ติดโอไมครอน 64 คนหลังร่วมมื้อเที่ยงคริสต์มาสที่เดนมาร์ก

โคเปนเฮเกน 7 ธ.ค.- หน่วยงานด้านสาธารณสุขเดนมาร์กแจ้งว่า พบผู้มีผลตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอนเป็นบวกจำนวน 64 คน หลังจากเข้าร่วมงานเลี้ยงมื้อเที่ยงคริสต์มาสเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่มีคนเข้าร่วมราว 150 คน เจ้าหน้าที่เผยว่า งานจัดขึ้นที่ศูนย์ชุมชนในเขตวีบอร์ก ทางตอนกลางของประเทศ มีนักเรียนจากโรงเรียน 2 แห่งร่วมงาน  ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าผู้ติดเชื้อมีอาการรุนแรงเพียงใด หรือผู้ร่วมงานได้ฉีดวัคซีนแล้วมากน้อยเพียงไร อย่างไรก็ดี คาดว่ามีผู้ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ หรือใกล้ชิดกับผู้ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อไม่ต่ำกว่า 1,000 คน ข้อมูลจากเว็บไซต์ Our World in Data ระบุว่า เดนมาร์กมีคนฉีดวัคซีนครบโดสแล้วร้อยละ 77 นับจนถึงวันที่ 1 ธันวาคม โดยเป็นกลุ่มคนอายุ 12 ปีขึ้นไป และพบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนแล้ว 261 คน นับจนถึงวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น การพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นบ่งชี้ว่า ไวรัสสายพันธุ์นี้กำลังแพร่ในประเทศ มากกว่าการแพร่เฉพาะผู้เดินทางมาจากต่างประเทศเท่านั้น เดนมาร์กมียอดติดเชื้อโรคโควิดสะสมมากกว่า 516,200 คน และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 2,900 คน.-สำนักข่าวไทย

แพทย์อินเดียผละงานประท้วงหวั่นแพทย์ไม่พอรับมือโอไมครอน

นิวเดลี 3 ธ.ค. – อินเดียรายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 9,216 คน หลังพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน 2 คนแรกเมื่อวันพฤหัสบดี ขณะที่กลุ่มแพทย์ประจำบ้านของอินเดียนัดผละงานที่ไม่จำเป็นเพื่อชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลขึ้นทะเบียนนักศึกษาแพทย์จบใหม่ปีล่าสุดลงเป็นแพทย์ประจำบ้านเพื่อเพิ่มกำลังคนและแก้ปัญหาขาดแคลนแพทย์ สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ข่าวการพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน 2 คนในรัฐกรณาฏกะ ทางตอนใต้ของอินเดีย ซึ่งมีผู้ป่วยติดเชื้อ 1 คนที่ไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการระบาดระลอกที่สาม ขณะที่นักระบาดวิทยาบางส่วนของอินเดียระบุว่า การระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนในอินเดียอาจมีความรุนแรงน้อยกว่าการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา เนื่องจากชาวอินเดียมีภูมิคุ้มกันจากการระบาดครั้งก่อนและได้รับการฉีดวัคซีนโควิดเพิ่มมากขึ้น ในขณะเดียวกัน สมาคมแพทย์ประจำบ้านแห่งอินเดีย ซึ่งเป็นตัวแทนของโรงพยาบาลรัฐหลายสิบแห่ง ระบุในจดหมายที่ส่งถึงกระทรวงสาธารณสุขว่า โรงพยาบาลหลายแห่งทั่วประเทศกำลังขาดแคลนแพทย์ประจำบ้าน เนื่องจากไม่มีการเปิดรับสมัครแพทย์ประจำบ้านในปีนี้ หากอินเดียต้องเผชิญกับการระบาดรุนแรงของโรคโควิด-19 ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต สถานการณ์ของระบบสาธารณสุขก็จะตกอยู่ในอันตราย ส่วนกลุ่มแพทย์ประจำบ้านที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงนิวเดลีได้ผละงานมาชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาขาดแคลนแพทย์ประจำบ้านในปีนี้ และตะโกนโดยพร้อมเพรียงกันว่า ‘พวกเราต้องการความยุติธรรม’ พร้อมถือป้ายที่มีข้อความว่า ‘พวกเราเป็นมนุษย์ ไม่ใช่หุ่นยนต์’ (We are human, not robot) ขณะนี้ อินเดียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 34.6 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 470,000 คน.-สำนักข่าวไทย

อนามัยโลกเตือนเอเชีย-แปซิฟิก เตรียมรับมือโอไมครอนระบาด

มะนิลา 3 ธ.ค. – เจ้าหน้าที่ระดับสูงขององค์การอนามัยโลกเตือนให้ประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เตรียมรับมือกับยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่เพิ่มขึ้นจากการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนด้วยการเพิ่มขีดความสามารถของระบบสาธารณสุขและการเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดครบสองโดสให้แก่ประชาชน นพ. ทาเคชิ คาซาอิ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตก แถลงวันนี้ว่า การใช้มาตรการควบคุมพรมแดนอาจช่วยซื้อเวลาเพื่อชะลอการระบาดได้ แต่ประเทศและชุมชนต่าง ๆ ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่เพิ่มขึ้น และไม่ควรพึ่งมาตรการควบคุมพรมแดนเพียงอย่างเดียว สิ่งที่สำคัญกว่าคือการเตรียมรับมือกับเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนที่สามารถแพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็ว ขณะนี้ ข้อมูลที่มีอยู่ชี้ว่าประเทศต่าง ๆ ไม่ควรเปลี่ยนแนวทางควบคุมโรคโควิดที่ใช้กันอยู่ ทั้งยังระบุว่า ประเทศต่าง ๆ ต้องใช้บทเรียนที่ได้จากการรับมือกับการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา และเรียกร้องให้เร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดครบสองโดสในกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิดสูง รวมถึงคงการใช้มาตรการป้องกันต่าง ๆ เช่น การสวมหน้ากากอนามัยและการเว้นระยะห่างทางสังคม สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ขณะนี้ นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกกำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อหาคำตอบว่าเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนสามารถแพร่ระบาดได้อย่างไร และทำให้เกิดอาการป่วยรุนแรงหรือไม่ หลังแอฟริกาใต้เผยว่าพบเชื้อดังกล่าวเป็นที่แรกของโลกเมื่อเดือนก่อนและองค์การอนามัยโลกประกาศให้เป็นสายพันธุ์ที่น่าวิตกกังวล ทั้งนี้ มีหลายสิบประเทศทั่วโลกที่รายงานว่าพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนก่อนที่ประเทศต่าง ๆ ในทวีปเอเชียเริ่มพบผู้ป่วยติดเชื้อดังกล่าวในช่วงสัปดาห์นี้ ได้แก่ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินเดีย จนทำให้รัฐบาลของแต่ละประเทศต้องประกาศใช้มาตรการจำกัดการเดินทาง.-สำนักข่าวไทย

มาเลเซียพบผู้ป่วยโควิดโอไมครอนรายแรกแล้ว

กัวลาลัมเปอร์ 3 ธ.ค. – มาเลเซียพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกเป็นนักเรียนต่างชาติที่เดินทางมาจากแอฟริกาใต้เมื่อสองสัปดาห์ก่อน และออกจากสถานที่กักตัวเพื่อดูอาการเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนหลังกักตัวครบ 10 วัน นายไครี จามาลุดดิน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย เผยวันนี้ว่า เจ้าหน้าที่มาเลเซียได้ทำการตรวจหาเชื้อโควิดซ้ำอีกครั้งในกลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อช่วงก่อนหน้านี้ หลังองค์การอนามัยโลกประกาศให้เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนเป็นสายพันธุ์ที่น่าวิตกกังวลเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน นายจามาลุดดินระบุว่า ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกของมาเลเซียเป็นนักเรียนหญิงวัย 19 ปีที่เดินทางมาจากแอฟริกาใต้ เป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่ไม่แสดงอาการ และได้รับการฉีดวัคซีนโควิดครบสองโดส โดยมีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นบวกเมื่อเดินทางถึงมาเลเซียในวันที่ 19 พฤศจิกายนหลังแวะเปลี่ยนเครื่องที่สิงคโปร์ จากนั้น นักเรียนคนดังกล่าวได้เข้าสู่มาตรการกักตัวเป็นเวลา 10 วัน และครบกำหนดเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน นายจามาลุดดินยังระบุว่า มีผู้โดยสารอีก 5 คนที่นั่งรถคันเดียวกับนักเรียนหญิงก่อนที่เธอจะเข้าสู่มาตรการกักตัว แต่ทั้งห้าคนมีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบ อย่างไรก็ดี มาเลเซียได้ขอให้นักเรียนคนดังกล่าวและผู้มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดอีก 8 คนไปเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดอีกครั้ง หลังทางการพบว่าเธอติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน นายจามาลุดดินยังกล่าวด้วยว่า ทางการจะรีบประกาศใช้มาตรการเพิ่มเติมทันทีในวันนี้ ซึ่งรวมถึงการตรวจหาเชื้อโควิดในกลุ่มผู้เดินทางชาวสิงคโปร์ที่ฉีดวัคซีนโควิดครบโดสและได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาเลเซียโดยไม่ต้องกักตัว หลังจากที่สิงคโปร์เผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน 2 คนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียพบผู้ป่วยโควิดโอไมครอนรายแรกในชุมชน

