เตรียมขนย้ายเสือ 16 ตัว ออกนอกพื้นที่ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ 26 ก.ค. – สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจุฬาภรณ์ เตรียมขนย้ายเสือ 16 ตัว ออกนอกพื้นที่ หวั่นเหตุหลุดกรงเป็นอันตรายต่อประชาชน หลังสถานการณ์ชายแดนทวีความรุนแรง นายสาธิต พันธุมาศ หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจุฬาภรณ์ ต.ปรือใหญ่ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานีฯ อยู่ระหว่างเตรียมแผนเคลื่อนย้ายเสือโคร่ง 15 ตัว และเสือดาว 1 ตัว รวม 16 ตัว ออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วน หลังสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่ใกล้เคียงทวีความตึงเครียด และอาจเป็นอันตรายหากสัตว์หลุดจากกรง สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจุฬาภรณ์ ดูแลสัตว์ป่ากว่า 500 ตัว บนพื้นที่กว่า 6,000 ไร่ ครอบคลุมเขตรอยต่อของ อ.ภูสิงห์ ขุขันธ์ และขุนหาญ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพาะขยายพันธุ์สัตว์ป่าก่อนคืนสู่ธรรมชาติ ปัจจุบันสัตว์ในความดูแลแบ่งออกเป็นหลายโซน อาทิ โซนสัตว์กีบ เช่น เก้ง กวาง ละมั่ง, โซนสัตว์ปีก เช่น เหยี่ยว อินทรี และโซนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม […]

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศแสดงจุดยืนของไทย

กรุงเทพ 26 ก.ค. – นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอัลจาซีรา (Al Jazeera) ชี้แจงสถานการณ์ความจริงที่เกิดขึ้น ว่า ”การปะทะกันบริเวณชายแดนรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่กำลังให้สัมภาษณ์อยู่นี้ มีรายงานว่าฝ่ายไทยมีผู้เสียชีวิตแล้ว 14 คน เป็นพลเรือน 13 คน ในจำนวนนี้ เป็นเด็ก 2 คน และทหารอีก 1 นาย“ ”แม้ดูเหมือนว่า สถานการณ์เช้านี้ จะดีขึ้นกว่าเมื้อวาน แต่ไทยก็ต้องปกป้องอธิปไตยในเขตแดน และประชาชนของตน“ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศตอบ : “ ไทยได้ติดต่อไปยังกัมพูชาแล้ว นับตั้งแต่เกิดเหตุตึงเครียดขึ้น เรายืนยันมาตลอดว่าไทยต้องการหาทางออกให้สถานการณ์นี้ด้วยสันติวิธี ผ่านกลไกระดับทวิภาคีซึ่งมีหลากหลายทางให้นำมาใช้แก้ปัญหา แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า กัมพูชาไม่ตอบสนองแนวคิดนี้ในเชิงบวก ในทางตรงกันข้าม เมื่อวานนี้กัมพูชากลับยิงใส่กองกำลังของไทยทำให้เกิดความสูญเสียอย่างที่เห็น

จีนยืนยันไม่เคยส่งอาวุธให้กัมพูชาใช้โจมตีไทย

ปักกิ่ง 26 ก.ค. – กองทัพจีนปฏิเสธว่าไม่เคยสนับสนุนอาวุธให้กัมพูชาใช้โจมตีไทย แต่อาวุธที่กัมพูชามีอยู่เป็นผลจากความร่วมมือในอดีต การยืนยันของจีนมีขึ้นในระหว่างที่ผู้ช่วยทูตทหารไทยประจำกรุงปักกิ่ง เข้าหารือด่วนเมื่อวานนี้ และยื่นเอกสารชี้แจงเหตุปะทะชายแดน เพจของสำนักงานผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารบก สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง โพสต์ข้อความระบุว่า “นับตั้งแต่เกิดสถานการณ์ความตึงเครียดขึ้นบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จีนไม่เคยสนับสนุนยุทโธปกรณ์ใดๆ ให้กับกองทัพกัมพูชาเพื่อให้มาใช้โจมตีไทย ยุทโธปกรณ์จีนที่มีประจำการในกองทัพกัมพูชาล้วนเป็นผลมาจากการดำเนินงานความร่วมมือในอดีตทั้งสิ้น อย่าหลงเชื่อข่าวปลอมที่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้ไม่หวังดี” เมื่อวันศุกร์ ที่ 25 กรกฎาคม 2568 เวลา 14.45 น. พันเอกศิวัตม์ รัตนอนันต์ ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารบก และรักษาราชการผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร ประจำสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง ได้เข้าหารือข้อราชการเพื่อประสานงานเรื่องสำคัญเร่งด่วนกับสำนักงานกิจการความร่วมมือทางทหารระหว่างประเทศ (Office of International Military Cooperation) กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ณ ห้องรับรอง อาคารสำนักงานกิจการความร่วมมือทางทหารระหว่างประเทศฯ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมี พันเอกพิเศษเซิ่ง เวย รองผู้อำนวยการกองเอเชีย สำนักงานกิจการความร่วมมือทางทหารระหว่างประเทศฯ เป็นผู้แทนในการหารือ โดยผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารบก และรักษาราชการ ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร […]

กัมพูชาเรียกร้องที่ประชุมยูเอ็นให้ไทยหยุดยิงทันที

นิวยอร์ก 26 ก.ค. – กัมพูชาเรียกร้องต่อที่ประชุมฉุกเฉินคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ขอให้ไทยหยุดยิงทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข นายเจีย แก้ว เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรของกัมพูชาประจำสหประชาชาติ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวภายหลังการประชุมฉุกเฉินแบบปิดของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นเอสซี (UNSC) ที่นครนิวยอร์ก วานนี้ว่ากัมพูชาเรียกร้องให้มีการหยุดยิงทันทีกับฝ่ายไทยอย่างไม่มีเงื่อนไข พร้อมกับเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศสนับสนุนการแก้ไขข้อขัดแย้งด้วยสันติวิธี และบอกด้วยว่าสหประชาชาติ เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างถึงที่สุด ซึ่งนายแก้วบอกว่ากัมพูชาเองก็เรียกร้องในสิ่งนี้เช่นเดียวกัน ขณะที่เว็บไซต์บีบีซี รายงานว่า กัมพูชาเรียกร้องให้หยุดยิงทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข แต่ทางฝ่ายไทยยังไม่มีการแสดงความเห็นต่อข้อเสนอหยุดยิงดังกล่าว หลังจากก่อนหน้านั้นไทยได้ประกาศกฎอัยการศึกใน 8 พื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ไปเมื่อวานนี้.-816.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ให้กำลังใจผู้ประสบภัยสู้รบ ยกย่องหัวใจคนไทย “ไม่ทิ้งกัน”

บุรีรัมย์ 25 ก.ค. – “อนุทิน” ลงพื้นที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว จ.บุรีรัมย์ ให้กำลังใจผู้ประสบภัยจากเหตุปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา ยกย่องหัวใจคนไทย “ไม่ทิ้งกัน” นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ลงพื้นที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว จ.บุรีรัมย์ เพื่อรองรับผู้ประสบภัยจากเหตุปะทะ โดยได้พบปะและให้กำลังใจประชาชนที่อพยพมาอยู่ในศูนย์พักพิง ตลอดจนเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครที่เข้ามาช่วยเหลือ พร้อมกล่าวว่า ขอชื่นชม “หัวใจของคนไทย” ที่ยังคงยืนหยัดเคียงข้างกันในยามวิกฤติ ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ หน่วยงานความมั่นคง บุคลากรสาธารณสุข อาสาสมัคร และภาคประชาชน ที่ร่วมแรงร่วมใจกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย “นี่คือพลังที่ยิ่งใหญ่ของความเป็นไทย เราอาจจะเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝัน แต่เราไม่ทิ้งกัน ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่เสียสละเพื่อดูแลผู้ประสบภัย และขอยืนเคียงข้างพี่น้องคนไทยทุกคนในช่วงเวลานี้” นายอนุทิน กล่าว.-319-สำนักข่าวไทย

