ยูเอ็นออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงในเมียนมา

คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติกล่าวในแถลงการณ์ที่ได้รับความเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ประณามเหตุนองเลือดที่ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตหลายร้อยคนในเมียนมา แต่แถลงการณ์นี้มีจีนคอยปรับการใช้ภาษาให้อ่อนลง หลังที่ประชุมใช้เวลาในการเจรจาต่อรองกัน 2 วัน

ไฟไหม้ห้างทหารในย่างกุ้ง

ย่างกุ้ง 1 เม.ย.- เกิดเหตุไฟไหม้ห้างสรรพสินค้า 2 แห่งที่เป็นของกองทัพเมียนมาช่วงเช้าตรู่วันนี้ ขณะที่สถานการณ์ในประเทศยังอยู่ในความไม่สงบ สำนักข่าวรอยเตอร์เผยแพร่คลิปที่ได้รับมา เป็นภาพห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในนครย่างกุ้งเกิดไฟไหม้อย่างรุนแรง เปลวไฟลุกโชนแดงฉานช่วงเช้ามืดวันนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทางการห้ามออกนอกเคหะสถานยามวิกาลหรือเคอร์ฟิว ห้างดังกล่าวชื่อรูบีมาร์ต (Ruby Mart) ไฟไหม้เมื่อเวลา 02:00 น. วันนี้ตามเวลาเมียนมา ตรงกับเวลา 02:30 น.วันนี้ตามเวลาในไทย หลายคนใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกภาพเหตุการณ์ ด้านสื่อท้องถิ่นรายงานว่า มีห้างสรรพสินค้าของกองทัพ 2 แห่งเกิดไฟไหม้ในเช้าวันนี้ และมีคนถูกจับ 2 คนใกล้ห้างรูบีมาร์ต เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในขณะที่สถานการณ์ในเมียนมายังคงมีการชุมนุมรายวัน นับจากกองทัพรัฐประหารยึดอำนาจพลเรือนเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ โดยอ้างเรื่องการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยหรือเอ็นแอลดี (NLD) ของนางออง ซาน ซู จี โกงการเลือกตั้ง นางซู จี และสมาชิกแกนนำพรรคหลายคนยังคงถูกควบคุมตัวจนถึงขณะนี้.-สำนักข่าวไทย

ทูตยูเอ็นขอให้ใช้มาตรการเลี่ยงเหตุนองเลือดในเมียนมา

ทูตพิเศษว่าด้วยกิจการเมียนมาของสหประชาชาติระบุในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่า เหตุนองเลือดในเมียนมาใกล้จะเกิดขึ้น เพราะกองทัพเมียนมาใช้ความรุนแรงเพิ่มขึ้นในการปราบปรามผู้ประท้วงต่อต้านรัฐประหาร และขอให้พิจารณาใช้มาตรการเพื่อปกป้องชาวเมียนมา

รัฐบาลทหารเมียนมาประกาศหยุดยิง 1 เดือน

ย่างกุ้ง 1 เม.ย.- รัฐบาลทหารเมียนมาประกาศหยุดยิงฝ่ายเดียวเป็นเวลา 1 เดือน แต่จะยังคงตอบโต้การกระทำที่ขัดขวางความมั่นคงและการบริหารงานของรัฐบาล เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็น (CNN) รายงานว่า สถานีโทรทัศน์เอ็มอาร์ทีวี (MRTV) ของทางการเมียนมาเผยแพร่แถลงการณ์ของรัฐบาลที่เรียกร้องให้กลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธรักษาสันติ และกองทัพจะยุติปฏิบัติการฝ่ายเดียวตั้งแต่วันที่ 1-30 เมษายน แต่จะไม่ยกเว้นให้แก่กลุ่มคนที่ขัดขวางความมั่นคงของรัฐบาล ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า นับตั้งแต่วันเสาร์ที่ 27 มีนาคม ซึ่งเป็นที่กองทัพเมียนมาปราบปรามผู้ชุมนุมอย่างนองเลือดที่สุด มีคนเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 114 คน กองทัพได้เริ่มใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในรัฐกะเหรี่ยงที่มีพรมแดนติดกับสามจังหวัดของไทย ทำให้ชาวบ้านจำนวนมากอพยพหนีเข้าป่าและมายังพรมแดนไทย หลายหมู่บ้านในรัฐนี้ที่เป็นเป้าหมายโจมตีอยู่ภายใต้การควบคุมของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงหรือเคเอ็นยู (KNU) กลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธที่สนับสุนนการชุมนุมต่อต้านรัฐประหารและประณามรัฐบาลทหารเมียนมา.-สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่นระงับความช่วยเหลือครั้งใหม่แก่เมียนมา

ญี่ปุ่นประกาศระงับความช่วยเหลือครั้งใหม่แก่เมียนมาเพื่อตอบโต้รัฐบาลทหารเมียนมาที่ก่อรัฐประหาร แต่ยังคงไม่ใช้มาตรการลงโทษกลุ่มผู้นำทหารและตำรวจเหมือนกับประเทศอื่น ๆ

สหรัฐสั่งให้นักการทูตเดินทางออกจากเมียนมา

วอชิงตัน 31 มี.ค. – กระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ออกคำสั่งย้ายนักการทูตที่ไม่จำเป็นออกจากเมียนมา ท่ามกลางสถานการณ์การใช้กำลังรุนแรงปราบปรามผู้ประท้วงต่อต้านรัฐประหารในเมียนมาที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน นับตั้งแต่เกิดการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ กระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ระบุในแถลงการณ์ว่า กองทัพเมียนมาได้ยึดอำนาจและควบคุมตัวเจ้าหน้าที่รัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง จนทำให้เกิดการประท้วงต่อต้านรัฐประหารที่ยังคงดำเนินต่อไป ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กระทรวงฯ ได้ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐและครอบครัวออกจากเมียนมาโดยสมัครใจเป็นกรณีไม่ฉุกเฉิน แต่ตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นคำสั่งให้เดินทางออกจากเมียนมาแล้ว ขณะที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า กระทรวงฯ ได้ตัดสินใจใช้คำสั่งย้ายนักการทูตที่ไม่จำเป็นออกจากเมียนมา เพื่อความปลอดภัยและสวัสดิภาพของเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐและครอบครัว รวมถึงความปลอดภัยของชาวอเมริกันที่กระทรวงให้ความสำคัญสูงสุด ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า สถานะของคำสั่งดังกล่าวจะได้รับการทบทวนทุก ๆ 30 วัน สหรัฐ อังกฤษ และสหภาพยุโรป ได้ประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรเมียนมา เพื่อตอบโต้การก่อรัฐประหารและการใช้กำลังรุนแรงปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วง แต่แรงกดดันทางการทูตกลับไม่ทำให้กองทัพเมียนมาลดการใช้ความรุนแรงลงแม้แต่น้อย ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิตจากเหตุปราบปรามผู้ประท้วงในเมียนมากว่า 520 คน โดยที่ประเทศมหาอำนาจทั่วโลกต่างยกระดับการประณามการกระทำที่รุนแรงของกองทัพเมียนมา.-สำนักข่าวไทย  

ไทยจับมืออาเซียนร่วมสร้างสันติภาพในเมียนมา

บัวแก้วไม่สบายใจ กรณีชาวเมียนมาบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก ขอผู้เกี่ยวข้องหยุดใช้ความรุนแรง ยืนยันไทยจับมืออาเซียนร่วมสร้างสันติภาพในเมียนมา

ผู้เสียชีวิตจากเหตุปราบผู้ประท้วงในเมียนมาทะลุ 500 คน

ย่างกุ้ง 30 มี.ค. – สมาคมช่วยเหลือนักโทษทางการเมืองเมียนมา เผยว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุปราบปรามผู้ประท้วงต่อต้านรัฐประหารในเมียนมากว่า 500 คนแล้ว สมาคมช่วยเหลือนักโทษทางการเมืองเมียนมายืนยันว่า ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุประท้วง 510 คน แต่ระบุว่ายอดผู้เสียชีวิตจริงอาจมีมากกว่าที่รายงาน ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นในขณะที่กลุ่มประเทศมหาอำนาจของโลกได้ยกระดับการประณามการใช้กำลังรุนแรงของกองทัพเมียนมาต่อกลุ่มผู้ประท้วงที่ออกมาชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยและต้องการให้ปล่อยตัวนางออง ซาน ซูจี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนที่ถูกยึดอำนาจ นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติเรียกร้องให้ประเทศแนวร่วมทั่วโลกกดดันรัฐบาลทหารเมียนมา หลังมีผู้เสียชีวิตกว่า 100 คนจากเหตุนองเลือดรุนแรงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และต้องการให้เจ้าหน้าที่ของเมียนมารับรองว่าจะเปลี่ยนถ่ายอำนาจการปกครองสู่ระบอบประชาธิปไตยอย่างจริงจัง ขณะที่แหล่งข่าวทางการทูตระบุว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจะประชุมร่วมกันในวันพรุ่งนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในเมียนมา หลังอังกฤษเรียกร้องให้จัดประชุมวาระฉุกเฉิน ในขณะเดียวกัน รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐประกาศว่า กรอบความตกลงการค้าและการลงทุนปี 2556 ซึ่งเป็นการวางแนวทางส่งเสริมธุรกิจ แต่ไม่ใช่ข้อตกลงที่สมบูรณ์ระหว่างสหรัฐกับเมียนมา จะถูกระงับไว้จนกว่าจะมีการฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตยในเมียนมา ซึ่งการระงับดังกล่าวจะส่งผลให้เมียนมาถูกถอดชื่อออกจากระบบการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป หรือ จีเอสพี ที่สหรัฐมอบให้แก่ประเทศกำลังพัฒนา โดยการลดหย่อนหรือยกเว้นอากรขาเข้าในสินค้าที่เข้าข่ายได้รับสิทธิ.-สำนักข่าวไทย