ซิดนีย์ 3 ธ.ค. – เจ้าหน้าที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลียระบุวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกในชุมชน แต่จะยังคงเดินหน้าใช้แผนเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งด้วยความหวังว่าเชื้อดังกล่าวอาจมีความรุนแรงน้อยกว่าเชื้อโควิดสายพันธุ์อื่นที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีนครซิดนีย์เป็นเมืองเอก เผยว่า นักเรียนคนหนึ่งในนครซิดนีย์เป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกในชุมชนโดยไม่มีประวัติการเดินทางไปต่างประเทศเมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าอาจเกิดการแพร่กระจายของเชื้อดังกล่าวในรัฐนิวเซาท์เวลส์แล้ว ขณะที่นายแบรด ฮาซซาร์ด รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของรัฐนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า การระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนเป็นเรื่องที่น่าวิตกกังวล แต่ตอนนี้ทั่วโลกยังไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัดว่าเชื้อดังกล่าวจะมีความรุนแรงเทียบเท่ากับเชื้อโควิดสายพันธุ์ก่อนหน้านี้หรือไม่ สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ขณะนี้ ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน 9 คน ในจำนวนนี้ มีผู้ป่วยติดเชื้อดังกล่าว 8 คนในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดของออสเตรเลีย แม้บางรัฐได้ยกระดับมาตรการควบคุมพรมแดนในประเทศที่เข้มงวดขึ้น แต่รัฐบาลกลางหวังว่าจะสามารถเลี่ยงการกลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์แบบสั้น ๆ ได้ ขณะนี้ ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 212,000 คน และผู้เสียชีวิตราว 2,000 คน.-สำนักข่าวไทย

บ. ยาอังกฤษเผย “แอนติบอดีค็อกเทล” ต้านโอไมครอนได้

ลอนดอน 2 ธ.ค. – แกล็กโซสมิธไคลน์ หรือจีเอสเค บริษัทยาข้ามชาติของอังกฤษ เผยวันนี้ว่า ผลการวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการของยาแอนติบอดีแบบผสม หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ แอนติบอดีค็อกเทล ที่บริษัทพัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพต้านเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนได้ จีเอสเคระบุในแถลงการณ์ว่า ผลการทดลองในห้องปฏิบัติการและการทดลองในหนูแฮมสเตอร์ชี้ให้เห็นว่า ยาโซโทรวิแมบ (sotrovimab) ซึ่งเป็นยาแอนติบอดีค็อกเทลที่บริษัทพัฒนาขึ้นร่วมกับเวียร์ ไบโอเทคโนโลยี อิงค์ บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐ มีประสิทธิภาพต้านเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนที่สามารถกลายพันธุ์ได้มากมายหลายครั้ง ทั้งยังระบุว่า บริษัทกำลังรอผลการทดสอบเพื่อยืนยันเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการต้านการกลายพันธุ์ทั้งหมดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน โดยคาดว่าจะได้รับข้อมูลเพิ่มเติมภายในสิ้นปีนี้ ในขณะเดียวกัน หน่วยงานกำกับดูแลยาของอังกฤษได้ประกาศอนุมัติใช้ยาโซโทรวิแมบในวันนี้ โดยที่ยาดังกล่าวเป็นที่รู้จักในอังกฤษภายใต้ชื่อแบรนด์ ‘ซีวูดี’ (Xevudy) และสามารถนำไปใช้รักษาโรคโควิดในกลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลางที่มีความเสี่ยงสูงต่ออาการป่วยหนัก ทั้งนี้ สำนักงานกำกับดูแลยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของอังกฤษ (MHRA) แนะนำให้ใช้ยาดังกล่าวโดยเร็วที่สุด หรือภายใน 5 วันหลังมีอาการป่วย.-สำนักข่าวไทย

