สถานทูตสหรัฐฯ จัดสัมมนาเสริมสร้างความเข้าใจเชิงลึกแก่สื่อไทย

กรุงเทพฯ​ 16 พ.ย.​ – สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยร่วมกับสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย (TJA) จัดการสัมมนาสำหรับผู้สื่อข่าวไทย เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของสหรัฐ รวมทั้งสร้างความเข้าใจเชิงลึกว่าด้วยความร่วมมือระดับทวิภาคีทุกภาคส่วนระหว่าง 2 ประเทศ


อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐ ฯ​ประจำประเทศไทย

นายไมเคิล ฮีธ (Michael Heath) อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐ ฯ​ประจำประเทศไทย กล่าวในพิธีเปิดการสัมมนา “นโยบายเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐ ภายใต้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน” ว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่สถานทูตสหรัฐฯ ได้จัดโครงการร่วมกับสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เพื่อให้ข้อมูลและจุดมุ่งหมายที่สำคัญของนโยบายการต่างประเทศของสหรัฐ โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับไทย ซึ่งเป็นพันธมิตรสนธิสัญญาที่เก่าแก่และยาวนานที่สุดของสหรัฐในเอเชีย ทั้งนี้ สถานทูตสหรัฐฯ​ ประจำประเทศไทย ถือเป็นสถานทูตใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ในโลกของสหรัฐ รองจากกรุงแบกแดดในอิรัก โดยมีเจ้าหน้าที่และหน่วยงานของสหรัฐจำนวนมากประจำการปฏิบัติภารกิจภารกิจในประเทศไทย ตอกย้ำให้เห็นว่า กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นหุ้นส่วนที่แนบแน่นครอบคลุมภาคีทุกส่วนของไทย

ด้านนายมงคล บางประภา นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า งานสัมมนาครั้งนี้เป็นโครงการแรกที่สมาคมฯ​ จัดขึ้นหลังการผ่อนคลายมาตรการ ควบคุมโรคโควิด-19 โดยเชื่อมั่นว่าจากการสัมมนาครั้งนี้ ผู้สื่อข่าวไทยจะได้มุมมองเกี่ยวกับการดำเนินงานของสถานทูตสหรัฐฯ​ อย่างถูกต้องและครอบคลุมมากขึ้น


ดร.ประพีร์ อภิชาติสกล

นอกจากนี้ ดร. ประพีร์ อภิชาติสกล อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒและอุปนายกสมาคมอเมริกาศึกษาในประเทศไทย ยังได้กล่าวปาฐกถาเกี่ยวกับนโยบายการต่างประเทศของสหรัฐ​ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ว่ามี 8 ประเด็นที่สำคัญที่น่าจับตามอง คือ

  1. สหรัฐจะกลับมาทวงคืนความเป็นหนึ่งอีกครั้ง (America must lead again)
  2. ประธานาธิบดีโจ ไบเดน นำพาสหรัฐกลับสู่เวทีโลกอีกครั้ง (Multilateralism) เช่น องค์การการค้าโลก, การร่วมแก้ปัญหาโลกร้อน
  3. การใช้ soft power ด้วยนโยบายการทูตวัคซีน (Vaccine Diplomacy)
  4. การถ่วงดุลอำนาจและสร้างระเบียบใหม่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (US Indo-Pacific strategies)
  5. การถอนกำลังทหารออกจากอัฟกานิสถาน เป็นนโยบายของสหรัฐที่จะลดบทบาทลงเพื่อผลประโยชน์และลดความสูญเสียด้านงบประมาณ
  6. ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับจีน ยืดเยื้อมานาน แต่ปัจจุบันความขัดแย้งนั้นพัฒนาไปสู่ความสัมพันธ์ในเชิงการแข่งขัน (Competitive Relationship)
  7. ทะเลจีนใต้ มีทรัพยากร และมีเส้นทางเดินเรือที่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญ ที่สหรัฐมองว่า จีนควรปฏิบัติตามหลักกฎหมายสากล
  8. เมียนมา สหรัฐพยายามที่จะยุติปัญหาที่เกิดจากการปฏิวัติรัฐประหารของกองทัพเมียนมาด้วยการใช้มาตรการคว่ำบาตรที่จะไม่กระทบต่อพลเรือน

ในการสัมมนาที่มีขึ้นเป็นเวลา 3 วัน ผู้สื่อข่าวไทยจำนวน 20 คน จะได้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกระบวนการการทำงานของสถานทูตสหรัฐฯ​เพื่อสานต่อผลประโยชน์ร่วมกันของทั้ง 2 ประเทศ โดยสหรัฐฯ จะสนับสนุนให้สื่อมวลชนปฏิบัติหน้าที่อย่างเสรี ทันโลก มีเกราะป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ข้อมูลบิดเบือน เพื่อเป็นเสาหลักของประชาธิปไตย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

US election

ทรัมป์-แฮร์ริส หาเสียงวันสุดท้าย ก่อนหย่อนบัตรวันนี้

ขณะนี้เหลือไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พฤศจิกายน ผลสำรวจความเห็นประชาชนต่างชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส