เดลี 23 พ.ค.- รายงานฉบับใหม่เตือนว่า ชาวอินเดียเกือบ 323 ล้านคนทั่วประเทศ ตกอยู่ในภาวะเสี่ยงสูงจากคลื่นความร้อนรุนแรงและขาดแคลนอุปกรณ์คลายร้อนอย่างพัดลมและตู้เย็น
กลุ่มซัสเทนเนเบิลเอเนอร์จีฟอร์ออล (SE4ALL) ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติออกรายงานเมื่อไม่กี่วันก่อนว่า แม้ชาวอินเดียมีไฟฟ้าใช้เกือบทุกครัวเรือนแล้ว แต่มีประชากรเพียงส่วนเดียวจากทั้งหมด 1,400 ล้านคนที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าคลายความร้อน ขณะเดียวกันความต้องการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าคลายความร้อนที่จะเพิ่มขึ้นในอีกหลายปีข้างหน้าจะเพิ่มแรงกดดันให้แก่ระบบจ่ายไฟฟ้าของอินเดียที่ตึงตัวอยู่แล้ว และจะทำให้มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้โลกร้อนยิ่งขึ้นไปอีก เสี่ยงทำให้เกิดคลื่นความร้อนรุนแรงและยาวนานยิ่งกว่าเดิม
รายงานเรียกร้องให้ทางการอินเดียเร่งดำเนินการตาม “แผนปฏิบัติการทำความเย็นอินเดีย” ที่เปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2562 แผนนี้ตั้งเป้าลดความต้องการทำความเย็นลงให้ได้ 1 ใน 4 ภายในปี 2581 ด้วยมาตรการต่าง ๆ เช่น พัฒนาเทคโนโลยีทำความเย็นแบบใหม่ ออกแบบอาคารให้อากาศไหลเวียนตามธรรมชาติ เพราะขณะนี้อินเดียกำลังเผชิญวิกฤตไฟฟ้าครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 6 ปี เนื่องจากคลื่นความร้อนทำให้มีความต้องการใช้เครื่องปรับอากาศสูงมาก จนเกิดไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง
อุณหภูมิในเขตนิวเดลีช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนี้สูงทะลุ 49 องศาเซลเซียส หลังจากอินเดียทั้งประเทศร้อนผิดปกติในเดือนเมษายน และมีเดือนมีนาคมที่ร้อนทำสถิติสูงสุดในรอบ 122 ปี สำนักอุตุนิยมวิทยาอินเดียพยากรณ์ว่า อุณหภูมิในเขตนิวเดลีที่ลดลงในเช้าวันนี้เพราะเกิดฝนตกหนักและพายุฝนฟ้าคะนอง จะกลับไปแตะ 40 องศาอีกครั้งในสัปดาห์นี้ จากนั้นจะเย็นลงเมื่อเข้าสู่ฤดูมรสุมในเดือนมิถุนายน ข้อมูลของรัฐบาลเผยว่า มีคนเสียชีวิตเพราะโรคลมแดดแล้วอย่างน้อย 25 คนตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม สูงที่สุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย