ทูตรัสเซียในไทยยืนยันรัสเซียไม่ได้เริ่มวิกฤติขัดแย้ง

กรุงเทพฯ 16 มี.ค.- เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทยยืนยันว่า รัสเซียไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มต้นวิกฤติความขัดแย้งกับยูเครน นายเยฟเกนี โตมีฮิน เอกอัครราชทูตสหพันธรัฐรัสเซีย ประจำประเทศไทย แถลงชัดว่า รัสเซียเองต้องการให้วิกฤตการณ์ครั้งนี้จบลงโดยเร็วที่สุด พร้อมกับย้ำว่า ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครนมุ่งเป้าโจมตีฐานที่มั่นของกองทัพยูเครนเท่านั้น จริงอยู่ที่การสู้รบมักก่อให้เกิดการบาดเจ็บเสียชีวิต แต่รัสเซียไม่ได้มีจุดมุ่งหมายที่จะใช้ พลเรือนยูเครนเป็นเป้าโจมตี ทูตรัสเซียยังบอกว่า หากศึกษาจากประวัติศาสตร์จะเห็นได้ว่า จุดเริ่มต้นของสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2557 โดยที่รัสเซียไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่ม ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตสหพันธรัฐรัสเซียประจำประเทศไทยได้กล่าวเท้าความถึงเหตุปฏิวัตินองเลือดทั่วยูเครนเมื่อ 8 ปีก่อนจนทำให้ชาวยูเครนในแคว้นไครเมียต้องลงประชามติขอแยกตัวเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของรัสเซีย เหตุการณ์นั้นยืดเยื้อมาจนถึงทุกวันนี้ และจากหลักฐานที่รัสเซียพิสูจน์ได้ทำให้ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องใช้ปฏิบัติการอย่างทุกวันนี้ นอกจากนี้ ทูตรัสเซีย ยังกล่าวไปถึงคำสัญญาขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต ที่เคยให้ คำมั่นเมื่อยุคสงครามเย็นสิ้นสุดลงว่า จะไม่ขยายกรอบมายังประเทศที่มีพรมแดนติดรัสเซียนั้นว่าเป็นเพียงคำโกหก ดังนั้นจึงอยากขอให้คนไทยที่ติดตามประเด็นนี้เข้าใจประวัติศาสตร์จึงจะเข้าใจที่มาที่ไป พร้อมทั้งย้ำว่า รัสเซียไม่ได้ ต้องการให้รัฐบาลแสดงจุดยืนเข้าข้าง เพียงแต่ขอให้มีความเป็นกลางเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

จีนขอให้ทุกฝ่ายใจเย็นเรื่องยูเครน แต่ไม่ประณามรัสเซีย

สหประชาชาติ 22 ก.พ.- เอกอัครราชทูตจีนประจำสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) เรียกร้องให้ทุกฝ่ายใจเย็นและหลีกเลี่ยงการเพิ่มความตึงเครียดในยูเครน แต่ไม่ได้ประณามรัสเซียเรื่องรับรอง 2 แคว้นของยูเครนให้เป็นรัฐอิสระ นายจาง จุน เอกอัครราชทูตจีนประจำยูเอ็นแถลงในการประชุมฉุกเฉินคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นเมื่อค่ำวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า รัฐบาลจีนสนับสนุนทุกความพยายามที่จะหาทางออกด้วยวิถีทางทางการทูต และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม สถานการณ์ในยูเครนขณะนี้เป็นผลจากปัจจัยซับซ้อนหลายประการ จีนแสดงจุดยืนในเรื่องนี้ตามความถูกต้องของสถานการณ์อยู่เสมอ และเชื่อว่าทุกประเทศควรแก้ไขข้อพิพาทสากลด้วยสันติวิธีที่สอดคล้องกับจุดประสงค์และหลักการของกฎบัตรยูเอ็น อย่างไรก็ดี นายจางไม่ได้ประณามรัสเซียเรื่องรับรองแคว้นโดเนตสก์และแคว้นลูฮันสก์ที่อยู่ทางตะวันออกของยูเครนให้เป็นรัฐอิสระ ขณะเดียวกันกระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงว่า นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐได้สนทนากับนายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนเรื่องสถานการณ์ในเกาหลีเหนือและการที่รัสเซียรุกรานยูเครน โดยได้ย้ำเรื่องความสำคัญของการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของยูเครน ที่ผ่านมาจีนเคยเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับวิกฤตยูเครนให้กลับไปยึดมั่นตามข้อตกลงมินสก์ปี 2547 และ 2558 ที่รับรองอำนาจของยูเครนเหนือพรมแดนตนเองด้านติดกับรัสเซีย หลังจากสู้รบกับกลุ่มแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซีย ทางตะวันออกของประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ทูตยูเครนหวังญี่ปุ่นร่วมคลี่คลายความตึงเครียดทางทหาร

