อินเดียเร่งกู้ภัยหลังน้ำท่วมดินถล่ม ตาย 125 คนแล้ว

มุมไบ 24 ก.ค.- เจ้าหน้าที่กู้ภัยอินเดียฝ่าน้ำท่วมและโคลนเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากฝนตกหนักที่ทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่ม ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 125 คนแล้ว รัฐมหาราษฏระ ทางตะวันตกของอินเดียมีฝนตกในเดือนนี้หนักที่สุดในรอบ 4 ทศวรรษ ฝนที่ตกไม่ขาดสายติดต่อกันหลายวันกระทบการดำเนินชีวิตของผู้คน และทำให้แม่น้ำสายหลักหลายสายเสี่ยงล้นตลิ่ง เจ้าหน้าที่ต้องอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง และระบายน้ำจากเขื่อนที่ใกล้ล้น ทางการแจ้งว่า ช่วยประชาชนประมาณ 90,000 คน ออกจากพื้นที่ประสบอุทกภัย และเร่งค้นหาผู้สูญหายจากเหตุดินถล่มในหลายจุด รถบรรทุกจำนวนมากติดค้างอยู่กว่า 24 ชั่วโมงบนทางหลวงเชื่อมนครมุมไบ เมืองหลวงเชิงพาณิชย์ในรัฐมหาราษฏระกับเมืองเบงกาลูรู หรือบังกาลอร์ ศูนย์กลางเทคโนโลยีในรัฐกรณาฏกะเพราะถนนจมน้ำหลายช่วง นักสิ่งแวดล้อมอินเดียเตือนว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการก่อสร้างตามอำเภอใจบนพื้นที่ชายฝั่งตะวันตกของประเทศ อาจทำให้เกิดภัยพิบัติตามมาอีก สถานการณ์น้ำท่วมดินถล่มในอินเดียเกิดขึ้นไล่เลี่ยกับที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ในยุโรปตะวันตกและจีน และภาวะคลื่นความร้อนในอเมริกาเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ฝนตกหนักในอินเดีย เสียชีวิตแล้ว 18 ราย

มุมไบ 23 ก.ค. – ฝนที่ตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มในพื้นที่ลุ่มต่ำจนหลายหมู่บ้านถูกตัดขาด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 รายในรัฐมหาราษฏระทางตะวันตกของอินเดีย เจ้าหน้าที่ของรัฐมหาราษฏระเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 รายจากเหตุอาคารพังถล่มในนครมุมไบ และมีอีก 14 รายที่เสียชีวิตจากเหตุดินถล่ม 4 ครั้งในพื้นที่อื่น ๆ ของรัฐมหาราษฏระ ขณะนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังลงพื้นที่หลายแห่งในเขตสาตระ ไรกาด และรัตนากีรี แต่กำลังประสบปัญหาในการขนย้ายเครื่องมือกู้ภัย เนื่องจากฝนตกหนักและแม่น้ำที่เอ่อล้นตลิ่ง โดยคาดว่ายังมีประชาชนอีกหลายสิบคนที่ติดอยู่ในดินถล่มที่เขตสาตระและไรกาด มุขมนตรีรัฐมหาราษฏระกล่าวว่า กองทัพเรือและกองทัพบกของอินเดียได้นำกำลังทหารลงพื้นที่ช่วยกู้ภัยน้ำท่วมในเขตชายฝั่งทะเลของรัฐมหาราษฏระแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่อีกคนของรัฐมหาราษฏระเผยว่า มีรถบรรทุกหลายคันติดอยู่บนทางหลวงสายหลักที่เชื่อมต่อนครมุมไบกับนครเบงกาลูรู ซึ่งเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีและเมืองเอกของรัฐกรณาฏกะ โดยมีน้ำท่วมบนถนนเป็นบางจุด ขณะที่หมู่บ้านหลายร้อยแห่งและเมืองหลายสิบแห่งของรัฐมหาราษฏระต้องใช้ชีวิตท่ามกลางไฟฟ้าดับและขาดแคลนน้ำดื่ม ก่อนหน้านี้ แม่น้ำหลายสายในรัฐมหาราษฏระได้เอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือน หลังเจ้าหน้าที่ของทางการจำเป็นต้องระบายน้ำในเขื่อนที่เต็ม เนื่องจากหลายพื้นที่ทางฝั่งตะวันตกของอินเดียมีฝนตกวัดปริมาณได้มากกว่า 200 มิลลิเมตรในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และพื้นที่บางแห่งมีฝนตกวัดปริมาณได้สูงถึง 594 มิลลิเมตร. -สำนักข่าวไทย

ชาวเมืองอาตามิในญี่ปุ่นกลับเข้าบ้านหลังดินถล่ม

ชาวเมืองอาตามิของญี่ปุ่นได้รับอนุญาตให้กลับเข้าบ้านพักของตนเองเป็นเวลาสั้นๆ หลังถูกโคลนพัดถล่มเมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย สูญหายอีก 18 ราย

