สหรัฐมียอดตายโควิดใกล้แตะ 500,000 คนแล้ว

วอชิงตัน 22 ก.พ. – สหรัฐมียอดผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ใกล้แตะ 500,000 คนนับตั้งแต่พบการระบาดครั้งแรกในประเทศเมื่อหนึ่งปีก่อน ยอดผู้เสียชีวิตที่เพิ่มสูงมีขึ้นในขณะที่สหรัฐกำลังมีความหวังหลังจากที่ประชาชนหลายล้านคนได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อในช่วงฤดูหนาวลดลง อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเตือนเมื่อเดือนก่อนว่า สหรัฐอาจมียอดผู้เสียชีวิตสูงกว่า 600,000 คน นายแอนโทนี เฟาชี หัวหน้าที่ปรึกษาทางการแพทย์ของประธานาธิบดีไบเดนกล่าวกับบรรษัทกระจายเสียงและแพร่ภาพแห่งชาติหรือเอ็นบีซีของสหรัฐว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในสหรัฐเป็นเรื่องน่ากลัวและทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ไม่เคยมีชาวอเมริกันเสียชีวิตมากเท่าระดับนี้มาก่อนในรอบกว่าร้อยปีนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ในปี 2461 ตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดเป็นเรื่องที่น่าตกใจและแทบไม่น่าเชื่อ แต่มันก็เป็นความจริง เขายังตั้งข้อสังเกตว่า สหรัฐพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อลดลงอย่างมากหลังมีตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูงในเดือนที่แล้ว แต่ระบุว่า การกลับไปใช้ชีวิตปกติอาจจะต้องใช้ระยะเวลาอีกนาน ข้อมูลบนเว็บไซต์มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ของสหรัฐระบุว่า สหรัฐมียอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ทั้งหมด 498,879 คน ส่วนทั่วโลกมียอดผู้เสียชีวิตเกือบ 2.5 ล้านคน สหรัฐพบผู้เสียชีวิตรายแรกในเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน ใช้เวลา 3 เดือนจึงจะมีผู้เสียชีวิตแตะ 100,000 คน ซึ่งเป็นช่วงที่มีการระบาดระลอกแรกอย่างรุนแรงในนครนิวยอร์ก แต่หลังจากนั้นโรคโควิด-19 ได้แพร่ระบาดไปทั่วประเทศ และทำให้อัตราการเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นเป็น 400,000 คนภายในเวลาเดือนกว่าเท่านั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากการรวมตัวสังสรรค์กันในช่วงวันหยุด […]

“ไบเดน” มั่นใจ 100 วัน ฉีดวัคซีนเกิน 100 ล้านคน

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน มั่นใจฉีดวัคซีนให้ชาวอเมริกันได้เกิน 100 ล้านโดส ภายใน 100 วันแรกของการทำหน้าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ

“ไบเดน” ตำหนิโครงการฉีดวัคซีนของ “ทรัมป์”

โจ ไบเดน ตำหนิโครงการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ชี้มีข้อบกพร่องมากมาย ขอชาวอเมริกันอดทน หลายอย่างต้องใช้เวลาแก้ไข

ชาวอเมริกันสองในสามพอใจผลงานไบเดนเรื่องโควิด

ผลสำรวจล่าสุดพบว่า ชาวอเมริกันสองในสามพอใจผลงานของประธานาธิบดีโจ ไบเดนในการรับมือกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และส่วนใหญ่สนับสนุนให้ผ่านร่างกฎหมายเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโรคนี้

