ความขัดแย้งไทย-กัมพูชาอาจบานปลายได้

ปักกิ่ง 25 ก.ค. – ผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการทหารของจีนกล่าววานนี้ว่า การปะทะกันระหว่างไทยกับกัมพูชากำลังทวีความรุนแรงขึ้นด้วยการนำอาวุธหนัก เช่น เครื่องบินรบและปืนใหญ่จรวดมาใช้ หลังเกิดเหตุการณ์ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดนที่มีข้อพิพาท พร้อมกับเตือนถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดความรุนแรงยิ่งขึ้นระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้านที่ต่างก็เป็นมิตรประเทศของจีน จาง จุนเซ่อ ผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการทหารของจีน กล่าวกับโกลบอล ไทมส์ (Global Times) หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษของทางการจีนในวันพฤหัสบดีว่า การที่กองทัพไทยนำเครื่องบินขับไล่ เอฟ-16 มาใช้และกัมพูชานำเครื่องยิงจรวดมาใช้ แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่กำลังย่ำแย่ลง ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะบานปลายต่อไป จากมุมมองทางทหารแล้ว ประเทศไทยได้มีความได้เปรียบเนื่องจากมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยกว่า นายจางกล่าวว่า ทั้งประเทศไทยและกัมพูชาเป็นเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรของจีน และสถานการณ์ที่อาจจะบานปลายนี้ไม่เป็นผลดีต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือต่อทั้งภูมิภาค วิธีที่ดีที่สุดคือการแก้ไขปัญหาอย่างสันติผ่านการเจรจา สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า สาเหตุของการปะทะล่าสุดเกิดจากทุ่นระเบิด โดยไทยกล่าวหากัมพูชาในสัปดาห์นี้ว่าวางทุ่นระเบิดในพื้นที่พิพาทซึ่งทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ ในขณะที่กัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวและกล่าวว่าทหารลาดตระเวณออกจากเส้นทางที่ตกลงกันไว้และเหยียบทุ่มระเบิดเก่าที่หลงเหลือมาจากสงครามในกัมพูชา สำหรับจีนมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการช่วยเหลือประเทศต่างๆ รวมถึงกัมพูชาในการแก้ไขปัญหาทุ่นระเบิด ซึ่งจางกล่าวว่าเป็นการแสดงความรับผิดชอบของจีนในการปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค ในปี 2567 มหาวิทยาลัยวิศวกรรมกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนได้จัดหลักสูตรเก็บกู้ระเบิดสองหลักสูตรสำหรับบุคลากรจากกัมพูชาและลาว ที่เป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากทุ่นระเบิด กองทัพจีนให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อความร่วมมือระหว่างประเทศในการเก็บกู้ระเบิด ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา จีนได้ฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญด้านการเก็บกู้ระเบิดกว่า 700 คนจากกว่า 20 ประเทศ และส่งกลุ่มผู้เชี่ยวชาญไปต่างประเทศเพื่อดำเนินการสอนภาคสนามหลายครั้ง.-813.-สำนักข่าวไทย

ยูเอ็นเอสซีจะประชุมฉุกเฉินเรื่องไทย-กัมพูชาวันนี้

คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นเอสซี จะประชุมฉุกเฉินในวันนี้ เกี่ยวกับเหตุปะทะตามแนวชายแดนระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา แหล่งข่าวด้านการทูตเปิดเผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีของฝรั่งเศสว่า การประชุมครั้งนี้ ซึ่งเป็นไปตามคำร้องขอของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเน็ต ของกัมพูชาจะเป็นการประชุมลับ ในเวลา 15.00 น. ตามเวลาในนครนิวยอร์คของสหรัฐ ซึ่งเป็นที่ตั้งของยูเอ็นเอสซี หรือ ตรงกับ 02.00 น. ของเช้าวันเสาร์ตามเวลาในประเทศไทย สื่อมวลชนกัมพูชา รายงายก่อนหน้านี้ว่านายฮุน มาเน็ต ได้ยื่นคำร้องอย่างเป็นทางการไปยังยูเอ็นเอสซี เรียกร้องให้จัดประชุมด่วนเพื่อยับยั้ง สิ่งที่เขากล่าวหาว่า “ไทยกระทำการรุกรานต่ออธิปไตยของกัมพูชา” ในหนังสือที่ส่งถึงนายอาซิม อิฟติคาร์ อาห์หมัด ผู้แทนถาวรปากีสถานประจำสหประชาชาติซึ่งเป็นประธานหมุนเวียนของยูเอ็นเอสซี นายฮุน มาเน็ตยังเรียกร้องให้ไทยยุติการสู้รบทั้งหมดทันทีและถอนกำลังกลับไปยังฝั่งไทย รวมทั้งหลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุใดๆ เพิ่มเติม.-813.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐเรียกร้องไทย-กัมพูชาหยุดยิงทันที

วอชิงตัน 25 ก.ค. – สหรัฐเรียกร้องไทยและกัมพูชาหยุดยิงทันที หลังความขัดแย้งตามแนวชายแดนทวีความรุนแรง จนเกิดความสูญเสียต่อพลเรือน ส่วนจีนส่งเสริมให้เจรจาสันติภาพ ยันยันวางตัวเป็นกลางในความขัดแย้งระหว่างสองชาติพันธมิตรของจีนในอาเซียน โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวระหว่างแถลงข่าวเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐรู้สึกกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ความรุนแรงตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ขยายวงกว้าง และแสดงความเสียใจต่อรายงานความสูญเสียของพลเรือน พร้อมเรียกร้องให้หยุดยิงทันที พร้อมปกป้องชีวิตพลเรือนและแก้ปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติ ด้านโฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน แถลงในกรุงปักกิ่งเมื่อวานนี้ว่า ทั้งไทยและกัมพูชาต่างก็เป็นมิตรประเทศของจีน และเป็นสมาชิกที่สำคัญของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน มิตรภาพอันดีระหว่างเพื่อนบ้านและการจัดการความแตกต่างอย่างเหมาะสม สอดคล้องกับผลประโยชน์พื้นฐานและผลประโยชน์ระยะยาวของทั้งสองฝ่าย จีนมีความกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ปัจจุบัน และหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างถูกต้องผ่านการเจรจาและการปรึกษาหารือ จีนจะยังคงส่งเสริมการเจรจาสันติภาพ กรณีพิพาทชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชาด้วยจุดยืนที่ยุติธรรมและเที่ยงธรรม เขากล่าวอีกว่า จากมุมมองของผลประโยชน์ร่วมกันและความต้องการของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค จีนยึดมั่นในจุดยืนที่ยุติธรรมและเป็นกลาง และยังคงส่งเสริมการเจรจาสันติภาพในแบบของตนเองต่อไป เพื่อมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในการลดระดับและลดความตึงเครียดลง ขณะที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ออกแถลงการณ์ แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา พร้อมเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายระมัดระวังต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่อาจได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง รักษาช่องทางการสื่อสารให้เปิดกว้าง และพยายามลดความตึงเครียดลงโดยเร็ว แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ ระบุว่า ฟิลิปปินส์ ไม่ได้มีจุดยืนฝักใฝ่ฝ่ายใดในข้อพิพาทนี้ แต่ขอย้ำถึงความสำคัญของการคงไว้ซึ่งการสื่อสารที่เปิดกว้าง และการลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์ พร้อมแสดงความหวังว่า ทั้งประเทศไทยและกัมพูชาจะสามารถแก้ไขปัญหาได้โดยสันติ ใช้กฎหมายระหว่างประเทศเป็นกรอบในการเจรจาและยุติข้อพิพาทด้านสถานทูตต่างชาติหลายแห่ง ออกคำเตือนประชาชนของตัวเองให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เช่น สถานทูตของสหรัฐในประเทศไทย เตือนพลเมืองของตัวเองที่อาจจะทำงานหรืออาศัยอยู่ในจังหวัดที่ติดกับชายแดน ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ในประเทศไทยอย่างเคร่งครัด ขณะที่เว็บไซต์สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า สำนักงานต่างประเทศ […]

สุรินทร์อพยพชาวบ้านไปยังศูนย์พักพิง หลังเหตุปะทะหนักหน่วง

สุรินทร์ 24 ก.ค. – จ.สุรินทร์ อพยพชาวบ้านไปยังศูนย์พักพิง 3 จุด หลังเหตุปะทะหนักหน่วงตลอดทั้งวันและกินพื้นที่วงกว้าง ส่วนกรณีมีข่าวทหารกัมพูชายิงจรวดหลายลำกล้อง RM-70 โจมตีชายแดนสุรินทร์ คาดน่าจะเป็น BM-21 มากกว่า.-สำนักข่าวไทย

