คลื่นความร้อน

นิวเดลี 28 เม.ย. – อินเดียกำลังเผชิญกับคลื่นความร้อนรุนแรงที่ทำให้ชาวอินเดียหลายล้านคนต้องใช้ชีวิตท่ามกลางสภาพอากาศร้อนจัดที่มีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย กล่าวกับบรรดามุขมนตรีรัฐต่าง ๆ ของอินเดียเมื่อวันพุธว่า หลายพื้นที่ของอินเดียกำลังมีอุณหภูมิพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและสูงขึ้นกว่าปกติ ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของอินเดียคาดการณ์ว่า สภาพอากาศในอินเดียจะร้อนขึ้น 2-4 องศาเซลเซียสในพื้นที่ส่วนใหญ่ของภาคตะวันตกเฉียงเหนือและภาคกลางของอินเดียในสัปดาห์นี้ แม้อินเดียจะเผชิญกับคลื่นความร้อนอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน แต่ในปีนี้อินเดียก็เริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนเร็วกว่าปกติหลังมีอุณหภูมิสูงขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งทำสถิติกลายเป็นเดือนมีนาคมที่มีอุณหภูมิสูงสุดในรอบ 122 ปีของอินเดีย นอกจากนี้ อินเดียยังเผชิญกับคลื่นความร้อนเร็วขึ้นในเดือนเดียวกัน ศูนย์วิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม (CSE) ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยอิสระในกรุงนิวเดลีของอินเดีย ระบุว่า มี 15 รัฐของอินเดียที่เผชิญกับคลื่นความร้อนเร็วขึ้นในปีนี้ รวมถึงรัฐหิมาจัลประเทศ ทางตอนเหนือของอินเดียที่มีอากาศหนาวเย็น ทั้งยังคาดการณ์ว่า กรุงนิวเดลีจะมีอุณหภูมิทะลุ 44 องศาเซลเซียสในสัปดาห์นี้.-สำนักข่าวไทย

ประชาชน แห่หลบคลายร้อนที่ชายหาดทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย หลังอุณหภูมิพุ่งสูง 33-35 องศาฯ ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาสหรัฐ เตือนบางพื้นที่อุณหภูมิอาจสูงถึง 49 องศาฯ

เจนีวา 9 ส.ค. – องค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ระบุในรายงานด้านวิทยาศาสตร์ภูมิอากาศว่า คลื่นความร้อนรุนแรงที่เคยเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวทุกๆ 50 ปี อาจเกิดเร็วขึ้นเป็นทุก 10 ปี เนื่องจากภาวะโลกร้อน ในขณะที่ฝนตกหนักและภัยแล้งก็จะเกิดบ่อยขึ้นกว่าเดิม คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือไอพีซีซี ของยูเอ็น ได้ประเมินความเป็นไปได้ของเหตุการณ์รุนแรงต่าง ๆ ในสถานการณ์ที่หลากหลาย โดยที่รายงานดังกล่าวพบว่า คลื่นความร้อนมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นบ่อยกว่าเหตุการณ์รุนแรงอื่น ๆ โดยที่จากเดิมจะเกิดขึ้นเพียงครั้งหนึ่งทุก 50 ปี อาจเกิดขึ้นบ่อยขึ้นเป็นทุก 6 ปีจากอุณหภูมิโลกที่เพิ่มขึ้น 1.5 องศาเซลเซียส และคาดว่าอาจเพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิมภายในเวลา 200 ปี ทั้งนี้ ถ้าอุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นเป็น 4 องศาเซลเซียสจากการปล่อยมลพิษสูง ก็จะทำให้เกิดคลื่นความร้อนรุนแรงบ่อยขึ้นเป็นทุก 1-2 ปี รายงานดังกล่าวยังระบุเพิ่มเติมว่า เหตุฝนตกหนักที่เกิดขึ้นครั้งเดียวทุก 10 ปีมีแนวโน้มที่จะเกิดเร็วขึ้น 1.3 เท่าในปัจจุบัน และตกหนักขึ้นกว่าเดิมถึงร้อยละ 6.7 เมื่อเทียบกับช่วง 50 ปีก่อนถึงปี 2443 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดภาวะโลกร้อนจากฝีมือของมนุษย์ […]

เอเธนส์ 7 ส.ค.- ไฟป่าในกรีซโหมไหม้มา 5 วันติดต่อกันแล้ว คนในชุมชนทางเหนือของกรุงเอเธนส์ และคนบนเกาะทางตะวันออกของกรุงเอเธนส์ต้องอพยพหนีไฟป่า เจ้าหน้าที่เผยว่า ไฟป่าบนภูเขาปาร์นิธา ทางเหนือของกรุงเอเธนส์ทำให้ประชาชนจำนวนมากต้องอพยพตั้งแต่วันพฤหัสบดี นักผจญเพลิงกว่า 700 คน พยายามควบคุมไฟป่าไม่ให้ลุกลามท่ามกลางลมแรงและอากาศร้อนจัด โดยมีกองทัพและเครื่องบินทิ้งน้ำ รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากไซปรัส ฝรั่งเศส และอิสราเอลเข้ามาเสริมการควบคุมไฟ และเมื่อคืนที่ผ่านมากระแสลมแรงทำให้ไฟลามไปยังเมืองธราโกมาเกโดเนส เผาบ้านเรือนประชาชน ทางการสั่งอพยพและยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต เช่นเดียวกับประชาชนบนเกาะอีเวีย เกาะใหญ่อันดับสองของกรีซ ที่ต้องนั่งเรืออพยพออกจากเกาะตั้งแต่วันศุกร์ ส่วนใหญ่เป็นคนสูงอายุ เนื่องจากไฟป่าได้ไหม้ลามจากปลายด้านหนึ่งของเกาะไปยังอีกด้านหนึ่ง กรีซเกิดไฟป่าหลายจุดขณะที่เกิดคลื่นความร้อนร้ายแรงที่สุดในรอบกว่า 30 ปี อุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียสมาตลอดทั้งสัปดาห์นี้ ไฟเผาผลาญทั้งพื้นที่ป่า บ้านเรือน ร้านค้า และคร่าชีวิตสัตว์จำนวนมาก เจ้าหน้าที่พยายามควบคุมไฟกว่า 400 จุดในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ส่วนใหญ่อยู่ทางตอนเหนือของกรุงเอเธนส์ เกาะอีเวีย และคาบสมุทรเปโลปอนนีส ขณะที่ตุรกี ซึ่งอยู่ใกล้กันก็เกิดไฟป่าร้ายแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ประชาชนจำนวนมากต้องอพยพหนีไฟป่าทางชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้.-สำนักข่าวไทย

สำนักอุตุนิยมวิทยาแคนาดารายงานว่าปรากฏการณ์ฟ้าผ่าในแคว้นบริติชโคลัมเบีย และอัลเบอร์ตา เพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะคลื่นความร้อนเข้าปกคลุมแคนาดา

รัฐบริติชโคลัมเบีย ทางตะวันตกของแคนาดา สั่งปิดโรงเรียนและมหาวิทยาลัย เนื่องจากเผชิญกับคลื่นความร้อนรุนแรงที่ทำให้อุณหภูมิพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งที่เป็นประเทศที่มีฤดูหนาวยาวนานและหิมะตกหนัก

คลื่นความร้อนแผ่ปกคลุมภาคตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐทำให้หลายเมืองมีอุณหภูมิสูงกว่าสถิติเดิม เป็นอันตรายต่อผู้คน พืช และสัตว์ในภูมิภาคนี้ปกติแล้วเคยชินกับสภาพอากาศปานกลาง

