วัดแห่งหนึ่ง อ.กันทรลักษ์ เตรียมชั้นใต้ดินอุโบสถ รองรับเหตุฉุกเฉิน

ศรีสะเกษ 25 ก.ค. – พระสงฆ์วัดแห่งหนึ่งใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พาชมชั้นใต้ดินใต้พระอุโบสถ ซึ่งเตรียมไว้รองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน ยอมรับเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะนี้รุนแรงกว่าเมื่อครั้งปี 54 .-สำนักข่าวไทย

สำรวจความเสียหายระเบิดตกใส่ อ.น้ำยืน บ้านพัง 3 หลัง

อุบลราชธานี 25 ก.ค. – สำรวจความเสียหาย อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี หลังมีระเบิดตกลงมาในพื้นที่ พบบ้านเรือนเสียหาย 3 หลัง แต่ไม่มีใครได้รับอันตราย เนื่องจากประชาชนอพยพไปยังที่ปลอดภัยหมดแล้ว ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่ อ.น้ำยืน หลังจากมีระเบิดตกลงมาทำลายบ้านเรือนประชาชนเสียหาย 3 หลัง โดยบ้านทั้ง 3 หลังไม่มีประชาชนอาศัย เนื่องจากอพยพไปยังที่ปลอดภัยทั้งหมดแล้ว สภาพบ้านเสียหายหมด โดยชาวบ้านใกล้เคียงให้ข้อมูลว่าตั้งแต่เวลา 04.30 น.ที่ผ่านมา (25 ก.ค.) เริ่มมีเสียงปืนใหญ่ดังสนั่น จากนั้นมีระเบิดตกมายังบ้านใกล้เคียง โชคดีที่อพยพออกไปตั้งแต่เมื่อวาน จากนั้นเดินทางสำรวจในเมืองน้ำยืน พบว่าชาวบ้านกำลังอพยพไปยังที่ปลอดภัยตามแผนของทางจังหวัด เพิ่มเติมจากเมื่อวาน โดยเจ้าหน้าที่ได้อำนวยความสะดวก ส่วนตามถนน เขตเศรษฐกิจของอำเภอ ปิดเงียบทั้งหมด ทั้งร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร สถานีบริการน้ำมัน ส่วนวัดที่เป็นที่พึ่งทางจิตใจ ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยเฉพาะการบิณฑบาต เนื่องจากไม่มีประชาชนใส่บาตร และยังต้องอยู่ดูแลวัด รวมถึงเป็นขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ ด้านผู้นำชุมชนให้ความมั่นใจแก่เพื่อนบ้านที่อพยพ จะช่วยดูแล ป้องกัน ไม่มีคนฉวยโอกาสสร้างความเดือดร้อนให้ชุมชน โดยเฉพาะขโมย ส่วนผู้อพยพจาก อ.น้ำยืน ขณะนี้ย้ายไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย […]

“ปณิธาน” หวังผลประชุม UNSC คืนนี้ เป็นบวกต่อไทย

25 ก.ค.- นักวิชาการ หวังการแจงกติกาสากลที่ไทยยึดถือปฏิบัติ จะส่งผลประชุม UNSC คืนนี้ เป็นบวกต่อไทย กรณี นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งจดหมายถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) เข้าแทรกแซงและจัดการประชุมอย่างเร่งด่วนเพื่อหยุดยั้งการรุกรานของไทยต่ออธิปไตยของกัมพูชา โดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เตรียมจัดการประชุมฉุกเฉินแบบปิดในคืนวันนี้ (25 ก.ค.) เพื่อตรวจสอบและหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ มองว่า สถานการณ์น่าจะดีขึ้นสำหรับไทย เพราะกระทรวงการต่างประเทศ ได้เข้าให้ข้อมูลกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติแล้ว คณะมนตรีความมั่นคง ถือว่ามีความสำคัญที่สุด ในกลไกของสหประชาชาติ และเป็นองคค์กร ที่สามารถประกอบกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ และส่งเข้าไปเพื่อแทรกแซงประเทศสมาชิกตามหลักมนุษยธรรมได้ หากสามารถลงมติได้ เพราะฉะนั้นการประชุมในวันนี้ ถือว่ามีความสำคัญ เพราะคณะมนตรี ได้แทรกวาระความขัดแย้งไทย-กัมพูชาเป็นวาระเร่งด่วน สำหรับข้อมูลที่จะทำให้ไทยเป็นต่อในเวทีคืนนี้ ดร.ปณิธาน กล่าวว่า สำหรับผลของ UNSC ออกได้ 2 ทาง อาทิ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่กังวลคือ คณะมนตรีความมั่นคง จะให้ปัญหาทั้งหมดกลับไปที่ศาลโลก ซึ่งจะถือว่าเข้าทางกัมพูชา เพราะบริวารเก่าของกัมพูชา คงทิ้งกัมพูชายาก […]

สหรัฐเตือนพลเมืองเลี่ยงการเดินทางใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา

25 ก.ค. – กระทรวงต่างประเทศสหรัฐได้ประกาศเตือนพลเมืองสหรัฐผ่านทางแพลตฟอร์มเอ็กซ์ในวันนี้ ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางในรัศมี 50 กิโลเมตร จากชายแดนไทย-กัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งทางทหารในบริเวณดังกล่าว เว็บไซต์สถานทูตสหรัฐประจำกรุงเทพฯ ยังแจ้งเตือนพลเมืองอเมริกันที่อาศัยอยู่หรือเดินทางในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการปะทะกันของทั้่งสองประเทศ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานความมั่นคงของไทย และติดต่อสอบถามข้อมูลล่าสุดจากเจ้าหน้าที่รัฐบาลในท้องถิ่น นอกจากนั้นยังแจ้งด้วยว่า ในวันนี้รัฐบาลไทยได้สั่งปิดจุดผ่านแดนในจังหวัดจันทบุรี และตราด ทั้งหมดอย่างเด็ดขาด ทั้งทางบกและทางทะเล ขณะเดียวกันกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศปิดโรงพยาบาล 11 แห่งในพื้นที่ชายแดนเป็นการชั่วคราวทั้งหมดหรือบางส่วน และกระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศปิดโรงเรียนชั่วคราว 751 แห่ง ในจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สุรินทร์ สระแก้ว และจันทบุรี.-813.-สำนักข่าวไทย

รมว. ตปท. จีนระบุพร้อมช่วยคลี่คลายปัญหาไทย-กัมพูชา

ปักกิ่ง 25 ก.ค. – นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน กล่าววันนี้ว่า จีนพร้อมที่จะมีบทบาทที่สร้างสรรค์และยึดมั่นในจุดยืนที่ยุติธรรมและเที่ยงตรง เพื่อช่วยลดความตึงเครียดตามแนวชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทย กระทรวงการต่างประเทศจีนระบุในแถลงการณ์ว่า นายหวัง อี้ กล่าวในการระหว่างการประชุมกับนายเกา กิม ฮวน (Kao Kim Hourn) เลขาธิการอาเซียน ซึ่งเป็นชาวกัมพูชา ที่กรุงปักกิ่งว่า การปะทะกันที่ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นเรื่องที่ “น่าเสียใจและน่ากังวลอย่างยิ่ง” นายหวังกล่าวด้วยว่า ต้นตอของปัญหานี้เป้นสิ่งที่เป็นมรดกตกทอดที่ตกค้างอยู่จากสมัยที่ชาติตะวันตกเข้ามาเป็นเจ้าอาณานิคมทิ้งไว้มาตั้งแต่ในอดีต และตอนนี้จำเป็นต้องเผชิญหน้าอย่างใจเย็นและจัดการอย่างเหมาะสม.-813.-สำนักข่าวไทย