จรวด BM-21 ตกในพื้นที่สุรินทร์ 6 ลูก เร่งอพยพคนเพิ่ม

สุรินทร์ 25 ก.ค. – กระสุนของฝั่งกัมพูชามาตกไกลกว่าเหตุปะทะปี 2554 ตามที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ ล่าสุดมีจรวด BM-21 จำนวน 6 ลูก ตกในพื้นที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เตรียมอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัยกว่า .-สำนักข่าวไทย

วัดแห่งหนึ่ง อ.กันทรลักษ์ เตรียมชั้นใต้ดินอุโบสถ รองรับเหตุฉุกเฉิน

ศรีสะเกษ 25 ก.ค. – พระสงฆ์วัดแห่งหนึ่งใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พาชมชั้นใต้ดินใต้พระอุโบสถ ซึ่งเตรียมไว้รองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน ยอมรับเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะนี้รุนแรงกว่าเมื่อครั้งปี 54 .-สำนักข่าวไทย

สำรวจความเสียหายระเบิดตกใส่ อ.น้ำยืน บ้านพัง 3 หลัง

อุบลราชธานี 25 ก.ค. – สำรวจความเสียหาย อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี หลังมีระเบิดตกลงมาในพื้นที่ พบบ้านเรือนเสียหาย 3 หลัง แต่ไม่มีใครได้รับอันตราย เนื่องจากประชาชนอพยพไปยังที่ปลอดภัยหมดแล้ว ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่ อ.น้ำยืน หลังจากมีระเบิดตกลงมาทำลายบ้านเรือนประชาชนเสียหาย 3 หลัง โดยบ้านทั้ง 3 หลังไม่มีประชาชนอาศัย เนื่องจากอพยพไปยังที่ปลอดภัยทั้งหมดแล้ว สภาพบ้านเสียหายหมด โดยชาวบ้านใกล้เคียงให้ข้อมูลว่าตั้งแต่เวลา 04.30 น.ที่ผ่านมา (25 ก.ค.) เริ่มมีเสียงปืนใหญ่ดังสนั่น จากนั้นมีระเบิดตกมายังบ้านใกล้เคียง โชคดีที่อพยพออกไปตั้งแต่เมื่อวาน จากนั้นเดินทางสำรวจในเมืองน้ำยืน พบว่าชาวบ้านกำลังอพยพไปยังที่ปลอดภัยตามแผนของทางจังหวัด เพิ่มเติมจากเมื่อวาน โดยเจ้าหน้าที่ได้อำนวยความสะดวก ส่วนตามถนน เขตเศรษฐกิจของอำเภอ ปิดเงียบทั้งหมด ทั้งร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร สถานีบริการน้ำมัน ส่วนวัดที่เป็นที่พึ่งทางจิตใจ ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยเฉพาะการบิณฑบาต เนื่องจากไม่มีประชาชนใส่บาตร และยังต้องอยู่ดูแลวัด รวมถึงเป็นขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ ด้านผู้นำชุมชนให้ความมั่นใจแก่เพื่อนบ้านที่อพยพ จะช่วยดูแล ป้องกัน ไม่มีคนฉวยโอกาสสร้างความเดือดร้อนให้ชุมชน โดยเฉพาะขโมย ส่วนผู้อพยพจาก อ.น้ำยืน ขณะนี้ย้ายไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย […]

