VOA ส่งตรงจากสหรัฐ : พยาบาลไทยในสหรัฐเผยประสบการณ์รับมือโควิด-19

สหรัฐอเมริกายังครองอันดับหนึ่งที่มีผู้ติดเชื้อวิด-19 มากที่สุดในโลก ตอนนี้มีผู้ติดเชื้อกว่า 30 ล้านคนแล้ว บุคลากรด้านสาธารณสุข ทั้งแพทย์และพยาบาลซึ่งเป็นด่านหน้าในการรับมือ คือผู้ที่ต้องทำงานหนักและเสี่ยงที่สุด วันนี้ เราจะพาไปรู้จักและรับฟังประสบการณ์การทำงานของพยาบาลเชื้อสายไทยในสหรัฐที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่นั่น คุณคมสัน ศรีธนวิบุญชัย ผู้สื่อข่าว VOA ภาคภาษาไทย รายงานตรงจากสหรัฐอเมริกา

อดีตผู้สมัครชิงรอง ปธน.สหรัฐและครอบครัวติดโควิด

แองเคอเรจ 1 เม.ย.- นางแซราห์ เพ-ลิน อดีตผู้ว่าการรัฐอะแลสกาและอดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐปี 2551 เตือนชาวอเมริกันให้สวมหน้ากากอนามัย พร้อมกับเผยว่าเธอและครอบครัวติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 นางเพ-ลิน วัย 57 ปี เผยกับนิตยสารพีเพิลว่า เธอมองว่าการสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่ปิดที่มีคนจำนวนมาก ไม่เพียงให้ความรู้สึกเพลิดเพลินแบบใหม่ที่กลายเป็นบุคคลนิรนาม แต่ยังช่วยชะลอการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ดีกว่าการไม่ทำอะไรเลย การที่เธอและครอบครัวมีผลตรวจหาเชื้อเป็นบวกเป็นตัวอย่างหนึ่งที่พิสูจน์ว่า ใคร ๆ ก็สามารถติดเชื้อได้ ขอเรียกร้องให้ทุกคนใช้สามัญสำนึกในการหลีกเลี่ยงการแพร่เชื้อ เพราะเชื้อไวรัสมีอยู่มากมายและทั่วไป แน่นอนว่าไม่มีใครไม่เคยป่วยเลย แต่ขอให้ระวังและใช้ชีวิตอย่างมีสุขอนามัย อย่างน้อยก็เป็นเกราะป้องกันได้บ้าง เพ-ลินเผยว่า เริ่มรู้สึกกังวลเมื่อบุตรสาวคนหนึ่งจากลูกทั้งหมดห้าคนไม่ได้กลิ่นและไม่รู้รส เมื่อไปตรวจหาเชื้อพบว่า ผลเป็นบวก หลังจากนั้นไม่นานก็สังเกตเห็นว่า ทริก บุตรชายคนสุดท้องวัย 12 ปีที่มีอาการดาวน์ซินโดรม มีอาการของโรคโควิด-19 ทั้งที่เขาจริงจังกับการสวมหน้ากากอนามัยมากที่สุด ผลตรวจหลายครั้งตลอดปีที่ผ่านมาเป็นลบทุกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับเป็นบวก เธอกักตัวพร้อมกับบุตรชายเพราะต้องดูแลเขา ผลตรวจตอนแรก ๆ ของเธอเป็นลบ แต่หลังจากนั้นเริ่มไม่ได้กลิ่นไม่รู้รส มีไข้ ปวดเมื่อยเนื้อตัว จึงมั่นใจว่าติดเชื้อแล้วเช่นกัน  อย่างไรก็ดี เธอไม่ได้เปิดเผยว่า เธอและครอบครัวตรวจพบเชื้อเมื่อใด.-สำนักข่าวไทย

“ไบเดน” จะให้ผู้ใหญ่มีสิทธิฉีดวัคซีนโควิดภายใน 1 พ.ค.

