fbpx

มหกรรมการวิจัยด้านยุทโธปกรณ์ สู่อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ

กทม. 9 ธ.ค.63 – กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ ฯ จัดงานมหกรรมการวิจัยด้านยุทโธปกรณ์ สู่อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ  เพื่อเพิ่มศักยภาพของกองทัพ และการป้องกันประเทศ


ศาสตราจารย์ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานพิธีเปิดงานมหกรรมการวิจัยด้านยุทโธปกรณ์ สู่อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ เพื่อศักยภาพของกองทัพและการปกป้องประเทศ (Thailand’s Armament and National Defense Research and Industry) ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์

โดยเป็นการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพของกองทัพและระบบป้องกันประเทศให้ทันสมัย มีความพร้อมในการรักษาอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติ ปลอดพ้นจากการคุกคามทุกรูปแบบส่งเสริมและพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการป้องกันประเทศ ตลอดจนการวิจัยและพัฒนาและการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อนำไปสู่การพัฒนาตนเองในการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ สามารถบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศได้นั้น กองทัพบกจึงร่วมกับสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมดำเนินโครงการวิจัยทางด้านยุทโธปกรณ์เพื่อพัฒนาศักยภาพของกองทัพและการป้องกันประเทศขึ้นตั้งแต่ปีพ.ศ. 2557-2563


นายพันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านพัฒนาทรัพยากรบุคคล สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษาฯ  กล่าวว่า สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ดำเนินการพัฒนาศักยภาพนักวิจัยด้านยุทโธปกรณ์เพื่อเพิ่มศักยภาพของกองทัพและการป้องกันประเทศ โดยอาศัยความเชี่ยวชาญของบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาและโจทย์ความต้องการเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ของกองทัพในอนาคต เป็นระยะเวลา 5 ปี รวม 113 โครงการ ปัจจุบันมีนักวิจัยจากทุนโครงการนี้ทั้งสิ้นจำนวน 94 คน ซึ่งถือเป็นการพัฒนาศักยภาพการวิจัยด้านยุทโธปกรณ์เพื่อเพิ่มศักยภาพและลดการนำเข้าของกองทัพโดยอาศัยความเชี่ยวชาญของบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาและโจทย์ความต้องการเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ของกองทัพ อันจะนำไปสู่การพัฒนาบุคลากรวิจัยด้านยุทโธปกรณ์ รวมถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการรักษาความมั่นคงของกองทัพ สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษาฯได้ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนานักวิจัยในด้านยุทโธปกรณ์เพื่อนำไปสู่อุตสาหกรรมป้องกันประเทศและการเผยแพร่ผลงานวิจัยโครงการทุนพัฒนาศักยภาพนักวิจัยด้านยุทโธปกรณ์เพื่อเพิ่มศักยภาพของกองทัพและการป้องกันประเทศ ตลอดจนสร้างโอกาสให้เกิดการถ่ายทอดความรู้ในงานวิจัยพร้อมทั้งพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของนักวิจัย

ศาสตราจารย์ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยละนวัตกรรม กล่าวว่า โครงการฯ ยังช่วยส่งเสริมและต่อยอดเพื่อนำไปสู่อุตสาหกรรมป้องกันประเทศในเชิงพาณิชย์ด้วย เพราะอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ  เป็น 1 ใน 12 อุตสาหกรรมในกลุ่ม S-curve ที่ภาครัฐสนับสนุนในฐานะฟันเฟืองที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยปัจจุบันสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ได้ส่งเสริมผลงานวิจัยด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศจำนวนมากที่พร้อมจะนำไปต่อยอดสู่ผลงานเชิงพาณิชย์ต่อไปโดยจะเห็นได้จากผลงานวิจัยเด่น ที่สามารถนำไปสู่การใช้ประโยชน์ของงานนิทรรศการในครั้งนี้ ที่สำคัญ สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษาฯ จะพยายามผลักดันให้มีการพัฒนานักวิจัยและผลักดันงานวิจัย ตั้งแต่การพัฒนาต้นแบบไปจนถึงการนำไปสู่การรับรองมาตรฐานทางการทหาร  การผลิตและการจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ ตอบสนองการใช้งานทางทหาร และในเชิงพาณิชย์พร้อมทั้งส่งเสริมให้เอกชนมีความเข้มแข็งและยั่งยืน ตลอดจนเป็นการสร้างโอกาสและถ่ายทอดความรู้ของงานวิจัยไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมในเชิงธุรกิจ หรือนำไปสู่การพัฒนาคนและการพัฒนาธุรกิจ Startup ต่อไป

สำหรับผลงานวิจัยที่ผ่านมาตรฐานของกองทัพบก สู่การผลิตและใช้ประโยชน์ จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ โครงการการพัฒนาการออกแบบและผลิตชุดแหวนยางกันซึมที่ใช้ในปืนใหญ่หนักกระสุน วิถีราบแบบ 34 GH N-45 A 1 ขนาด  155 มม. ,โครงการการเพิ่มสมรรถนะของระบบสื่อสารแบบควบรวมด้วยเทคโนโลยีระบุพิกัดจากดาวเทียมหลายระบบเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจทางทหาร


โครงการการวิจัยและพัฒนาเพื่อดำรงสภาพและเพิ่มประสิทธิภาพยุทโธปกรณ์ : กรณีศึกษาของปืนใหญ่เบากระสุนวิธีโค้ง ปบค. 95 ขนาด 105 มม. แบบ M-101 A1 (ปรับปรุง)  และโครงการการวิจัยและพัฒนายุทธภัณฑ์ชิ้นส่วนซ่อมเพื่อการดำรงสภาพของระบบปืนใหญ่ขนาด 105 มม. ของรถถังรุ่น M48A5 และรุ่น M60A1/A3

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

คุมเพลิงไหม้ “วิน โพรเสส” ได้แล้ว 95%

เหตุไฟไหม้โรงงานเก็บขยะเคมีอันตราย วินโพรเสส อ.บ้านค่าย จ.ระยอง วันนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้แล้ว 95% เหลือเพียงจุดความร้อนที่อยู่ใต้ซากกองเพลิง ซึ่งยังต้องใช้สาร F500 ฉีดลดความร้อน แต่ยังมีกลิ่นฉุนแอมโมเนีย ด้านกรมโรงงานอุตสาหกรรมเช็กกล้องวงจรปิดตรวจสอบว่าเป็นการวางเพลิงเพื่อทำลายหลักฐานเช่นเดียวกับเหตุที่เกิดขึ้นใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา หรือไม่

นายกฯ แจงเรียก “สุชาติ-รัฐมนตรี” เข้าพบ แค่ตามงาน

นายกฯ อารมณ์ดี เดินลงตึกไทยฯ พบสื่อ แจงเรียก “สุชาติ-รมต.” มีชื่อหลุด ครม.เข้าพบแค่ตามงาน ย้ำปรับ ครม.เสร็จเมื่อไหร่เดี๋ยวก็รู้ ยันกินข่าวเที่ยงวานนี้ไม่มี ”ทักษิณ“

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.ครั้งแรกของปี

วันนี้เป็นครั้งแรกของปีที่ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับพื้นที่ กทม. ส่งผลให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่บริเวณต่างๆ ของไทย 2 ครั้งต่อปี คือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และเดือน ก.ค.-ก.ย.