ญี่ปุ่นเพิ่มเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นร้อยละ 46

โตเกียว 22 เม.ย. – ญี่ปุ่นประกาศเพิ่มเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นร้อยละ 46 ภายในปี 2573 เพื่อตอบสนองต่อแรงกดดันจากสหรัฐ บริษัทธุรกิจญี่ปุ่น และนักสิ่งแวดล้อมที่มองว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ร้อยละ 26 เป็นปริมาณที่น้อยเกินไป นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ ของญี่ปุ่นประกาศเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนครั้งใหม่เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 46 ภายในปี 2573 เมื่อเทียบกับปี 2556 เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะเริ่มการประชุมเสมือนจริงในวาระการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเป็นเจ้าภาพ ขณะนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณานโยบายด้านพลังงานของปีนี้ และระบุว่าจะตั้งเป้าลดการใช้เชื้อเพลิงถ่านหินที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนในกระบวนการผลิตไฟฟ้าแบบผสม แต่จนถึงขณะนี้ญี่ปุ่นยังคงสนับสนุนการใช้ถ่านหินอยู่ เนื่องจากเริ่มสร้างเตาปฏิกรณ์ได้ค่อนข้างช้า หลังประสบเหตุภัยพิบัตินิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิชิจนต้องปิดตัวลง ทั้งนี้ สหรัฐกำลังพยายามกอบกู้ความน่าเชื่อถือในการรับมือปัญหาโลกร้อน หลังจากที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐได้ทำลายฉันทามติระหว่างประเทศในการลดการปล่อยมลพิษ ก่อนหน้านี้ แหล่งข่าวใกล้ชิดการเดินทางเยือนสหรัฐของนายซูงะเมื่อสัปดาห์ก่อนระบุว่า ญี่ปุ่นตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากรัฐบาลของประธานาธิบดีไบเดนที่ต้องการให้ญี่ปุ่นตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนมากขึ้นอีก ขณะที่เมื่อปลายปีที่แล้ว นายซูงะได้ประกาศตั้งเป้ามุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน หรือ การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเท่ากับศูนย์ ภายในปี 2593 ซึ่งทำให้ญี่ปุ่นอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับประเทศอื่น ๆ ทั้งนี้ การปล่อยก๊าซคาร์บอนและมลพิษอื่น ๆ เป็นศูนย์ภายในปี 2593 จะทำให้อุณหภูมิทั่วโลกเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับระดับ 1.5 องศาเซลเซียสได้มากที่สุด.-สำนักข่าวไทย

นายกฯญี่ปุ่นจะเป็นผู้นำต่างชาติคนแรกที่พบไบเดน

โตเกียว 15 เม.ย.- นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะของญี่ปุ่นจะเดินทางไปสหรัฐในวันนี้ และจะเป็นผู้นำต่างชาติคนแรกที่เข้าพบประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ คาดว่าความกังวลเรื่องจีนจะเป็นเรื่องหลักของการหารือ การเยือนของนายซูงะมีขึ้นหลังจากนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศและ พล.อ.ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐเยือนญี่ปุ่น และหลังจากผู้นำ 4 ชาติในกลุ่มควอด (Quad) ประกอบด้วยญี่ปุ่น สหรัฐ ออสเตรเลียและอินเดียประชุมสุดยอดออนไลน์เมื่อเดือนมีนาคม นายคุนิฮิโกะ มิยาเกะ ประธานสถาบันนโยบายต่างประเทศของญี่ปุ่นมองว่า การเยือนสหรัฐเป็นการส่งสัญญาณว่า นโยบายการทูตของสหรัฐให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกกับเอเชียตะวันออก เพราะสหรัฐมีความกังวลเช่นเดียวกับญี่ปุ่นเรื่องสภาพแวดล้อมทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาคนี้มีความเปลี่ยนแปลงอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เอเอฟพีคาดว่า แถลงการณ์ร่วมของนายกรัฐมนตรีซูงะกับประธานาธิบดีไบเดนจะย้ำเรื่องหมู่เกาะในทะเลจีนตะวันออกที่ญี่ปุ่นเรียกว่าเซ็นกากุและจีนเรียกว่าเตียวหยู ได้รับความคุ้มครองตามสนธิสัญญาความมั่นคงญี่ปุ่น-สหรัฐ และอาจแสดงความกังวลเรื่องสิทธิมนุษยชนในฮ่องกงและเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ในจีน นายเคียวจิ ยานางิซาวะ ประธานสถาบันภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศญี่ปุ่นมองว่า ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีนจะมีผลกระทบต่อญี่ปุ่นในฐานะประเทศเพื่อนบ้านจีน ทั้งในแง่ความมั่นคงแห่งชาติและแง่เศรษฐกิจ ญี่ปุ่นจึงต้องใคร่ครวญให้ดีว่าจะไกล่เกลี่ยสหรัฐและจีนอย่างไร ด้านนายโรเบิร์ต ดูจาร์ริก ผู้เชี่ยวชาญด้านเอเชียตะวันออก มหาวิทยาลัยเทมเปิล วิทยาเขตญี่ปุ่นเชื่อว่า ญี่ปุ่นจะไม่สนับสนุนให้ลงโทษจีนทางเศรษฐกิจเพราะเรื่องละเมิดสิทธิมนุษยชน หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์รายงานว่า สหรัฐต้องการแถลงการณ์ร่วมกับญี่ปุ่นพูดถึงไต้หวันด้วย ซึ่งจะเป็นครั้งแรกนับจากปี 2512 ขณะที่นายกรัฐมนตรีซูงะไม่พูดถึงจีนในบทความที่เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล โดยระบุเพียงว่า เป็นการเยือนเพื่อแสดงให้เห็นว่าทั้งสองประเทศมีความเป็นผู้นำไปสู่การสร้างภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง เอเอฟพีมองว่า การเยือนครั้งนี้เป็นโอกาสให้นายซูงะเรียกคะแนนนิยมในประเทศที่ตกต่ำเพราะเรื่องไม่สามารถควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 คาดว่าเขาจะชวนไบเดนมาร่วมชมการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อนโตเกียวในกลางปีนี้ด้วย.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ญี่ปุ่นจะหารือกับ “ไบเดน” ที่สหรัฐ 16 เม.ย. นี้

