สหรัฐ

โซล 18 พ.ย. – กระทรวงอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้เผยวันนี้ว่า เกาหลีใต้ได้รับคำขอจากสหรัฐให้ปล่อยน้ำมันจากคลังสำรองป้อนตลาดเพื่อพยุงราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น เจ้าหน้าที่ของกระทรวงอุตสาหกรรมเกาหลีใต้กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า เกาหลีใต้กำลังตรวจสอบคำขอจากสหรัฐอย่างละเอียด แต่เกาหลีใต้ไม่เคยปล่อยน้ำมันในคลังสำรองออกมาด้วยสาเหตุจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ทั้งยังระบุว่า เกาหลีใต้อาจปล่อยน้ำมันจากคลังสำรองในกรณีที่น้ำมันขาดตลาด แต่จะไม่ใช้วิธีดังกล่าวเพื่อรับมือกับราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ขณะนี้ เกาหลีใต้มีปริมาณน้ำมันสำรอง 97 ล้านบาร์เรล และเพียงพอที่ใช้ในประเทศได้นาน 106 วัน ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐได้ขอให้บางประเทศที่จัดอยู่ในกลุ่มประเทศใช้น้ำมันสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกพิจารณาปล่อยน้ำมันบางส่วนในคลังสำรองเพื่อแก้ปัญหาราคาน้ำมันพุ่งสูงและกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ.-สำนักข่าวไทย

ปักกิ่ง 17 พ.ย.- จีนและสหรัฐตกลงจะผ่อนคลายมาตรการจำกัดที่เข้มงวดกับผู้ที่ทำงานด้านสื่อมวลชนของทั้งสองฝ่าย ในขณะที่ความสัมพันธ์ตึงเครียดเริ่มคลี่คลายลง หนังสือพิมพ์ไชนาเดลีของทางการจีนรายงานวันนี้ว่า ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงนี้ก่อนที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนและประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐประชุมสุดยอดแบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อวันอังคารตามเวลาจีน ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าวสหรัฐจะให้วีซ่าแบบเข้าออกหลายครั้งอายุ 1 ปีแก่สื่อมวลชนชาวจีน และจะเริ่มกระบวนการแก้ไขเรื่องระยะเวลาของสถานะที่สามารถอยู่ได้ในสหรัฐ (Duration of Status หรือ D/S) โดยทันที ขณะที่จีนจะปฏิบัติเช่นเดียวกันกับผู้สื่อข่าวสหรัฐ ทันทีที่นโยบายของสหรัฐมีผลบังคับใช้ และทั้งสองฝ่ายจะออกวีซ่าสื่อมวลชนให้แก่ผู้ยื่นขอรายใหม่ อ้างอิงตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ด้านกระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงว่า จีนรับปากจะออกวีซ่าให้แก่สื่อมวลชนสหรัฐกลุ่มหนึ่ง โดยมีเงื่อนไขว่าต้องเข้าเกณฑ์ตามกฎหมายและระเบียบที่บังคับใช้ทั้งหมด ขณะที่สหรัฐก็จะออกวีซ่าให้แก่ผู้สื่อข่าวชาวจีนที่เข้าเกณฑ์ได้รับวีซ่าตามกฎหมายสหรัฐ นอกจากนี้จีนยังจะเพิ่มอายุวีซ่าให้สื่อมวลชนสหรัฐจาก 90 วันในปัจจุบัน เป็น 1 ปี สหรัฐจึงรับปากจะเพิ่มให้สื่อมวลชนจีนในลักษณะเดียวกัน ทั้งสองประเทศยังจะให้วีซ่าแบบเข้าออกหลายครั้งแก่สื่อมวลชนทั้งสองฝ่ายด้วย มาตรการจำกัดสื่อมวลชนทำให้ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐตึงเครียดมานานกว่า 1 ปี หลังจากสหรัฐจำกัดจำนวนวีซ่าที่ออกให้แก่ผู้ทำงานให้แก่สื่อทางการจีน และกำหนดให้บุคคลเหล่านี้ต้องขึ้นทะเบียนเป็นตัวแทนต่างชาติ ทำให้จีนตอบโต้ด้วยการขับผู้สื่อข่าวที่ทำงานให้แก่สื่อสหรัฐออกนอกจีน และใช้มาตรการจำกัดเข้มงวดกับผู้ที่ยังทำงานอยู่ในจีน.-สำนักข่าวไทย

วอชิงตัน 14 พ.ย.- กระทรวงต่างประเทศสหรัฐเตือนจีนเรื่องที่ยังเดินหน้ากดดันไต้หวัน ขณะที่ผู้นำสองประเทศจะประชุมสุดยอดครั้งแรกในเย็นวันจันทร์ที่จะถึงนี้ตามเวลาสหรัฐ กระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงว่า นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนเมื่อวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐ หารือเรื่องการเตรียมการสำหรับการประชุมสุดยอดที่จะจัดขึ้นแบบเสมือนจริง และได้แสดงความกังวลเรื่องที่จีนยังคงเดินหน้ากดดันไต้หวันทั้งทางการทหาร การทูต และเศรษฐกิจ นายบลิงเคนได้ขอให้รัฐบาลจีนใช้การเจรจาอย่างสร้างสรรค์ เพื่อแก้ไขประเด็นข้ามช่องแคบไต้หวันที่กั้นจีนกับไต้หวัน ด้วยแนวทางสันติและสอดคล้องกับความปรารถนาและประโยชน์สูงสุดของประชาชนชาวไต้หวัน และว่าเขาได้ย้ำหลายครั้งแล้วว่า ช่วง 10 เดือนมานี้ความสัมพันธ์กับจีนเป็นเรื่องที่มีผลกระทบและซับซ้อนมากที่สุด เพราะมีทั้งความร่วมมือ การแข่งขัน และความขัดแย้ง สหรัฐจะหาทางจัดการเรื่องนี้ให้ได้ในคราวเดียว ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐและประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนเคยสนทนาทางโทรศัพท์กัน 2 ครั้ง ตั้งแต่ไบเดนขึ้นเป็นผู้นำสหรัฐในเดือนมกราคมปีนี้ ก่อนหน้านี้ทั้งคู่เคยพบกันหลายครั้งในช่วงที่ไบเดนเป็นรองประธานาธิบดีสมัยบารัค โอบามา และสีเป็นรองประธานาธิบดีสมัยหู จิ่นเทา ไบเดนคาดหวังว่าจะได้พบกับสีในการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่หรือจี 20 (G20) ที่กรุงโรมของอิตาลีเมื่อสิ้นเดือนตุลาคม แต่ผู้นำจีนไม่ได้ออกนอกประเทศเลยนับตั้งแต่โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาด ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่า จะจัดการประชุมแบบเสมือนจริงภายในสิ้นปีนี้.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบขาวของสหรัฐกล่าวว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ จะพบปะแบบเสมือนจริงกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ในวันจันทร์

นายโยชิมาสะ ฮายาชิ รัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่ของญี่ปุ่นกล่าววันนี้ว่า นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐได้ให้การรับประกันกับเขาในระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์ว่า พันธกรณีของสหรัฐในการปกป้องญี่ปุ่น รวมไปถึงหมู่เกาะเล็ก ๆ ที่จีนอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง