เปิดแผนสังหารผู้นำอัลกออิดะห์

วอชิงตัน 2 ส.ค.- เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐเปิดเผยแผนการสังหารนายไอยมาน อัล-ซาวาฮิรี ผู้นำอัลกออิดะห์ ตั้งแต่พบตัวจนกระทั่งปลิดชีพเขาด้วยขีปนาวุธ 2 ลูก ในอัฟกานิสถาน ตามที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ แถลงเมื่อวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐ นักวิเคราะห์ชี้ว่า การที่นายซัลวาฮิรีหลบซ่อนตัวในอัฟกานิสถานไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะกลุ่มอัลกออิดะห์เข้ามาหลังจากกลุ่มตอลีบานยึดอัฟกานิสถานได้ในเดือนสิงหาคม 2564 เจ้าหน้าที่สหรัฐเผยว่า ปฏิบัติการสังหารนายซาวาฮิรีได้รับการวางแผนอย่างระมัดระวังเช่นเดียวกับปฏิบัติการสังหารนายอุซมะห์ บิน ลาดิน ผู้นำอัลกออิดะห์คนก่อนในปากีสถานเมื่อปี 2554 สหรัฐทราบมาหลายปีแล้วว่ามีกลุ่มเครือข่ายหนุนหลังนายซาวาฮิรีอยู่ ก่อนสืบทราบในปีนี้ว่าครอบครัวของเขาทั้งภรรยา บุตรสาวและหลาน ๆ ย้ายมาอาศัยในกรุงคาบูล จึงเฝ้าจับตาจนกระทั่งนายซาวาฮิรีปรากฏตัวและพักอยู่กับครอบครัว เจ้าหน้าที่พบว่า นายซาวาฮิรีมักออกมาที่ระเบียงบ้าน จึงได้เริ่มวางแผนการสังหารในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน จับตาความเคลื่อนไหวคนในที่พักดังกล่าวซึ่งเป็นอาคารหลายชั้น จนทราบรูปแบบการดำเนินชีวิตของพวกเขา และศึกษาโครงสร้างอาคารอย่างละเอียด เพราะเล็งเป้าหมายที่ผู้นำอัลกออิดะห์เท่านั้น ไม่ต้องการทำให้พลเรือนอื่น ๆ ได้รับผลกระทบ เจ้าหน้าที่กลาโหมและข่าวกรองสรุปแผนการสังหารแล้วนำเสนอต่อประธานาธิบดีไบเดนในวันที่ 1 กรกฎาคม ประธานาธิบดีซักถามปฏิบัติการอย่างละเอียด แล้วเรียกประชุมคนสำคัญในรัฐบาลในวันที่ 25 กรกฎาคมแม้ว่าเขายังอยู่ระหว่างรักษาตัวจากการติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และเมื่อทุกคนเห็นด้วย ประธานาธิบดีก็สั่งให้ดำเนินการ อาวุธสังหารเป็นอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนติดขีปนาวุธเฮลไฟร์ ซึ่งเป็นขีปนาวุธนำวิถีที่มีความแม่นยำสูง ยิงเมื่อเวลา 18:18 น.วันอาทิตย์ตามเวลาอัฟกานิสถาน […]

“ปูติน” จะติดจรวดความเร็วเหนือเสียงให้ทัพเรือ

เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก 31 ก.ค.- ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียเผยในวันนี้ว่า กองทัพเรือรัสเซียจะได้รับขีปนาวุธร่อนความเร็วเหนือเสียงหรือไฮเปอร์โซนิกในอีกไม่กี่เดือน ส่วนการประจำการอาวุธชนิดนี้จะขึ้นอยู่กับผลประโยชน์ของประเทศ ประธานาธิบดีปูตินกล่าวเนื่องในวันกองทัพเรือที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งเป็นเมืองหลวงในช่วงจักรวรรดิโซเวียต ด้วยการยกย่องพระเจ้าปีเตอร์มหาราชที่ทำให้รัสเซียเป็นมหาอำนาจทางทะเล พร้อมกับเผยว่า เขาได้ลงนามหลักนิยมใหม่ของกองทัพเรือ และจะเริ่มลำเลียงขีปนาวุธร่อนไฮเปอร์โซนิกเซอร์คอน (Zircon) ที่ไม่มีอาวุธใดในโลกเสมือนเหมือนให้แก่กองทัพในอีกไม่กี่เดือน โดยที่เรือฟริเกตชั้นแอดมิรัล กอร์ชคอฟ (Admiral Gorshkov frigate) จะได้รับเป็นหน่วยแรก เพื่อนำอาวุธที่น่าเกรงขามนี้ไปใช้ปฏิบัติภารกิจการสู้รบ และทำให้กองทัพเรือรัสเซียมีศักยภาพในการตอบโต้ด้วยความเร็วเหนือเสียงกับผู้ที่คิดล่วงล้ำอธิปไตยและเสรีภาพของรัสเซีย ขีปนาวุธร่อนไฮเปอร์โซนิกเดินทางด้วยความเร็ว 9 เท่าของความเร็วเสียง รัสเซียเคยทดสอบยิงขีปนาวุธเซอร์คอนจากเรือรบและเรือดำน้ำมาแล้วหลายครั้งในช่วงปีที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐซ้อมยิงจริงในเกาหลีใต้ครั้งแรกนับจากปี 2562

โซล 25 ก.ค.- ฝูงบินเฮลิคอปเตอร์อาพาชีหรืออาปาเช่ (Apache) ของกองทัพบกสหรัฐที่ประจำการอยู่ในเกาหลีใต้กำลังซ้อมยิงขีปนาวุธและปืนด้วยการยิงจริงเป็นครั้งแรกนับจากปี 2562 ตามนโยบายเพิ่มการซ้อมรบในช่วงที่สถานการณ์กับเกาหลีเหนือตึงเครียด กองพลทหารราบที่ 2 ของสหรัฐเผยแพร่ภาพถ่ายและคลิปการซ้อมรบของเอเอช-64อี วี6 อาพาชี (AH-64E v6 Apache) ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทวีตว่า ทหารทำการซ้อมรบทั้งวันทั้งคืนด้วยขีปนาวุธเอจีเอ็ม-114 เฮลไฟร์ (AGM-114 Hellfire) จรวดไฮดรา 70 (Hydra 70) และปืนใหญ่ขนาด 30 มิลลิเมตร เป็นการซ้อมยิงจริงอีกครั้งที่ศูนย์ยิงจริงโรดริเกซ ทางใต้ของเขตปลอดทหารที่กั้นระหว่างสองเกาหลี หลังจากระงับไปตั้งแต่ปี 2562 เนื่องจากผู้อาศัยในละแวกใกล้เคียงร้องเรียนเรื่องเสียงดังและกังวลเรื่องความปลอดภัย สหรัฐและเกาหลีใต้ประกาศว่า จะฟื้นการซ้อมรบแบบยิงจริงอีกครั้ง หลังจากลดขนาดการซ้อมรบในช่วงหลายปีมานี้ เพราะสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และความพยายามลดความตึงเครียดกับเกาหลีเหนือ ประธานาธิบดียุน ซอก-ยองของเกาหลีใต้ที่รับตำแหน่งเมื่อเดือนพฤษภาคมประกาศว่า จะทำให้การซ้อมรบกลับมาสู่ระดับปกติ และเสริมสร้างการป้องปรามเกาหลีเหนือ ด้านอดีตเจ้าหน้าที่กลาโหมระดับสูงของสหรัฐระบุว่า การขาดการซ้อมยิงจริงเป็นปัญหาใหญ่ของนักบินและทหารสหรัฐ บุคลากรเหล่านี้มีความพร้อมน้อยลงกว่าเดิมเมื่อพ้นจากการประจำการในเกาหลีใต้ นอกจากนี้ ในช่วงที่ไม่มีการซ้อมยิงจริงในเกาหลีใต้ กระทรวงกลาโหมสหรัฐต้องเสียเงินส่งทหารเฮลิคอปเตอร์อาพาชีกลับไปซ้อมที่สหรัฐทุกไตรมาส.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียยืนยันทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางทหารท่าเรือยูเครน

กระทรวงต่างประเทศรัสเซียยืนยันวันนี้ว่า ขีปนาวุธของรัสเซียได้ทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางทหารในการโจมตีท่าเรือเมืองโอเดสซาของยูเครนเมื่อวันเสาร์

