เลือกตั้งฟิลิปปินส์

ตำรวจฟิลิปปินส์ระบุว่า กลุ่มมือปืนได้ก่อเหตุกราดยิงใส่คูหาเลือกตั้งแห่งหนึ่งในพื้นที่ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ในวันนี้ ทำให้มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บ 1 คน

มะนิลา 5 พ.ค. – นายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ บุตรชายของอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส และตัวเก็งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์คนใหม่ เล็งฟื้นฟูโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ในจังหวัดบาตาอัน บนเกาะลูซอน ทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์ หากเขาชนะการเลือกตั้งในสัปดาห์หน้า นายมาร์กอส จูเนียร์ วัย 64 ปี ให้คำมั่นว่าจะเร่งดำเนินการฟื้นฟูโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ดังกล่าว หากเขาชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ และเป็นการแก้ไขความล้มเหลวของผู้เป็นบิดา เนื่องจากโรงงานแห่งนี้สร้างเสร็จในสมัยที่อดีตประธานาธิบดีมาร์กอสเป็นผู้นำฟิลิปปินส์ แต่โรงงานถูกทิ้งไว้โดยไม่เปิดใช้งาน เพราะอดีตประธานาธิบดีมาร์กอสที่บริหารประเทศแบบเผด็จการถูกประชาชนโค่นล้มอำนาจในปี 2529 นายมาร์กอส จูเนียร์ ซึ่งชื่นชอบเทคโนโลยีพลังงานลม แสงอาทิตย์ และความร้อนใต้พิภพ เผยในเดือนมีนาคมว่า ฟิลิปปินส์จำเป็นต้องใช้โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์อย่างน้อย 1 แห่ง เพื่อแก้ปัญหาค่าไฟแพงในประเทศ ทั้งยังระบุว่า ฟิลิปปินส์ควรทบทวนข้อเสนอของเกาหลีใต้ในการฟื้นฟูโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์บาตาอันอีกครั้ง ก่อนหน้านี้ นายอัลฟองโซ คูซี รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของฟิลิปปินส์ กล่าวในที่ประชุมสมาชิกวุฒิสภาเมื่อปี 2563 ว่า ผลการศึกษาของผู้เชี่ยวชาญจากเกาหลีใต้และรัสเซียชี้ว่า มีความเป็นไปได้ในการฟื้นฟูโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้ที่ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 620 เมกะวัตต์ ให้กลับมาใช้งานได้ แต่อาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 4 ปีและใช้งบประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ […]

ฟิลิปปินส์เตรียมจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ในวันที่ 9 พฤษภาคมนี้ เพื่อชี้ชะตาว่าใครจะได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของฟิลิปปินส์ในอีก 6 ปีข้างหน้า

มะนิลา 8 ก.พ. – ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ซึ่งมีกำหนดจัดเลือกตั้งในวันที่ 9 พฤษภาคม เริ่มเดินหน้าหาเสียงแล้วในวันนี้ ขณะที่ผลสำรวจความเห็นชี้ว่า นายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ บุตรชายอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ผู้นำเผด็จการของฟิลิปปินส์ จะคว้าชัยชนะจากการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย ผลสำรวจความเห็นของฟิลิปปินส์ระบุว่า นายมาร์กอส จูเนียร์ วัย 64 ปี จะคว้าชัยชนะจากการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย หลังจากที่บิดาของเขาถูกประชาชนลุกฮือขึ้นต่อต้านและขับไล่ออกนอกประเทศเมื่อ 35 ปีก่อน ทั้งนี้ นายมาร์กอส จูเนียร์ ได้รับคะแนนนิยมอย่างมากจากการหาเสียงผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย รวมถึงการเป็นพันธมิตรกับนางซารา ดูเตอร์เต-คาร์ปิโอ ผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีและบุตรสาวของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์ โดยที่เขาให้คำมั่นว่าจะสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในประเทศ ขณะที่นางเลนี โรเบรโด รองประธานาธิบดีฟิลิปปินส์คนปัจจุบัน อดีตทนายความเพื่อผู้ด้อยโอกาส คู่แข่งและคู่ปรับของนายมาร์กอส จูเนียร์ และประธานาธิบดีดูเตอร์เต ได้คะแนนนิยมทิ้งห่างในอันดับสอง ตามมาด้วยนายฟรานซิสโก โดมาโกโซ นายกเทศมนตรีกรุงมะนิลาคนปัจจุบันที่มีชื่อเสียง และนายแมนนี ปาเกียว ยอดนักมวยอดีตแชมป์โลกชาวฟิลิปปินส์ชื่อดัง ก่อนหน้านี้ นายมาร์กอส จูเนียร์ เผยกับสถานีโทรทัศน์จีเอ็มเอของฟิลิปปินส์เมื่อวันเสาร์ว่า […]

โฆษกส่วนตัวประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตของฟิลิปปินส์เผยว่า ผู้นำฟิลิปปินส์จะลงสมัครรับเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปีหน้า แต่จะไม่แข่งกับบุตรสาวที่ลงสมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี

มะนิลา 30 ส.ค.- คนสนิทของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตของฟิลิปปินส์ ไม่รับการสนับสนุนของพรรครัฐบาลที่จะเสนอชื่อเขาชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งปีหน้า นักวิเคราะห์มองว่า อาจเปิดโอกาสให้บุตรสาวของดูเตอร์เตลงสมัครแทน สว.คริสโตเฟอร์ “บอง” โก วัย 47 ปี ส่งหนังสือถึงพรรคพีดีพี-ลาบันที่มีประธานาธิบดีดูเตอร์เตเป็นประธานพรรคว่า ขอปฏิเสธการสนับสนุนด้วยความเคารพ เขาต้องการทุ่มเทให้กับการรับมือกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 มากกว่า ขอให้พันธมิตรสนับสนุนผู้สมัครคนอื่นที่จะสานต่อนโยบายและโครงการของประธานาธิบดีดูเตอร์เต สว.โกเคยเผยก่อนหน้านี้ว่า พร้อมลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี หากประธานาธิบดีดูเตอร์เตลงสมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีคู่กับเขา รัฐธรรมนูญของฟิลิปปินส์กำหนดให้ประธานาธิบดีดำรงตำแหน่งวาระ 6 ปีได้เพียงสมัยเดียว ประธานาธิบดีดูเตอร์เต วัย 76 ปี จะครบวาระในปี 2565 เพราะสาบานตนเป็นประธานาธิบดีคนที่ 16 เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2559 เขาประกาศว่า จะลงสมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี หากนางซารา ดูเตอร์เต-คาร์ปิโอ บุตรคนรองที่เป็นบุตรสาวคนเดียววัย 43 ปี ไม่ลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี นักวิเคราะห์มองว่า การปฏิเสธของ สว.โกอาจเปิดทางให้นางซารา เป็นไปได้ว่าดูเตอร์เตและบุตรสาวอาจปรับกลยุทธ์มาลงสมัครเลือกตั้งคู่กัน.-สำนักข่าวไทย