องค์กรสื่อห่วงความปลอดภัยประชาชนและสื่อมวลชน

กรุงเทพ 25 ก.ค. – จากสถานการณ์การสู้รบที่ปะทุขึ้นในหลายพื้นที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลให้มีประชาชนชาวไทยได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตรวมถึงความเสียหายต่อทรัพย์สินพลเรือนในหลายพื้นที่ สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทย ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์แสดงความห่วงใยอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ดังกล่าว แถลงการณ์ระบุถึงความกังวลต่อความปลอดภัยของประชาชน และไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสียไปมากกว่านี้ นอกจากนี้ ยังแสดงความห่วงใยต่อสวัสดิภาพของเพื่อนสื่อมวลชนที่กำลังปฏิบัติหน้าที่รายงานข่าวในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเน้นย้ำให้สื่อมวลชนใช้ความระมัดระวังสูงสุด ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ และยึดแนวปฏิบัติของสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติว่าด้วยการนำเสนอข่าวสงครามหรือการสู้รบระหว่างประเทศ พ.ศ. 2565 อย่างเคร่งครัด หลักปฏิบัติสำคัญสำหรับสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวสถานการณ์สู้รบ องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนได้สรุปแนวปฏิบัติสำคัญ 7 ข้อ เพื่อให้สื่อมวลชนใช้เป็นหลักในการรายงานข่าวสถานการณ์การสู้รบ ดังนี้: นำเสนอตามข้อเท็จจริง: ต้องนำเสนอข่าวตามข้อเท็จจริงเท่านั้น หลีกเลี่ยงการนำเสนอข้อมูลหรือความคิดเห็นที่อาจนำไปสู่ความเข้าใจผิด ความเกลียดชัง และอคติ ระมัดระวังภาพและคลิปความรุนแรง: ควรระมัดระวังการนำเสนอภาพหรือคลิปความสูญเสียที่สยดสยองหรือหวาดเสียว โดยคำนึงถึงประโยชน์สาธารณะและเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ หลีกเลี่ยงการใช้ความสูญเสียในสงครามเพื่อกระตุ้นยอดขายหรือยอดผู้ชม ระบุแหล่งที่มาและบริบทชัดเจน: ต้องระบุแหล่งที่มาของภาพ คลิปวิดีโอ หรือข้อมูลจากโซเชียลมีเดียให้ชัดเจนก่อนนำเสนอ เพื่อป้องกันการใช้ข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องหรือคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง กรณีใช้แฟ้มภาพข่าว ควรกำหนดวันที่และบริบทให้ชัดเจน ไม่เปิดเผยข้อมูลทางยุทธศาสตร์: ห้ามนำเสนอข่าวหรือภาพข่าวที่เปิดเผยข้อมูลรายละเอียดทางยุทธศาสตร์หรือยุทธวิธี ซึ่งอาจกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ยึดหลักมนุษยธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ: ควรเสนอข่าวโดยให้ความสำคัญต่อหลักมนุษยธรรม สิทธิมนุษยชน และกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยกฎระเบียบสงคราม (Rules of war) เช่น การใช้กำลังที่เหมาะสม การหลีกเลี่ยงความสูญเสียของพลเรือน […]

ความขัดแย้งไทย-กัมพูชาอาจบานปลายได้

ปักกิ่ง 25 ก.ค. – ผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการทหารของจีนกล่าววานนี้ว่า การปะทะกันระหว่างไทยกับกัมพูชากำลังทวีความรุนแรงขึ้นด้วยการนำอาวุธหนัก เช่น เครื่องบินรบและปืนใหญ่จรวดมาใช้ หลังเกิดเหตุการณ์ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดนที่มีข้อพิพาท พร้อมกับเตือนถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดความรุนแรงยิ่งขึ้นระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้านที่ต่างก็เป็นมิตรประเทศของจีน จาง จุนเซ่อ ผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการทหารของจีน กล่าวกับโกลบอล ไทมส์ (Global Times) หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษของทางการจีนในวันพฤหัสบดีว่า การที่กองทัพไทยนำเครื่องบินขับไล่ เอฟ-16 มาใช้และกัมพูชานำเครื่องยิงจรวดมาใช้ แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่กำลังย่ำแย่ลง ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะบานปลายต่อไป จากมุมมองทางทหารแล้ว ประเทศไทยได้มีความได้เปรียบเนื่องจากมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยกว่า นายจางกล่าวว่า ทั้งประเทศไทยและกัมพูชาเป็นเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรของจีน และสถานการณ์ที่อาจจะบานปลายนี้ไม่เป็นผลดีต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือต่อทั้งภูมิภาค วิธีที่ดีที่สุดคือการแก้ไขปัญหาอย่างสันติผ่านการเจรจา สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า สาเหตุของการปะทะล่าสุดเกิดจากทุ่นระเบิด โดยไทยกล่าวหากัมพูชาในสัปดาห์นี้ว่าวางทุ่นระเบิดในพื้นที่พิพาทซึ่งทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ ในขณะที่กัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวและกล่าวว่าทหารลาดตระเวณออกจากเส้นทางที่ตกลงกันไว้และเหยียบทุ่มระเบิดเก่าที่หลงเหลือมาจากสงครามในกัมพูชา สำหรับจีนมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการช่วยเหลือประเทศต่างๆ รวมถึงกัมพูชาในการแก้ไขปัญหาทุ่นระเบิด ซึ่งจางกล่าวว่าเป็นการแสดงความรับผิดชอบของจีนในการปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค ในปี 2567 มหาวิทยาลัยวิศวกรรมกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนได้จัดหลักสูตรเก็บกู้ระเบิดสองหลักสูตรสำหรับบุคลากรจากกัมพูชาและลาว ที่เป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากทุ่นระเบิด กองทัพจีนให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อความร่วมมือระหว่างประเทศในการเก็บกู้ระเบิด ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา จีนได้ฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญด้านการเก็บกู้ระเบิดกว่า 700 คนจากกว่า 20 ประเทศ และส่งกลุ่มผู้เชี่ยวชาญไปต่างประเทศเพื่อดำเนินการสอนภาคสนามหลายครั้ง.-813.-สำนักข่าวไทย