โตเกียว 26 ม.ค.- เอกอัครราชทูตยูเครนประจำญี่ปุ่นคาดหวังว่า ญี่ปุ่นจะแสดงบทบาทร่วมกับนานาชาติมากขึ้นเรื่องการหาทางคลี่คลายความตึงเครียดทางทหารระหว่างยูเครนกับรัสเซีย และไม่คิดว่าความตึงเครียดนี้จะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ นายเซอร์กี คอร์ซันสกี เอกอัครราชทูตยูเครนประจำญี่ปุ่นกล่าวที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งญี่ปุ่นในกรุงโตเกียววันนี้ว่า เขาคาดหวังว่าญี่ปุ่นจะร่วมกับสมาชิกชาติอื่น ๆ ในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำหรือจี 7 (G7) หาทางแก้ไขความตึงเครียดดังกล่าวเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าทางทหารและสนับสนุนการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยในยูเครนอย่างสันติ เขาเชื่อว่า ญี่ปุ่นสามารถมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นสมาชิกจี 7 ชาติเดียวที่อยู่ในเอเชีย และเป็นประเทศเดียวในเอเชียที่คว่ำบาตรรัสเซีย หลังจากรัสเซียผนวกคาบสมุทรไครเมียของยูเครนเป็นของตนในปี 2557 นอกจากนี้ยังเป็นที่น่ายินดีที่นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่นและประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐได้หยิบยกสถานการณ์ยูเครนขึ้นหารือระหว่างการประชุมสุดยอดแบบเสมือนจริงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เอกอัครราชทูตยูเครนประจำญี่ปุ่นกล่าวด้วยว่า ไม่น่าจะมีความเป็นไปได้ว่ายูเครนและรัสเซียจะทำสงครามกันเต็มรูปแบบ แต่อาจมีความขัดแย้งระดับท้องถิ่นหลายครั้ง ขอย้ำว่ายูเครนไม่คุกคามใคร และไม่เคยคิดโจมตีรัสเซีย ยูเครนยึดมั่นอย่างเต็มเปี่ยมต่อการหาทางออกทางการทูต แต่ขณะเดียวกันชาวยูเครนก็มีความเด็ดเดี่ยวที่จะต่อสู้กับรัสเซียหากจำเป็น.-สำนักข่าวไทย

ตุรกีสั่งขับเอกอัครราชทูตตะวันตก 10 ประเทศ

อิสตันบูล 24 ต.ค.- ประธานาธิบดีเรเจพ ทายยิป แอร์โดอานของตุรกี สั่งการกระทรวงต่างประเทศขับเอกอัครราชทูตสหรัฐและชาติตะวันตกรวม 10 ประเทศ จากการเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักธุรกิจตุรกีที่เป็นนักโทษทางการเมือง ประธานาธิบดีแอร์โดอานปราศรัยต่อผู้สนับสนุนในเมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ได้สั่งการให้รัฐมนตรีต่างประเทศประกาศให้เอกอัครราชทูต 10 ประเทศเป็นบุคคลไม่พึงปรารถนาโดยทันที บุคคลเหล่านี้จะต้องรู้จักและเข้าใจตุรกี วันใดที่ไม่รู้จักและไม่เข้าใจก็จะต้องออกไป เอกอัครราชทูตแคนาดา เดนมาร์ก ฝรั่งเศส เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ สวีเดน ฟินแลนด์ นิวซีแลนด์ และสหรัฐ ออกแถลงการณ์ร่วมลงวันที่ 18 ตุลาคม เรียกร้องให้ตุรกีหาทางออกที่เป็นธรรมและเร่งด่วนในคดีของนายออสมาน คาวาลา นักธุรกิจวัย 64 ปี ที่สนับสนุนกลุ่มภาคประชาสังคมจำนวนมากและถูกคุมขังตั้งแต่ 4 ปีก่อน ข้อหาให้เงินสนับสนุนการประท้วงทั่วประเทศในปี 2556 และการก่อกบฏในปี 2559 แถลงการณ์ยังเรียกร้องให้ปล่อยตัวนายคาวาลาโดยทันทีด้วย กระทรวงต่างประเทศตุรกีเรียกเอกอัครราชทูตทั้งหมดเข้าพบและตำหนิว่าเป็นแถลงการณ์ที่ไร้ความรับผิดชอบ ทั้งนี้หากตุรกีขับเอกอัครราชทูตทั้ง 10 คนจริง ก็จะสร้างรอยร้าวกับตะวันตกครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่นายแอร์โดอานวัย 67 ปีครองอำนาจด้วยการเป็นนายกรัฐมนตรีในปี 2546-2557 และประธานาธิบดีตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน ด้านแหล่งข่าวทางการทูตเผยว่า […]

