70 รถตู้คอนเทนเนอร์ ชนกับรถมินิบัส ไฟลุกท่วม ในรัฐแมนิโทบา ทางตอนกลางของแคนาดา เสียชีวิตอย่างน้อย 15 คน บาดเจ็บ 10 คน
145 ไฟป่าแคนาดาขยายวงรุนแรงจนเจ้าหน้าที่ต้องสั่งอพยพประชาชนเพิ่มอีกในหลายพื้นที่ ขณะนี้พบพื้นที่ไฟลุกไหม้กว่า 400 จุด
119 เจ้าหน้าที่ดับเพลิง-กู้ภัยชาวฝรั่งเศส ราว 100 นาย ออกเดินทางเพื่อช่วยภารกิจดับไฟป่าในรัฐควิเบก แคนาดา
109 นิวยอร์ก 8 มิ.ย.- หมอกควันไฟป่าจากแคนาดาแผ่ปกคลุมไปถึงนครนิวยอร์กของสหรัฐเมื่อวันพุธตามเวลาสหรัฐ ขณะที่หลายเมืองตามชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐประกาศเตือนภัยเรื่องคุณภาพอากาศ และประชาชนหลายพันคนในแคนาดาพากันอพยพออกจากบ้าน สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมสหรัฐเผยว่า คนมากกว่า 100 ล้านคนทั่วภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปอเมริกาอยู่ภายใต้คำเตือนเรื่องมลภาวะ เนื่องจากหมอกควันไฟป่าลอยมาไกลหลายร้อยกิโลเมตรจากแคนาดา นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กขอให้คนอยู่แต่ในอาคาร ยกเลิกกิจกรรมกลางแจ้งของโรงเรียนรัฐทุกแห่ง เพราะกลุ่มหมอกพิษหนาสีเหลืองแผ่ปกคลุมอาคารระฟ้าในย่านแมนฮัตตัน ขณะที่มีการเลื่อนเที่ยวบินและการแข่งขันกีฬาหลายรายการ เอเอฟพีอ้างนักท่องเที่ยวสตรีชาวไทยวัย 30 ปีว่า ได้กลิ่นเหมือนมีคนทำอาหารปิ้งย่าง หมอกควันทำให้เธอน้ำตาไหลและระคายเคืองตา ส่วนทนายความชาวนิวยอร์กวัย 43 ปีต้องสวมหน้ากากอนามัยขณะพาสุนัขไปเดินเล่นในสวนสาธารณะเซ็นทรัลพาร์กที่ได้ชื่อว่าเป็นปอดของมหานครแห่งนี้ เขาเผยว่า รู้สึกแสบคอจากหมอกควันที่มีกลิ่นเหมือนไม้ไหม้ไฟ เว็บไซต์ไอคิวแอร์ดอทคอม (IQAir.com) ที่ติดตามคุณภาพอากาศทั่วโลกระบุว่า นครนิวยอร์กที่เคยขึ้นชื่อเรื่องท้องฟ้าปลอดโปร่งสดใสขณะนี้มีดัชนีคุณภาพอากาศหรือเอคิวไอ (AQI) เลวร้ายเป็นอันดับ 1 ของโลก แซงหน้ากรุงนิวเดลีของอินเดีย ทั้งที่ปกติแล้วนครนิวยอร์กไม่ติดอยู่ในเมืองมลพิษ 3,000 อันดับแรก ขณะที่แอร์นาว (AirNow) เผยว่า ค่าเอคิวไอของนครนิวยอร์กเมื่อเวลา 17:00 น.วันพุธตามเวลาท้องถิ่นอยู่ที่ 413 ใกล้แตะระดับอันตรายสูงสุดที่ 500 ส่วนที่แคนาดา ประชาชนมากกว่า 11,000 คนได้อพยพออกจากรัฐควิเบกที่เป็นรัฐใหญ่ที่สุด อยู่ทางตะวันออกของประเทศ คาดว่าจะมีคนอพยพอีก 4,000 คน ไฟป่าในแคนาดาเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคม […]
100 เวสต์เจ็ต (WestJet) สายการบินต้นทุนต่ำของแคนาดา ประกาศยกเลิกเที่ยวบินเกือบ 100 เที่ยวในวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น ก่อนที่นักบินจะนัดหยุดงานเรียกร้องเรื่องค่าจ้างในวันศุกร์
121 จีนขับกงสุลแคนาดาประจำนครเซี่ยงไฮ้ออกนอกประเทศ เพื่อตอบโต้หลังจากแคนาดาแจ้งว่า จะขับนักการทูตจีนที่ถูกกล่าวหาว่าข่มขู่นักการเมืองแคนาดาที่วิพากษ์วิจารณ์จีน
130 ปักกิ่ง 9 พ.ค.- จีนประกาศจะตอบโต้ด้วยมาตรการเด็ดขาด หลังจากแคนาดาเผยว่าจะขับนักการทูตจีนที่ข่มขู่นักการเมืองแคนาดาที่วิพากษ์วิจารณ์จีน สถานทูตจีนในแคนาดาแถลงว่า จีนจะดำเนินมาตรการตอบโต้อย่างเด็ดขาด และแคนาดาจะต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบผลที่เกิดขึ้นตามมาทุกอย่าง ด้านรัฐบาลจีนแถลงว่า ได้ยื่นหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการเรื่องแคนาดาละเมิดกฎหมายสากลและบรรทัดฐานทางการทูต พร้อมกับกล่าวหาแคนาดาว่าจงใจบั่นทอนความสัมพันธ์กับจีนที่เป็นคู่ค้าอันดับ 2 ของแคนาดา หลังจากเมลานี โจลี รัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดาประกาศเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า นายจ้าว เหว่ย เจ้าหน้าที่ที่สถานกงสุลจีนในนครโทรอนโตเป็น “บุคคลที่ไม่พึงปรารถนา” แคนาดาจะไม่ยอมให้ต่างชาติแทรกแซงกิจการภายในของแคนาดาในทุกรูปแบบ แคนาดายืนหยัดในความแน่วแน่เรื่องการปกป้องประชาธิปไตยคือสิ่งที่สำคัญที่สุด และได้เตือนนักการทูตต่างชาติในแคนาดามาโดยตลอดว่า หากมีพฤติกรรมไม่พึงปรารถนาก็จะถูกส่งกลับประเทศ นายจ้าว เหว่ยถูกทางการแคนาดาขีดเส้นตายให้เดินทางออกจากแคนาดาภายใน 5 วัน หลังจากนายไมเคิล ชง สมาชิกรัฐสภาแคนาดาเป็นแกนนำร้องเรียนตามที่หนังสือพิมพ์โกลบแอนด์เมลในแคนาดาอ้างรายงานของหน่วยข่าวกรองแคนาดาว่า หน่วยข่าวกรองของจีนได้วางแผนเล่นงานนายชงและญาติในฮ่องกง เพื่อลงโทษที่เขาสนับสนุนญัตติประณามการกระทำของจีนในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564.-สำนักข่าวไทย
187 มอสโก 23 เม.ย.- รัสเซียแนะนำพลเมืองให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปแคนาดา โดยอ้างว่ามีชาวรัสเซียถูกเลือกปฏิบัติจำนวนมาก รวมไปถึงการทำร้ายร่างกาย กระทรวงต่างประเทศรัสเซียระบุในคำแนะนำการเดินทางว่า เนื่องจากเกิดเหตุพลเมืองชาวรัสเซียถูกเลือกปฏิบัติจำนวนมากในแคนาดา รวมถึงการใช้ความรุนแรงทางร่างกาย กระทรวงจึงขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปแคนาดาเพื่อท่องเที่ยว การศึกษา และการทำธุรกิจ ส่วนชาวรัสเซียที่อยู่ในแคนาดาอยู่แล้ว ขอให้ใช้ความระมัดระวังโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานที่สาธารณะ คำแนะนำดังกล่าวลงวันที่ 20 เมษายน 2566 เผยแพร่เผยบัญชีเทเลแกรมของกระทรวงต่างประเทศรัสเซียเมื่อวันเสาร์ แคนาดาเป็นหนึ่งในประเทศที่แสดงความสนับสนุนยูเครนอย่างชัดเจนในสงครามที่เกิดขึ้นกับรัสเซีย และได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่และธุรกิจรัสเซียจำนวนมาก รวมถึงห้ามทำการค้าหลากหลายอย่าง นอกจากนี้ยังแนะนำพลเรือนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปรัสเซียตั้งแต่เกิดสงครามได้ไม่นาน ส่วนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วรัสเซียได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรกับเจ้าหน้าที่และบุคคลสาธารณะของแคนาดาทั้งหมด 333 คน โดยระบุว่าเพื่อตอบโต้ที่แคนาดาใช้มาตรการจำกัดกับรัสเซียและสนับสนุนยูเครน.-สำนักข่าวไทย
55 ชาวแคนาดาหลายแสนครัวเรือนยังไม่มีไฟฟ้าใช้ หลังเผชิญกับพายุน้ำแข็งพัดกระหน่ำมาตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตไป 3 คน
89 พายุน้ำแข็งพัดกระหน่ำภาคตะวันออกของแคนาดา มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 คน และไม่มีไฟฟ้าใช้ราว 1 ล้านคนเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น เนื่องจากน้ำแข็งเกาะสะสมตามกิ่งไม้จนหักและพาดสายไฟฟ้าขาด
170 ออตตาวา 30 มี.ค.- แคนาดาเร่งเดินหน้าการผลิตแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าหรืออีวี (EV) ด้วยการนำมาตรการจูงใจทางภาษี การมีแหล่งแร่สำคัญจำนวนมาก และการใช้พลังงานสะอาดมาจูงใจนักลงทุนข้ามชาติ ปัจจุบันแคนาดาเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่อีวีรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกรองจากจีน บริษัทใหญ่เช่น โฟลก์สวาเกน สเตลแลนทิส แอลจี เปิดโรงงานผลิตในแคนาดา และมีการลงทุนในธุรกิจนี้มากกว่า 18,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (มากกว่า 455,070 ล้านบาท) ล่าสุดรัฐบาลแคนาดาได้ให้เครดิตภาษีร้อยละ 30 สำหรับการซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ใหม่สำหรับผลิตเทคโนโลยีสะอาด และสำหรับทำเหมืองหรือรีไซเคิลโคบอลต์ ลิเธียม นิเคิล และแร่สำคัญอื่น ๆ ที่ใช้ในการผลิตแบตเตอรี่อีวี สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจในรัฐควิเบกของแคนาดาระบุว่า แคนาดาเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีแร่ทุกชนิดที่จำเป็นต่อการผลิตแบตเตอรี่อีวี นอกจากนี้การที่โรงงานผลิตของแคนาดาตั้งอยู่ใกล้กับโรงงานประกอบรถอีวีทั้งในแคนาดาและสหรัฐทำให้แคนาดามีความได้เปรียบจีน แม้ว่าจีนครองตลาดแบตเตอรี่ลิเธียมไออนมากถึงร้อยละ 75 สำนักงานพลังงานสากลหรือไออีเอ (IEA) คาดว่า ความต้องการแร่ธาตุจำเป็นสำหรับผลิตแบตเตอรี่อีวีอาจจะเพิ่มขึ้น 4-6 เท่าภายในปี 2583 แคนาดายังชูจุดขายเรื่องพลังงานสะอาด โดยมีมาตรการจูงใจมูลค่า 80,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2 ล้านล้านบาท) ส่งเสริมการลงทุนการผลิตไฟฟ้าที่ไม่ปล่อยคาร์บอน การใช้เทคโนโลยีสีเขียวและการทำเหมืองที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งส่งเสริมการรีไซเคิลแบตเตอรี่อีวีเพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานสำหรับเศรษฐกิจหมุนเวียน.-สำนักข่าวไทย
139 ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ เดินทางถึงแคนาดาแล้ววานนี้ ซึ่งเขามีกำหนดจะพบหารือกับนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด และกล่าวสุนทรพจน์ต่อรัฐสภาแคนาดา ในขณะที่มีรายงานข่าวว่า ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงในการจัดการกับคนต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองโดยไม่มีเอกสารที่ถูกต้องตามแนวชายแดนที่ยาวมากของทั้งสองประเทศ