เมียนมาปล่อยตัวผู้ประท้วงกว่า 600 คนออกจากเรือนจำ

กองทัพเมียนมาปล่อยตัวผู้ประท้วงชาวเมียนมากว่า 600 คนจากเรือนจำแห่งหนึ่งในนครย่างกุ้ง ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่พอใจที่รัฐบาลทหารเมียนมาใช้กำลังปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงอย่างโหดเหี้ยม

เด็กหญิงวัย 7 ปี เหยื่อกระสุนจริงเมียนมา

เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเมียนมาเปิดฉากใช้กระสุนจริงยิงใส่ผู้ชุมนุม ตายเพิ่มอีก 5 คน ที่เมืองมัณฑะเลย์ ในจำนวนนี้มีเด็กหญิงวัย 7 ปี และเด็กชายวัย 13 ปี ทำให้ผู้ชุมนุมต้านรัฐประหาร เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 261 แล้ว

นักเคลื่อนไหวในญี่ปุ่นขอใช้มาตรการเข้มกับกองทัพเมียนมา

โตเกียว 23 มี.ค. – นักเคลื่อนไหวชาวเมียนมาในญี่ปุ่นเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นและประชาคมระหว่างประเทศใช้มาตรการที่เข้มข้นยิ่งขึ้นเพื่อหยุดการสังหารผู้ประท้วงในเมียนมา รวมถึงการใช้คำสั่งห้ามค้าอาวุธเพื่อกดดันรัฐบาลทหารเมียนมา แม้ว่าชาติตะวันตกหลายประเทศได้ประกาศใช้มาตรการลงโทษที่เพิ่มขึ้นกับกลุ่มคนหรือบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ แต่กลุ่มนักเคลื่อนไหวชาวเมียนมาในญี่ปุ่นระบุว่าจำเป็นต้องเพิ่มแรงกดดันรัฐบาลทหารเมียนมามากกว่านี้ โดยเฉพาะแรงกดดันจากญี่ปุ่น จอ จอ โซ หนึ่งในกรรมการสมาคมพลเมืองแห่งสหภาพเมียนมาในญี่ปุ่นกล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นควรใช้อำนาจที่มีอยู่ เช่น อำนาจทางการทูต การค้า หรือการเมือง เพื่อเจรจาโดยตรงกับเหล่านายพลเมียนมาที่อยู่เบื้องหลังการปราบปรามผู้ชุมนุมอย่างรุนแรงจนทำให้มีผู้ประท้วงเสียชีวิตอย่างน้อย 261 คน ส่วนประชาคมระหว่างประเทศต้องใช้มาตรการที่เข้มข้นยิ่งขึ้นเพื่อหยุดการสังหารชาวเมียนมา โดยไม่ทำเพียงแค่การประกาศแถลงการณ์หรือแสดงความคิดเห็น ขณะที่หัวหน้าสมาคมโรฮิงญาแห่งเมียนมาในญี่ปุ่นกล่าวว่า รัฐบาลทหารไม่ควรได้รับการยอมรับไม่ว่าในรูปแบบใดก็ตาม และมาตรการลงโทษผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุรัฐประหารนั้นมีความรุนแรงน้อยมาก ทั้งที่จริงแล้ว คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติควรใช้คำสั่งห้ามค้าอาวุธกับเมียนมา เนื่องจากรัฐบาลทหารเมียนมาก็คือคนกลุ่มเดียวกันที่ออกคำสั่งฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญาในปี 2560 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่ของญี่ปุ่นเผยว่า ญี่ปุ่นกำลังเฝ้าระวังสถานการณ์ในเมียนมานับตั้งแต่เกิดเหตุรัฐประหาร และจะพิจารณาใช้มาตรการตอบโต้การกระทำดังกล่าว ทั้งนี้ ญี่ปุ่นถือเป็นผู้บริจาคเงินช่วยเหลือรายใหญ่ของเมียนมา และมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและธุรกิจที่แน่นแฟ้นกับเมียนมามาเป็นเวลานาน.-สำนักข่าวไทย

1 5 6 7 8 9 13
...