พายุหิมะถล่มสหรัฐกระทบการฉีดวัคซีนโควิด

นิวยอร์ก 2 ก.พ. – พายุหิมะลูกใหญ่ถล่มพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินหลายพันเที่ยว ปิดการสอนในโรงเรียน และเลื่อนฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ออกไปก่อน สำนักงานบริการสภาพอากาศแห่งชาติของสหรัฐ (NWS) ประกาศเตือนภัยพายุหิมะในพื้นที่รัฐเวอร์จิเนียไปจนถึงรัฐเมน ซึ่งตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐและมีประชากรราว 10 ล้านคน เนื่องจากเผชิญกับพายุหิมะตกหนักและลมกระโชกแรงที่มีความเร็วลมสูงสุดถึง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นครนิวยอร์กประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อจำกัดการเดินทางที่ไม่จำเป็น ขอให้นักเรียนทั้งหมดกลับไปเรียนทางไกลผ่านระบบออนไลน์ และปรับแผนการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ใหม่ เนื่องจากนครนิวยอร์กต้องเตรียมรับมือกับพายุหิมะที่อาจมีความหนาถึง 60 เซนติเมตร ทางการยังได้นำรถบรรทุกเกลือมาโปรยเกลือเพื่อกำจัดหิมะและใช้รถกวาดหิมะมาเปิดเส้นทางบนท้องถนนในนครนิวยอร์กเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ  นอกจากนี้ พายุหิมะครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นยังทำให้เที่ยวบินกว่า 1,600 เที่ยวถูกยกเลิก โดยเฉพาะเที่ยวบินส่วนใหญ่ที่ท่าอากาศยานนานาชาตินิวยอร์ก บอสตัน ฟิลาเดลเฟีย และวอชิงตัน ทำให้สายการบินต่าง ๆ ได้รับผลกระทบหนักยิ่งขึ้นจากเดิมที่ประสบปัญหาจากการระบาดของโรคโควิด-19 อยู่ก่อนแล้ว ขณะนี้สหรัฐมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเกือบ 27 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 454,200 คน ซึ่งเป็นสถิติผู้ป่วยติดเชื้อและผู้เสียชีวิตสูงที่สุดในโลก. -สำนักข่าวไทย

ลาสเวกัสจะเปิด รร. หวั่นนักเรียนฆ่าตัวตายเพิ่มช่วงโควิด

เนวาดา 26 ม.ค. – สำนักงานเขตการศึกษาเมืองลาสเวกัสในรัฐเนวาดาของสหรัฐเตรียมประกาศเปิดการสอนในโรงเรียนอีกครั้งภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าเพื่อป้องกันปัญหาด้านสุขภาพจิตและการฆ่าตัวตายของนักเรียนที่อาจเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ปิดโรงเรียนในเดือนมีนาคมปีก่อนเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 คลาร์กเคาน์ตีในรัฐเนวาดา ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองลาสเวกัสและสำนักงานเขตการศึกษาที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของสหรัฐเผยว่า มีนักเรียน 19 คนฆ่าตัวตายนับตั้งแต่โรงเรียนปิดการสอนในเดือนมีนาคมปีที่แล้ว สำนักงานเขตการศึกษาเมืองลาสเวกัสกล่าวว่า สถิติดังกล่าวเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าจากจำนวนนักเรียนที่ฆ่าตัวตาย 9 คนในปี 2562 แม้ว่าในขณะนี้สำนักงานเขตการศึกษายังไม่ได้ประกาศวันเปิดโรงเรียนอย่างเป็นทางการ แต่ก็ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการตามมาตรการด้านสุขภาพได้ โดยคาดว่ากลุ่มเด็กเล็กจะเป็นนักเรียนกลุ่มแรกที่ได้กลับเข้าไปเรียนในห้องเรียนในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ก่อนหน้านี้ ผลการศึกษาหลายชิ้นระบุว่า การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อกลุ่มคนที่มีความเปราะบางในสังคมเป็นพิเศษที่รวมถึงกลุ่มเยาวชนที่ต้องหยุดเรียนกลางคัน นอกจากนี้ ปัญหาความผิดปกติทางจิตใจยังเกิดขึ้นพร้อมกับในช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 และการใช้มาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลอีกด้วย ขณะนี้สหรัฐมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 25.8 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 430,000 คน.-สำนักข่าวไทย

เผยแคลิฟอร์เนียจะยกเลิกคำสั่งอยู่บ้าน

แคลิฟอร์เนีย 25 ม.ค.- สื่อในสหรัฐรายงานคาดการณ์ว่า รัฐแคลิฟอร์เนียจะยกเลิกคำสั่งให้คนอยู่บ้านทั่วทั้งรัฐในวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อกลับไปใช้มาตรการทยอยเปิดเมืองเป็นลำดับชั้น หนังสือพิมพ์ซานฟรานซิสโก โครนิเคิลรายงานว่า สำนักงานของนายแกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียตัดสินใจยกเลิกคำสั่งให้อยู่บ้าน เพราะคาดว่าจำนวนหอผู้ป่วยวิกฤตหรือไอซียูว่างสำหรับรับผู้ป่วยหนักจะมีเกินร้อยละ 15 ซึ่งเป็นขั้นต่ำที่ทำให้ต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ เทศมณฑลต่าง ๆ ในรัฐจะกลับไปใช้มาตรการทยอยเปิดเมืองเป็นลำดับชั้น เริ่มจากสีเหลืองที่ให้ธุรกิจเกือบทั้งหมดให้บริการภายในอาคาร ไปจนถึงสีส้ม สีแดง และสีม่วง พื้นที่ส่วนใหญ่จะใช้ลำดับชั้นสีม่วงที่อนุญาตให้สถานบริการส่วนบุคคล เช่น ร้านทำผม เปิดได้อีกครั้งแต่ต้องมาตรการป้องกัน ส่วนร้านอาหารเปิดได้เฉพาะบริการกลางแจ้ง รัฐแคลิฟอร์เนียมีประชากรมากที่สุดในสหรัฐ มีผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคนา 2019 หรือโควิด-19 สะสมกว่า 3.1 ล้าน เสียชีวิตกว่า 36,700 คน จากทั้งประเทศที่มียอดผู้ป่วยสะสมกว่า 25.7 ล้านคน เสียชีวิตกว่า 429,000 คน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐเผยเมื่อต้นเดือนว่า จำนวนผู้ป่วยที่ต้องเข้าโรงพยาบาลลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งสัญญาณว่าการควบคุมได้ผล หลังจากที่กลับมาใช้คำสั่งอยู่บ้านอย่างเคร่งครัดมาตั้งแต่เดือนธันวาคม เพื่อแก้ไขวิกฤตโรงพยาบาลแออัด.-สำนักข่าวไทย

ไบเดนจะฟื้นคำสั่งห้ามต่างชาติจากยุโรป-บราซิลเข้า

วอชิงตัน 25 ม.ค.- เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวสหรัฐเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะฟื้นคำสั่งห้ามผู้ที่ไม่ใช่พลเมืองอเมริกันเดินทางจากประเทศส่วนใหญ่ของยุโรป อังกฤษ ไอร์แลนด์และบราซิลเข้าสหรัฐ เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ประธานาธิบดีไบเดนที่เพิ่งรับตำแหน่งเมื่อสัปดาห์ก่อนเข้มงวดเรื่องการใส่หน้ากากอนามัยและสั่งกักโรคผู้เดินทางเข้าสหรัฐ โดยระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตในสหรัฐจะเพิ่มจาก 420,000 คนในขณะนี้เป็นครึ่งล้านคนในเดือนหน้า จึงต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัด และถือว่าเป็นเหตุฉุกเฉินระดับชาติ  เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเผยว่า ประธานาธิบดีไบเดนจะฟื้นคำสั่งห้ามผู้ที่ไม่ใช่พลเมืองอเมริกันเดินทางจากประเทศส่วนใหญ่ของยุโรป อังกฤษ ไอร์แลนด์และบราซิลเดินทางเข้าสหรัฐ ล้มล้างคำสั่งของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ให้เข้าได้ตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม เจ้าหน้าที่ยืนยันรายงานข่าวเรื่องประธานาธิบดีไบเดนจะขยายคำสั่งห้ามผู้ที่อยู่ในแอฟริกาใต้เดินทางเข้าสหรัฐด้วย ทรัมป์ลงนามคำสั่งทิ้งทวนก่อนพ้นตำแหน่ง ยกเลิกคำสั่งที่ตัวเองประกาศไว้ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคมปีก่อน ห้ามผู้ไม่ใช่พลเมืองอเมริกันเดินทางจากจีนเข้าสหรัฐ หวังยับยั้งโรคโควิด-19 หลังจากนั้นได้ขยายคำสั่งเมื่อวันที่ 14 มีนาคมให้ครอบคลุมถึงผู้เดินทางจากยุโรป.-สำนักข่าวไทย

