ค.63 –  สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เปิดงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2563 ขนผลงานวิจัยกว่า 300 ผลงานจัดแสดง พร้อมโชว์งานวิจัยฝีมือคนไทยที่ใช้ในการรักษา และป้องกันการระบาดของโควิด-19 ในประเทศได้สำเร็จ


สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ หรือ วช. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับภาคีเครือข่ายการวิจัย จัดงานมหกรรมวิจัยแห่งชาติ 2563 ระหว่างวันที่ 2-6 สิงหาคม 2563 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ ในหัวข้อ วิจัยเพื่อพัฒนาประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชกาลที่ 9 พระบิดแห่งการวิจัยไทย และเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 และพระบรมวงศนุวงศ์ ที่ทรงพระมหากรุณาธิคุณต่องานวิจัยไทย

โดยภายในงานตลอด 5 วัน มีผลงานวิจัยกว่า 300 ผลงาน นำมาจัดแสดงถ่ายทอดความรู้ความก้าวหน้างานวิจัยฝีมือคนไทย ที่เป็นส่วนสำคัญของกลไกในการพัฒนาประเทศ อีกทั้งเป็นเวทีที่ช่วยเชื่อมโยงผู้ผลิตงานวิจัยและผู้ใช้ประโยชน์ให้พบปะแลกเปลี่ยนนำงานวิจัยต่อยอดเป็นประโยชน์ในวงกว้าง หรือพัฒนาเชิงพาณิชย์ ที่เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างมาก


ศ.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยงานการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า การแก้ปัญหาการระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบัน ทำให้ทุกภาคส่วนเห็นความสำคัญของงานวิจัยชัดเจนมากขึ้น ซึ่งปีนี้ได้นำผลงานวิจัยเหล่านี้นำเสนอเป็นไฮไลท์สำคัญ ตั้งแต่การพัฒนาชุดตรวจวินิฉัยโควิด-19 ที่ได้ผลแม่นยำในระยะไม่นาน ให้สามารถสุ่มตรวจหาผู้ติดเชื้อจำนวนมากในระยะเวลาสั้นได้ ช่วยคัดกรองผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อได้อย่างรวดเร็ว ปัจจุบันผลิตได้กว่า 100,000 ชุดต่อเดือน เพียงพอกับการใช้งานโดยไม่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ

ขณะที่ชุดป้องกันการติดเชื้อของบุคคลากรทางการแพทย์ ได้พัฒนาชุด PPE ที่มีคุณสมบัติพิเศษเคลือบสารสะท้อนน้ำ ทำให้ป้องกันน้ำ หรือการซึมผ่านของน้ำที่มีแรงดันได้ เนื้อเยื่อเส้นใยผลิตจากวัสดุคุณภาพดีมีความเหนียวคงทน สามารถซักนำกลับมาใช้ซ้ำได้อีกกว่า 20 ครั้ง ช่วยลดปัญหาขาดแคลนชุด PPE ทำให้บุคคลากรทางการแพทย์มีชุดปฏิบัติหน้าที่รักษาผู้ป่วยเพียงพอต่อความต้องการ อีกทั้งนำไปพัฒนาเป็นหน้ากากอนามัย มีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อโรคในระดับสูง

ส่วนในช่วงหลังของสถานการณ์โควิด ก็จะมีงานวิจัยสำหรับรองรับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมมากขึ้น สร้างจุดแข็งให้กับประเทศ ช่วยสร้างเศรษฐกิจระดับชุมชนที่พึ่งพาตัวเองได้แม้ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ


ศ.นพ.สิริฤกษ์  กล่าวอีกว่า สำหรับความก้าวหน้าด้านวัคซีนโควิด-19 ของไทย มีการทดลองใน 2 ระยะแรก มีผลที่น่าพอใจในระดับสูง โดยเตรียมจะทดสอบกับมนุษย์ในเดือนตุลาคมนี้ โดยยังมีความร่วมมือวิจัยและถ่ายทอดความรู้ด้านวัคซีนกับต่างประเทศควบคู่ไปด้วยซึ่งล้วนเป็นไปในทิศทางบวก ทำให้เกิดความก้าวหน้า และใกล้เคียงความจริงที่จะเกิดวัคซีนใช้ป้องกันโรคโควิด-19 ได้ตามที่คาดการณ์ไว้ในปี 2564 โดยนักวิทยาศาสตร์ได้คำนวนว่าราคาวัคซีนโควิด-19 จะอยู่ที่เข็มละ 20 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 620 บาท โดยจะต้องฉีดคนละ 2 เข็ม รวมประมาณ 1,200 บาท ซึ่งใกล้เคียงกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่

ด้าน ศ.นพ.เกียรติคุณ นายแพทย์ไกรสิทธิ์ ตันติสิรินทร์ ผู้ทรงคุณวุฒิ กล่าวว่า งานวิจัยช่วยให้เกิดความก้าวหน้าที่ทำให้ประเทศสามารถพึ่งตนเองได้ โดยพร้อมจะเสนอให้เพิ่มการลงทุนด้านการวิจัยมากขึ้น โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานในชีวิตประจำวัน เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ทำให้มีความพร้อม เกิดนวัตกรรม เกิดงาน และรายได้ ที่จะสร้างความมั่นคงให้กับประเทศอย่างยั่งยืน และมีนวัตกรรมที่มีราคาถูกให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์
นอกจากนี้ยังมีงานวิจัย หุ่นยนต์นินจา สำหรับช่วยบุคคลากรทางการแพทย์ในการรักษาผู้ป่วยทางไกล การวิจัยด้านอาหาร สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตร พลังงานทดแทน รวมทั้งยังมีนิทรรศการ และเวทีเสวนา ที่น่าสนใจอีกจำนวนมาก

สำหรับผู้สนใจร่วมชมงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2563 สามารถลงทะเบียนเข้างานล่วงหน้าได้ผ่านระบบออนไลน์ หรือ ติดตามชมนิทรรศการในงานมหกรรมวิจัยแห่งชาติ ผ่านเว็บไซต์ www.researchexpo.nrct.go.th และwww.nrct.go.th .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 163 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 20 ส.ค. – หนีไม่รอด รวบโจรสวมชุดไรเดอร์ บุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทอง 163 บาท พบของกลางบางส่วนซุกตู้ลำโพงในบ้าน จากกรณีคนร้ายแต่งตัวคล้ายไรเดอร์ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทอง พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน ก่อนกระโดดข้ามตู้หน้าร้าน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 163 บาท เป็นทองคำรูปพรรณประเภทสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท ประมาณ 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท, น้ำหนัก 3 บาท ประมาณ 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท ประมาณ 24 เส้น น้ำหนักรวม 48 บาท (รวมสร้อยข้อมือ 79 เส้น) ก่อนวิ่งขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่ด้านหน้า […]

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“ทศพล” รุดมอบมาลัย “ภูมิธรรม” หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่

กองบินตำรวจ 20 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เตรียมแถลงจับยาเสพติดลอตใหญ่ “ทศพล” รุดมอบมาลัย หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 8.00 น. ที่กองบินตำรวจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางมาขึ้นเครื่อง เพื่อไปแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดล็อตใหญ่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลตํารวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการ รมว.มหาดไทย ร่วมเดินทางด้วย ทั้งนี้เมื่อนายภูมิธรรมเดินทางมาถึง นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ที่ ครม. มีมติเมื่อ 19 ส.ค. แต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำพวงมาลัยมามอบให้นายภูมิธรรมและปลัดกระทรวงมหาดไทย และร่วมเดินทางกับคณะด้วย โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม อย่างไรก็ตามก่อนเดินทางเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้รายงานสถานการณ์ยาเสพติดให้นายภูมิธรรมรับทราบ.-319.-สำนักข่าวไทย

มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง

กทม.19ส.ค.-มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำพู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” นั่งพ่อเมืองปากน้ำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง อาทิ นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ว่าฯ สมุทรปราการ นายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าฯ บึงกาฬ เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าฯ ตาก เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เป็นผู้ว่าฯ ชลบุรี นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

EOD เก็บกู้ทำลายระเบิด M33 กลางบ้าน

ตรัง 20 ส.ค.- คนร้ายลอบขว้างระเบิด M33 ใส่บ้านในพื้นที่ ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ระเบิดทำงาน 1 ลูก อีก 1 ลูกไม่ทำงาน เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ทำลายเสียงดังสนั่น เร่งสืบสวนหาตัวคนร้าย-สอบปมเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด EOD จังหวัดตรัง ได้ทำการเก็บกู้และทำลายระเบิด M33 ที่ยังไม่ทำงาน ระหว่างทำลายเกิดเสียงดังสนั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณ ยางรถยนต์ที่ใช้เป็นอุปกรณ์ป้องกันแรงระเบิดปลิวลอยขึ้นฟ้า ควันฟุ้งกระจายไปทั่ว สร้างความแตกตื่นให้กับชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง  โดยเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นในพื้นที่บ้านยูงงาม ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบขว้างระเบิดเข้าใส่บ้านหลังหนึ่ง ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ เจ้าของบ้านเล่าว่าช่วงเกิดเหตุคนในบ้านกำลังนอนหลับ ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด 1 ครั้ง แต่ไม่กล้าออกมาดู กระทั่งเช้าพบหลุมระเบิดขนาดกว้างราว 2 ฟุต ลึก 1 ฟุต อยู่ข้างบ้าน จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ จากการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ทราบว่าบ้านหลังนี้เคยถูกลอบยิงมาแล้วหลายครั้ง จนเจ้าของบ้านต้องสร้างกำแพงสูงเพื่อป้องกัน แต่ล่าสุดกลับถูกลอบขว้างระเบิดแบบลูกเกลี้ยง […]