ยูเอ็นเอสซีจะประชุมฉุกเฉินเรื่องไทย-กัมพูชาวันนี้

คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นเอสซี จะประชุมฉุกเฉินในวันนี้ เกี่ยวกับเหตุปะทะตามแนวชายแดนระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา แหล่งข่าวด้านการทูตเปิดเผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีของฝรั่งเศสว่า การประชุมครั้งนี้ ซึ่งเป็นไปตามคำร้องขอของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเน็ต ของกัมพูชาจะเป็นการประชุมลับ ในเวลา 15.00 น. ตามเวลาในนครนิวยอร์คของสหรัฐ ซึ่งเป็นที่ตั้งของยูเอ็นเอสซี หรือ ตรงกับ 02.00 น. ของเช้าวันเสาร์ตามเวลาในประเทศไทย สื่อมวลชนกัมพูชา รายงายก่อนหน้านี้ว่านายฮุน มาเน็ต ได้ยื่นคำร้องอย่างเป็นทางการไปยังยูเอ็นเอสซี เรียกร้องให้จัดประชุมด่วนเพื่อยับยั้ง สิ่งที่เขากล่าวหาว่า “ไทยกระทำการรุกรานต่ออธิปไตยของกัมพูชา” ในหนังสือที่ส่งถึงนายอาซิม อิฟติคาร์ อาห์หมัด ผู้แทนถาวรปากีสถานประจำสหประชาชาติซึ่งเป็นประธานหมุนเวียนของยูเอ็นเอสซี นายฮุน มาเน็ตยังเรียกร้องให้ไทยยุติการสู้รบทั้งหมดทันทีและถอนกำลังกลับไปยังฝั่งไทย รวมทั้งหลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุใดๆ เพิ่มเติม.-813.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐเรียกร้องไทย-กัมพูชาหยุดยิงทันที

วอชิงตัน 25 ก.ค. – สหรัฐเรียกร้องไทยและกัมพูชาหยุดยิงทันที หลังความขัดแย้งตามแนวชายแดนทวีความรุนแรง จนเกิดความสูญเสียต่อพลเรือน ส่วนจีนส่งเสริมให้เจรจาสันติภาพ ยันยันวางตัวเป็นกลางในความขัดแย้งระหว่างสองชาติพันธมิตรของจีนในอาเซียน โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวระหว่างแถลงข่าวเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐรู้สึกกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ความรุนแรงตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ขยายวงกว้าง และแสดงความเสียใจต่อรายงานความสูญเสียของพลเรือน พร้อมเรียกร้องให้หยุดยิงทันที พร้อมปกป้องชีวิตพลเรือนและแก้ปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติ ด้านโฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน แถลงในกรุงปักกิ่งเมื่อวานนี้ว่า ทั้งไทยและกัมพูชาต่างก็เป็นมิตรประเทศของจีน และเป็นสมาชิกที่สำคัญของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน มิตรภาพอันดีระหว่างเพื่อนบ้านและการจัดการความแตกต่างอย่างเหมาะสม สอดคล้องกับผลประโยชน์พื้นฐานและผลประโยชน์ระยะยาวของทั้งสองฝ่าย จีนมีความกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ปัจจุบัน และหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างถูกต้องผ่านการเจรจาและการปรึกษาหารือ จีนจะยังคงส่งเสริมการเจรจาสันติภาพ กรณีพิพาทชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชาด้วยจุดยืนที่ยุติธรรมและเที่ยงธรรม เขากล่าวอีกว่า จากมุมมองของผลประโยชน์ร่วมกันและความต้องการของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค จีนยึดมั่นในจุดยืนที่ยุติธรรมและเป็นกลาง และยังคงส่งเสริมการเจรจาสันติภาพในแบบของตนเองต่อไป เพื่อมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในการลดระดับและลดความตึงเครียดลง ขณะที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ออกแถลงการณ์ แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา พร้อมเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายระมัดระวังต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่อาจได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง รักษาช่องทางการสื่อสารให้เปิดกว้าง และพยายามลดความตึงเครียดลงโดยเร็ว แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ ระบุว่า ฟิลิปปินส์ ไม่ได้มีจุดยืนฝักใฝ่ฝ่ายใดในข้อพิพาทนี้ แต่ขอย้ำถึงความสำคัญของการคงไว้ซึ่งการสื่อสารที่เปิดกว้าง และการลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์ พร้อมแสดงความหวังว่า ทั้งประเทศไทยและกัมพูชาจะสามารถแก้ไขปัญหาได้โดยสันติ ใช้กฎหมายระหว่างประเทศเป็นกรอบในการเจรจาและยุติข้อพิพาทด้านสถานทูตต่างชาติหลายแห่ง ออกคำเตือนประชาชนของตัวเองให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เช่น สถานทูตของสหรัฐในประเทศไทย เตือนพลเมืองของตัวเองที่อาจจะทำงานหรืออาศัยอยู่ในจังหวัดที่ติดกับชายแดน ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ในประเทศไทยอย่างเคร่งครัด ขณะที่เว็บไซต์สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า สำนักงานต่างประเทศ […]

สุรินทร์อพยพชาวบ้านไปยังศูนย์พักพิง หลังเหตุปะทะหนักหน่วง

สุรินทร์ 24 ก.ค. – จ.สุรินทร์ อพยพชาวบ้านไปยังศูนย์พักพิง 3 จุด หลังเหตุปะทะหนักหน่วงตลอดทั้งวันและกินพื้นที่วงกว้าง ส่วนกรณีมีข่าวทหารกัมพูชายิงจรวดหลายลำกล้อง RM-70 โจมตีชายแดนสุรินทร์ คาดน่าจะเป็น BM-21 มากกว่า.-สำนักข่าวไทย

คืนแรกอพยพชาวบ้านน้ำยืน จ.อุบลฯ ไปยังพื้นที่ปลอดภัย

อุบลราชธานี 24 ก.ค. – ชาวบ้านน้ำยืน จ.อุบลราชธานี อพยพออกจากบ้านเรือนใกล้แนวปะทะ มายังพื้นที่ปลอดภัยในศูนย์อพยพ อ.เดชอุดม ที่ทางจังหวัดจัดให้ ขณะที่เสียงปืนใหญ่สงบลงแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวัง หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ช่วงบ่ายทีมข่าวเดินทางไปยังพื้นที่ อ.น้ำยืน ซึ่งเป็นจุดแนวปะทะ ทำให้บ้านเรือนของชาวบ้านได้รับความเสียหาย 3 หลัง ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านกุดเชียงมุน 2 หลัง บ้านโพนทอง 1 หลัง โดยมีผู้เสียชีวิตจากแรงระเบิด 1 คน และได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด 3 คน หลังจากเกิดเหตุในช่วงเช้า ทาง อ.น้ำยืน ได้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่ทันที บรรยากาศในศูนย์อพยพของ อ.เดชอุดม เป็นพื้นที่อพยพ ปลอดภัย ทางจังหวัดทำแผนไว้นานกว่า 2 เดือน จึงบริหารจัดได้อย่างรวดเร็วและเป็นระบบ เป็นความร่วมมือของทุกหน่วยงาน ทั้งการทำข้อมูลผู้เข้าพัก แจกอาหารและสิ่งของที่จำเป็น ถือว่าเป็นการบริหารจัดการที่รวดเร็ว โดยประชาชนส่วนใหญ่เดินทางมาจาก อ.น้ำยืน ซึ่งเป็นแนวปะทะ ขณะนี้อยู่ในที่ปลอดภัย ชาวบ้านได้ให้ข้อมูลว่าตั้งแต่ช่วงเช้าตื่นนอนมาได้ยินเสียงปืนจึงรีบออกจากบ้าน คว้าเสื้อผ้าและสิ่งของที่จำเป็นออกเดินทางมายังศูนย์อพยพโดยรถส่วนตัว และเดินทางมาพร้อมญาติอีกทั้งยังอยากให้เหตุการณ์นี้จบลงอย่างรวดเร็ว ล่าสุดเสียงปืนใหญ่เงียบสงบลงแล้ว […]

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

1 6 7 8 9 10 72
...