คืนแรกอพยพชาวบ้านน้ำยืน จ.อุบลฯ ไปยังพื้นที่ปลอดภัย

อุบลราชธานี 24 ก.ค. – ชาวบ้านน้ำยืน จ.อุบลราชธานี อพยพออกจากบ้านเรือนใกล้แนวปะทะ มายังพื้นที่ปลอดภัยในศูนย์อพยพ อ.เดชอุดม ที่ทางจังหวัดจัดให้ ขณะที่เสียงปืนใหญ่สงบลงแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวัง หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ช่วงบ่ายทีมข่าวเดินทางไปยังพื้นที่ อ.น้ำยืน ซึ่งเป็นจุดแนวปะทะ ทำให้บ้านเรือนของชาวบ้านได้รับความเสียหาย 3 หลัง ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านกุดเชียงมุน 2 หลัง บ้านโพนทอง 1 หลัง โดยมีผู้เสียชีวิตจากแรงระเบิด 1 คน และได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด 3 คน หลังจากเกิดเหตุในช่วงเช้า ทาง อ.น้ำยืน ได้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่ทันที บรรยากาศในศูนย์อพยพของ อ.เดชอุดม เป็นพื้นที่อพยพ ปลอดภัย ทางจังหวัดทำแผนไว้นานกว่า 2 เดือน จึงบริหารจัดได้อย่างรวดเร็วและเป็นระบบ เป็นความร่วมมือของทุกหน่วยงาน ทั้งการทำข้อมูลผู้เข้าพัก แจกอาหารและสิ่งของที่จำเป็น ถือว่าเป็นการบริหารจัดการที่รวดเร็ว โดยประชาชนส่วนใหญ่เดินทางมาจาก อ.น้ำยืน ซึ่งเป็นแนวปะทะ ขณะนี้อยู่ในที่ปลอดภัย ชาวบ้านได้ให้ข้อมูลว่าตั้งแต่ช่วงเช้าตื่นนอนมาได้ยินเสียงปืนจึงรีบออกจากบ้าน คว้าเสื้อผ้าและสิ่งของที่จำเป็นออกเดินทางมายังศูนย์อพยพโดยรถส่วนตัว และเดินทางมาพร้อมญาติอีกทั้งยังอยากให้เหตุการณ์นี้จบลงอย่างรวดเร็ว ล่าสุดเสียงปืนใหญ่เงียบสงบลงแล้ว […]

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

“มาริษ” ย้ำจุดยืนแก้ปัญหาไทย-กัมพูชา ด้วยสันติวิธี

กระทรวงการต่างประเทศ 24 ก.ค. – “มาริษ” ย้ำจุดยืนแก้ปัญหาไทย-กัมพูชา ด้วยสันติวิธี ยื่นประท้วงยูเอ็นและภาคีอนุสัญญาออตตาวา หลังพบการละเมิดบูรณภาพดินแดน ชี้เขมรบิดเบือนกับประเทศที่สาม อ้างไทยไม่ยอมเจรจา ขณะที่ “กต.-คมนาคม-เอกชน” พร้อมอพยพคนไทยกลับ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงระหว่างการปฏิบัติภารกิจเข้าร่วมประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ผ่าน VDO Conference เพื่อเป็นประธานเปิดการประชุมเกี่ยวกับแผนการช่วยเหลือคนไทยในกัมพูชา โดยระบุว่า ตนเองได้ใช้โอกาสในการประชุมหารือและชี้แจงกับผู้นำระดับสูงหลายประเทศ เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งขณะนี้มีความตึงเครียดจากกรณีการโจมตีอย่างต่อเนื่องของกองทัพกัมพูชาในเขตฝั่งไทย และการใช้กับระเบิดละเมิดอำนาจอธิปไตยของไทย พร้อมเปิดเผยว่า ได้เข้าร่วมประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ซึ่งมีปากีสถานเป็นประธานหมุนเวียนในครั้งนี้ โดยได้กล่าวถ้อยแถลงในนามรัฐบาลไทย ย้ำจุดยืนสนับสนุนการแก้ไขข้อขัดแย้งระหว่างประเทศผ่านการเจรจาทวิภาคีอย่างสันติและด้วยความจริงใจ (in good faith) พร้อมยืนยันว่าไทยยังคงยึดมั่นในหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และปฏิบัติตามกฎบัตรสหประชาชาติอย่างเคร่งครัดในการป้องกันตนเองจากการรุกราน นายมาริษ กล่าวว่า ในการหารือทวิภาคีกับผู้แทนระดับสูงจากหลายประเทศ ได้พบกับ รมว.กต.ปากีสถาน เลขาธิการสหประชาชาติ และรัฐมนตรีจากประเทศสมาชิกอื่นๆ รวมถึงรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประธานภาคีอนุสัญญาออตตาวาในปีนี้ โดยฝ่ายไทยได้ยื่นหนังสือประท้วงและชี้แจงเหตุการณ์ละเมิดจากกัมพูชาอย่างเป็นทางการ พร้อมระบุว่าการที่กัมพูชาใช้กับระเบิดในพื้นที่เขตแดนไทย ซึ่งส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ถือเป็นการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา […]

โฆษก ทบ.ยันไทยไม่ได้มีเจตนาหรือแรงจูงใจโจมตีกัมพูชา

24 ก.ค. – โฆษกกองทัพบก แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันไทยไม่ได้มีเจตนาหรือแรงจูงใจใดๆ ต้องโจมตีฝ่ายกัมพูชาเลย เพราะไม่ได้ประโยชน์อะไร และไม่มีเหตุผลต้องทำเช่นนั้น ถ้าไม่เป็นไปด้วยความจำเป็นจริงตามแนวทางที่ถูกบีบบังคับอันเนื่องมาจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น กองทัพบกยืนยันไทยไม่มีเจตนาหรือแรงจูงใจใดๆ ที่จะต้องไปโจมตีกัมพูชาเลย ไม่ได้ประโยชน์อะไรจากเรื่องนี้ และไม่มีเหตุผลที่เราจะทำเช่นนั้น ถ้าไม่เป็นไปด้วยความจำเป็นจริงตามแนวทางที่ถูกบีบบังคับอันเนื่องมาจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น กองทัพบกดำเนินการภายใต้ความชอบธรรมตามกฎหมายระหว่างประเทศที่สามารถใช้กำลังได้ ซึ่งเป็นไปตามกฎบัตรสหประชาชาติ ข้อ 51 โดยสามารถใช้กำลังป้องกันตัวเองจากการถูกโจมตีด้วยอาวุธก่อน จากฝ่ายกัมพูชา ในลักษณะเพื่อป้องกันตัวเอง โดยจะทำลายเฉพาะเป้าหมายทางทหาร (military objective) เท่านั้น เหตุของการปฏิบัติการทางทหารต่อกันในครั้งนี้มีเหตุมาจากผู้นำฝ่ายกัมพูชา อาจต้องให้ระดับฝ่ายบริหารของกัมพูชาและไทยได้เจรจากัน ร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ในการหาแนวทางสันติวิธี เริ่มจากการแก้ที่ต้นเหตุทั้งทางตรงและทางอ้อม มั่นใจว่าประชาชนทั้งสองประเทศไม่มีเหตุผลที่จะต้องมาขัดแย้งกัน หรือสมควรต้องมาได้รับผลกระทบใดๆ จากเหตุการณ์โดยไม่จำเป็น.-313-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” มอบอำนาจกองทัพดูแลเหตุการณ์ชายแดน-รมว.กต.คุยยูเอ็นแล้ว

ทำเนียบฯ 24 ก.ค. – “ภูมิธรรม” เผยประชุมสภาความมั่นคง และ ครม.วาระพิเศษ แก้ไขสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันกัมพูชายั่วยุเปิดฉากยิงก่อน เป้าหมายไม่ชัดเจน ทำให้พลเรือนเสียชีวิต 10 ราย ทหาร 1 นาย มอบจังหวัดดูแลประชาชนอพยพห่างชายแดน 50 กิโลเมตร ยังไม่คุยกัมพูชา จนกว่าสถานการณ์จะยุติ ระบุไม่มีประกาศสงคราม แต่มอบอำนาจกองทัพตัดสินใจดูแลเหตุการณ์ ก่อนรายงานรัฐบาล แต่ย้ำต้องอยู่ภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ ไม่จำเป็นดึงต่างประเทศเป็นตัวกลางเจรจา พร้อมเผย “มาริษ“ คุยยูเอ็นแล้ว ย้ำปฏิบัติการทางทหารจะยุติเร็วที่สุด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ วาระพิเศษ ที่มีคณะรัฐมนตรี ตัวแทนเหล่าทัพ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ว่าเนื่องจากเกิดเหตุการณ์ปะทะกันตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะเดียวกันยังเป็นการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษไปด้วย โดยเชิญเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเข้าร่วม ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ดังนั้น จึงเป็นการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาตินัดพิเศษ และคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษด้วย เพราะหลายเรื่องจำเป็นต้องใช้มติคณะรัฐมนตรีในการดำเนินการ พร้อมระบุว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์ปะทะกัน เท่าที่รับรายงานจากหน่วยทหารที่เกี่ยวข้อง ยืนยันว่ากัมพูชาได้ยิงเข้ามาและเปิดฉากใส่ทหารไทยก่อน จนนำไปสู่เหตุการณ์บานปลาย จนถึงเวลานี้มีการใช้อาวุธหนัก แต่สิ่งสำคัญคือการยิงของกัมพูชาใช้อาวุธหนัก […]

สมช.ถกด่วนติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

24 ก.ค. – “ภูมิธรรม” เรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติวาระด่วน ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และรับฟังรายงานสถานการณ์ล่าสุดและกำหนดท่าที นายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หลังเกิดเหตุปะทะกันที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณปราสาทตาเมือนธม เพื่อรับฟังรายงานสถานการณ์ล่าสุดและกำหนดท่าที รวมทั้งเตรียมการแถลงผลการประชุมให้ได้รับทราบ ประกอบกับก่อนหน้านี้ ศก.ทบ. มีความจำเป็นต้องปิดด่านในจุดต่างๆ เพื่อปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นมาตรการตามขั้นตอน จากขั้น 1-2 ที่ผ่านมา จนขณะนี้มาถึงขั้นที่ 4 สำหรับสถานการณ์การประทะระหว่างกำลังทั้ง 2 ฝ่ายที่เกิดขึ้นในขณะนี้ และกัมพูชาเป็นฝ่ายริเริ่ม ขอให้มั่นใจว่ากระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการเพื่อปกป้องผลประโยชน์ท่าทีและอธิปไตยของไทยในเวทีระหว่างประเทศอย่างเต็มที่และดีที่สุด ยืนยันว่าพร้อมทำงานอย่างมีเอกภาพ รวมทั้งท่าทีต่อสถานการณ์ล่าสุด และความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชา ขณะที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ยกเลิกภารกิจที่จังหวัดฉะเชิงเทรา โพสต์ประณามกัมพูชาต่อการใช้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนไทย ถือว่าเป็นการละเมิดหลักปฏิบัติสากลตามกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักสิทธิมนุษชนและจริยธรรมอันดีอย่างชัดเจน ซึ่งส่งผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่และประชาชนผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ฝ่ายไทยพยายามอย่างเต็มที่ผ่านการเจรจาพูดคุยตามหลักปฏิบัติทางการทูต เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์บานปลาย หลีกเลี่ยงการปะทะและความสูญเสีย ด้วยความอดทน อดกลั้น และยึดมั่นในแนวทางสันติวิธีมาโดยตลอด ทั้งนี้ ขอสนับสนุนทุกมาตรการตอบโต้ของรัฐบาล กองทัพ และกระทรวงการต่างประเทศ ภายใต้กรอบของกฎหมายและหลักการสากล พร้อมส่งกำลังใจไปยังเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องเอกราชและอธิปไตยของชาติ […]

จีนกังวลอย่างยิ่งต่อการปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชา

ปักกิ่ง 24 ก.ค. – กระทรวงต่างประเทศของจีนกล่าววันนี้ว่า จีนมีความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสมผ่านการเจรจาและการปรึกษาหารือ กัว เจียคุน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน กล่าวในการแถลงข่าวประจำวันว่า จีนจะแสดงบทบาทที่สร้างสรรค์ในการส่งเสริมแนวทางการลดความตึงเครียด พร้อมเสริมว่าจีนยึดมั่นในจุดยืนของความยุติธรรมและเที่ยงตรง.-813.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาประกาศลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทย

พนมเปญ 24 ก.ค. – รัฐบาลกัมพูชาประกาศลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทยเป็นระดับต่ำสุด ขณะที่สื่อกัมพูชารายงานข่าวสถานการณ์ชายแดนเช้าวันนี้ว่าเป็นการตอบโต้ของกองทัพกัมพูชาต่อการรุกรานของไทยและการปิดปราสาทตาเมือนธม วันนี้รัฐบาลกัมพูชาประกาศตัดสินใจลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทยลงเป็นระดับต่ำสุด เพื่อตอบโต้รัฐบาลไทยที่เมื่อวานนี้นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีประกาศตัดสินใจลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา หลังเกิดเหตุทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดเป็นครั้งที่สองเมื่อวานนี้ กัมพูชาระบุว่าจะตอบสนองด้วยการลดความสัมพันธ์ทางการทูตลงเหลือเพียงระดับ “อุปทูตลำดับที่สอง” เท่านั้น นอกจากนี้นักการทูตกัมพูชาทุกคนที่ประจำการอยู่ที่สถานทูตกัมพูชาในกรุงเทพ ยังได้รับคำสั่งให้เดินทางกลับบ้านด้วยและทางฝ่ายไทยได้รับคำสั่งให้นักการทูตไทยเดินทางออกจากกัมพูชาด้วยเช่นกัน อีกด้านหนึ่งกระทรวงกลาโหมกัมพูชา โดยนางมาลี โสเชตา ปลัดกระทรวงกลาโหม เมื่อคืนนี้แถลงปฏิเสธข้อกล่าวหาของฝ่ายไทยอย่างเด็ดขาดเรื่องทหารไทยเหยียบกับระเบิดเมื่อวานนี้ ซึ่งทางกัมพูชาอ้างว่าเหตุเกิดในพื้นที่หมู่บ้านอัน เสส ตำบลและอำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารของกัมพูชา นางมาลีระบุว่าข้อกล่าวของไทยที่ว่ากับระเบิดในอยู่เขตแดนไทยและเป็นระเบิดฝังใหม่โดยทหารกัมพูชานั้นไม่มีมูลความจริงซึ่งกัมพูชาขอปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง กัมพูชาเรียกร้องให้ไทยหลีกเลี่ยงการกระทำที่ขัดต่อการใช้เส้นทางลาดตระเวนที่กำหนดเอาไว้ในเอ็มโอยี 43 นอกจากนี้นางมาลียังบอกด้วยว่าเป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่งที่ประเทศไทยไม่เพียงแต่ไม่รับผิดชอบต่อการกระทำที่ก้าวร้าวของตนเท่านั้น แต่ยังกล่าวหากัมพูชาว่าละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ในขณะที่กัมพูชาเองเป็นเหยื่อของความ อยุติธรรมจากการละเมิดของฝ่ายไทย ขณะที่สื่อของกัมพูชารายงานสถานการณ์เช้าวันนี้ว่า“กองทัพกัมพูชาเปิดฉากโจมตีตอบโต้การรุกรานของทหารไทยและการสั่งปิดปราสาทตาเมือนธม” โดยอ้างข้อมูลจากนายทหารระดับสูงของกัมพูชาที่ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเฟรชนิวส์จากพื้นชายแดนในเช้าวันนี้ ซึ่งทางกัมพูชาอ้างว่าจุดปะทะอยู่ในจังหวัดพระวิหาร และหลังจากการปะทะที่ตาเมือนธมในจังหวัดอุดรมีชัยแล้ว ขณะนี้การสู้รบได้ขยายพื้นที่ออกไปยังพนมกมุช ในจังหวัดพระวิหาร เวลานี้กำลังมีการยิงตอบโต้กันระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา ซึ่งซึ่งกัมพูชาได้อ้างรายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ทหารไทยบาดเจ็บ 2 นายแต่ฝั่งกัมพูชาไม่มีผู้บาดเจ็บ.-816.-สำนักข่าวไทย

1 6 7 8 9 10 71
...