ซิดนีย์ 1 ธ.ค. – พื้นที่ทางใต้และตะวันออกของออสเตรเลียต้องเผชิญกับคลื่นความร้อนรุนแรงในวันนี้ ซึ่งถือเป็นวันแรกของการเข้าสู่ฤดูร้อน สำนักอุตุนิยมวิทยาของออสเตรเลียคาดการณ์ว่า อุณหภูมิสูงสุดในออสเตรเลียจะทำลายสถิติอีกครั้งในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เนื่องจากต้องเผชิญกับคลื่นความร้อนรุนแรงที่กำลังปกคลุมพื้นที่ย่านชนบทในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยากล่าวว่า แม้ออสเตรเลียต้องเผชิญกับคลื่นความร้อนรุนแรงที่ถือเป็นเรื่องปกติในช่วงเวลานี้ แต่สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่าก็คือ อุณหภูมิที่สูงขึ้นถึง 18 องศาเซลเซียสจากค่าเฉลี่ย นอกจากนี้ คลื่นความร้อนที่กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนืออย่างช้า ๆ ยังทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าอีกด้วย ทางการออสเตรเลียรายงานว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 30 คนกำลังพยายามควบคุมไฟป่าขนาดใหญ่บนเกาะเฟรเซอร์ที่ตั้งอยู่นอกชายฝั่งรัฐควีนส์แลนด์ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และไฟป่าดังกล่าวได้เผาผลาญพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งบนเกาะแล้ว. -สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียเผชิญอากาศร้อนจัดจากคลื่นความร้อนเข้าปกคลุม คาดอุณหภูมิจะสูงกว่า 40 องศาฯ ต่อไปอีกอย่างน้อย 5-6 วัน

คลื่นความร้อนปกคลุมออสเตรเลีย ทำให้เกิดไฟป่าหลายสิบแห่งในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ขณะที่สวนสาธารณะโอลิมปิกในนครซิดนีย์ อุณหภูมิพุ่งสูง 41.6 องศาฯ ทำลายสถิติสูงสุด 40.8 องศาฯ เมื่อปี 58

แคลิฟอร์เนีย 22 ส.ค.- รัฐแคลิฟอร์เนียขอความช่วยเหลือจากภายนอกเพื่อควบคุมไฟป่าที่ลามไปทั่วรัฐและไม่มีวี่แววจะบรรเทาลง ต้นเหตุมาจากฟ้าผ่าที่เกิดขึ้นเกือบ 12,000 ครั้งในช่วงสามวันที่ผ่านมาและได้รับแรงหนุนจากคลื่นความร้อน นายแกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียแถลงข่าวเมื่อวานนี้ว่า วันก่อนเขาเพิ่งประกาศว่ากำลังหาทางควบคุมไฟป่า 376 จุด แต่ตอนนี้จำนวนไฟป่าได้เพิ่มเป็น 560 จุดแล้ว มีพื้นที่ถูกไฟเผาไปแล้วกว่า 1,900 ไร่ เทียบเท่าพื้นที่รัฐโรดไอแลนด์ ซึ่งเป็นรัฐเล็กที่สุดของประเทศ เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว ไฟป่าใหญ่สองจุดที่กำลังลุกไหม้ในเขตแคลิฟอร์เนียเหนือติดอันดับสิบไฟป่ารุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐ และควบคุมได้ไม่ถึงร้อยละ 10 มีผู้เสียชีวิตจากไฟป่าแล้ว 5 คน ขณะที่รอยเตอร์รายงานว่า มีนักดับเพลิงบาดเจ็บขณะปฏิบัติหน้าที่ 43 คน บ้านเรือนสิ่งก่อสร้างเสียหายกว่า 500 หลัง นายนิวซัมเผยว่า นักดับเพลิงกว่า 12,000 คนทำงานหนักเพื่อควบคุมไฟป่าเหล่านี้ ทางการกำลังประสานเรื่องความช่วยเหลือร่วมกันกับรัฐต่าง ๆ ร่วม 10 รัฐ และมีผู้ว่าการรัฐจากทั่วประเทศโทรศัพท์มาเสนอให้ความช่วยเหลือ ส่วนที่มีข่าวว่าสำนักงานป่าไม้และป้องกันไฟป่าของรัฐแคลิฟอร์เนียหรือแคลไฟร์ ขอนักดับเพลิงจากรัฐอื่นไป 375 คน แต่มาเพียง 45 คนนั้น ผู้ว่าการรัฐชี้แจงว่า เป็นเพราะรัฐอื่นทางตะวันตกของประเทศก็ผจญไฟป่าเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย