โตเกียว 15 เม.ย.- นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะของญี่ปุ่นจะเดินทางไปสหรัฐในวันนี้ และจะเป็นผู้นำต่างชาติคนแรกที่เข้าพบประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ คาดว่าความกังวลเรื่องจีนจะเป็นเรื่องหลักของการหารือ
การเยือนของนายซูงะมีขึ้นหลังจากนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศและ พล.อ.ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐเยือนญี่ปุ่น และหลังจากผู้นำ 4 ชาติในกลุ่มควอด (Quad) ประกอบด้วยญี่ปุ่น สหรัฐ ออสเตรเลียและอินเดียประชุมสุดยอดออนไลน์เมื่อเดือนมีนาคม นายคุนิฮิโกะ มิยาเกะ ประธานสถาบันนโยบายต่างประเทศของญี่ปุ่นมองว่า การเยือนสหรัฐเป็นการส่งสัญญาณว่า นโยบายการทูตของสหรัฐให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกกับเอเชียตะวันออก เพราะสหรัฐมีความกังวลเช่นเดียวกับญี่ปุ่นเรื่องสภาพแวดล้อมทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาคนี้มีความเปลี่ยนแปลงอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เอเอฟพีคาดว่า แถลงการณ์ร่วมของนายกรัฐมนตรีซูงะกับประธานาธิบดีไบเดนจะย้ำเรื่องหมู่เกาะในทะเลจีนตะวันออกที่ญี่ปุ่นเรียกว่าเซ็นกากุและจีนเรียกว่าเตียวหยู ได้รับความคุ้มครองตามสนธิสัญญาความมั่นคงญี่ปุ่น-สหรัฐ และอาจแสดงความกังวลเรื่องสิทธิมนุษยชนในฮ่องกงและเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ในจีน
นายเคียวจิ ยานางิซาวะ ประธานสถาบันภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศญี่ปุ่นมองว่า ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีนจะมีผลกระทบต่อญี่ปุ่นในฐานะประเทศเพื่อนบ้านจีน ทั้งในแง่ความมั่นคงแห่งชาติและแง่เศรษฐกิจ ญี่ปุ่นจึงต้องใคร่ครวญให้ดีว่าจะไกล่เกลี่ยสหรัฐและจีนอย่างไร ด้านนายโรเบิร์ต ดูจาร์ริก ผู้เชี่ยวชาญด้านเอเชียตะวันออก มหาวิทยาลัยเทมเปิล วิทยาเขตญี่ปุ่นเชื่อว่า ญี่ปุ่นจะไม่สนับสนุนให้ลงโทษจีนทางเศรษฐกิจเพราะเรื่องละเมิดสิทธิมนุษยชน
หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์รายงานว่า สหรัฐต้องการแถลงการณ์ร่วมกับญี่ปุ่นพูดถึงไต้หวันด้วย ซึ่งจะเป็นครั้งแรกนับจากปี 2512 ขณะที่นายกรัฐมนตรีซูงะไม่พูดถึงจีนในบทความที่เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล โดยระบุเพียงว่า เป็นการเยือนเพื่อแสดงให้เห็นว่าทั้งสองประเทศมีความเป็นผู้นำไปสู่การสร้างภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง เอเอฟพีมองว่า การเยือนครั้งนี้เป็นโอกาสให้นายซูงะเรียกคะแนนนิยมในประเทศที่ตกต่ำเพราะเรื่องไม่สามารถควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 คาดว่าเขาจะชวนไบเดนมาร่วมชมการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อนโตเกียวในกลางปีนี้ด้วย.-สำนักข่าวไทย