วอชิงตัน 12 มี.ค. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐจะสั่งให้รัฐต่าง ๆ กำหนดให้ประชาชนวัยผู้ใหญ่ทุกคนได้มีสิทธิเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ภายในวันที่ 1 พฤษภาคม และเรียกร้องให้ชาวอเมริกันระมัดระวังตัวเองเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 หลังลงนามเริ่มบังคับใช้ร่างกฎหมายเยียวยาโควิด 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (58.2 ล้านล้านบาท) ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวปราศรัยผ่านโทรทัศน์จากทำเนียบขาวเนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปีของการประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ว่า เขากำลังหาทางเร่งฉีดวัคซีนโควิดเพื่อให้ชาวอเมริกันเกิดความรู้สึกถึงการกลับมาใช้ชีวิตตามปกติภายในวันที่ 4 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันชาติสหรัฐ ทั้งนี้ เขาได้สั่งให้ทางการรัฐ และเขตปกครองต่าง ๆ กำหนดให้ประชาชนวัยผู้ใหญ่ทุกคนมีสิทธิเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ภายในวันที่ 1 พฤษภาคม และจะสั่งให้กองทหารสหรัฐเข้ามาช่วยเหลือในโครงการฉีดวัคซีน เพื่อให้ครอบครัวและเพื่อนฝูงกลับมารวมตัวกันได้อีกครั้งเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ภายในวันชาติสหรัฐ ซึ่งเป็นวันหยุดที่ชาวอเมริกันต่างพากันออกมาเฉลิมฉลองในพื้นที่กลางแจ้ง รับประทานฮอทด็อก และชมดอกไม้ไฟ นอกจากนี้  ประธานาธิบดีไบเดนยังเรียกร้องให้ชาวอเมริกันช่วยกันควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 โดยการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างทางสังคม และรักษาสุขอนามัยที่ดี ในขณะที่มีการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น และมีหลายรัฐที่ประกาศผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ แล้ว.-สำนักข่าวไทย

นครลอสแอนเจลิสเตรียมเปิดการสอนในโรงเรียนอีกครั้ง

แคลิฟอร์เนีย 10 มี.ค. – เขตการศึกษานครลอสแอนเจลิสในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐและสมาคมครูนครลอสแอนเจลิสบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นที่จะทำให้นักเรียนกลับมาเรียนที่โรงเรียนได้อีกครั้ง ในขณะที่รัฐแคลิฟอร์เนียเริ่มผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ที่ใช้ควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แล้ว ข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้นักเรียนระดับชั้นอนุบาลและประถมศึกษาสามารถกลับไปเรียนในโรงเรียนได้ในช่วงกลางเดือนหน้า และนักเรียนระดับมัธยมศึกษากลับไปเรียนได้ในช่วงปลายเดือนหน้า แถลงการณ์ร่วมของหัวหน้าเขตการศึกษานครลอสแอนเจลิสและประธานสมาคมครูระบุว่า ข้อตกลงนี้เป็นการผสมผสานการเรียนแบบออนไลน์กับการเรียนในห้องเรียน เพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 อย่างไรก็ดี ข้อตกลงดังกล่าวจะต้องผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการการศึกษานครลอสแอนเจลิสและสหพันธ์ครูก่อน หากทั้งสองหน่วยงานอนุมัติก็จะมีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายนนี้ ก่อนหน้านี้ นายเกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียกล่าวว่า เขาและ สส. พรรคเดโมแครตได้บรรลุข้อตกลงที่จะมอบเงินสนับสนุนการเปิดโรงเรียนให้แก่นักเรียนที่อยู่ในระดับชั้นไม่เกินเกรดสอง เนื่องจากพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ลดลงทั้งในระดับรัฐและประเทศ ทั้งนี้ ทางการรัฐแคลิฟอร์เนียได้ใช้งบประมาณ 6,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (203,000 ล้านบาท) เพื่อทำให้นักเรียนได้กลับมาเรียนในห้องเรียนอีกครั้ง หลังถูกจำกัดการเรียนอยู่ในบ้านที่เป็นผลมาจากการระบาดของโรคโควิด-19.-สำนักข่าวไทย

