ชาวออสเตรเลียประสาทหลอนหลังกินผักโขมปนเปื้อนกัญชา

ซิดนีย์ 16 ธ.ค. – ชาวออสเตรเลีย 9 คนในนครซิดนีย์ของออสเตรเลียมีอาการป่วยรุนแรงและประสาทหลอนหลังกินผักโขมปนเปื้อนสารพิษที่ซื้อจากซูเปอร์มาร์เก็ตชื่อดังในออสเตรเลีย โดยคาดว่าผักโขมดังกล่าวอาจปนเปื้อนกัญชา บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า ชาวออสเตรเลีย 9 คนในนครซิดนีย์ เมืองเอกของรัฐนิวเซาท์เวลส์ มีอาการป่วยรุนแรงและประสาทหลอนหลังรับประทานผักโขมปนเปื้อนสารพิษของริเวียรา ฟาร์มส์ ซึ่งวางจำหน่ายที่คอสต์โก ซูเปอร์มาร์เก็ตชื่อดังในออสเตรเลีย ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐนิวเซาท์เวลส์ระบุว่า ผู้ป่วยทั้ง 9 คนยังมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น อาการเพ้อ หัวใจเต้นเร็ว และตามัว ด้านริเวียรา ฟาร์มส์ คาดว่า ผักโขมดังกล่าวอาจปนเปื้อนกัญชา แต่ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ไม่ได้รับผลกระทบ ขณะนี้ บริษัทได้ดำเนินการสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นในทันที และสั่งให้ร้านค้าต่าง ๆ หยุดจำหน่ายผักโขมแล้ว เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐนิวเซาท์เวลส์ยังได้ประกาศเตือนให้ประชาชนห้ามรับประทานผักโขมของริเวียราฟาร์มส์ลอตที่จะหมดอายุวันที่ 16 ธ.ค. เนื่องจากเป็นอันตรายต่อร่างกายและควรนำไปทิ้ง ทั้งยังระบุว่า ประชาชนคนใดที่มีอาการผิดปกติหลังรับประทานผักโขมลอตดังกล่าว ควรเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทันที ทั้งนี้ ผู้ป่วยทั้ง 9 คนเป็นชาวนครซิดนีย์ทั้งหมด แต่รัฐนิวเซาท์เวลส์ก็ได้แจ้งเตือนไปยังรัฐอื่น ๆ ให้เฝ้าระวังและตรวจสอบเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย

เหตุผิดพลาดในห้องทดลอง รร. ในออสเตรเลีย บาดเจ็บกว่าสิบคน

ซิดนีย์ 21 พ.ย. – เหตุผิดพลาดในห้องเรียนการทดลองวิทยาศาสตร์ที่โรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่งในนครซิดนีย์ของออสเตรเลีย ทำให้มีนักเรียนบาดเจ็บกว่าสิบคน และมีคุณครูบาดเจ็บเล็กน้อย 1 คน สถานีโทรทัศน์ไนน์นิวส์ (9News) ของออสเตรเลีย รายงานว่า เกิดเหตุผิดพลาดในห้องเรียนการทดลองวิทยาศาสตร์ที่โรงเรียนแมนลีเวสต์ในนครซิดนีย์ ซึ่งเป็นเมืองเอกของรัฐนิวเซาท์เวลส์ เมื่อเวลา 13.00 น. ของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 09.00 น. ของวันนี้ตามเวลาประเทศไทย เหตุดังกล่าวทำให้มีนักเรียนบาดเจ็บกว่าสิบคน ในจำนวนนี้ มีนักเรียนอย่างน้อย 2 คนที่มีแผลไหม้รุนแรงและถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลในทันที ขณะที่นักเรียนอีก 9 คนมีแผลไหม้เล็กน้อย และมีคุณครู 1 คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเช่นกัน ขณะที่หนังสือพิมพ์ซิดนีย์ มอร์นิง เฮอรัลด์ ของออสเตรเลีย รายงานว่า เด็กที่ได้รับบาดเจ็บมีอายุ 10-11 ปี มีบาดแผลไฟไหม้ตามลำตัว รวมถึงใบหน้า หน้าอก ท้องส่วนล่าง และขา รายงานเบื้องต้นยังระบุว่า เหตุผิดพลาดดังกล่าวเกิดจากการทดลองที่ใช้สารโซเดียมไบคาร์บอเนต หรือโซดาทำขนม กับเมทิลแอลกอฮอล์ หรือแอลกอฮอล์จุดไฟ โดยที่ทางการรัฐนิวเซาท์เวลส์ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ เจ้าหน้าที่การแพทย์ และรถดับเพลิง […]