โมเดอร์นาเผยอาจมีวัคซีนกระตุ้นภูมิต้านโอไมครอน มี.ค. 65

นิวยอร์ก 2 ธ.ค. – นายสตีเฟน โฮก ประธานของโมเดอร์นา อิงค์ บริษัทเวชภัณฑ์ของสหรัฐ เผยเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่นว่า โมเดอร์นาอาจมีวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันต้านเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนที่ผ่านการทดสอบและพร้อมยื่นขออนุมัติต่อหน่วยงานกำกับดูแลยาของสหรัฐได้เร็วสุดในเดือนมีนาคมปีหน้า นายโฮกกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า เขาเชื่อว่าวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันต้านเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนจะเป็นวิธีที่รวดเร็วที่สุดในการแก้ปัญหาประสิทธิภาพของวัคซีนที่ลดลงจากเชื้อดังกล่าว แต่อาจจะต้องใช้เวลาราว 3-4 เดือนเพื่อให้เสร็จสิ้นกระบวนการทดลองทางคลินิกในระยะกลางตามคำแนะนำของสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ หรือเอฟดีเอ เขาคาดว่าวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันต้านเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนไม่อาจเสร็จทันก่อนเดือนมีนาคม หรืออาจเป็นช่วงไตรมาสที่สองของปีหน้า ยกเว้นว่าเอฟดีเอจะเปลี่ยนแปลงคำแนะนำเกี่ยวกับข้อมูลจำเป็นที่ใช้ในการอนุมัติ นายโฮกยังระบุว่า โมเดอร์นามีความพร้อมในการผลิตในขณะที่วัคซีนกำลังอยู่ในกระบวนการทดสอบเพื่อให้ส่งมอบวัคซีนได้อย่างรวดเร็ว ขณะนี้ เอฟดีเอกำลังประเมินผลกระทบของวัคซีนป้องกันโรคโควิดที่เกิดขึ้นจากเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน โดยที่เอฟดีเอสามารถร่นระยะเวลาดำเนินการให้รวดเร็วขึ้นคล้ายกับแนวทางอนุมัติวัคซีนไข้หวัดใหญ่ด้วยการอนุมัติการเปลี่ยนแปลงของเชื้อไวรัสในสายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่ ซึ่งจะช่วยให้ลดระยะเวลาลงราว 3-4 เดือน นอกจากนี้ นายโฮกยังเผยว่า โมเดอร์นากำลังทดสอบว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิดครบสองโดสจะมีภูมิคุ้มกันต้านเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนได้หรือไม่ รวมถึงการทดสอบในกลุ่มผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นโดสละ 50 ไมโครกรัมกับโดสละ 100 ไมโครกรัม โดยที่เขายังคงเชื่อว่าวัคซีนโควิดที่มีอยู่ในขณะนี้จะช่วยชะลอการระบาดได้ แม้อาจจะยังไม่สามารถยับยั้งเชื้อโควิดโอไมครอนได้ก็ตาม.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดโอไมครอนรายแรกแล้ว

วอชิงตัน 2 ธ.ค. – สหรัฐพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นผู้ที่เดินทางกลับมาจากแอฟริกาใต้เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน และมีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นบวกในวันที่ 29 พฤศจิกายน นพ. แอนโทนี เฟาชี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของสหรัฐ แถลงที่ทำเนียบขาวเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่นว่า ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนเป็นผู้ที่เดินทางกลับจากแอฟริกาใต้เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่สหรัฐยังไม่ได้ประกาศใช้คำสั่งระงับการเดินทาง และมีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นบวกในวันที่ 29 พฤศจิกายน ขณะนี้ ผู้ป่วยติดเชื้อคนดังกล่าวกำลังอยู่ในระหว่างการกักตัวเอง ส่วนผู้ที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดมีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบ ทั้งยังระบุว่า ผู้ป่วยคนนี้ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดครบสองโดส มีอาการป่วยเล็กน้อย และกำลังมีอาการดีขึ้น ขณะที่ นพ. แกรนท์ โคลแฟกซ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสาธารณสุขของเมืองซานฟรานซิสโกกล่าวว่า ผู้ติดเชื้อรายนี้ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น ในขณะเดียวกัน หน่วยงานสาธารณสุขเมืองซานฟรานซิสโกและรัฐแคลิฟอร์เนียยืนยันว่า ผู้ป่วยคนดังกล่าวติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนหลังได้รับผลการจัดลำดับพันธุกรรมจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียที่ตั้งอยู่ในเมืองซานฟรานซิสโก ด้านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี ก็ยืนยันเช่นเดียวกันว่าผู้ป่วยคนนี้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน.-สำนักข่าวไทย

เยอรมนีพบคนติดโควิดโอไมครอนแม้ฉีดวัคซีนครบโดส

เบอร์ลิน 1 ธ.ค. – สำนักงานสาธารณสุขท้องถิ่นของเยอรมนีระบุวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนในพื้นที่ทางใต้ของประเทศ แม้ว่าทั้งหมดได้รับการฉีดวัคซีนโควิดครบสองโดส ขณะที่ทางการเยอรมนีรายงานยอดผู้เสียชีวิตรายวันจากโรคโควิด-19 สูงสุดในรอบ 9 เดือน สำนักงานสาธารณสุขของรัฐบาเดิน-เวอร์ทเทมแบร์กในเยอรมนีระบุว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน 4 คนในพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศ แม้ทั้งหมดได้รับการฉีดวัคซีนโควิดครบสองโดสแล้วก็ตาม ในจำนวนนี้ มีผู้ป่วยติดเชื้อ 3 คนที่เพิ่งเดินทางกลับจากแอฟริกาใต้ในวันที่ 26 และ 27 พฤศจิกายน และผู้ป่วยติดเชื้ออีกคนเป็นสมาชิกครอบครัวของหนึ่งในผู้ป่วยที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากแอฟริกาใต้ โดยที่ทั้งหมดมีอาการป่วยเล็กน้อย สถาบันโรเบิร์ต ค็อก หรืออาร์เคไอ ซึ่งเป็นหน่วยงานควบคุมและป้องกันโรคของเยอรมนี รายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 67,186 คน และผู้เสียชีวิต 446 คน ซึ่งเป็นตัวเลขผู้เสียชีวิตสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ของปีนี้ ทำให้เยอรมนีมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 5.8 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 101,000 คน ในขณะเดียวกัน รัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นของเยอรมนีได้ลงมติเห็นชอบเมื่อวันอังคารในการใช้มาตรการควบคุมการระบาดระลอกที่สี่ เช่น การเร่งฉีดวัคซีนโควิดและการจำกัดการพบปะทางสังคม โดยเฉพาะในกลุ่มประชาชนที่ยังไม่ฉีดวัคซีนโควิด นอกจากนี้ บรรดาผู้นำของเยอรมนียังเห็นด้วยต่อการตัดสินใจอย่างหนักแน่นในวันพฤหัสบดีเกี่ยวกับข้อเสนอต่าง ๆ เช่น […]

ฮ่องกงแยกเชื้อโควิดโอไมครอนสำเร็จที่แรกในเอเชีย

ฮ่องกง 1 ธ.ค. – นักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยฮ่องกงประสบความสำเร็จจากการแยกเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนในขั้นตอนเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางคลินิกเป็นแห่งแรกในทวีปเอเชีย ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะช่วยในการพัฒนาวัคซีนโควิดที่มีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อดังกล่าวได้ในอนาคต มหาวิทยาลัยฮ่องกงระบุในแถลงการณ์เมื่อวันอังคารว่า นักวิจัยของภาควิชาจุลชีววิทยาของมหาวิทยาลัยฮ่องกงประสบความสำเร็จจากการแยกเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนในขั้นตอนเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางคลินิกที่สามารถช่วยให้เกิดการพัฒนาและผลิตวัคซีนต้านเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งองค์การอนามัยโลกจัดให้อยู่ในกลุ่มสายพันธุ์ที่น่าวิตกกังวล ขณะนี้ คณะนักวิจัยกำลังนำเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนไปศึกษาในด้านการแพร่กระจาย ความสามารถในการหลี่กเลี่ยงภูมิคุ้มกันจากวัคซีน และความสามารถก่อโรคด้วยการทดลองในสัตว์ มหาวิทยาลัยฮ่องกงยังระบุว่า คณะนักวิจัยกำลังศึกษาเกี่ยวกับโอกาสในการพัฒนาและผลิตวัคซีนต้านเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนอย่างเร่งด่วนด้วยเทคโนโลยีวัคซีนเชื้อตาย ทั้งนี้ คณะนักวิจัยของมหาวิทยาลัยฮ่องกงประสบความสำเร็จจากการแยกเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนได้ในช่วงค่ำวันจันทร์ ซึ่งใช้เวลาเพียง 4 วันหลังฮ่องกงพบผู้ป่วยติดเชื้อดังกล่าว 2 รายแรกในวันที่ 25 พฤศจิกายน และเป็นเวลา 5 วันหลังจากแอฟริกาใต้แจ้งต่อองค์การอนามัยโลกว่าพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนเป็นครั้งแรกในวันที่ 24 พฤศจิกายน.-สำนักข่าวไทย