โตเกียว 2 เม.ย. – นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ ของญี่ปุ่นจะเจรจาแบบตัวต่อตัวกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐที่กรุงวอชิงตันในวันที่ 16 เมษายนนี้ สื่อท้องถิ่นของญี่ปุ่นเคยรายงานว่า นายซูงะจะเดินทางไปเจรจาดังกล่าวในสัปดาห์หน้า แต่นายคัตสึโนบุ คาโต หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นเคยเตรียมจัดงานดังกล่าวในช่วงต้นเดือนจริง แต่ได้ตัดสินใจในขั้นสุดท้ายว่าจะจัดประชุมในวันที่ 16 เมษายนแทน เพื่อให้รัฐบาลมีเวลาเตรียมความพร้อมในการสร้างความมั่นใจว่า การเดินทางเยือนสหรัฐของนายกรัฐมนตรีซูงะจะประสบความสำเร็จ เขายังระบุด้วยว่า การเยือนสหรัฐในครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้ญี่ปุ่นกับสหรัฐได้หารือเกี่ยวกับการสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น รวมถึงการพูดคุยในประเด็นต่าง ๆ ตั้งแต่เรื่องการรับมือโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ไปจนถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ ในวาระการประชุมอาจมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับจีนและเกาหลีเหนือรวมอยู่ด้วย การประกาศกำหนดการเดินทางเยือนสหรัฐของนายซูงะมีขึ้นในขณะที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจกับบทบาทของจีนในภูมิภาค ข้อกล่าวหาบังคับใช้แรงงานชนกลุ่มน้อยอุยกูร์ในเขตปกครองพิเศษซินเจียงอุยกูร์ รวมถึงการปราบปรามเสรีภาพในฮ่องกง ขณะที่เกาหลีเหนือได้ทดสอบยิงขีปนาวุธเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการยั่วยุครั้งสำคัญครั้งแรกหลังจากที่ประธานาธิบดีไบเดนเข้ารับตำแหน่ง.-สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่นว่าการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือคุกคามความสงบ

ญี่ปุ่นระบุว่า การที่เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธทิ้งตัว 2 ลูกไปตกในทะเลใกล้ญี่ปุ่นถือเป็นการเพิ่มความตึงเครียดก่อนจัดการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิก และสร้างความกดดันให้แก่รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ

“ซูงะ” ฉีดวัคซีนโควิดก่อนเข้าพบ “ไบเดน” เดือนหน้า

นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ ของญี่ปุ่นเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โดสแรกในวันนี้ เพื่อเตรียมตัวก่อนเข้าพบประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐในเดือนหน้า ซึ่งถือเป็นเจ้าหน้าที่รัฐบาลคนแรกของญี่ปุ่นที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิดอย่างเป็นทางการ