สิงโต 5 ตัวที่สวนสัตว์ในนครซิดนีย์หลุดจากกรง

ซิดนีย์ 2 พ.ย. – สิงโต 5 ตัวหลุดออกจากกรงที่สวนสัตว์ทารองกาในนครซิดนีย์ของออสเตรเลียเมื่อช่วงเช้าวันนี้ จนทำให้เจ้าหน้าที่สวนสัตว์จำเป็นต้องใช้มาตรการระงับเหตุฉุกเฉินระดับสูงสุด หรือโค้ดวัน (code one) เพื่อปิดพื้นที่สวนสัตว์ดังกล่าว นายไซมอน ดัฟฟี ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของสวนสัตว์ทารองกา เผยว่า เกิดเหตุสิงโตเต็มวัย 4 ตัว และลูกสิงโต 1 ตัว หลุดออกจากกรงในสวนสัตว์ทารองกาเมื่อเวลา 06.30 น. ของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 02.30 น. ของวันนี้ตามเวลาประเทศไทย โดยพบพวกมันอยู่ที่บริเวณพื้นที่เล็ก ๆ ติดกับพื้นที่จัดแสดงสิงโต ทำให้เจ้าหน้าที่สวนสัตว์จำเป็นต้องใช้มาตรการระงับเหตุฉุกเฉินระดับสูงสุด หรือโค้ดวัน เพื่อปิดพื้นที่สวนสัตว์ ก่อนที่ตำรวจเดินทางถึงสวนสัตว์เมื่อเวลา 07.10 น. และนำสิงโตทั้งหมดกลับเข้ากรงเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. โดยไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว นายดัฟฟียังระบุว่า เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องยิงลูกดอกยาสลบใส่ลูกสิงโต ขณะที่สิงโตตัวอื่น ๆ ยอมเดินกลับเข้ากรงได้โดยสงบ ส่วนสัตว์ทั้งหมดที่อยู่ในสวนสัตว์ปลอดภัยดี และเจ้าหน้าที่จะจับตาเฝ้าระวังสถานการณ์ต่อไป พร้อมทั้งยืนยันว่า สวนสัตว์ทารองกากำลังเร่งดำเนินการตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าพื้นที่จัดแสดงสิงโตต้องมีความปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์ […]

ออสเตรเลียพบเต่าทะเลถ่ายเป็นพลาสติก 6 วันติด

ซิดนีย์ 1 ส.ค. – สวนสัตว์ทารองกา ซู (Taronga Zoo) ในนครซิดนีย์ของออสเตรเลีย ระบุว่า ได้ช่วยชีวิตเต่าทะเลตัวเล็กที่หาดใกล้สวนสัตว์ แต่กลับพบว่ามันถ่ายอุจจาระออกมาเป็นพลาสติกติดต่อกันเป็นเวลาถึง 6 วัน ซาราห์ เมล พยาบาลสัตว์ของสวนสัตว์ทารองกา ซู เผยผ่านคลิปวิดีโอที่โพสต์ผ่านทวิตเตอร์ของสวนสัตว์ว่า เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ช่วยชีวิตเต่าเพศผู้ ซึ่งเสียครีบหลังไปข้างหนึ่ง ได้ที่หาดใกล้สวนสัตว์ แต่พบว่ามันถ่ายอุจจาระออกมาเป็นพลาสติกล้วน ๆ ติดต่อกันนานถึง 6 วัน โชคดีที่เต่าตัวนี้สามารถถ่ายพลาสติกทั้งหมดออกมาจากระบบย่อยอาหารได้ทั้งหมด ทั้งยังระบุว่า เต่าส่วนใหญ่มักมีอาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นจากการย่อยพลาสติกและสายเบ็ด เว็บไซต์ของสวนสัตว์ทารองกา ซู ระบุว่า ปกติโรงพยาบาลสัตว์ป่าทารองกาได้รับเต่าทะเลที่บาดเจ็บมาดูแลรักษาและปล่อยคืนสู่ธรรมชาติปีละ 80 ตัว อีกทั้งยังดูแลรักษาสัตว์ท้องถิ่นและปล่อยคืนสู่ธรรมชาติรวมกว่า 50,000 ตัวนับตั้งแต่ก่อตั้งโรงพยาบาลในช่วงคริสตทศวรรษหลังปี 1970 ขณะที่องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) เผยว่า มนุษย์ทิ้งขยะพลาสติกลงทะเลปีละ 8 ล้านตัน ซึ่งคาดว่าจะทำให้ปริมาณขยะพลาสติกในทะเลมีจำนวนมากกว่าปลาในปี 2593 ทั้งยังระบุว่า นกทะเลร้อยละ 90 มีพลาสติกอยู่ในระบบย่อยอาหาร และเต่าทะเลร้อยละ 50 กินพลาสติกเป็นอาหาร. […]

เรือสินค้าผจญพายุในออสเตรเลีย

ระทึก! เรือสินค้าขัดข้อง ถูกคลื่นซัดออกทะเล นอกชายฝั่งนครซิดนีย์ เสี่ยงกระแทกโขดหิน ทางการเร่งนำเรือลากจูงเข้าควบคุม และส่งเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงลูกเรือ

เผยชายถูกฉลามกัดตายในนครซิดนีย์เป็นชาวอังกฤษ

สื่อของออสเตรเลียรายงานวันนี้ว่า ชายที่ถูกฉลามจู่โจมจนเสียชีวิตที่ชายหาดแห่งหนึ่งในนครซิดนีย์ เมื่อวันพุธ เป็นครูสอนดำน้ำชาวอังกฤษ

ออสเตรเลียสั่งปิดหาดในซิดนีย์ล่าฉลามกัดคนตาย

ซิดนีย์ 17 ก.พ. – ออสเตรเลียสั่งปิดชายหาดเกือบทั้งหมดในนครซิดนีย์วันนี้ เพื่อเร่งค้นหาฉลามขาวที่จู่โจมกัดขย้ำชายคนหนึ่งจนเสียชีวิตในขณะที่กำลังว่ายน้ำอยู่ในทะเลเมื่อวันพุธ ซึ่งนับเป็นเหตุถูกฉลามจู่โจมเสียชีวิตครั้งแรกในรอบเกือบ 60 ปีของนครซิดนีย์ ตำรวจออสเตรเลียเผยว่า ชายคนดังกล่าวถูกฉลามขย้ำในขณะที่กำลังว่ายน้ำอยู่ในทะเลที่มีคลื่นแรงใกล้อ่าวลิตเทิล เบย์ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของนครซิดนีย์ แต่ตำรวจยังไม่สามารถระบุตัวตนของผู้เสียชีวิตได้ ขณะที่บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานวันนี้ว่า เจ้าหน้าที่ส่งเสริมความปลอดภัยทางน้ำและให้บริการช่วยเหลือการเล่นเซิร์ฟได้ขี่เจ็ตสกีออกลาดตระเวนทางน้ำเป็นระยะทาง 25 กิโลเมตรตั้งแต่หาดบอนได ทางตะวันออกของนครซิดนีย์ ไปจนถึงเมืองโครนูลลา ทางตอนใต้ของนครซิดนีย์ เพื่อค้นหาฉลามขาวตัวดังกล่าว รวมถึงการใช้ฝูงเฮลิคอปเตอร์และโดรนช่วยในการค้นหาด้วย รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีนครซิดนีย์เป็นเมืองเอก ระบุว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านฉลามคาดว่า ฉลามขาวตัวดังกล่าวมีขนาดลำตัวยาวไม่ต่ำกว่า 3 เมตร โดยอ้างอิงจากภาพถ่ายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของประชาชนในที่เกิดเหตุ ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งได้เล่าถึงการจู่โจมอันโหดร้ายและรุนแรงของฉลามขาวว่า ฉลามได้พุ่งเข้าจู่โจมชายที่กำลังว่ายน้ำอย่างจัง เขาได้ยินเสียงร้องตะโกนขอความช่วยเหลือและเห็นภาพคลื่นน้ำขนาดใหญ่ รวมถึงฉลามตัวนั้น ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่คล้ายกับว่ามีรถยนต์ตกลงไปทะเล ข้อมูลจากแฟ้มการจู่โจมโดยฉลามนานาชาติ (International Shark Attack File) ระบุว่า ออสเตรเลียมีสถิติเกิดเหตุฉลามจู่โจมมนุษย์ประมาณปีละ 20 ครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในรัฐนิวเซาท์เวลส์และรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ส่วนในปีนี้เกิดเหตุฉลามจู่โจมแล้ว 4 ครั้ง ก่อนหน้านี้ ออสเตรเลียเคยเกิดเหตุฉลามจู่โจมมนุษย์จนเสียชีวิต 2 ครั้งในปี […]

