ออสเตรเลียจะทบทวนเปิดพรมแดนหลังพบโควิดโอไมครอน
ซิดนีย์ 29 พ.ย. – นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลีย ระบุวันนี้ว่า ออสเตรเลียจะทบทวนแผนเปิดพรมแดนให้แรงงานต่างชาติที่มีทักษะเฉพาะและนักเรียนต่างชาติในวันที่ 1 ธ.ค. หลังจากเมื่อวันอาทิตย์พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน 2 รายแรกในนครซิดนีย์ที่เดินทางมาจากตอนใต้ของทวีปแอฟริกา นายกรัฐมนตรีมอร์ริสัน กล่าวว่า เขาคิดว่าอาจเร็วเกินไปที่ออสเตรเลียจะกลับไปใช้มาตรการกักตัวในโรงแรมเป็นเวลา 14 วันอีกครั้งในกลุ่มผู้เดินทางชาวต่างชาติ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดเกี่ยวกับอาการป่วยรุนแรง การแพร่กระจาย และประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันโรคโควิดเกี่ยวกับเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน รัฐบาลจะเฝ้าระวังเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างค่อยเป็นค่อยไป และรอให้ได้ข้อมูลที่แน่ชัดเพื่อนำมาใช้ในการตัดสินใจอย่างสมเหตุสมผล ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า คณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติของออสเตรเลียจะประชุมร่วมกันในวันนี้เพื่อประเมินเกี่ยวกับแผนเปิดพรมแดนที่จะเริ่มใช้ในวันพุธ และจะจัดประชุมร่วมกับมุขมนตรีรัฐและดินแดนของออสเตรเลียในวันอังคาร ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีนครซิดนีย์เป็นเมืองเอก ระบุว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่เดินทางมาจากตอนใต้ของทวีปแอฟริกาเพิ่มอีก 3 คนเมื่อวันอาทิตย์ และกำลังรอผลการจัดลำดับพันธุกรรมว่าผู้ป่วยทั้งสามคนติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนหรือไม่ ขณะนี้ ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 209,000 คน และผู้เสียชีวิตเกือบ 2,000 คน โดยมีประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนครบสองโดสร้อยละ 87 จากประชากรทั้งหมด 25 ล้านคน. -สำนักข่าวไทย