ตั้งข้อหาเมียนมา 2 คนวางแผนปองร้ายทูตประจำUN

อัยการสหรัฐตั้งข้อหาชาวเมียนมา 2 คน วางแผนปองร้ายนายจ่อ โม ตุน เอกอัครราชทูตเมียนมาประจำสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) ที่สนับสนุนการเรียกร้องประชาธิปไตยและไม่ยอมลาออกจากตำแหน่งตามคำสั่งรัฐบาลทหาร โดยระบุว่า หนึ่งในนั้นติดต่อกับพ่อค้าอาวุธในไทย

ทูตเมียนมาประจำUNวอนโลกเร่งดำเนินการจริงจัง

นิวยอร์ก 10 เม.ย.- เอกอัครราชทูตเมียนมาประจำสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) วอนนานาชาติเร่งดำเนินการอย่างจริงจังกับรัฐบาลทหาร ด้านสื่อเมียนมารายงานว่า กลุ่มชาติพันธุ์บุกสังหารตำรวจทางตะวันออกของประเทศ นายจ่อ โม ตุน เอกอัครราชทูตเมียนมาประจำยูเอ็นเรียกร้องต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นหรือยูเอ็นเอสซี (UNSC) เมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า การดำเนินการร่วมกันอย่างจริงจังคือสิ่งที่จำเป็นเร่งด่วนในขณะนี้ เวลามีความสำคัญมากสำหรับชาวเมียนมา ขอได้โปรดดำเนินการทันที เขาขอให้ยูเอ็นดำเนินมาตรการที่เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น เช่น ประกาศเขตห้ามบิน ออกมาตรการคว่ำบาตรอาวุธ ออกมาตรการลงโทษอย่างเจาะจงกับสมาชิกกองทัพและครอบครัว ด้านนายริชาร์ด ฮอร์ซีย์ นักวิเคราะห์อิสระของอินเตอร์เนชันแนลไครซิสกรุ๊ปเตือนยูเอ็นเอสซีว่า เมียนมาใกล้จะเป็นรัฐล้มเหลวแล้ว ชาวเมียนมาส่วนใหญ่ไม่ต้องการการปกครองระบอบทหาร และจะทำทุกทางเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น แต่กองทัพก็ยังคงมุ่งมั่นจะทำตามความต้องการ การกระทำของกองทัพอาจทำให้เมียนมากลายเป็นประเทศที่ไม่สามารถควบคุมได้ เป็นเรื่องน่ากังวลใหญ่หลวงของภูมิภาคและประชาคมโลก ขณะเดียวกันสื่อเมียนมารายงานว่า กลุ่มชาติพันธุ์ที่จับมือกันหลายกลุ่มได้บุกสถานีตำรวจแห่งหนึ่งในรัฐฉาน ทางตะวันออกของประเทศในเช้าวันนี้ มีตำรวจเสียชีวิต 10-14 นาย.-สำนักข่าวไทย

เอกอัครราชทูตรัสเซียกลับแล้วหลังสัมพันธ์สหรัฐดิ่ง

เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหรัฐเดินทางถึงกรุงมอสโกแล้วในวันนี้ หลังจากทางการรัสเซียเรียกตัวกลับมาหารือฉุกเฉินเรื่องความสัมพันธ์กับสหรัฐเข้าสู่วิกฤติหนักที่สุด หลังจากผู้นำสองประเทศปะทะคารมกัน