ยูเครนเดินหน้าฟื้นส่งออกธัญพืชแม้ถูกขีปนาวุธถล่มท่าเรือ

เคียฟ 24 ก.ค.- ยูเครนเดินหน้าฟื้นการส่งออกธัญพืชที่ท่าเรือเมืองโอเดสซาและท่าเรือริมทะเลดำแห่งอื่น ๆ หลังจากท่าเรือที่เมืองโอเดสซาถูกขีปนาวุธยิงถล่มเมื่อวันเสาร์ ด้านรัสเซียแจ้งผ่านตุรกีว่าไม่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนประณามการยิงขีปนาวุธดังกล่าวว่า เป็นความป่าเถื่อนอย่างชัดแจ้งที่แสดงให้เห็นว่า ไม่สามารถเชื่อใจรัสเซียได้ว่าจะปฏิบัติตามข้อตกลงรับประกันความปลอดภัยให้แก่การขนส่งธัญพืชที่ท่าเรือของยูเครน อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีโครงสร้างพื้นฐานของยูเครนเผยว่า การเตรียมการเพื่อฟื้นการส่งออกธัญพืชยังคงเดินหน้าต่อไป ขณะที่สถานีแพร่ภาพกระจายเสียงแห่งชาติของยูเครน (Suspilne) รายงานอ้างกองทัพยูเครนว่า พื้นที่เก็บธัญพืชที่ท่าเรือไม่ได้รับความเสียหายจากขีปนาวุธ ด้านผู้ว่าการแคว้นโอเดสซาแจ้งว่า มีผู้บาดเจ็บและโครงสร้างพื้นฐานของท่าเรือเสียหาย กองทัพยูเครนเผยแพร่คลิปนักดับเพลิงพยายามดับไฟบนเรือลำหนึ่งที่จอดข้างเรือลากจูงที่ท่าเรือในเมืองโอเดสซา โดยระบุว่าขีปนาวุธคาลิเบอร์ (Kalibr) 2 ลูกของรัสเซียยิงถูกสถานีบริการน้ำมันที่ท่าเรือแห่งนี้ และอีก 2 ลูกถูกกองกำลังป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนยิงสกัดไว้ได้ ด้านกระทรวงกลาโหมตุรกีเผยว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รัสเซียไม่เกี่ยวข้องกับการยิงขีปนาวุธดังกล่าว ตุรกีและสหประชาชาติเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยให้รัสเซียและยูเครนลงนามข้อตกลงรับประกันความปลอดภัยให้แก่การขนส่งธัญพืชที่ท่าเรือของยูเครนเมื่อวันศุกร์ หวังช่วยควบคุมราคาอาหารโลกที่พุ่งขึ้นพราะสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ย่างเข้าสู่เดือนที่ 6 แล้วในวันนี้ และไม่มีท่าทีว่าจะบรรเทาลง เจ้าหน้าที่ยูเครนคาดว่า ข้อตกลงนี้จะช่วยให้การส่งออกธัญพืชที่ท่าเรือ 3 แห่งของยูเครนกลับไปสู่ระดับก่อนเกิดสงครามที่เดือนละ 5 ล้านตัน.-สำนักข่าวไทย

เกาหลีใต้ทดสอบบินเครื่องบินขับไล่พัฒนาเอง

เกาหลีใต้แจ้งว่า เครื่องบินขับไล่ที่เกาหลีใต้พัฒนาเองในประเทศผ่านการทดสอบบินเที่ยวแรกในวันนี้ เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายทดแทนเครื่องบินทหารเก่าแก่ในช่วงที่เกาหลีใต้เผชิญภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์และขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือ

ยูเครนเผยเหตุรัสเซียถล่มอพาร์ตเมนต์ ตายเพิ่มเป็น 15 คน

เคียฟ 11 ก.ค.- ยูเครนแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 15 คนแล้ว หลังจากรัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มอาคารพักอาศัยในแคว้นโดเนตสก์ ทางตะวันออกของยูเครนเมื่อเย็นวันเสาร์ และอาจมีคนติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังอีกเป็นจำนวนมาก สำนักงานเหตุฉุกเฉินของยูเครนแจ้งว่า นับจนถึงเวลา 13:00 น. วันอาทิตย์ ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 17:00 น. วันอาทิตย์ ตามเวลาในไทย เจ้าหน้าที่ช่วยผู้พักอาศัยในอาคารได้ 5 คน และสามารถติดต่อกับผู้ที่ยังติดอยู่ใต้ซากได้ 3 คน คาดว่ายังมีผู้ติดอยู่ใต้ซากที่ยังติดต่อไม่ได้ราว 24 คน มีเด็กรวมอยู่ด้วย 1 คน นายปาฟโล คีรีเลนโก ผู้ว่าการแคว้นโดเนตสก์เผยกับสถานีโทรทัศน์ยูเครนว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธ 2-3 ลูกถล่มอาคารดังกล่าวในเมืองชาซีฟ ยาร์ เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ยืนยันถึงการก่ออาชญากรรมของรัสเซียว่าโจมตีพื้นที่พักอาศัย ด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงในวันที่เกิดเหตุว่า กำลังพลได้ทำลายโรงเก็บเครื่องยิงจรวดวิถีโค้งเอ็ม 777 ที่จัดส่งมาโดยสหรัฐ อาวุธพิสัยไกล และกลุ่มติดอาวุธชาวยูเครนใกล้เมืองชาซีฟ ยาร์ ขณะที่ยูเครนเผยว่า รัสเซียได้ทำลายสถานีรถไฟในเมืองนี้ เป็นเหตุให้มีคนบาดเจ็บหลายคน.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียยิงจรวดถล่มอพาร์ตเมนต์ในโดเนตสก์ของยูเครน

ยูเครนแจ้งว่า อาคารพักอาศัย 5 ชั้นหลังหนึ่งในแคว้นโดเนตสก์ ทางตะวันออกของประเทศ ถูกรัสเซียยิงขีปนาวุธจนพังถล่มทั้งหลัง มีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 คน และคาดว่าติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังอีกไม่ต่ำกว่า 30 คน

เกิดระเบิดหลายครั้งในเมืองไมโคลายิฟของยูเครน

นายกเทศมนตรีเมืองไมโคลายิฟ ของยูเครนกล่าววันนี้ว่า เกิดเหตุระเบิดรุนแรงหลายครั้งในเมืองไมโคลายิฟ ช่วงเช้าวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากวานนี้เจ้าหน้าที่กล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 21 ราย จากการที่รัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มอพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่งใกล้กับเมืองท่าโอเดซา ในทะเลดำ

รัสเซียถล่มตึกที่พักในยูเครน ตาย 18 คน

เคียฟ 1 ก.ค.- รัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มอาคารที่พักในเมืองโอเดสซา เมืองท่าทางตะวันตกเฉียงใต้ของยูเครนในเช้าวันนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 18 คน หนึ่งวันหลังจากรัสเซียถอนกำลังออกจากเกาะยุทธศาสตร์ในทะเลดำ นายคิริลล์ ทีโมเชนโก รองหัวหน้าทำเนียบประธานาธิบดียูเครนแจ้งว่า ผู้เสียชีวิตมีเด็กรวมอยู่ด้วย 2 คน ขณะที่โฆษกรัฐบาลท้องถิ่นแจ้งว่า มีคนบาดเจ็บ 30 คน สื่อยูเครนรายงาน เป้าหมายของรัสเซียครั้งนี้เป็นอาคารที่พักอาศัยหลายชั้นและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ การโจมตีมีขึ้นหลังจากกองกำลังรัสเซียถอนกำลังออกจากเกาะสเนคหรือเกาะงูของยูเครนในทะเลดำเมื่อวันพฤหัสบดี เรือรบรัสเซีย 2 ลำยึดครองเกาะนี้ได้ตั้งแต่เปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ และถูกยูเครนยิงถล่มอย่างหนักนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา รัสเซียอ้างว่า ถอนกำลังเพื่อยื่นไมตรี ขณะที่กองทัพยูเครนอ้างว่า สามารถบีบให้กำลังพลรัสเซียต้องหนีไปด้วยเรือเร็ว 2 ลำ เพราะถูกยูเครนยิงถล่มอย่างหนักทั้งปืนใหญ่และขีปนาวุธ เกาะสเนคตั้งอยู่ในเส้นทางเดินเรือพลุกพล่าน รัสเซียหวังจะใช้เกาะนี้เป็นฐานในการโจมตีเมืองโอเดสซา ซึ่งเป็นท่าสำคัญที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ของยูเครน เพื่อล้อมกรอบที่มั่นสุดท้ายของกองกำลังยูเครนที่ปักหลักต่อต้านรัสเซียในแคว้นลูฮันสก์.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำยูเครนขอให้ขับรัสเซียออกจากยูเอ็น

นิวยอร์ก 29 มิ.ย.- ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนเรียกร้องให้ขับรัสเซียออกจากสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) และกล่าวหารัสเซียว่าเป็นรัฐก่อการร้าย ประธานาธิบดีเซเลนสกี กล่าวสุนทรพจน์ทางออนไลน์ต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นหรือยูเอ็นเอสซี (UNSC) เมื่อวันอังคารตามเวลาสหรัฐ เรียกร้องให้ขับรัสเซียออกจากยูเอ็นและกล่าวหารัสเซียว่าเป็นรัฐก่อการร้าย โดยระบุว่า ทั้งที่รัสเซียละเมิดหลักการพื้นฐานของยูเอ็นและระเบียบกฎหมายสากล แต่ก็ยังไม่ถูกลงโทษในระดับโลก เขาขอให้ยูเอ็นส่งคณะผู้แทนไปยังห้างสรรพสินค้าในเมืองเครเมนชุก ทางตอนกลางของยูเครนที่ถูกรัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีเมื่อวันจันทร์ และขอให้ตั้งอนุญาโตตุลาการสากลพิเศษขึ้นสอบสวนการกระทำของทหารรัสเซียในยูเครน ผู้นำยูเครนจบสุนทรพจน์ด้วยการขอให้ที่ประชุมยูเอ็นเอสซีสงบนิ่ง เพื่อรำลึกถึงชาวยูเครนทุกคนที่ถูกสังหารในสงครามนี้ ยูเอ็นเอสซีจัดการประชุมฉุกเฉินตามคำขอของยูเครน และเป็นวันที่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนเป็นวันที่ 125 แล้ว ผู้แทนถาวรประจำยูเอ็นของแอลเบเนีย ซึ่งเป็นประธานปัจจุบันของยูเอ็นเอสซีออกแถลงการณ์ร่วมในนามของแอลเบเนีย อังกฤษ ฝรั่งเศส ไอร์แลนด์ นอร์เวย์ สหรัฐ และยูเครนว่า ขอประณามด้วยถ้อยคำรุนแรงที่สุดต่อการสังหารพลเรือนด้วยการยิงขีปนาวุธ โดยเฉพาะการยิงขีปนาวุธโจมตีห้างสรรพสินค้าในเมืองเครเมนชุกของยูเครน เป็นการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานทางพลเรือนและประชาชนที่เป็นพลเรือนอย่างโจ่งแจ้ง.-สำนักข่าวไทย

ยูเครนเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตในห้างที่รัสเซียยิงถล่ม

เครเมนชุก 28 มิ.ย.- นักดับเพลิงและทหารยูเครนเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ใต้ซากห้างสรรพสินค้าที่ถูกรัสเซียยิงถล่ม มีผู้เสียชีวิตแล้ว 16 คน บาดเจ็บ 59 คน ด้านสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) และตะวันตกประณามการกระทำดังกล่าวของรัสเซีย ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนกล่าวในคลิปที่บันทึกช่วงค่ำวันจันทร์ว่า มีคนมากกว่า 1,000 คนอยู่ในห้างสรรพสินค้าในเมืองเครเมนชุก ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมทางตอนกลางของประเทศ ในช่วงที่ถูกรัสเซียยิงขีปนาวุธ 2 ลูก ไม่ใช่การยิงโดยไม่เจตนา แต่เป็นการโจมตีที่มีการคำนวณแล้ว คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก ด้านสำนักงานอัยการใหญ่ยูเครนเผยว่า มีการแจ้งคนหายมากกว่า 40 คน ครอบครัวผู้สูญหายพากันรอหน้าโรงแรมตรงข้ามกับจุดที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยตั้งฐานปฏิบัติการ รัสเซียยังไม่แสดงความเห็นใด ๆ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่นายดมิทรี โปลยันสกี รองเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเอ็นกล่าวหายูเครนว่า ใช้เหตุการณ์นี้เรียกร้องความเห็นใจก่อนที่จะมีการประชุมสุดยอดองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโตวันที่ 28-30 มิถุนายน คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นหรือยูเอ็นเอสซีจะหารือเรื่องนี้ในวันอังคารตามที่ยูเครนร้องขอ โฆษกยูเอ็นกล่าวถึงการยิงถล่มห้างสรรพสินค้าว่าเป็นเรื่องน่าตำหนิ ขณะที่ผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศหรือจี 7 (G7) ออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า เป็นการกระทำที่น่ารังเกียจ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียและคนที่เกี่ยวข้องจะต้องรับผิดชอบ.-สำนักข่าวไทย

1 19 20 21 22 23 46
...