มุกดาหาร 30 พ.ค.-กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ร่วมกับ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)และ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ส่งมอบนวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งและยกระดับการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ให้แก่พื้นที่ ตำบลเหล่าหมี จังหวัดมุกดาหาร หลังประสบผลสำเร็จในการดำเนินงานโครงการวิจัย เรื่อง “การแก้ปัญหาภัยแล้งเพื่อการเกษตรที่เหมาะสมของชุมชนสังคมจังหวัดมุกดาหารด้วยนวัตกรรม”
พล.ท.อุดม โกษากุล ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 1 กอ.รมน. กล่าวว่า ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 1กอ.รมน. และวช. มีการติดตามการดำเนินงานตั้งแต่เริ่มโครงการ จากสนับสนุนของส่วนราชการต่างๆ ในจังหวัดมุกดาหารกิจกรรมการส่งมอบผลงานวิจัยและนวัตกรรมในโครงการเรื่อง “การแก้ปัญหาภัยแล้งเพื่อการเกษตรที่เหมาะสมของชุมชนสังคมจังหวัดมุกดาหารด้วยนวัตกรรม” นี้ เป็นกิจกรรมในรูปแบบขยายผลองค์ความรู้จากผลงานงานวิจัยและนวัตกรรม โดย วช. ให้การสนับสนุนองค์ความรู้ เทคโนโลยี รถเข็นสูบน้ำพลังงานเซลล์แสงอาทิตย์ ระบบอบลมร้อนแบบพาราโบลาโดมพลังงานเซลล์ไปถ่ายทอดขยายผลเพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้สูงขึ้นสนับสนุนผลผลิตการวิจัย เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. เป็นหน่วยงานภายใต้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล้าวว่าปัญหาภัยแล้งเป็นปัญหาเร่งด่วนที่จะต้องได้รับการแก้ไขโดยบูรณาการขับเคลื่อนภายใต้ความร่วมมือระหว่าง วช. และ กอ.รมน . โดยมี ม.ราชภัฏสกลนคร ลงพื้นที่นำองค์ความรู้จากผลงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่ชุมชนต้นแบบด้วยงานวิจัยและนวัตกรรมผ่านกลไกการดำเนินงานของสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ความมั่นคง ตลอดจนเพื่อนำการวิจัยมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง เพื่อให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
วช. ให้การสนับสนุนองค์ความรู้ เทคโนโลยี รถเข็นสูบน้ำพลังงานเซลล์แสงอาทิตย์ ระบบอบลมร้อนแบบพาราโบลาโดมพลังงานเซลล์แสงอาทิตย์เคลื่อนที่ได้ โรงเรือนแปรรูปผลิตภัณฑ์ที่ได้รับมาตรฐาน อย. และสถานีสูบน้ำพลังงานเซลล์แสงอาทิตย์จากความร่วมมือของทั้งสองหน่วยงานในการขยายผลองค์ความรู้จากผลงานวิจัยไปสู่การใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมร่วมผลักดันงานวิจัยและนวัตกรรมสู่การพัฒนาโดยผสานความรู้ร่วมผนึกกำลังสู่การพัฒนาเศรษฐกิจทั้งในพื้นที่และเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ วช. หวังเป็นอย่างยิ่งว่ากิจกรรมนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วนและเป็นต้นแบบการทำงานวิจัยแบบบูรณาการให้กับนักวิจัยเพื่อร่วมกันสร้างสรรค์และพัฒนาประเทศไทยให้เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป
ศ.ดร.ทศวรรษ สีตะวัน หัวหน้าโครงการวิจัย กล่าวว่า การแก้ปัญหาภัยแล้งและการบริหารจัดการน้ำศักยภาพผลผลิตทางการเกษตร ที่เหมาะสมกับบริบทของชุมชนในการถ่ายทอดและส่งมอบนวัตกรรมโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนและภาคีเครือข่าย ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพและมาตรฐานสู่การสร้างรายได้ให้ชุมชนอย่างมีส่วนร่วมสู่ความเข้มแข็งของชุมชน ในพื้นที่ บ้านเหล่าหมี บ้านนาซิง และบ้านนายอ ตำบลเหล่าหมี อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหารโดยการนำนวัตกรรม รถเข็นสูบน้ำพลังงานเซลล์แสงอาทิตย์ โรงอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์แบบสมาร์ท ระบบอบลมร้อนแบบพาราโบลาโดมพลังงานเซลล์แสงอาทิตย์ สถานีสูบน้ำด้วยพลังงานเซลล์แสงอาทิตย์ การถ่ายทอดองค์ความรู้รูปแบบแปรรูปผลิตภัณฑ์จากการเกษตรด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม การยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ การพัฒนาตราสินค้า และบรรจุภัณฑ์ที่เป็นอัตลักษณ์ของชุมชนกลุ่มเป้าหมาย นำไปสู่การแก้ปัญหาภัยแล้งและผลผลิตทางการเกษตรสู่ชุมชน
ภายในงานมีการนำเสนอผลผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของโครงการ จำนวน 8 กลุ่มวิสาหกิจ ได้แก่ 1.) กลุ่มวิสาหกิจชุมชนอาหารปลอดภัยไทท่าห้วยคำ 2.) กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเลี้ยงสัตว์บ้านเหล่าแขมทอง 3.)วิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ไทนาซิง 4.) กลุ่มแปรรูปกล้วยน้ำว้า บ้านเหล่าหมี 5.) กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์และปลูกไม้ผลบ้านนายอ 6.) กลุ่มอาชีพเศรษฐกิจพอเพียงบ้านนาซิงแปรรูปอ้อย 7.) กลุ่มปลูกมัลเบอรรี่บ้านนา ซิงแปรรูปจากหม่อนและ 8.) กลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลอดภัยไทนาซิง และมีการสาธิตนวัตกรรม.
-สำนักข่าวไทย