“ซูงะ” ยืนยันฉีดวัคซีนโควิดให้ชาวญี่ปุ่นทุกคน

โตเกียว 8 ก.พ. – นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ ของญี่ปุ่น ย้ำชัดว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้ประชาชนทุกคน เนื่องจากวัคซีนเป็นปัจจัยสำคัญของการควบคุมการระบาด นายซูงะ กล่าวต่อคณะกรรมการในสภาผู้แทนราษฎรว่า เขาตระหนักดีในเรื่องที่มีคนมองว่า ญี่ปุ่นอนุมัติวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ล่าช้ากว่าหลายประเทศตะวันตก ขอชี้แจงว่า ญี่ปุ่นมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมน้อยกว่าประเทศตะวันตกมาก นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้การทดลองทางคลินิกจำเป็นต้องใช้เวลาอีกสักระยะ นอกจากนี้ วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อาจมีประสิทธิภาพแตกต่างกันในประชากรของแต่ละประเทศ การทดลองทางคลินิกกับชาวญี่ปุ่นจึงมีความจำเป็น ส่วนขั้นตอนอนุมัติวัคซีนที่ใช้เวลานาน เป็นผลมาจากการที่กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น ต้องการพิจารณาให้แน่ใจว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพและปลอดภัยจริง ๆ ขณะเดียวกัน นายโคโนะ ทาโร รัฐมนตรีกำกับดูแลด้านการฉีดวัคซีนของญี่ปุ่น เผยว่า รัฐบาลอาจเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์ ให้แก่กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูงก่อนในช่วงกลางเดือนนี้ และตามมาด้วยกลุ่มผู้สูงวัย ในเดือนเมษายน ขณะนี้ญี่ปุ่นมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 403,400 คน และผู้เสียชีวิตราว 6,330 คน. -สำนักข่าวไทย

คาดญี่ปุ่นอาจขยายเวลาใช้ภาวะฉุกเฉินสกัดโควิดต่อ

โตเกียว 1 ก.พ. – สื่อญี่ปุ่นคาดการณ์ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นอาจขยายระยะเวลาใช้ประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในกรุงโตเกียวและพื้นที่อื่น ๆ ในสัปดาห์นี้ เนื่องจากโรงพยาบาลหลายแห่งยังคงเผชิญกับสภาวะตึงตัว บรรษัทกระจายเสียงญี่ปุ่น (เอ็นเอชเค) รายงานว่า แม้นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ ของญี่ปุ่นได้ประกาศใช้มาตรการมากมายเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอก 3 เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นยังคงมุ่งมั่นที่จะจัดการแข่งขันโอลิมปิกโตเกียวตามกำหนดที่วางไว้ในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ แต่คะแนนความนิยมของรัฐบาลกลับลดลง เนื่องจากชาวญี่ปุ่นไม่พอใจกับมาตรการรับมือการระบาดของโรคโควิด-19 ที่นักวิเคราะห์หลายรายมองว่ามีความล่าช้าและไม่สอดคล้องกัน เอ็นเอชเคยังคาดการณ์ว่า วันนี้สภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่นจะผ่านร่างกฎหมายแก้ไขกฎหมายควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19  เพื่อให้วุฒิสภาผ่านความเห็นชอบในวันพุธ ร่างกฎหมายดังกล่าวจะใช้มาตรการที่เข้มงวดขึ้นและอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นปรับเงินผู้ทำผิดกฎหมาย เอ็นเอชเคคาดการณ์ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นอาจพิจารณายกเลิกประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ที่มีประชากรน้อย เช่น จังหวัดโตชิงิในภูมิภาคคันโตค่อนไปทางเหนือของกรุงโตเกียว ซึ่งพบผู้ป่วยติดเชื้อลดลงแล้ว ด้านหนังสือพิมพ์นิกเคอิของญี่ปุ่นเผยว่า ผลสำรวจความเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามกว่าร้อยละ 90 เห็นด้วยกับการขยายระยะเวลาของประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ที่ยังมีผลบังคับใช้อยู่ ขณะนี้ ญี่ปุ่นมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 390,600 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 5,760 คน ขณะที่เมื่อวานนี้กรุงโตเกียวพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 633 คน ซึ่งทำสถิติต่ำกว่า 1,000 คนติดต่อกันเป็นวันที่สามแล้ว. -สำนักข่าวไทย

นายกฯญี่ปุ่นคะแนนนิยมร่วง คนไม่พอใจรับมือโควิด

นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ ของญี่ปุ่นเผชิญแรงกดดันครั้งใหม่เรื่องการรับมือกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 คะแนนนิยมล่าสุดลดลงเพราะคนส่วนใหญ่มองว่า รัฐบาลล่าช้าในการตอบสนองต่อการระบาดระลอกใหม่

ผู้นำญี่ปุ่นยันตั้งใจจัดโอลิมปิกโตเกียวปีนี้

โตเกียว 22 ม.ค. – นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ ของญี่ปุ่นกล่าวยืนยันวันนี้ว่า เขาตั้งใจมุ่งมั่นที่จะจัดการแข่งขันโอลิมปิกโตเกียวในปีนี้ ขณะที่คณะผู้จัดงานปัดรายงานสื่ออังกฤษอ้างแหล่งข่าวรัฐบาลญี่ปุ่นที่ระบุว่าการยกเลิกจัดโอลิมปิกเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ นายกรัฐมนตรีซูงะกล่าวว่า เขาตั้งใจที่จะจัดการแข่งขันโอลิมปิกโตเกียวภายใต้ความปลอดภัยและความมั่นคงเพื่อเป็นเครื่องพิสูจน์ว่ามนุษยชาติจะเอาชนะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ได้ ผู้นำญี่ปุ่นได้กล่าวเน้นย้ำถึงเจตนารมณ์ดังกล่าวหลังจากที่หนังสือพิมพ์เดอะไทมส์ของอังกฤษรายงานอ้างแหล่งข่าวไม่เผยนามในรัฐบาลญี่ปุ่นที่ระบุว่า ญี่ปุ่นได้เปลี่ยนเป้าหมายใหม่ไปเป็นเจ้าภาพจัดโอลิมปิกในปี 2575 ในขณะที่คณะผู้จัดงานโอลิมปิก 2020 ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับรายงานข่าวดังกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีซูงะได้แสดงเจตนารมณ์ในการจัดการแข่งขันโอลิมปิกโตเกียวไว้อย่างชัดเจน และรัฐบาลญี่ปุ่นก็เป็นผู้นำในการจัดประชุมประสานงานด้านมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อให้สามารถจัดงานดังกล่าวได้ตามกำหนดหลังจากเลื่อนมาจากเมื่อปีที่แล้วเนื่องจากปัญหาโควิด และระบุเพิ่มเติมว่า พันธมิตรด้านการจัดส่งทั้งหมดล้วนมุ่งเป้าไปที่การจัดโอลิมปิกโตเกียวในช่วงฤดูร้อนที่จะถึงนี้ คณะผู้จัดหวังว่าทุกคนจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้โดยเร็วที่สุด และจะพยายามอย่างเต็มที่ในการเตรียมพร้อมเพื่อจัดการแข่งขันที่ปลอดภัยและมั่นคงต่อไป ทั่วโลกเกิดความวิตกกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการจัดการแข่งขันโอลิมปิกโตเกียวหลังญี่ปุ่นต้องเผชิญกับการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 3 ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดชี้ว่า ชาวญี่ปุ่นร้อยละ 80 ไม่เห็นด้วยกับการจัดการแข่งขันดังกล่าวในปีนี้ ทั้งนี้ โอลิมปิกโตเกียวมีกำหนดเปิดฉากการแข่งขันในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ญี่ปุ่นจะปกป้องระบบสาธารณสุขหลังโควิดระบาด

โตเกียว 18 ม.ค. – รัฐบาลญี่ปุ่นจะใช้มาตรการทั้งหมดที่เป็นไปได้เพื่อปกป้องระบบสาธารณสุขของประเทศหลังโรงพยาบาลหลายแห่งเผชิญกับภาวะตึงตัวจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระลอกล่าสุด นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ ของญี่ปุ่นแถลงนโยบายก่อนเริ่มประชุมรัฐสภาสมัยสามัญว่า สิ่งสำคัญในตอนนี้คือการมอบบริการทางการแพทย์ให้แก่ประชาชนที่มีความจำเป็นต้องเข้ารับการรักษา รัฐบาลจะใช้มาตรการทั้งหมดที่มีอยู่ เพื่อปกป้องระบบสาธารณสุขของประเทศ และพร้อมส่งทีมแพทย์ของกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นลงพื้นที่ช่วยเหลือหากได้รับการร้องขอจากผู้ว่าการจังหวัดต่าง ๆ นายซูงะยังได้กล่าวเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะจัดการแข่งขันโอลิมปิกโตเกียวในช่วงฤดูร้อนนี้ว่า รัฐบาลจะเดินหน้าอย่างเต็มที่ในการเตรียมความพร้อม การใช้มาตรการป้องกันการระบาดที่รัดกุม รวมถึงการจัดการแข่งขันโอลิมปิกที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังและความกล้าหาญของโลก ขณะนี้ญี่ปุ่นมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 330,000 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นถึงสองเท่าในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา และมีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 4,525 คน ด้านนโยบายด้านการทูต นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวว่า เกาหลีใต้เป็นประเทศเพื่อนบ้านที่สำคัญของญี่ปุ่น แต่ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก หลังศาลเกาหลีใต้สั่งญี่ปุ่นจ่ายเงินชดเชยให้อดีตหญิงบำเรอ 12 คนที่ถูกบังคับเป็นทาสกามให้กับนายทหารญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นายซูงะกล่าวทิ้งท้ายว่า รัฐบาลญี่ปุ่นขอเรียกร้องอย่างจริงจังให้เกาหลีใต้ดำเนินการอย่างเหมาะสมเพื่อให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศกลับมามั่นคงดังเดิม.-สำนักข่าวไทย