เร่งค้นหาผู้สูญหาย 80 คน เหตุดินโคลนถล่มในญี่ปุ่น

เจ้าหน้าที่กู้ภัยญี่ปุ่นเร่งค้นหาผู้สูญหายกว่า 80 คน จากเหตุดินโคลนถล่มในจังหวัดชิซูโอกะ มีผู้เสียชีวิต 4 ราย บ้านเรือนกว่า 130 หลัง และรถยนต์หลายสิบคันเสียหาย

ฝนตกอย่างหนักในญี่ปุ่นทำให้เกิดดินถล่ม-คนสูญหาย 22 ราย

บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงสาธารณะของญี่ปุ่น หรือ เอ็นเอชเค รายงานวันนี้ว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยฉุกเฉิน จากกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น ถูกส่งไปยังเมืองอะตามิ ในภาคกลางของประเทศ หลังจากเกิดดินถล่ม เนื่องจากฝนตกอย่างหนักและมีผู้สูญหาย 22 ราย

น้ำท่วมเนปาล ตาย 11 ราย-สูญหาย 25 คน

กาฐมาณฑุ 18 มิ.ย. – เหตุดินถล่มและน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดจากฝนตกหนักทั่วประเทศเนปาลทำให้มีผู้เสียชีวิต 11 รายในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงชาวอินเดีย 1 ราย และชาวจีน 2 รายในโครงการก่อสร้างแห่งหนึ่ง และยังมีผู้สูญหายอีก 25 คน เจ้าหน้าที่เขตสินธุปาลโชค ระบุในแถลงการณ์ว่า พบศพแรงงาน 3 รายที่เมืองเมลามจีในเขตสินธุปาลโชคทางตะวันออกเฉียงเหนือของเนปาล ซึ่งเผชิญกับน้ำท่วมฉับพลันเมื่อวันพุธ และทำให้ประชาชนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน แรงงานทั้งสามรายเป็นชาวอินเดียและจีนที่ทำงานให้บริษัทสัญชาติจีนที่กำลังเดินหน้าก่อสร้างโครงการน้ำดื่ม ขณะที่กระทรวงมหาดไทยของเนปาลระบุเมื่อวานนี้ว่า ยังมีผู้สูญหายอีก 25 คนในเหตุน้ำท่วมที่เขตสินธุปาลโชค ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีภูเขาล้อมรอบและมีพรมแดนติดกับเขตปกครองตนเองทิเบตของจีน เนปาลเผชิญกับฝนตกหนักมาตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา จนทำให้ถนนถูกตัดขาด สะพานชำรุด บ่อเลี้ยงปลาและโรงเลี้ยงปศุสัตว์ถูกน้ำท่วม และบ้านเรือนเสียหาย ชาวบ้านหลายร้อยคนต้องอพยพออกจากพื้นที่น้ำท่วมไปอยู่ในศูนย์พักพิงของชุมชน เช่น โรงเรียน โรงเก็บของ และเต็นท์ ขณะที่หน่วยงานช่วยเหลือเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้อาจซ้ำเติมปัญหาด้านสังคมและเศรษฐกิจของเนปาลที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 อยู่ก่อนแล้ว ทั้งนี้ เนปาลจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีอัตราผู้ป่วยติดเชื้อในระดับสูงของโลก โดยมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 615,000 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 8,500 คน จากประชากรทั้งหมด 28.6 ล้านคน.-สำนักข่าวไทย

น้ำท่วม-ดินถล่มศรีลังกา เสียชีวิต 17 ราย

โคลัมโบ 7 มิ.ย. – เจ้าหน้าที่ของศรีลังการะบุว่า น้ำท่วมและดินถล่มที่เกิดจากฝนตกหนักในศรีลังกา ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 17 ราย และประชาชนอีกหลายแสนคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์จัดการภัยพิบัติแห่งชาติของศรีลังการะบุในแถลงการณ์ว่า ระดับน้ำท่วมกำลังลดลง แต่ยังคงมีประกาศแจ้งเตือนภัยจากดินถล่มใน 10 อำเภอ ทั้งยังระบุว่า มีประชาชนกว่า 270,000 คนได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วมและดินถล่ม รวมถึงมีบ้านเรือนราว 100,000 หลังที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ ขณะที่หัวหน้าหน่วยงานอุตุนิยมวิทยาของศรีลังกาคาดว่า ปริมาณฝนจะลดลงนับตั้งแต่วันนี้ แต่จะมีฝนตกเป็นระยะในบางพื้นที่ ก่อนหน้านี้ ศรีลังกาเผชิญกับฝนตกหนักมาเป็นเวลาหลายวันจนทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำทางตอนใต้และตะวันตกเอ่อล้นตลิ่งในช่วงสุดสัปดาห์ และไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำจนทำให้ประชาชนหลายแสนคนต้องอพยพไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ภัยพิบัติทางธรรมชาติดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ศรีลังกาคาดว่าจะผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ที่ใช้อยู่เป็นเวลา 1 เดือน เพื่อควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระลอกที่สาม ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ทั้งนี้ การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของศรีลังกาได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง.-สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมศรีลังกา ประชาชนเดือดร้อนกว่า 500 หลังคาเรือน

