25 ก.ค.- นักวิชาการ หวังการแจงกติกาสากลที่ไทยยึดถือปฏิบัติ จะส่งผลประชุม UNSC คืนนี้ เป็นบวกต่อไทย
กรณี นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งจดหมายถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) เข้าแทรกแซงและจัดการประชุมอย่างเร่งด่วนเพื่อหยุดยั้งการรุกรานของไทยต่ออธิปไตยของกัมพูชา โดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เตรียมจัดการประชุมฉุกเฉินแบบปิดในคืนวันนี้ (25 ก.ค.) เพื่อตรวจสอบและหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา
ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ มองว่า สถานการณ์น่าจะดีขึ้นสำหรับไทย เพราะกระทรวงการต่างประเทศ ได้เข้าให้ข้อมูลกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติแล้ว
คณะมนตรีความมั่นคง ถือว่ามีความสำคัญที่สุด ในกลไกของสหประชาชาติ และเป็นองคค์กร ที่สามารถประกอบกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ และส่งเข้าไปเพื่อแทรกแซงประเทศสมาชิกตามหลักมนุษยธรรมได้ หากสามารถลงมติได้ เพราะฉะนั้นการประชุมในวันนี้ ถือว่ามีความสำคัญ เพราะคณะมนตรี ได้แทรกวาระความขัดแย้งไทย-กัมพูชาเป็นวาระเร่งด่วน
สำหรับข้อมูลที่จะทำให้ไทยเป็นต่อในเวทีคืนนี้ ดร.ปณิธาน กล่าวว่า
- ไทยเราต้องนำกติกาสากลที่เราถือปฏิบัติตาม มาเรียงให้ชัดเจนว่าเราได้ปฏิบัติตามอย่างไรบ้าง อาทิตามกฎบัตรสหประชาชาติ เช่น อนุวัญญา อาตตาว่า อนุสัญญา เจนนีวา การป้องกันตนเอง เราทำอย่างไร ทั้งเชิงรุก และเชิงรับ
- เปิดข้อมูลทุกชุดที่กัมพูชา ละเมิดกฎกติกา ทั้งการละเมิด อนุสัญญาต่างๆ ทั้งการโจมตีพลเรือน ละเมิดอธิไตยไทย ใช้กับระเบิด แทรกแซงกิจการภายในของไทย ปล่อยคลิปเสียงสนทนาผู้นำ
- ข้อเสนอใหม่ๆ ที่เราจะกลับไปร่วมมือกับกัมพูชาในอนาคต
สำหรับผลของ UNSC ออกได้ 2 ทาง อาทิ
- ผลเป็นบวก ย้ำจุดยืนสหประชาชาติ ที่ต้องไม่มีการละเมิด กฎบัตรและระงับยับยั้งให้ทุกฝ่ายยุติความขัดแย้ง ถอยกำลังออกมา สองฝ่ายคุยกันในกรอบของตัวเองและอาเซียน
- ผลออกมาเป็นลบ โดยมีการกำหนดรายละเอียดต่างๆ ว่า แต่ละประเทศ ต้องทำอย่างไร และมีเงื่อนไขการส่งผู้สังเกตการณ์ เข้ามาในพื้นที่ โดยถือเป็นการแทรกแซงโดยสหประชาชาติ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่กังวลคือ คณะมนตรีความมั่นคง จะให้ปัญหาทั้งหมดกลับไปที่ศาลโลก ซึ่งจะถือว่าเข้าทางกัมพูชา เพราะบริวารเก่าของกัมพูชา คงทิ้งกัมพูชายาก แต่ต้องเอาใจช่วยทีมไทยแลนด์ในการต่อสู้ข้อกล่าวหากัมพูชา -สำนักข่าวไทย