ทำแผนโจรชิงทอง 123 บาท สารภาพเป็นหนี้นอกระบบ

สมุทรปราการ 20 ส.ค.- โจรชิงทองกลางห้างดังสมุทรปราการ 123 บาท ทำแผนรับสารภาพกู้เงินมาลงทุนร้านซ่อมรถ เสียดอกรายวันแต่หมุนเงินไม่ทัน จึงก่อเหตุ  กรณีนายวีรวัฒน์ อายุ 31 ปี บุกเดี่ยวควงปืนก่อเหตุชิงทองรูปพรรณน้ำหนัก 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท ที่ร้านทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ  ก่อนจะอาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีเส้นทางที่ไร้กล้องวงจรปิด โดยเหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา ต่อมา ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พบว่าผู้ต้องหานำรถจักรยานยนต์ที่ใช้หลบหนีไปทิ้งบ่อปลาแห่งหนึ่งในซอยวัดคอลาด แล้วหลบหนีต่อไป จึงไล่เรียงเบาะแสจนพบหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพัก เมื่อวาน (19 ส.ค.) จึงนำหมายค้นบ้านนายวีรวัฒน์ พร้อมแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมกับของกลางทองรูปพรรณซุกซ่อนไว้ในตู้ลำโพงหน้าบ้าน และใส่ในถุงพลาสติกฝังดินใต้ต้นไม้ข้างบ้าน รวมตรวจยึดทองคืนได้ประมาณ 90 บาท ยังเหลือทองคำอีก 33 บาท อยู่ระหว่างสอบขยายผล  ผู้ต้องหาสารภาพว่า ก่อเหตุเพราะเป็นหนี้นอกระบบจากการกู้ยืมมาลงทุนร้านซ่อมรถและต้องเสียดอกเบี้ยเดือนละไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท จึงหมุนเงินไม่ทัน จากนั้นคิดวางแผนในการก่อเหตุ ประมาณ 1 […]

บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงงบฯ 2.6 หมื่นล้าน กลับงบกลางฉุกเฉิน

ทำเนียบฯ 20 ส.ค.-บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงงบค้างท่อ 2.6 หมื่นล้าน กลับงบกลางฉุกเฉิน เน้นเศรษฐกิจชายแดน รองรับผลกระทบภาษี “ทรัมป์” และเหตุจำเป็น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ (บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ) หลังจากรัฐบาลจัดสรรงบกระตุ้นเศรษฐกิจรอบแรก 1.15 แสนล้านบาท รอบสอง 1.8 หมื่นล้านบาท เพื่อจัดสรรเงินให้กับกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย 10,000 ล้านบาท และกองทุนเงินให้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา (กยศ.) 8,488 ล้านบาท นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การจัดสรรให้กับหน่วยงานต่างๆ ในรอบแรกพบว่า มีหน่วยงานจัดซื้อจัดจ้างไม่ทัน จึงดึงงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลือค้างท่อ 2.6 หมื่นล้านบาท กลับเข้ามาอยู่ในงบกลางสำรองฉุกเฉิน เพื่อนำมาพิจารณาใช้ในเรื่องจำเป็น เช่น การฟื้นเศรษฐกิจแดนไทย-กัมพูชา การใช้งบรองรับผลกระทบจากภาษีนำเข้าสหรัฐร้อยละ 19 ในบางรายการ หากส่วนราชการใดต้องการใช้งบดังกล่าว ต้องจัดซื้อจัดจ้างให้แล้วเสร็จภายใน 30 ก.ย.นี้ โดยสำนักงบประมาณจะพิจารณาในการจัดสรรงบให้ สำหรับผลกระทบจากภาษีศุลกากรสหรัฐ ยอมรับว่า รายย่อยที่ได้รับผลกระทบ […]