เหตุเนื่องจากฝนตกหนักในหลายพื้นที่ประเทศศรีลังกา ส่งผลให้เิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม ประชาชนได้รับความเสียหายเเล้วกว่า 500 หลังคาเรือน

อินโดนีเซียเตือนเสี่ยงเกิดดินถล่มจากพายุไซโคลนลูกใหม่

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของอินโดนีเซียเตือนวันนี้ว่า พายุหมุนเขตร้อน หรือ ทรอปิคอล ไซโคลน ลูกที่ 2 ในช่วงสัปดาห์หน้า อาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มในพื้นที่ภาคกลางของประเทศ หลังจากที่พายุไซโคลน เซอโรจา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 163 ราย ในพื้นที่ตะวันออกของประเทศ

น้ำท่วมอินโดนีเซียและติมอร์เสียชีวิตเพิ่มเป็นกว่า 70 คน

จาการ์ตา 5 เม.ย. – น้ำท่วมและดินถล่มฉับพลันในอินโดนีเซียและติมอร์เลสเตทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 70 คน และยังคงมีผู้สูญหายอีกหลายสิบราย โฆษกสำนักงานจัดการภัยพิบัติของอินโดนีเซียกล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์เมโทรทีวีว่า ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 55 คน แต่ตัวเลขดังกล่าวยังไม่คงที่ และอาจมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น ทั้งยังมีผู้สูญหายอีก 42 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่ของติมอร์เลสเต ซึ่งเป็นประเทศหมู่เกาะเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ระหว่างอินโดนีเซียกับออสเตรเลียเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 คน น้ำท่วมฉับพลันที่เกิดจากฝนตกหนักทำให้หลายพื้นที่บนเกาะฟลอเรสในอินโดนีเซียและติมอร์เลสเตได้รับความเสียหาย ในขณะที่ประชาชนหลายพันคนต้องอพยพออกจากพื้นที่ไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว นอกจากนี้ อุทกภัยและดินถล่มที่เกิดตามมาทำให้น้ำไหลล้นเขื่อนเข้าท่วมบ้านเรือนหลายพันหลัง และส่งผลให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยประสบความยากลำบากในการค้นหาผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ภายในบ้าน ทั้งนี้ น้ำท่วมและดินถล่มฉับพลันถือเป็นภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นประจำในช่วงฤดูฝนของอินโดนีเซีย. -สำนักข่าวไทย

ฝนตกหนักคร่าชีวิตคนในอินโดนีเซียและติมอร์

จาการ์ตา 4 เม.ย.- น้ำท่วมและดินถล่มฉับพลันที่เกิดจากฝนตกหนัก ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 23 คน บนเกาะฟลอเรสในอินโดนีเซีย และ 8 คนในติมอร์เลสเต โฆษกสำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของอินโดนีเซียหรือบีเอ็นพีบี (BNPB) แถลงว่า มีอย่างน้อย 49 ครอบครัวบนเกาะฟลอเรส ทางตะวันออกของประเทศไดรับความเดือดร้อน บ้านหลายสิบหลังถูกดินถล่มทับ และอีกหลายสิบหลังถูกกระแสน้ำพัดพัง ส่วนที่เกาะอะโดนารา ถัดออกไปทางตะวันออก สะพานแห่งหนึ่งพังในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังต่อสู้กับฝนตกหนัก ลมแรงและคลื่นสูง ด้านสำนักข่าวทางการติมอร์เลสเตรายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 8 คนเพราะดินถล่มชานกรุงดิลี สำนักงานป้องกันภัยพลเรือนแจ้งว่า กำลังเร่งช่วยเหลือผู้สูงอายุ เด็ก และสตรีมีครรภ์ไปยังที่ปลอดภัย กระแสไฟฟ้าถูกตัด ทำเนียบประธานาธิบดีมีน้ำท่วมลมแรง เพราะกรุงดิลีถูกฝนถล่มตั้งแต่วันเสาร์ สื่อสังคมออนไลน์โพสต์ภาพอาคารพัง ยวดยานจมน้ำ สำนักอุตุนิยมวิทยาอินโดนีเซียเตือนว่า ไซโคลนเขตร้อนกำลังเคลื่อนตัวใกล้ทะเลซาวูที่กั้นระหว่างจังหวัดนูซาเติงการา ตะวันออก ทางใต้สุดของอินโดนีเซียกับทางเหนือของติมอร์เลสเต อาจทำให้ฝนตกหนัก คลื่นสูง และลมแรงต่อไปอีก.-สำนักข่าวไทย

1 15 16 17 18 19 39
...