“ปณิธาน” หวังผลประชุม UNSC คืนนี้ เป็นบวกต่อไทย

25 ก.ค.- นักวิชาการ หวังการแจงกติกาสากลที่ไทยยึดถือปฏิบัติ จะส่งผลประชุม UNSC คืนนี้ เป็นบวกต่อไทย กรณี นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งจดหมายถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) เข้าแทรกแซงและจัดการประชุมอย่างเร่งด่วนเพื่อหยุดยั้งการรุกรานของไทยต่ออธิปไตยของกัมพูชา โดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เตรียมจัดการประชุมฉุกเฉินแบบปิดในคืนวันนี้ (25 ก.ค.) เพื่อตรวจสอบและหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ มองว่า สถานการณ์น่าจะดีขึ้นสำหรับไทย เพราะกระทรวงการต่างประเทศ ได้เข้าให้ข้อมูลกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติแล้ว คณะมนตรีความมั่นคง ถือว่ามีความสำคัญที่สุด ในกลไกของสหประชาชาติ และเป็นองคค์กร ที่สามารถประกอบกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ และส่งเข้าไปเพื่อแทรกแซงประเทศสมาชิกตามหลักมนุษยธรรมได้ หากสามารถลงมติได้ เพราะฉะนั้นการประชุมในวันนี้ ถือว่ามีความสำคัญ เพราะคณะมนตรี ได้แทรกวาระความขัดแย้งไทย-กัมพูชาเป็นวาระเร่งด่วน สำหรับข้อมูลที่จะทำให้ไทยเป็นต่อในเวทีคืนนี้ ดร.ปณิธาน กล่าวว่า สำหรับผลของ UNSC ออกได้ 2 ทาง อาทิ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่กังวลคือ คณะมนตรีความมั่นคง จะให้ปัญหาทั้งหมดกลับไปที่ศาลโลก ซึ่งจะถือว่าเข้าทางกัมพูชา เพราะบริวารเก่าของกัมพูชา คงทิ้งกัมพูชายาก […]

สหรัฐเตือนพลเมืองเลี่ยงการเดินทางใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา

25 ก.ค. – กระทรวงต่างประเทศสหรัฐได้ประกาศเตือนพลเมืองสหรัฐผ่านทางแพลตฟอร์มเอ็กซ์ในวันนี้ ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางในรัศมี 50 กิโลเมตร จากชายแดนไทย-กัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งทางทหารในบริเวณดังกล่าว เว็บไซต์สถานทูตสหรัฐประจำกรุงเทพฯ ยังแจ้งเตือนพลเมืองอเมริกันที่อาศัยอยู่หรือเดินทางในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการปะทะกันของทั้่งสองประเทศ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานความมั่นคงของไทย และติดต่อสอบถามข้อมูลล่าสุดจากเจ้าหน้าที่รัฐบาลในท้องถิ่น นอกจากนั้นยังแจ้งด้วยว่า ในวันนี้รัฐบาลไทยได้สั่งปิดจุดผ่านแดนในจังหวัดจันทบุรี และตราด ทั้งหมดอย่างเด็ดขาด ทั้งทางบกและทางทะเล ขณะเดียวกันกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศปิดโรงพยาบาล 11 แห่งในพื้นที่ชายแดนเป็นการชั่วคราวทั้งหมดหรือบางส่วน และกระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศปิดโรงเรียนชั่วคราว 751 แห่ง ในจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สุรินทร์ สระแก้ว และจันทบุรี.-813.-สำนักข่าวไทย

รมว. ตปท. จีนระบุพร้อมช่วยคลี่คลายปัญหาไทย-กัมพูชา

ปักกิ่ง 25 ก.ค. – นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน กล่าววันนี้ว่า จีนพร้อมที่จะมีบทบาทที่สร้างสรรค์และยึดมั่นในจุดยืนที่ยุติธรรมและเที่ยงตรง เพื่อช่วยลดความตึงเครียดตามแนวชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทย กระทรวงการต่างประเทศจีนระบุในแถลงการณ์ว่า นายหวัง อี้ กล่าวในการระหว่างการประชุมกับนายเกา กิม ฮวน (Kao Kim Hourn) เลขาธิการอาเซียน ซึ่งเป็นชาวกัมพูชา ที่กรุงปักกิ่งว่า การปะทะกันที่ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นเรื่องที่ “น่าเสียใจและน่ากังวลอย่างยิ่ง” นายหวังกล่าวด้วยว่า ต้นตอของปัญหานี้เป้นสิ่งที่เป็นมรดกตกทอดที่ตกค้างอยู่จากสมัยที่ชาติตะวันตกเข้ามาเป็นเจ้าอาณานิคมทิ้งไว้มาตั้งแต่ในอดีต และตอนนี้จำเป็นต้องเผชิญหน้าอย่างใจเย็นและจัดการอย่างเหมาะสม.-813.-สำนักข่าวไทย

องค์กรสื่อห่วงความปลอดภัยประชาชนและสื่อมวลชน

กรุงเทพ 25 ก.ค. – จากสถานการณ์การสู้รบที่ปะทุขึ้นในหลายพื้นที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลให้มีประชาชนชาวไทยได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตรวมถึงความเสียหายต่อทรัพย์สินพลเรือนในหลายพื้นที่ สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทย ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์แสดงความห่วงใยอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ดังกล่าว แถลงการณ์ระบุถึงความกังวลต่อความปลอดภัยของประชาชน และไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสียไปมากกว่านี้ นอกจากนี้ ยังแสดงความห่วงใยต่อสวัสดิภาพของเพื่อนสื่อมวลชนที่กำลังปฏิบัติหน้าที่รายงานข่าวในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเน้นย้ำให้สื่อมวลชนใช้ความระมัดระวังสูงสุด ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ และยึดแนวปฏิบัติของสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติว่าด้วยการนำเสนอข่าวสงครามหรือการสู้รบระหว่างประเทศ พ.ศ. 2565 อย่างเคร่งครัด หลักปฏิบัติสำคัญสำหรับสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวสถานการณ์สู้รบ องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนได้สรุปแนวปฏิบัติสำคัญ 7 ข้อ เพื่อให้สื่อมวลชนใช้เป็นหลักในการรายงานข่าวสถานการณ์การสู้รบ ดังนี้: นำเสนอตามข้อเท็จจริง: ต้องนำเสนอข่าวตามข้อเท็จจริงเท่านั้น หลีกเลี่ยงการนำเสนอข้อมูลหรือความคิดเห็นที่อาจนำไปสู่ความเข้าใจผิด ความเกลียดชัง และอคติ ระมัดระวังภาพและคลิปความรุนแรง: ควรระมัดระวังการนำเสนอภาพหรือคลิปความสูญเสียที่สยดสยองหรือหวาดเสียว โดยคำนึงถึงประโยชน์สาธารณะและเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ หลีกเลี่ยงการใช้ความสูญเสียในสงครามเพื่อกระตุ้นยอดขายหรือยอดผู้ชม ระบุแหล่งที่มาและบริบทชัดเจน: ต้องระบุแหล่งที่มาของภาพ คลิปวิดีโอ หรือข้อมูลจากโซเชียลมีเดียให้ชัดเจนก่อนนำเสนอ เพื่อป้องกันการใช้ข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องหรือคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง กรณีใช้แฟ้มภาพข่าว ควรกำหนดวันที่และบริบทให้ชัดเจน ไม่เปิดเผยข้อมูลทางยุทธศาสตร์: ห้ามนำเสนอข่าวหรือภาพข่าวที่เปิดเผยข้อมูลรายละเอียดทางยุทธศาสตร์หรือยุทธวิธี ซึ่งอาจกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ยึดหลักมนุษยธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ: ควรเสนอข่าวโดยให้ความสำคัญต่อหลักมนุษยธรรม สิทธิมนุษยชน และกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยกฎระเบียบสงคราม (Rules of war) เช่น การใช้กำลังที่เหมาะสม การหลีกเลี่ยงความสูญเสียของพลเรือน […]

1 5 6 7 8 9 71
...