กรุงเทพ 25 ก.ค. – จากสถานการณ์การสู้รบที่ปะทุขึ้นในหลายพื้นที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลให้มีประชาชนชาวไทยได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตรวมถึงความเสียหายต่อทรัพย์สินพลเรือนในหลายพื้นที่ สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทย ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์แสดงความห่วงใยอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ดังกล่าว
แถลงการณ์ระบุถึงความกังวลต่อความปลอดภัยของประชาชน และไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสียไปมากกว่านี้ นอกจากนี้ ยังแสดงความห่วงใยต่อสวัสดิภาพของเพื่อนสื่อมวลชนที่กำลังปฏิบัติหน้าที่รายงานข่าวในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเน้นย้ำให้สื่อมวลชนใช้ความระมัดระวังสูงสุด ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ และยึดแนวปฏิบัติของสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติว่าด้วยการนำเสนอข่าวสงครามหรือการสู้รบระหว่างประเทศ พ.ศ. 2565 อย่างเคร่งครัด
หลักปฏิบัติสำคัญสำหรับสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวสถานการณ์สู้รบ
องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนได้สรุปแนวปฏิบัติสำคัญ 7 ข้อ เพื่อให้สื่อมวลชนใช้เป็นหลักในการรายงานข่าวสถานการณ์การสู้รบ ดังนี้:
นำเสนอตามข้อเท็จจริง: ต้องนำเสนอข่าวตามข้อเท็จจริงเท่านั้น หลีกเลี่ยงการนำเสนอข้อมูลหรือความคิดเห็นที่อาจนำไปสู่ความเข้าใจผิด ความเกลียดชัง และอคติ
ระมัดระวังภาพและคลิปความรุนแรง: ควรระมัดระวังการนำเสนอภาพหรือคลิปความสูญเสียที่สยดสยองหรือหวาดเสียว โดยคำนึงถึงประโยชน์สาธารณะและเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ หลีกเลี่ยงการใช้ความสูญเสียในสงครามเพื่อกระตุ้นยอดขายหรือยอดผู้ชม
ระบุแหล่งที่มาและบริบทชัดเจน: ต้องระบุแหล่งที่มาของภาพ คลิปวิดีโอ หรือข้อมูลจากโซเชียลมีเดียให้ชัดเจนก่อนนำเสนอ เพื่อป้องกันการใช้ข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องหรือคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง กรณีใช้แฟ้มภาพข่าว ควรกำหนดวันที่และบริบทให้ชัดเจน
ไม่เปิดเผยข้อมูลทางยุทธศาสตร์: ห้ามนำเสนอข่าวหรือภาพข่าวที่เปิดเผยข้อมูลรายละเอียดทางยุทธศาสตร์หรือยุทธวิธี ซึ่งอาจกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง
ยึดหลักมนุษยธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ: ควรเสนอข่าวโดยให้ความสำคัญต่อหลักมนุษยธรรม สิทธิมนุษยชน และกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยกฎระเบียบสงคราม (Rules of war) เช่น การใช้กำลังที่เหมาะสม การหลีกเลี่ยงความสูญเสียของพลเรือน การแยกแยะเป้าหมายทางทหารและพลเรือน การปฏิบัติต่อเชลยศึก และการใช้อาวุธต้องห้ามตามสนธิสัญญา
แยกแยะประชาชนกับรัฐบาลและส่งเสริมสันติวิธี: พึงแยกแยะระหว่างประชาชนกับรัฐบาล ไม่ควรเหมารวมว่านโยบายของชาติเป็นเรื่องเดียวกับความคิดเห็นของประชาชนทั้งหมด ควรแสวงหาแหล่งข้อมูลและแหล่งข่าวที่หลากหลาย ไม่ยึดติดกับแหล่งข่าวจากรัฐเพียงอย่างเดียว และต้องรักษา ส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลของทั้งสองฝ่ายหาทางแก้ไขความขัดแย้งด้วยสันติวิธี
ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความปลอดภัย: สื่อมวลชนควรหลีกเลี่ยงการเข้าพื้นที่สู้รบที่ยังไม่มีการหยุดยิง และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เพื่อหลีกเลี่ยงความสูญเสีย
พร้อมกันนี้ องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนยังได้ขอให้กองบรรณาธิการของแต่ละองค์กรสื่อประสานงานกับสื่อมวลชนในพื้นที่อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อประเมินความเสี่ยงของสถานการณ์ร่วมกัน และป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียบุคลากรในวิชาชีพ.-813.-สำนักข่าวไทย
สภาการสื่อมวลชน, สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์, สหภาพแรงงานกลางสื่อ, กัมพูชา, ไทย, รายงานข่าว,