คาดญี่ปุ่นจะประกาศภาวะฉุกเฉินเพิ่มวันพรุ่งนี้

โตเกียว 12 ม.ค. – นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ ของญี่ปุ่นกล่าวในที่ประชุมแกนนำพรรครัฐบาลว่า เขาจะประกาศภาวะฉุกเฉินเพิ่มเติมในจังหวัดโอซากา เกียวโต และเฮียวโงะ เพื่อควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นรายงานว่า จังหวัดโอซากา เกียวโต และเฮียวโงะ ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคคันไซทางตอนกลางค่อนไปทางใต้ของญี่ปุ่นมียอดผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ทางการท้องถิ่นของทั้งสามจังหวัดต้องการที่จะประกาศภาวะฉุกเฉินเช่นเดียวกับกรุงโตเกียว โดยคาดว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะตัดสินใจประกาศภาวะฉุกเฉินในสามจังหวัดดังกล่าววันพรุ่งนี้ และอาจจะประกาศภาวะฉุกเฉินเพิ่มที่จังหวัดไอจิในภูมิภาคชูบุ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโตโยต้า มอเตอร์ บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น รวมถึงจังหวัดกิฟุในภูมิภาคเดียวกัน ทั้งนี้ หากมีการประกาศภาวะฉุกเฉินในอีก 5 จังหวัดข้างต้นจะทำให้ชาวญี่ปุ่นเกือบครึ่งจากประชากรทั้งหมด 126 ล้านคนได้รับผลกระทบ ขณะที่นายคัตสึโนบุ คาโตะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นไม่ได้ยืนยันการรายงานข่าวของสำนักข่าวเกียวโด โดยกล่าวเพียงว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะพิจารณาใช้มาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ในจังหวัดโอซากาอย่างทันท่วงที ด้านสำนักข่าวเอ็นเอชเคของญี่ปุ่นรายงานว่า ญี่ปุ่นทำสถิติผู้ป่วยติดเชื้อสูงสุด 7,882 คนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และขณะนี้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเกือบ 300,000 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 3,800 คน.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ญี่ปุ่นย้ำชัดไม่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินสกัดโควิด

โตเกียว 22 ธ.ค. – นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นย้ำว่า ยังไม่จำเป็นต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ แม้หน่วยงานสาธารณสุขญี่ปุ่นได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านระบบการแพทย์ไปแล้ว เนื่องจากมีอัตราผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ ของญี่ปุ่นกล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์แห่งชาติว่า หัวหน้าคณะผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของรัฐบาลบอกเขาว่า ยังไม่จำเป็นต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ และระบุเพิ่มเติมว่า ทางการจำเป็นต้องแสดงให้เห็นผลที่ได้จากการใช้มาตรการรับมือโรคโควิด-19 เสียก่อน และเขาจะใช้ความพยายามและวิธีคิดต่าง ๆ เพื่อทำทุกอย่างที่จำเป็นต้องทำ ผู้นำญี่ปุ่นยืนยันดังกล่าวแม้หน่วยงานสาธารณสุขญี่ปุ่นประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านการแพทย์เมื่อวานนี้เพื่อเตือนภัยระบบการแพทย์ที่กำลังอยู่ในภาวะตึงตัวจากการระบาดของโรคโควิด-19 ด้านสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคของญี่ปุ่นรายงานว่า ญี่ปุ่นมีอัตราผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงขึ้นมากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา และวานนี้ทำสถิติมีผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลสูงถึง 2,154 คน ขณะนี้ญี่ปุ่นมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 198,000 คน และผู้เสียชีวิต 2,900 คน. -สำนักข่าวไทย

1 2 3
...