Trump in Scotland

“ทรัมป์” พร้อมทำงานร่วมไทย-กัมพูชา

เทิร์นเบอร์รี 28 ก.ค.- ผู้นำสหรัฐเผยสหรัฐพร้อมทำงานร่วมกับไทยและกัมพูชา โดยเห็นว่าทั้งสองฝ่ายต้องการยุติปัญหาระหว่างกัน ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ส่งเจ้าหน้าที่ไปช่วยอำนวยความสะดวกการเจรจาของ 2 ฝ่ายที่มาเลเซียแล้ว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เผยก่อนเริ่มหารือกับนางอัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ที่เมืองเทิร์นเบอรีของสกอตแลนด์เมื่อวานนี้ว่า เชื่อว่าไทยและกัมพูชาต้องการแก้ปัญหาความแตกต่างระหว่างกัน หลังจากเขาแจ้งกับผู้นำของทั้งสองประเทศว่า จะไม่ทำข้อตกลงการค้า เว้นแต่ว่าจะได้ยุติการสู้รบกันก่อน เขาได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศ และคิดว่าทั้งสองฝ่ายต้องการยุติปัญหากันในขณะนี้ เขาเชื่อด้วยว่า เจ้าหน้าที่ไทยและกัมพูชามีกำหนดพบหารือกันในวันสองวันนี้ การเปิดเผยของทรัมป์มีขึ้นหลังจากเมื่อวันเสาร์ เขาได้โพสต์ข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ทรูธโซเชียล (Truth Social) มีเนื้อหาเกี่ยวกับการหารือทางโทรศัพท์กับผู้นำของไทยและกัมพูชาว่า สหรัฐจะไม่เจรจาการค้ากับทั้งสองประเทศ หากไม่มีการหยุดยิง และว่าทั้งสองประเทศเห็นชอบเรื่องพบปะกันโดยทันที และจะเร่งดำเนินการข้อตกลงหยุดยิงเพื่อนำมาซึ่งสันติภาพในท้ายที่สุด ล่าสุดนายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ แถลงเมื่อค่ำวันอาทิตย์ตามเวลาสหรัฐ ตรงกับเช้าวันนี้ตามเวลาไทยว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐได้เดินทางไปถึงมาเลเซียแล้ว เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่การเจรจาสันติภาพของไทยและกัมพูชาที่จะเริ่มเจรจาในวันนี้ ด้วยหวังว่าจะมีการหยุดยิง สหรัฐต้องการให้ความขัดแย้งนี้ยุติลงโดยเร็วที่สุด ก่อนหน้านี้ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ แถลงว่า นายรูบิโอได้หารือทางโทรศัพท์กับนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของไทย และนายปรัก สุคน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา เรียกร้องทั้งสองฝ่ายลดปัญหาตึงเครียดโดยทันที สหรัฐพร้อมช่วยเหลืออำนวยความสะดวกการเจรจาในอนาคต เพื่อสร้างหลักประกันเรื่องสันติภาพและเสถียรภาพระหว่างไทยและกัมพูชา ด้านผู้สื่อข่าวสำนักข่าวรอยเตอร์ […]

