เปิดลงทะเบียน เยียวยาเพลิงไหม้โรงงานหมิงตี้
วันแรกเปิดลงทะเบียนเยียวยาชาวบ้านเหตุเพลิงไหม้โรงงานหมิงตี้ ซอยกิ่งแก้ว 21 ยอดรวม 7 วัน มีชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบรวมทั้งสิ้น 1,266 ราย รวมมูลค่าความเสียหาย 423 ล้านบาท
วันแรกเปิดลงทะเบียนเยียวยาชาวบ้านเหตุเพลิงไหม้โรงงานหมิงตี้ ซอยกิ่งแก้ว 21 ยอดรวม 7 วัน มีชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบรวมทั้งสิ้น 1,266 ราย รวมมูลค่าความเสียหาย 423 ล้านบาท
เสียงสะท้อนจากชาวกิ่งแก้ว หลังกระทรวงอุตสาหกรรมสั่งปิดโรงงานหมิงตี้ และให้ย้ายออกจากชุมชน ขณะที่หลายคนวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนมาตรการความปลอดภัยกิจการโรงงาน
กระทรวงสาธารณสุขเปิดโรงพยาบาลสนามเพิ่มที่ จ.สมุทรปราการ รองรับผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล พร้อมเร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ผู้สูงอายุ และ 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง ให้แล้วเสร็จในเดือนนี้
ชาวกิ่งแก้วที่ได้รับผลกระทบจากเหตุโรงงานเม็ดโฟมระเบิด รอการเยียวยา หวังภาครัฐเป็นที่พึ่งสุดท้าย บางรายเตรียมขายที่พักและย้ายไปอยู่ที่อื่น หากบริษัทไร้เยียวยาพร้อมเดินหน้าฟ้องร้อง
กระทรวงสาธารณสุขจัดรถตรวจเชื้อโควิดและวัคซีนแอสตราเซเนกา หน้ากาก N95 ช่วยดูแลผู้อพยพจากเหตุโรงงานระเบิดที่จังหวัดสมุทรปราการ
ตำรวจตั้ง 3 ประเด็นสอบไฟไหม้โรงงานหมิงตี้ “อุบัติเหตุ ประมาท และวางเพลิงเอาประกันกว่า 300 ล้านบาท” ด้านชายชาวไต้หวัน ซึ่งเป็นเจ้าของโรงงาน ยังไม่เข้าให้ปากคำ อ้างติดสถานการณ์โควิด
สมาคมประกันฯ แนะแนวทางปฏิบัติ สำหรับผู้ได้รับความเสียหายกรณีเหตุการณ์ไฟไหม้ที่โรงงานบริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ย่านกิ่งแก้ว จ.สมุทรปราการ
กรุงเทพฯ 6ก.ค.-สภาวิศกร หวั่นอันตรายจากสารเคมีตกค้าง อาจเกิดการปะทุได้อีก แนะประชาชนอย่าเพิ่งกลับเข้าพื้นที่ในเขตรัศมี 5 กม.กำชับต้องตรวจสอบโครงสร้างอาคารบ้านเรือนและตั้งระบบตรวจคุณภาพอากาศและสารพิษ ก่อนกลับเข้าไปอยู่อาศัย สภาวิศกร เปิดวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงเหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติกย่านกิ่งแก้ว จ.สมุทรปราการ โดย ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสภาวิศวกรและอธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง(สจล.)กล่าวว่า กรณีอุบัติเหตุเพลิงไหม้และเกิดการระเบิดของโรงงานผลิตโฟมพอลิสไตรีน ในซอยกิ่งแก้ว 21 จ.สมุทรปราการ ก่อให้เกิดกลุ่มควันพุ่งสูงต่อเนื่องนานนับสิบชั่วโมง ถึงแม้ล่าสุดเจ้าหน้าที่จะควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว แต่สิ่งที่ต้องเตือนประชาชน ให้ระวังปัญหาจากมลพิษที่ยังหลงเหลือยู่จากการเผาไหม้ ต้องแจ้งเตือนว่าพื้นที่ดังกล่าวยังเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ รวมถึงโครงสร้างบ้านเรือนโดยรอบต้องได้รับการตรวจสอบก่อนกลับเข้าอาศัยด้วย โดยสภาวิศวกรมีข้อเสนอแนะ ดังนี้1.พื้นที่บริเวณโรงงานกิ่งแก้ว ยังให้ถือว่าเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ ต้องเฝ้าระวังตลอดเวลา เนื่องจากยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามีสารเคมีหลงเหลือเท่าใด2.ต้องติดตั้งสถานีวัดคุณภาพอากาศและระบบเซ็นเซอร์วัดปริมาณสารพิษ เพื่อนำมาจัดทำแผนที่แบบละเอียด โดยเฉพาะพื้นที่ 5-10 กม. สำหรับวางแผนความปลอดภัยและรายงานผลอย่างตรงไปตรงมา3.เสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อบต. กรมโรงงานอุตสาหกรรม ทำบัญชีฐานข้อมูลโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ ช่วยประเมินความเสี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้4.นโยบายในการจัดการโรงงานอย่างเป็นธรรมรอบด้าน เพื่อเอื้อให้เกิดความปลอดภัยต่อการจัดการ และชุมชนโดยรอบ ด้าน รศ.ดร.ปิยะบุตร วานิชพงษ์พันธุ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมเคมี กล่าวว่า อันตรายที่ยังต้องเฝ้าระวังจากเหตุการณ์นี้ คาดว่าจะยังมีสารเคมีอันตรายหลงเหลืออยู่ โดยเฉพาะสารเพนเทน และโพลีสไตรีนเรซิน ซึ่งเป็นสารเคมีที่มีอันตรายคุณสมบัติติดไฟง่าย ซึ่งอาจเป็นปัจจัยทำให้เกิดการระเบิด ทั้งนี้ แม้การควบคุมเพลิงจะทำได้แล้ว […]
นายกฯ ชื่นชมความร่วมมือทุกหน่วยงานเร่ง ระงับเหตุเพลิงไหม้ จังหวัดสมุทรปราการ ยืนยันดูแลผลกระทบสภาพแวดล้อม พร้อมเยียวยาเจ้าหน้าที่และประชาชนอย่างดีที่สุด
อธิบดีกรมอุตุฯ ระบุ ช่วงบ่ายนี้ กรุงเทพฯ และปริมณฑลจะมีฝนเพิ่มขึ้น 40% ของพื้นที่ อาจทำให้มีฝนตกบริเวณ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ไฟที่ไหม้โรงงานผลิตเม็ดโฟมดับลงแล้ว จึงไม่ต้องกังวลการปะทุใหม่จากน้ำฝน แต่เตือนระวังการชะสารแขวนลอยในอากาศลงสู่แหล่งน้ำ
เหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติก ย่านกิ่งแก้ว จ.สมุทรปราการ ล่าสุดโฟมที่ใช้ฉีดสกัดเพลิงหมด ทำให้เปลวเพลิงปะทุขึ้นอีกครั้ง
ผู้ว่าฯ สมุทรปราการ เผยผลปฏิบัติการควบคุมเพลิงไหม้ดีขึ้น สามารถจำกัดวงแคบได้แล้ว หลังใช้โฟมเคมีและน้ำ พร้อมขอความร่วมมือประชาชนในรัศมี 5 กม. ไม่ควรกลับเข้าไปในพื้นที่