รัฐใหญ่สุดของออสเตรเลียพบผู้ติดเชื้อโอไมครอนถึง 90%

ซิดนีย์ 12 ม.ค. – รัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลียพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนสูงถึงร้อยละ 90 และมีร้อยละ 10 ที่ติดสายพันธุ์เดลตาจากยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ทั้งหมด ในขณะที่ออสเตรเลียมีตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง และมีอัตราผู้ป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่มขึ้นช้ากว่าเดิม เคอร์รี ชานต์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีนครซิดนีย์เป็นเมืองเอก เผยวันนี้ว่า รัฐนิวเซาท์เวลส์พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนสูงถึงร้อยละ 90 และมีร้อยละ 10 ที่ติดสายพันธุ์เดลตาจากยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ ขณะที่ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนทำให้แผนกผู้ป่วยหนักทั่วรัฐนิวเซาท์เวลส์มีอัตราครองเตียงสูงราวร้อยละ 67 ข้อมูลจากเว็บไซต์ติดตามสถานการณ์โควิดของทางการออสเตรเลียระบุวันนี้ว่า ออสเตรเลียพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 90,847 คน แต่ตัวเลขจริงอาจสูงกว่าที่ทางการรายงาน เนื่องจากระบบตรวจหาเชื้อโควิดของออสเตรเลียกำลังเผชิญกับภาวะตึงตัว ยอดผู้ป่วยติดเชื้อดังกล่าวเป็นตัวเลขที่พุ่งสูงขึ้นถึง 33 เท่าเมื่อเทียบกับวันที่ 14 ตุลาคมปีก่อนที่มีเพียง 2,752 คนและเป็นช่วงที่ออสเตรเลียเผชิญกับการระบาดสูงสุดของสายพันธุ์เดลตา นอกจากนี้ ออสเตรเลียยังพบผู้เสียชีวิตรายใหม่ 27 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 1.2 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 2,400 คน.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียพบผู้ป่วยโควิดโอไมครอนรายแรกในชุมชน

ซิดนีย์ 3 ธ.ค. – เจ้าหน้าที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลียระบุวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกในชุมชน แต่จะยังคงเดินหน้าใช้แผนเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งด้วยความหวังว่าเชื้อดังกล่าวอาจมีความรุนแรงน้อยกว่าเชื้อโควิดสายพันธุ์อื่นที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีนครซิดนีย์เป็นเมืองเอก เผยว่า นักเรียนคนหนึ่งในนครซิดนีย์เป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกในชุมชนโดยไม่มีประวัติการเดินทางไปต่างประเทศเมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าอาจเกิดการแพร่กระจายของเชื้อดังกล่าวในรัฐนิวเซาท์เวลส์แล้ว ขณะที่นายแบรด ฮาซซาร์ด รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของรัฐนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า การระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนเป็นเรื่องที่น่าวิตกกังวล แต่ตอนนี้ทั่วโลกยังไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัดว่าเชื้อดังกล่าวจะมีความรุนแรงเทียบเท่ากับเชื้อโควิดสายพันธุ์ก่อนหน้านี้หรือไม่ สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ขณะนี้ ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน 9 คน ในจำนวนนี้ มีผู้ป่วยติดเชื้อดังกล่าว 8 คนในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดของออสเตรเลีย แม้บางรัฐได้ยกระดับมาตรการควบคุมพรมแดนในประเทศที่เข้มงวดขึ้น แต่รัฐบาลกลางหวังว่าจะสามารถเลี่ยงการกลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์แบบสั้น ๆ ได้ ขณะนี้ ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 212,000 คน และผู้เสียชีวิตราว 2,000 คน.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียจะทบทวนเปิดพรมแดนหลังพบโควิดโอไมครอน