Thai military convoy in Surin

ชี้สถานการณ์ไทย-กัมพูชาเป็นมากกว่าเรื่องดินแดน

นิวยอร์ก 27 ก.ค.- นิตยสารไทม์ของสหรัฐลงบทความวิเคราะห์สถานการณ์ไทยกับกัมพูชาในขณะนี้ว่า เป็นเรื่องอื่นที่มีความสำคัญมากกว่าเรื่องดินแดน บทความของชาร์ลี แคมป์เบลล์ บรรณาธิการอาวุโสระบุว่า เหตุทะเลาะเบาะแว้งเรื่องดินแดนที่เกิดขึ้นทั่วโลก เห็นได้ชัดว่ามีเหตุจำนวนมากที่เป็นการเบี่ยงเบนด้วยกระแสคลั่งชาติ (jingoistic distraction) แม้เหตุเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ แต่การปะทะที่ยืดเยื้อมักเกิดขึ้นจากจุดประสงค์ที่ชัดเจน บทความเล่าถึงการปะทะที่เกิดขึ้นใกล้ปราสาทตาเมือนธมเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ทำให้พลเรือนในไทยเสียชีวิต 1 คน ทหารเสียชีวิต 1 นาย เป็นเหตุให้มีการตอบโต้กันทั้งทางการทหารและทางการทูตจนถึงขณะนี้ นายแคมป์เบลล์ระบุว่า ปัญหาบริเวณชายแดนที่ทั้ง 2 ประเทศมีพรมแดนติดกันยาว 817 กิโลเมตรไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนงุนงงกับการปะทะล่าสุด คือ การที่สองตระกูลทรงอิทธิพลทางการเมืองของสองประเทศกลับกลายมาเป็นปรปักษ์กัน ทั้งที่เคยสนิทสนมกันมาก่อน ผู้เขียนชี้ว่า มีปัจจัยไม่กี่อย่างที่จูงใจอย่างชัดเจนให้นายฮุน เซน อดีตผู้นำกัมพูชาทำให้เหตุทะเลาะครั้งนี้ยืดเยื้อ หนึ่งในนั้น คือ สภาพเศรษฐกิจกัมพูชาขณะนี้ไม่ดีนัก เขาอาจใช้โอกาสนี้เปิดทางให้นายฮุน มาเนต บุตรชายได้แสดงความเป็นผู้นำในฐานะนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้นายฮุน เซนยังอาจต้องการเบี่ยงเบนเรื่องที่บุตรชายล้มเหลวในการแก้ปัญหา “โรคหลอกลวงระบาด” (scamdemic) ตามที่สหประชาชาติเรียกขาน ประเมินกันว่า ธุรกิจผิดกฎหมายในกัมพูชา ทั้งบ่อนกาสิโน การค้ามนุษย์ และแก๊งคอลล์เซ็นเตอร์ครองสัดส่วนถึงร้อยละ […]

red zone in Surin

สื่อจีนสำรวจสถานการณ์เหตุปะทะใน จ.สุรินทร์

สุรินทร์ 27 ก.ค.- สื่อทางการจีนลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์ในจังหวัดสุรินทร์ของไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา สถานีโทรทัศน์ซีจีทีเอ็น (CGTN) ของจีนรายงานว่า เหตุปะทะที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ได้ทำให้กิจกรรมทางการค้าในจังหวัดสุรินทร์ที่อยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ยุติลงอย่างสิ้นเชิง และทำให้ชาวบ้านต้องไปหลบภัยในบังเกอร์ ทีมข่าวของซีจีทีเอ็นตระเวนสำรวจและบันทึกสภาพบ้านเมืองที่เงียบเหงาเมื่อวันเสาร์ และรายงานว่า ยังคงได้ยินเสียงระเบิดดังต่อเนื่อง จุดผ่านแดนที่ปกติเต็มไปด้วยผู้คนและรถบรรทุกสินค้าในช่วงสุดสัปดาห์ ขณะนี้กลายเป็นพื้นที่สีแดง ซึ่งหมายถึงพื้นที่เสี่ยงอันตราย พร้อมกับสัมภาษณ์ชาวบ้านที่หลบภัยในบังเกอร์แห่งหนึ่งว่า กินนอนในบังเกอร์มา 4 วัน 3 คืนแล้วนับจนถึงวันเสาร์ สื่อทางการจีนอ้างการเปิดเผยของนายวิรัตน์ เศรษฐวิพัฒนชัย ประธานหอการค้าจังหวัดสุรินทร์ว่า การค้าชายแดนไทย-กัมพูชาในจังหวัดนี้มีมูลค่าเดือนละ 300 ล้านบาท การค้าเหล่านี้หายไปตั้งแต่มีการปิดด่านเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม หลายคนยังชีพด้วยการค้าข้ามพรมแดน  จึงไม่มีงานและไม่มีรายได้.-814.-สำนักข่าวไทย  

Cambodia says it agrees with Trump's demands for immediate, unconditional ceasefire