ลิงใหญ่ในสวนสัตว์ซานดิเอโกได้ฉีดวัคซีนโควิด

ลอสแอนเจลิส 5 มี.ค. – ลิงใหญ่ 9 ตัวที่สวนสัตว์ซานดิเอโกในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐสร้างประวัติศาสตร์เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ไม่ใช่มนุษย์กลุ่มแรกที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ซานดิเอโกกล่าวว่า ลิงใหญ่ 9 ตัวในสวนสัตว์ซานดิเอโก ได้แก่ ลิงอุรังอุตัง 4 ตัว และลิงชิมแปนซีแคระ 5 ตัว ได้รับการฉีดวัคซีนทดลองสองโดสที่พัฒนาขึ้นเพื่อฉีดให้แก่สุนัขและแมว โดยที่ลิงกลุ่มดังกล่าวไม่แสดงอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาและมีสุขภาพแข็งแรงดี คาเรน ลิงอุรังอุตังสุมาตราเพศเมียอายุ 28 ปีเป็นหนึ่งในลิงใหญ่ 9 ตัวที่ได้รับการฉีดวัคซีนดังกล่าว และเคยตกเป็นข่าวโด่งดังบนหน้าหนังสือพิมพ์เพราะเป็นลิงตัวแรกที่เข้ารับการผ่าตัดหัวใจแบบเปิดในปี 2537 ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ได้ฉีดวัคซีนให้แก่ลิงใหญ่กลุ่มดังกล่าว เนื่องจากวิตกกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของลิงหลังพบฝูงลิงกอริลลา 8 ตัวติดเชื้อไวรัสโคโรนาในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่พบการระบาดของเชื้อโควิดในลิง อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ลิงกอริลลากลุ่มดังกล่าว เพราะสัตวแพทย์ระบุว่า ระบบภูมิคุ้มกันของพวกมันสามารถสร้างแอนติบอดีเพื่อต้านเชื้อไวรัสโคโรนาได้เอง ในขณะเดียวกัน หัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์และสัตว์ป่าของสมาพันธ์สัตว์ป่าแห่งซานดิเอโกเผยว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ฉีดให้แก่กลุ่มลิงใหญ่ได้รับการพัฒนาโดยโซเอทิส บริษัทเวชภัณฑ์สัตว์รายใหญ่ของสหรัฐ แม้วัคซีนดังกล่าวยังไม่มีการทดสอบในลิง แต่การใช้วัคซีนข้ามสายพันธุ์ไม่ใช่เรื่องแปลก นอกจากนี้ ลิงที่สวนสัตว์ซานดิเอโกก็ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่และโรคหัดของมนุษย์อยู่แล้ว.-สำนักข่าวไทย 

“ไบเดน” ชี้คำสั่งยกเลิกสวมหน้ากากเป็นข้อผิดพลาดใหญ่

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐระบุว่า การตัดสินใจยกเลิกคำสั่งสวมหน้ากากอนามัยของผู้ว่าการรัฐเทกซัสและมิสซิสซิปปีเป็นความคิดของมนุษย์ยุคหิน ซึ่งจะทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น

สหรัฐจะมีวัคซีนโควิดพอให้ผู้ใหญ่ทุกคนภายใน พ.ค. นี้

วอชิงตัน 3 มี.ค. – สหรัฐจะมีวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพียงพอที่จะฉีดให้แก่ประชาชนวัยผู้ใหญ่ทุกคนภายในเดือนพฤษภาคมนี้ หลังเมอร์ค แอนด์ โค บริษัทยาของสหรัฐตกลงช่วยผลิตวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันที่เป็นบริษัทคู่แข่ง กระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์ของสหรัฐระบุว่า การร่วมมือกันของเมอร์ค แอนด์ โค และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน รวมถึงการสนับสนุนด้านอื่น ๆ ของรัฐบาลสหรัฐ จะทำให้จอห์นสันแอนด์จอห์นสันสามารถเร่งการจัดส่งวัคซีนเพิ่มขึ้นเป็น 100 ล้านโดสต่อเดือน ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐกล่าวว่า ตอนที่เขาเข้ารับตำแหน่งที่ทำเนียบขาว เขาจำได้ว่า จอห์นสันแอนด์จอห์นสันมีความล่าช้าในขั้นตอนการผลิตวัคซีนที่ไม่รวดเร็วพอ คณะทำงานของเขาจึงต้องทำงานอย่างหนักเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว ผู้นำสหรัฐยังระบุเพิ่มเติมว่า รัฐบาลได้ประกาศใช้กฎหมายการผลิตเพื่อการป้องกันประเทศในการจัดหาโรงงานผลิตวัคซีนของเมอร์ค 2 แห่ง เพื่อนำมาใช้ผลิตวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน นอกจากนี้ โรงงานผลิตวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันก็จะเร่งผลิตวัคซีนตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่มีวันหยุด ในขณะเดียวกัน จอห์นสันแอนด์จอห์นสันระบุในแถลงการณ์ว่า บริษัทหวังว่าการเตรียมการด้านผลิตวัคซีนจะช่วยยกระดับขีดความสามารถด้านการผลิตจนทำให้สามารถส่งมอบวัคซีนได้มากกว่าจำนวนที่บริษัทได้ให้คำมั่นไว้ ขณะที่ผู้บริหารฝ่ายการตลาดของเมอร์คกล่าวว่า บริษัทกำลังรออุปกรณ์พิเศษเพื่อนำมาใช้ผลิตวัคซีน แต่โรงงานที่ใช้เป็นสถานที่บรรจุวัคซีนลงขวดในขั้นตอนสุดท้ายสามารถดำเนินการได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า.-สำนักข่าวไทย

ชี้จีน-สหรัฐ ควรเปิดเสรีการเดินทางหลังมีภูมิคุ้มกันหมู่

ปักกิ่ง 2 มี.ค. – นักระบาดวิทยาของจีนชี้ว่า จีนและสหรัฐควรยกเลิกมาตรการระงับการเดินทางระหว่างกันทั้งหมด หากสหรัฐประสบความสำเร็จในการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โดยการฉีดวัคซีนได้ร้อยละ 90 ของประชากร ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนสิงหาคมนี้ อู่ ซุนหยู หัวหน้านักระบาดวิทยาของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคจีนกล่าวในงานเสวนารูปแบบออนไลน์ที่จัดขึ้นโดยมหาวิทยาลัยชิงหวาของจีนและสถาบันบรูกกิงส์ ซึ่งเป็นหน่วยงานคลังสมองของสหรัฐว่า สหรัฐอาจสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในประชาชนร้อยละ 90 จากทั้งหมดได้ภายในเดือนสิงหาคมนี้ หากเป็นเช่นนั้น สหรัฐและจีนอาจยกเลิกมาตรการกีดกันทางการเมืองทั้งหมด และหันมาพึ่งหลักวิทยาศาสตร์ เพื่อให้สหรัฐและจีนกลายเป็นสองประเทศแรกในโลกที่ยกเลิกมาตรการระงับการเดินทางระหว่างกัน และเปิดการเดินทางได้โดยเสรี เขายังระบุเพิ่มเติมว่า ตอนนี้จีนเป็นประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลกในแง่การระบาดของโรคโควิด-19  และยังคาดว่าสหรัฐจะมีอัตราฉีดวัคซีนสูงกว่าร้อยละ 80 ภายในเดือนมิถุนายนนี้ สหรัฐเป็นประเทศที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 รุนแรงที่สุดในโลก โดยมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเกือบ 30 ล้านคน และผู้เสียชีวิตราว 514,000 คน ซึ่งเป็นตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อและผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลก แม้ว่าในขณะนี้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ในสหรัฐมีแนวโน้มลดลงแล้วก็ตาม ทั้งนี้ สหรัฐฉีดวัคซีนโดสแรกให้แก่ประชาชนไปแล้วร้อยละ 15 จากประชากรทั้งหมด 382 ล้านคนจากข้อมูลเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ขณะที่จีนฉีดวัคซีนไปแล้ว 40.5 ล้านโดสจากประชากรทั้งหมดราว 1,400 ล้านคนจากข้อมูลเมื่อวันที่ 9 ก.พ. ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

โนวาแวกซ์เผยวัคซีนโควิดอาจพร้อมใช้ในสหรัฐ พ.ค. นี้

สหรัฐ 2 มี.ค. – โนวาแวกซ์ บริษัทผู้ผลิตวัคซีนของสหรัฐเผยว่า วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่บริษัทพัฒนาขึ้นอาจพร้อมใช้ในสหรัฐอย่างเร็วสุดภายในเดือนพฤษภาคมนี้ หากหน่วยงานกำกับดูแลยาของสหรัฐอนุมัติข้อมูลการทดลองวัคซีนในอังกฤษที่คาดว่าจะเสร็จสิ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า นายสแตนลีย์ เอิร์ค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของโนวาแวกซ์กล่าวว่า บริษัทกำลังอยู่ในระหว่างหารือกับองค์การอาหารและยาสหรัฐหรือเอฟดีเอที่อาจจะขอให้โนวาแวกซ์ส่งข้อมูลการทดลองวัคซีนในสหรัฐ ทำให้บริษัทต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นอีกราว 2 เดือน และทำให้การอนุมัติวัคซีนล่าช้าออกไปเป็นในช่วงกลางฤดูร้อน นายเอิร์คยังระบุเพิ่มเติมว่า โนวาแวกซ์ยังมีความพร้อมในการผลิตวัคซีนจำนวนมาก การจัดเก็บวัคซีนหลายสิบล้านโดสไว้ในคลังสินค้า รวมถึงการจัดส่งวัคซีนในสหรัฐ เมื่อเอฟดีเออนุมัติใช้วัคซีนดังกล่าว นอกจากนี้ บริษัทยังได้ทำสัญญาส่งมอบวัคซีน 110 ล้านโดสให้แก่รัฐบาลสหรัฐภายในไตรมาสที่สามของปีนี้ โดยคาดว่าจะได้รับวัคซีนเร็วสุดในเดือนกรกฎาคม ก่อนหน้านี้ โนวาแวกซ์เปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นจากการทดลองวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในอังกฤษที่ระบุว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ดั้งเดิมได้ราวร้อยละ 96 และป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ที่พบการระบาดในอังกฤษได้ราวร้อยละ 86 ทั้งนี้ วัคซีนของโนวาแวกซ์เป็นวัคซีนสองโดสเช่นเดียวกับไฟเซอร์และโมเดอร์นา แต่จัดส่งง่ายกว่า เพราะสามารถเก็บรักษาไว้ในตู้เย็นทั่วไปได้โดยไม่ต้องใช้ตู้แช่แข็ง.-สำนักข่าวไทย   

VOA ส่งตรงจากสหรัฐ : คนไทยในสหรัฐลุ้นรัฐสภาผ่านแผนเยียวยาโควิดของ ปธน.ไบเดน

คนไทยในสหรัฐ กำลังลุ้นให้สภาครองเกรสสหรัฐ ผ่านแผนเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดของโควิด-19 มูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน พยายามผลักดันและเรียกเสียงสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภา สำนักข่าวไทยร่วมกับพันธมิตรข่าว VOA ภาคภาษาไทย โดยคุณ “คมสัน ศรีธนวิบุญชัย” มีรายงานตรงมาจากสหรัฐอเมริกา

สภาผู้แทนสหรัฐจะลงมติร่างกฎหมายเยียวยาโควิดวันศุกร์นี้

วอชิงตัน 23 ก.พ. – สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะลงมติร่างกฎหมายเยียวยาผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ครั้งใหม่ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (57 ล้านล้านบาท) ในวันศุกร์นี้ นายสเตนี โฮเยอร์ ผู้นำอันดับ 2 ของเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจากพรรคเดโมแครต ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า ประชาชนชาวอเมริกันต่างสนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าวอย่างเต็มที่ และสภากำลังเร่งดำเนินการเพื่อผลักดันให้ตราเป็นกฎหมาย คณะกรรมาธิการงบประมาณของรัฐสภาสหรัฐได้ให้ความเห็นชอบในร่างกฎหมายดังกล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ร่างกฎหมายนี้จะช่วยบรรเทาผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐและพรรคเดโมแครตให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก แม้ผลสำรวจความคิดเห็นชี้ว่า ชาวอเมริกันต้องการการสนับสนุนทางเศรษฐกิจมากขึ้น แต่พรรคเดโมแครตที่ครองเสียงข้างมากในสภาแบบปริ่มน้ำ และพรรครีพับลิกันต่างมีความเห็นขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิงเกี่ยวกับการนำงบประมาณไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐและดำเนินการตามข้อเสนอของประธานาธิบดีไบเดนในการจัดหางบประมาณเพิ่มเติมสำหรับซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ขณะนี้ สหรัฐมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 28.3 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 500,000 คน นอกจากนี้ ผลกระทบจากโรคโควิด-19 ยังทำให้ชาวอเมริกันอีกหลายล้านคนต้องตกงาน.-สำนักข่าวไทย

1 4 5 6 7 8 9
...