ซิดนีย์ 29 พ.ย. – นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลีย ระบุวันนี้ว่า ออสเตรเลียจะทบทวนแผนเปิดพรมแดนให้แรงงานต่างชาติที่มีทักษะเฉพาะและนักเรียนต่างชาติในวันที่ 1 ธ.ค. หลังจากเมื่อวันอาทิตย์พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน 2 รายแรกในนครซิดนีย์ที่เดินทางมาจากตอนใต้ของทวีปแอฟริกา นายกรัฐมนตรีมอร์ริสัน กล่าวว่า เขาคิดว่าอาจเร็วเกินไปที่ออสเตรเลียจะกลับไปใช้มาตรการกักตัวในโรงแรมเป็นเวลา 14 วันอีกครั้งในกลุ่มผู้เดินทางชาวต่างชาติ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดเกี่ยวกับอาการป่วยรุนแรง การแพร่กระจาย และประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันโรคโควิดเกี่ยวกับเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน รัฐบาลจะเฝ้าระวังเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างค่อยเป็นค่อยไป และรอให้ได้ข้อมูลที่แน่ชัดเพื่อนำมาใช้ในการตัดสินใจอย่างสมเหตุสมผล ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า คณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติของออสเตรเลียจะประชุมร่วมกันในวันนี้เพื่อประเมินเกี่ยวกับแผนเปิดพรมแดนที่จะเริ่มใช้ในวันพุธ และจะจัดประชุมร่วมกับมุขมนตรีรัฐและดินแดนของออสเตรเลียในวันอังคาร ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีนครซิดนีย์เป็นเมืองเอก ระบุว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่เดินทางมาจากตอนใต้ของทวีปแอฟริกาเพิ่มอีก 3 คนเมื่อวันอาทิตย์ และกำลังรอผลการจัดลำดับพันธุกรรมว่าผู้ป่วยทั้งสามคนติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนหรือไม่ ขณะนี้ ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 209,000 คน และผู้เสียชีวิตเกือบ 2,000 คน โดยมีประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนครบสองโดสร้อยละ 87 จากประชากรทั้งหมด 25 ล้านคน. -สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียชี้คนไม่ฉีดวัคซีนโควิดเสี่ยงตาย 16 เท่า

ซิดนีย์ 9 พ.ย. – รัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลียระบุในรายงานที่เผยแพร่เมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ว่า ผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 มีโอกาสป่วยหนักหรือเสียชีวิตมากกว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนถึง 16 เท่า ข้อมูลจากหน่วยงานสาธารณสุขของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีนครซิดนีย์เป็นเมืองเอก ระบุว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่ฉีดวัคซีนครบโดสเพียงร้อยละ 11 จากทั้งหมด 412 คนที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ตั้งแต่ในช่วงกลางดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนตุลาคม และผู้เสียชีวิตมีอายุเฉลี่ย 82 ปี นอกจากนี้ ยังมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่ฉีดวัคซีนครบโดสเพียงร้อยละ 3 ที่มีอาการป่วยหนัก และพบผู้ป่วยติดเชื้อที่ยังไม่ฉีดวัคซีนโควิดสูงกว่าร้อยละ 63 จากผู้ป่วยติดเชื้อทั้งหมด 61,800 คนตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน-7 ตุลาคม นางเคอร์รี แชนต์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ระบุในแถลงการณ์ว่า ประชาชนอายุน้อยที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิดครบโดสมีอัตราติดเชื้อโควิดในระดับต่ำและแทบไม่มีอาการป่วยรุนแรง ขณะที่ผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนในกลุ่มดังกล่าวมีความเสี่ยงสูงมากที่จะติดเชื้อโควิดและต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวสอดคล้องกับข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี ที่ระบุในเดือนกันยายนว่า ผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนโควิดมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสถึง 11 เท่า ขณะนี้ ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเกือบ 183,000 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 1,800 คน.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 6
...