กัมพูชาย้ำตกลงหยุดยิงและอ้างไทยยิงใส่หลายจุดเช้านี้

พนมเปญ 27 ก.ค.- รัฐบาลและกองทัพกัมพูชาแถลงย้ำเนื้อหาของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตเรื่องตกลงหยุดยิงตามที่ผู้นำสหรัฐเสนอ และได้อ้างว่าไทยยิงใส่กัมพูชาหลายจุดในเช้าวันนี้ โฆษกรัฐบาลกัมพูชากล่าวในการแถลงข่าวที่จัดขึ้นรายวัน นับตั้งแต่เกิดการปะทะกันบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาว่า นายฮุน มาเนตโพสต์ได้ประกาศชัดเจนในเฟซบุ๊กช่วงเช้าวันนี้ว่า กัมพูชาเห็นด้วยกับข้อเสนอของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐเรื่องทั้งสองประเทศหยุดยิงโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไข ขณะที่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชากล่าวในการแถลงข่าวเดียวกันว่า ช่วงเวลา 02-04.30 น.วันนี้ ทหารไทยได้ยิงปืนใหญ่ไปยังพื้นที่ของปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาเมือนควาย จากนั้นในช่วง 06.00 น.ทหารบกของไทยได้โจมตีที่ตั้งของภูเขาผี จังหวัดโพธิสัตว์ ด้านกองทัพไทยแถลงว่า กัมพูชาได้ยิงเข้ามาในหลายพื้นที่ รวมถึงพื้นที่ใกล้บ้านเรือนพลเรือน ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ของไทยเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า มีการยิงปืนใหญ่เข้ามาหลายลูก ทำให้บ้านเรือนเสียหายและปศุสัตว์ล้มตาย รอยเตอร์รายงานด้วยว่า การปะทะระหว่าง 2 ประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 13 ปี ทำให้ทั้งสองฝ่ายมีคนเสียชีวิตรวมแล้วมากกว่า 30 คน และต้องอพยพออกจากบ้านเรือนมากกว่า 130,000 คน.-814.-สำนักข่าวไทย

Hun Manet speaks with Trump

กัมพูชาพร้อมหยุดยิงหลัง “ทรัมป์“ กดดัน

พนมเปญ 27 ก.ค.- นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ขานรับข้อเสนอผู้นำสหรัฐพร้อมหยุดยิงทันทีโดยไม่มีเงื่อนไขกับไทย ด้านนักวิเคราะห์ชี้สหรัฐอาจถูกมองไม่ดี หากทั้ง 2 ประเทศไม่ได้ข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Hun Manet ว่า เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา เกี่ยวกับความขัดแย้งทางอาวุธในพื้นที่ชายแดนกัมพูชาและไทย นายทรัมป์ได้แสดงความประสงค์ที่จะไม่เห็นสงครามหรือการสู้รบที่จะส่งผลให้เกิดการเสียชีวิตและการบาดเจ็บจำนวนมากทั้งสองฝ่ายทั้งทางทหารและพลเรือน และต้องการให้มีการหยุดยิงและเกิดสันติภาพระหว่างสองประเทศโดยทันที นายกรัฐมนตรีกัมพูชาระบุว่า ได้แจ้งว่ากัมพูชาเห็นด้วยกับคำขอให้มีการหยุดยิงโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไขระหว่างกองทัพทั้งสอง และได้มอบหมายให้นายปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศ ดำเนินงานนี้ต่อไป เพื่อนำหลักการที่ตกลงกันไว้ไปปฏิบัติอย่างรวดเร็ว ซึ่งสามารถยุติการเสียชีวิตและการบาดเจ็บของทหารและพลเรือนทั้งสองฝ่าย ผู้นำกัมพูชาโพสต์ดังกล่าวหลังจากผู้นำสหรัฐโพสต์ผ่านสื่อออนไลน์ Truth Social ของตนเองว่า ได้โทรศัพท์สนทนากับผู้นำไทยและกัมพูชาเพื่อเรียกร้องให้ยุติการสู้รบ และบังเอิญว่าสหรัฐกำลังเจรจาการค้ากับทั้งสองประเทศนี้ ดังนั้นสหรัฐจะไม่ทำข้อตกลงกับประเทศใด หากทั้งสองฝ่ายกำลังสู้รบกันอยู่ จากนนั้นได้โพสต์เพิ่มเติมว่า ผู้นำของกัมพูชาและไทยได้ตกลงที่จะพบกันทันทีเพื่อหาข้อยุติการหยุดยิงโดยเร็ว ซึ่งเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น และสันติภาพอยู่ใกล้แค่เอื้อม เขาตั้งตารอที่จะสรุปข้อตกลงการค้ากับทั้งสองประเทศ อย่างไรก็ดี นายทรัมป์ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการเจรจาหยุดยิงที่เขาระบุว่าทั้งสองประเทศตกลงจะจัดขึ้น เช่นเดียวกับทำเนียบขาวยังไม่ออกมาตอบคำถามเกี่ยวกับกำหนดการและสถานที่สำหรับการเจรจา ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตไทยและสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาในกรุงวอชิงตัน ดีซี ยังไม่แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ นายทรัมป์เข้ามาแสดงบทบาทต่อสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทยกับกัมพูชา ก่อนที่มาตรการภาษีศุลกากรที่สหรัฐประกาศใช้กับทั้ง 2 ประเทศจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ […]