“จิลล์ ไบเดน” ออกงานเดี่ยวครั้งแรกในฐานะสตรีหมายเลข 1

วอชิงตัน 22 ม.ค. – ดร. จิลล์ ไบเดน สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งคนใหม่ของสหรัฐออกงานเดี่ยวเป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้ ในการประชุมผ่านระบบออนไลน์เพื่อยกย่องนักการศึกษาและสัญญาว่าจะสนับสนุนพวกเขาท่ามกลางสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ดร. จิลล์ ไบเดนจัดงานประชุมดังกล่าวขึ้นโดยมีบุคคลสำคัญในวงการศึกษาของสหรัฐ เช่น นางแรนดี ไวน์การ์เทน ประธานสมาพันธ์ครูแห่งสหรัฐ และนางเบคกี พริงเกิล ประธานสมาคมการศึกษาแห่งชาติของสหรัฐเข้าร่วมพูดคุยเกี่ยวกับความท้าทายที่ครูผู้สอนต้องประสบพบเจอในช่วงโควิดระบาด ดร. ไบเดน ซึ่งยังคงทำงานเป็นคุณครูสอนหนังสือ กล่าวว่า เธอจะยังคงทำหน้าที่สอนหนังสือควบคู่ไปกับการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งสตรีหมายเลขหนึ่ง เธอยังกล่าวยกย่องนักการศึกษาของสหรัฐว่าเป็นผู้ที่มีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 จากการใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ทั้งในห้องเรียนหรือผ่านระบบออนไลน์ได้อย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เธอได้รับแรงบันดาลใจจากครูผู้สอนมากมายที่เปี่ยมไปด้วยความทุ่มเทในการสอนนักเรียนจากสถานที่ต่าง ๆ ในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ดร.ไบเดนยังสัญญาว่าจะเพิ่มจุดบริการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาและฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ครูผู้สอน รวมถึงการสนับสนุนเงินทุนให้แก่โรงเรียนต่าง ๆ อีกด้วย ทั้งนี้ สตรีหมายเลขหนึ่งกล่าวทิ้งท้ายว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ซึ่งเป็นสามีของเธอได้ให้คำมั่นสัญญาว่า จะเปิดการเรียนการสอนในโรงเรียนส่วนใหญ่ให้ได้ภายในช่วง 100 วันแรกหลังเข้ารับตำแหน่ง.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐฉีดวัคซีนโควิดให้ประชาชนกว่า 10 ล้านคนแล้ว

วอชิงตัน 14 ม.ค. – สหรัฐฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โดสแรกให้แก่ประชาชนกว่า 10 ล้านคนแล้ว สหรัฐฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสแรกให้ชาวอเมริกันราว 10.2 ล้านคนแล้ว หลังจากที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี และรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศข้อแนะนำฉบับใหม่ให้แก่ทางการรัฐต่างๆ โดยระบุว่าคนกลุ่มใดควรได้รับการฉีดวัคซีนก่อน หลังจากที่ข้อแนะนำฉบับก่อนหน้ามีกฎเกณฑ์เข้มงวดในการฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่มเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเป็นลำดับแรก ทำให้การฉีดวัคซีนเกิดความล่าช้า ข้อแนะนำฉบับใหม่จึงอนุญาตให้รัฐต่างๆ สามารถฉีดวัคซีนให้แก่ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปได้แล้ว การปรับเปลี่ยนแนวทางดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่สหรัฐทำสถิติยอดผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุด 4,336 คน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น นายอเล็กซ์ อาซาร์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขและบริการประชาชนของสหรัฐ กล่าวว่า รัฐบาลได้นำวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ทั้งสองขนานที่ได้รับการอนุมัติใช้เป็นกรณีฉุกเฉินออกจากคลังเก็บวัคซีน เพื่อฉีดให้ประชาชนอย่างเต็มกำลัง ซึ่งรวมถึงวัคซีนจำนวนหนึ่งที่เก็บสำรองไว้สำหรับการฉีดวัคซีนโดสที่สองด้วย ทั้งนี้ สหรัฐได้แจกจ่ายวัคซีนเกือบ 30 ล้านโดสที่ผลิตโดยโมเดอร์นาและไฟเซอร์/ไบออนเทคไปยังรัฐต่างๆ แล้ว ขณะนี้สหรัฐมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 23 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 380,000 คน.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐพุ่งไม่หยุด ติดโควิดรายวันเพิ่มอีก 76,000 คน

สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในสหรัฐ ยังอยู่ในขั้นวิกฤติ เมื่อวานนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 76,000 คน และมีผู้เสียชีวิต 1,225 คน นับเป็นยอดผู้เสียชีวิตที่เกิน 1,000 คน ติดต่อกันเป็นวันที่สาม

ทรัมป์ยอมรับโควิดในสหรัฐจะเลวร้ายมากขึ้น

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยอมรับว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในสหรัฐจะเลวร้ายมากขึ้น ก่อนที่สถานการณ์จะค่อยๆ คลี่คลาย

1 5 6 7 8 9
...