อนามัยโลกเตือนคำสั่งห้ามเดินทางไม่ช่วยสกัดโอไมครอน

เจนีวา 1 ธ.ค. – องค์การอนามัยโลกเตือนว่า การใช้มาตรการห้ามการเดินทางแบบปูพรมกว้างขวางไปทั่วจะไม่ช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนท่ามกลางสถานการณ์ที่หลายประเทศรีบประกาศใช้มาตรการดังกล่าวมากขึ้น ในขณะที่ภูมิภาคลาตินอเมริกาพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน 2 รายแรกแล้ว องค์การอนามัยโลกระบุเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า การใช้มาตรการห้ามการเดินทางที่ครอบคลุมเสี่ยงที่จะทำให้เกิดผลร้ายมากกว่าผลดี หลังแคนาดาประกาศห้ามอีก 3 ประเทศจากทวีปแอฟริกาเดินทางเข้าประเทศ ได้แก่ ไนจีเรีย มาลาวี และอียิปต์ องค์การอนามัยโลกยังระบุในประกาศคำแนะนำการเดินทางว่า การใช้มาตรการดังกล่าวจะทำให้เกิดอุปสรรคระหว่างประเทศต่าง ๆ ในด้านการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน อย่างไรก็ดี องค์การอนามัยโลกได้แนะนำให้ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิดสูงและยังไม่ฉีดวัคซีนโควิด ซึ่งรวมถึงผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ดร. ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก กล่าวว่า เขาเข้าใจว่าประเทศต่าง ๆ ต้องหาทางปกป้องพลเมืองของตนจากเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนที่ยังไม่มีข้อมูลอธิบายอย่างชัดเจน แต่เขาขอให้ทั่วโลกอย่าตื่นตระหนก ให้ความร่วมมือ และทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ ใช้มาตรการควบคุมเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนอย่างสมเหตุสมผล ในขณะเดียวกัน ภูมิภาคลาตินอเมริการะบุเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน 2 รายแรกที่เดินทางจากแอฟริกาใต้ไปยังบราซิล ขณะที่ญี่ปุ่นเผยว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกเมื่อวานนี้หลังใช้มาตรการห้ามผู้เดินทางต่างชาติเข้าประเทศได้เพียงวันเดียว ขณะนี้ มีหลายสิบประเทศและดินแดนทั่วโลกที่พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ […]

เกาหลีใต้มียอดป่วยโควิดทะลุ 5,000 คนครั้งแรก

โซล 1 ธ.ค. – เกาหลีใต้ระบุวันนี้ว่า พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทะลุ 5,000 คนเป็นครั้งแรก และมีตัวเลขผู้ป่วยอาการหนักพุ่งสูงสุดเช่นกัน ท่ามกลางสถานการณ์ที่ทั่วโลกกำลังวิตกกังวลเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี หรือเคดีซีเอ รายงานว่า เกาหลีใต้พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 5,123 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศ 5,075 คน และทำลายสถิติผู้ป่วยติดเชื้อสูงสุดที่มี 4,115 คนเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ทั้งยังระบุว่า พบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดเพิ่ม 34 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 452,000 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 3,600 คน นอกจากนี้ เกาหลีใต้ยังมีตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้ออาการหนัก 723 คน ทำลายสถิติสูงสุดก่อนหน้าที่มี 661 คนเมื่อวันอังคาร สถานการณ์ระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนทั่วโลกทำให้ทางการเกาหลีใต้เพิ่มความระมัดระวังอย่างมาก หลังเกาหลีใต้พบผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายแรกที่ต้องสงสัยว่าอาจติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน แต่เคดีซีเอระบุว่าจำเป็นต้องรอผลการจัดลำดับพันธุกรรมในวันนี้ ขณะนี้ เกาหลีใต้ฉีดวัคซีนโควิดโดสแรกให้ประชาชนราว 42.5 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 83 และฉีดวัคซีนครบสองโดสได้ […]

1 7 8 9 10
...