Trump says he is seeking a ceasefire between Thailand, Cambodia

“ทรัมป์” โยงเรื่องการค้ากับหยุดยิงไทย-กัมพูชา

เอดินบะระ 27 ก.ค.-  ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ พูดคุยกับผู้นำของทางการไทยและกัมพูชา โดยโยงเรื่องการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐกับเรื่องหยุดยิงของทั้ง 2 ประเทศ ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ในระหว่างการเยือนสกอตแลนด์เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โพสต์ในทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ไทยและกัมพูชา 3 โพสต์ติดต่อกัน โพสต์แรกระบุว่า ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรี มาเนตกัมพูชาและนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษานายกรัฐมนตรีของไทย เรื่องการหยุดยิงและยุติสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ สหรัฐซึ่งกำลังหารือทางการค้ากับทั้ง 2 ประเทศอยู่ในขณะนี้ไม่ต้องการทำข้อตกลงกับประเทศใดประเทศหนึ่งหากยังมีการสู้รบกันอยู่ กัมพูชาจะแสดงท่าทีเรื่องหยุดยิงหลังจากที่เขาได้คำตอบจากไทยในเรื่องนี้ นายทรัมป์ระบุด้วยว่า สถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาทำให้เขานึกถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างปากีสถานกับอินเดียที่ได้รับการยับยั้งเป็นผลสำเร็จ หลังจากนั้นราว 1 ชั่วโมง ประธานาธิบดีทรัมได้โพสต์ข้อความใหม่ว่า ได้สนทนากับรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ฝ่ายไทยต้องการหยุดยิงและสันติภาพเช่นเดียวกับกัมพูชา และหลังจากนั้นไม่นานผู้นำสหรัฐโพสต์ข้อความที่ 3 ว่า เพิ่งเสร็จสิ้นการสนทนากับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและแจ้งเรื่องที่ได้หารือกับทางการไทย ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการหยุดยิงและสันติภาพ และต้องการกลับมาเจรจาทางการค้ากับสหรัฐ โดยตกลงจะพบหารือและหาทางหยุดยิงโดยทันที ด้านนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซีย เปิดเผยกับสื่อที่เมืองปุตราจายาเมื่อวานนี้ว่า จะเดินหน้าผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งยังคงมีการยิงปะทะกันอยู่ เขาได้ขอให้รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซียประสานงานกับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและกัมพูชา และหากเป็นไปได้ เขาจะเข้าไปประสานงานด้วยตัวเองเพื่อหยุดยั้งการสู้รบ รอยเตอร์รายงานว่า กัมพูชาสนับสนุนข้อเสนอของนายอันวาร์ ส่วนไทยระบุว่า เห็นชอบในหลักการ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

รมว.ยธ.ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัย

26 ก.ค. – รมว.ยุติธรรม ลงพื้นที่ในนามรัฐบาล สั่งการทุกหน่วยช่วยเหลือประชาชนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เร่งฟื้นฟูร่างกาย-จิตใจ-ไม่อยากให้เกิดการสูญเสียเพิ่ม ขณะที่กองทัพภาคที่ 2 สั่งเฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดจากการสู้รบ บริเวณ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ อพยพประชาชนต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย

อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เสียงปืนใหญ่ดังตลอดวัน

อุบลราชธานี 26 ก.ค. – วันที่ 3 เหตุปะทะบริเวณ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ยังมีเสียงปืนใหญ่ดังตลอดทั้งวัน ขณะที่ช่วงค่ำมีฝนตก แยกไม่ออกระหว่างฟ้าร้องกับเสียงปืน ทางการขอให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องออกนอกพื้นทั้งหมดเพื่อความปลอดภัย .-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเผยมีผู้เสียชีวิต 13 ราย จากเหตุปะทะกับไทย

พนมเปญ – กัมพูชาแถลงวันนี้ว่า ทหาร 5 นาย และพลเรือน 8 คน เสียชีวิตจากการสู้รบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เข้าสู่วันที่สามในวันนี้ นางมาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา แถลงว่า มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 30 คน และผู้ที่ต้องพลัดถิ่นมากกว่า 130,000 คน จากการปะทะครั้งรุนแรงที่สุดระหว่างกัมพูชากับประเทศไทย ในรอบ 13 ปี ส่วนที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย ประธานกลุ่มอาเซียน กล่าวว่า เขาจะยังคงผลักดันข้อเสนอหยุดยิงต่อไป โดยกัมพูชาได้ให้การสนับสนุนแผนของนายอันวาร์ ขณะที่ประเทศไทยกล่าวว่าเห็นด้วยในหลักการ สำนักข่าวเบอร์นามา ของทางการมาเลเซีย รายงานว่า ขณะนี้ทั้งสองฝ่ายยังคงใช้อาวุธต่อกัน โดยนายอันวาร์ กล่าวว่า เขาขอให้รัฐมนตรีต่างประเทศของมาเลเซียประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศของประเทศที่เกี่ยวข้อง และหากเป็นไปได้ เขาจะติดต่อกับรัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งสองฝ่ายด้วยตนเอง อย่างน้อยก็เพื่อหยุดการปะทะกัน.-813.-สำนักข่าวไทย

รมว.ท่องเที่ยวฯ เยี่ยมให้กำลังใจผู้อพยพที่บุรีรัมย์

บุรีรัมย์ 26 ก.ค. – รมว.ท่องเที่ยวฯ เยี่ยมให้กำลังใจผู้อพยพจากเหตุปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา ที่ อ.บ้านกรวด และ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เตรียมคว่ำกัมพูชา ไม่ให้ร่วมแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจผู้อพยพจากเหตุการณ์ปะทะระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ในพื้นที่อำเภอบ้านกรวด และอำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ที่อาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ซึ่งมีทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ และกลุ่มเปราะบาง นายสรวงศ์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ครั้งนี้ในนามของกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ขอประณามต่อการกระทำของฝ่ายกัมพูชา รวมทั้งจะหารือกับประเทศสมาชิกซีเกมส์ 11 ประเทศ ร่วมบอยคอตไม่ให้กัมพูชาร่วมแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคมนี้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ลงพื้นที่ศรีสะเกษ ให้กำลังใจพี่น้องชายแดน-เร่งประสานช่วยเหลือใกล้ชิด