เมียนมาชุมนุมต่อหลังถูกปราบหนัก ทูตถูกปลด

ย่างกุ้ง 28 ก.พ.- ผู้ต่อต้านรัฐประหารในเมียนมาชุมนุมต่อในวันนี้ หลังจากกองกำลังรักษาความมั่นคงเปิดฉากปราบปรามหนักที่สุดตั้งแต่มีการชุมนุม และมีการปลดเอกอัครราชทูตเมียนมาที่ชูสามนิ้วในที่ประชุมสหประชาชาติหรือยูเอ็น ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ตำรวจออกปฏิบัติการ ณ จุดชุมนุมหลักในนครย่างกุ้งอีกครั้งเช้าวันนี้ ขณะที่ผู้ชุมนุมซึ่งส่วนใหญ่มีอุปกรณ์ป้องกันเริ่มรวมตัวกัน หลังจากเมื่อวานนี้สื่อสังคมออนไลน์โพสต์ภาพตำรวจตรวจค้นร้านขายอุปกรณ์ที่ผู้ชุมนุมใช้เป็นแหล่งซื้อหาหมวก หน้ากากและโล่ป้องกันตัว พร้อมกับติดแฮชแท็ก #iwillbeonthestreet สถานการณ์วานนี้เกิดความวุ่นวายในหลายเมืองเมื่อตำรวจใช้กำลังกวาดล้างผู้ชุมนุม ยิงแก๊สน้ำตา ขว้างระเบิดเสียง และยิงปินขึ้นฟ้า ผู้เห็นเหตุการณ์อ้างว่า ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบใช้กระบองฟาดผู้ชุมนุมบางคน สถานีโทรทัศน์เอ็มอาร์ทีวี (MRTV) ของรัฐรายงานว่า ตำรวจได้เตือนก่อนขว้างระเบิดเสียงเพื่อสลายผู้ชุมนุม มีคนถูกควบคุมตัวทั้งหมดมากกว่า 470 คน สื่อหลายแห่งเผยว่า มีผู้สื่อข่าวถูกควบคุมด้วยไปด้วย ขณะที่หนังสือพิมพ์เซเวนเดย์นิวส์และเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินเผยว่า สตรีคนหนึ่งถูกยิงบาดเจ็บในเมืองโมนยวา ทางตอนกลางของประเทศ ยังไม่เสียชีวิตตามที่มีรายงานก่อนหน้านี้ สถานการณ์รุนแรงเมื่อวานนี้เกิดขึ้นหลังจากนายจอ โม ตุน เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรเมียนมาประจำยูเอ็นกล่าวต่อที่ประชุมยูเอ็นว่า ขอกล่าวในนามของรัฐบาลนางออง ซาน ซู จี และขอร้องที่ประชุมให้ช่วยยุติการรัฐประหาร เอ็มอาร์ทีวีรายงานว่า นายจอถูกปลดจากตำแหน่งตามระเบียบข้าราชการแล้ว เนื่องจากทรยศประเทศชาติ ใช้อำนาจและความรับผิดชอบในฐานเอกอัครราชทูตโดยมิชอบ อย่างไรก็ดี ยูเอ็นยังไม่ได้รับรองอย่างเป็นทางการว่ารัฐบาลทหารของพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่ายเป็นรัฐบาลใหม่ของเมียนมา ส่วนนางซูจี วัย 75 ปีที่ถูกตั้งข้อหานำเข้าวิทยุสื่อสาร […]

สื่อจีนไม่ลงบทความเอกอัครราชทูตสหรัฐ

วอชิงตัน 10 ก.ย.- นายไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐเผยว่า พีเพิลเดลี หนังสือพิมพ์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนไม่ยอมลงบทความของเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำจีน ทั้งที่เจ้าหน้าที่จีนสามารถให้ความเห็นของรัฐบาลในสื่อสหรัฐได้ นายพอมเพโอกล่าวว่า ท่าทีของพีเพิลเดลีแสดงให้เห็นอีกครั้งว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนกลัวเสรีภาพในการพูดและการถกเถียงทางปัญญาอย่างจริงจัง อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงการเสแสร้งของจีนที่ร้องเรียนเรื่องไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรมและต่างตอบแทนในประเทศอื่น ผู้สื่อข่าวสหรัฐถูกจำกัดในการรายงานข่าวหรือแม้แต่จะเดินทางเข้าจีน แต่คนทำงานสื่อของจีนสามารถเข้าถึงการเปิดกว้างในสหรัฐมาโดยตลอด พีเพิลเดลีไม่ยอมลงบทความของนายเทอร์รี แบรนสแทด เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำจีนเรื่อง “การปรับความสัมพันธ์ใหม่ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการต่างตอบแทน” เนื้อหาอ้างถึงความสัมพันธ์สองฝ่ายที่ไม่สมดุล ธุรกิจ ผู้สื่อข่าว นักการทูต หรือแม้แต่ภาคประชาสังคมของสหรัฐไม่สามารถเข้าถึงจีนอย่างเท่าเทียมกับที่ฝั่งจีนเข้าถึงสหรัฐ พีเพิลเดลีออกหนังสือชี้แจงว่า บทความของนายแบรนสแทดไม่เป็นไปตามมาตรฐานของพีเพิลเดลี เพราะเต็มไปด้วยช่องโหว่ และไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงอย่างรุนแรง พร้อมกับถือโอกาสนี้กล่าวหาสหรัฐว่า กดขี่ผู้สื่อข่าวจีนด้วยการขับไล่และใช้มาตรการจำกัดวีซ่าอย่างเลือกปฏิบัติ สื่อสหรัฐหลายแห่ง เช่น บลูมเบิร์ก ซีเอ็นเอ็น วอลล์สตรีทเจอร์นัลแจ้งเมื่อไม่กี่วันก่อนว่า ทางการจีนไม่ต่ออายุใบอนุญาตผู้สื่อข่าวที่ทำงานในจีน ขณะที่ผู้สื่อข่าวจีนในสหรัฐกำลังรอทางการสหรัฐต่อใบอนุญาต เพราะช่วงเวลาผ่อนผัน 90 วันจะหมดอายุในต้นเดือนพฤศจิกายน นอกจากนี้สหรัฐยังได้ยกเลิกวีซ่าชาวจีนกว่า 1,000 คน เพื่อสกัดนักศึกษาและนักวิจัยจีนที่เชื่อว่ามีสายสัมพันธ์กับกองทัพจีนเข้าสหรัฐ.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียพร้อมให้วัคซีนโควิด-19 กับฟิลิปปินส์

มะนิลา 7 ส.ค.- เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำฟิลิปปินส์เผยว่า รัสเซียพร้อมจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้แก่ฟิลิปปินส์ หรือร่วมกับบริษัทในฟิลิปปินส์ผลิตวัคซีนเป็นจำนวนมาก นายอิกอร์ คอวาเอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียแถลงข่าวทางออนไลน์วันนี้ว่า รัสเซียพร้อมจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ฟิลิปปินส์ และอาจลงทุนร่วมกับหุ้นส่วนในฟิลิปปินส์ผลิตวัคซีน ขณะนี้กำลังรอการตอบรับจากกระทรวงต่างประเทศฟิลิปปินส์อยู่ นายคอวาเอฟกล่าวถึงวัคซีนของรัสเซียที่คาดว่าจะได้รับการอนุมัติในเดือนนี้ และจะทดลองกับบุคคลากรทางการแพทย์แนวหน้าเป็นกลุ่มแรกว่า เป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัย มีประเทศต่าง ๆ ประมาณ 20 ประเทศแสดงความสนใจจะใช้วัคซีนของรัสเซียแล้ว ด้าน นพ.ไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยการโครงการเหตุฉุกเฉินทางสุขภาพขององค์การอนามัยโลกตอบข้อถามเรื่องวัคซีนรัสเซียว่า วัคซีนใด ๆ ก็ตามจำเป็นต้องมีผลการทดลองมายืนยันเรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัย ขณะเดียวกันโฆษกประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตของฟิลิปปินส์แถลงว่า ยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในฟิลิปปินส์ที่เพิ่มขึ้นเกือบ 7 เท่าหลังจากยกเลิกมาตรการปิดเมืองในเดือนมิถุนายนเป็น 122,754 คนในวันนี้ และเสียชีวิตเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าเป็น 2,168 คน เป็นผลจากการขยายการตรวจหาเชื้ออย่างทั่วถึง โดยได้ตรวจไปแล้วเกือบ 1.6 ล้านคน จากประชากรทั้งประเทศ 107 ล้านคน ทางการตั้งเป้าจะตรวจให้ได้ 10 ล้านคนภายในไตรมาสสองของปีหน้า.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 4 5 6
...