ศรีสะเกษ 26 ก.ค. – “อนุทิน” ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ให้กำลังใจพี่น้องชายแดน ขอบคุณทุกฝ่ายร่วมฝ่าวิกฤติ พร้อมเร่งประสานช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ตลอดทั้งวัน เพื่อให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมีเป้าหมายเพื่อรับฟังปัญหา เยี่ยมเยียนผู้ประสบภัย และเร่งรัดการประสานงานด้านความช่วยเหลือในทุกมิติ ภารกิจเริ่มขึ้นในเวลา 09.30 น. ที่วัดแห่งหนึ่ง ต.ไพรบึง อ.ไพรบึง โดยนายอนุทินได้พบปะพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่ สอบถามความเป็นอยู่ และให้กำลังใจแก่ชาวบ้านที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ตึงเครียดจากเหตุความไม่สงบ พร้อมยืนยันว่าประชาชนจะไม่ถูกทอดทิ้ง ทุกภาคส่วนจะอยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด จากนั้นเดินทางต่อไปยังวัดอีกแห่งหนึ่งใน ต.ไพรบึง เช่นกัน โดยระหว่างการพบปะชาวบ้าน นายอนุทิน กล่าวว่า ขอขอบคุณทุกคนที่เสียสละและร่วมแรงร่วมใจกันดูแลพี่น้องประชาชนอย่างดีที่สุด วันนี้สิ่งที่เราต้องทำคือเดินหน้าช่วยเหลือโดยไม่รีรอ พรรคภูมิใจไทยพร้อมเป็นสะพานเชื่อมประสานทุกหน่วยงาน เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ และฟื้นฟูชีวิตของประชาชนให้กลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายอนุทิน และคณะ มีกำหนดการเยี่ยมเยียนพื้นที่เสี่ยงภัยและจุดอพยพอีกหลายแห่งใน จ.ศรีสะเกษ ตลอดทั้งวัน พร้อมให้กำลังใจประชาชนทุกจุดที่เดินทางไปถึง โดยมีการพูดคุย รับฟังข้อเสนอแนะจากชาวบ้านในแต่ละชุมชน เพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการผลักดันนโยบายหรือมาตรการช่วยเหลือที่ตอบโจทย์ความต้องการอย่างแท้จริง.-319-สำนักข่าวไทย

ไทยชี้แจงสถานการณ์ชายแดนต่อยูเอ็นเอสซี

นิวยอร์ก, 26 ก.ค. – คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นเอสซี (UNSC) เปิดประชุมส่วนตัวเมื่อวานนี้ ที่สำนักงานใหญ่ในนครนิวยอร์ค ภายใต้หัวข้อวาระ “ภัยคุกคามต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ” นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูตและผู้แทนถาวรของประเทศไทยประจำสหประชาชาติ ได้แถลงชี้แจงสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างละเอียด โดยเน้นย้ำถึงการกระทำที่ยั่วยุของกัมพูชา และความจำเป็นที่ไทยต้องป้องกันตนเองตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ นายเชิดชาย เริ่มต้นด้วยการแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ต้องมากล่าวต่อที่ประชุมภายใต้สถานการณ์ที่ร้ายแรงที่สุด โดยระบุว่า การรุกรานที่ไม่ได้เกิดจากการยั่วยุ จากฝ่ายกัมพูชานั้น คุกคามอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และที่สำคัญที่สุดคือชีวิตพลเรือนผู้บริสุทธิ์ของประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่มุ่งมั่นในสันติภาพ เอกอัครราชทูตไทยเน้นย้ำว่า ประเทศไทยถือว่ากัมพูชาเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดและเป็นสมาชิกในครอบครัวอาเซียนเสมอมา ไทยได้ให้การสนับสนุนกระบวนการสันติภาพ การสร้างชาติ และการพัฒนาของกัมพูชามาโดยตลอดนับตั้งแต่การได้รับเอกราชในปี 2496 แต่ก็ยอมรับว่าในฐานะเพื่อนบ้านย่อมมีความท้าทายและความไม่เห็นด้วย ซึ่งควรแก้ไขด้วยการเจรจา ไม่ใช่ความรุนแรง นายเชิดชาย กล่าวถึงเหตุการณ์ปะทะเล็กน้อยเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม โดยระบุว่ากองกำลังไทยกำลังลาดตระเวนตามปกติในเขตแดนไทย และถูกบังคับให้ต้องป้องกันตนเองจากการยิงที่ไม่ได้มาจากการยั่วยุ จากฝ่ายกัมพูชา ซึ่งไทยเชื่อว่าการแก้ไขปัญหาผ่านช่องทางทวิภาคีเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุด และได้มีการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ที่กรุงพนมเปญแล้ว อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ได้บานปลายขึ้นเมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ทหารของกองทัพไทยเหยียบทุ่นระเบิดในขณะที่ลาดตระเวนตามปกติในเขตแดนไทย […]

1 4 5 6 7 8 71
...