เวียดนามวอนจีนเร่งเปิดพรมแดนหลังการค้าชะงัก

ฮานอย 2 ม.ค.- เวียดนามขอให้ทางการเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ทางใต้ของจีนดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อผ่อนคลายความคับคั่งบริเวณด่านข้ามพรมแดน หลังจากจีนเข้มงวดมาตรการควบคุมพรมแดนตามนโยบายควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้เป็นศูนย์ สำนักข่าวเวียดนามหรือวีเอ็นเอ (VNA) เผยแพร่ภาพนิ่งและคลิปรถบรรทุกหลายพันคันติดค้างอยู่บริเวณพรมแดน หลังจากมีข่าวว่ากว่างซีจ้วงพบคนติดโควิดที่มาจากต่างประเทศ วีเอ็นเออ้างแถลงการณ์ของกระทรวงการค้าเวียดนามว่า มาตรการป้องกันไวรัสที่กว่างซีจ้วงใช้อยู่ ซึ่งมีทั้งการปิดประตูพรมแดนและระงับการนำเข้าผลไม้ เป็นสิ่งที่เกินความจำเป็น การหยุดชะงักนี้ส่งผลเสียต่อการค้าทวิภาคีและสร้างความสูญเสียใหญ่หลวงให้แก่ธุรกิจและผู้คนทั้งสองฝั่ง วีเอ็นเอรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่การค้ากว่างซีจ้วงตอบกลับว่า จะเพิ่มระยะเวลาการให้บริการด้านพิธีการศุลกากร และส่งต่อกระบวนการอื่น ๆ ไปยังเจ้าหน้าที่ระดับสูงต่อไป จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม และเป็นตลาดส่งออกผักผลไม้ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม การค้าสินค้าเกษตรของสองประเทศในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2564 มีมูลค่า 11,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 375,100 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 19.5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า.-สำนักข่าวไทย

“เจ ชนาธิป” ยกเครดิตให้เพื่อนร่วมทีมที่ทำได้ 2 ประตู

24 ธ.ค. – “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่ทำคนเดียว 2 ประตู ยกเครดิตให้กับเพื่อนร่วมทีมทุกคนที่ช่วยกันเล่น ทำให้ทำได้ 2 ประตู เอาชนะเวียดนามได้ ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน

เวียดนามเล็งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้คนวัยผู้ใหญ่ให้ครบ

กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามกล่าววันนี้ว่า รัฐบาลเวียดนามตั้งเป้าจะฉีดวัคซีนเข้ากระตุ้นป้องกันการติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ให้ประชากรวัยผู้ใหญ่ให้ครบทุกคนภายในสิ้นเดือนมีนาคมปีหน้า

“ชนาธิป” ยิง 2 ประตู พาช้างศึกชนะเวียดนาม 2-0

ชนาธิป สรงกระสินธ์ ยิง 2 ประตู พา “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ชนะเวียดนาม 2-0 ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 รอบรองชนะเลิศ นัดแรก

เวียดนามสั่งจำคุกผู้ลักลอบค้านอแรดหนักสุดเป็นประวัติการณ์

ฮานอย 8 ธ.ค. – ศาลเวียดนามสั่งจำคุกผู้ลักลอบค้านอแรดเป็นเวลาสูงสุดถึง 14 ปี ซึ่งถือเป็นโทษจำคุกที่ยาวนานที่สุดเป็นประวัติการณ์ในการพิพากษาคดีเกี่ยวกับการค้าสัตว์ป่าของเวียดนาม องค์กรการศึกษาเพื่อธรรมชาติของเวียดนาม (ENV) ซึ่งเป็นกลุ่มอนุรักษ์สัตว์ป่าของเวียดนาม เผยวันนี้ว่า ศาลเวียดนามได้ตัดสินจำคุก นายโต มินห์ โทน ชาวเวียดนาม วัย 36 ปี เป็นเวลา 14 ปีจากคดีค้าและลักลอบขนนอแรดจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เข้ามาในเวียดนาม คำพิพากษาดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ศุลกากรของท่าอากาศยานนานาชาติโหน่ยบ่ายในกรุงฮานอยได้ตรวจพบนอแรด 55 ชิ้น ซึ่งมีน้ำหนักรวมราว 125 กิโลกรัม ในปี 2562 จากการลักลอบนำเข้าอย่างแนบเนียนด้วยการหล่อปูนปลาสเตอร์ห่อหุ้มนอแรดไว้ ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า บทลงโทษดังกล่าวถือว่ารุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์การพิพากษาคดีที่เกี่ยวข้องกับการค้านอแรดและการค้าสัตว์ป่าของเวียดนาม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ของเวียดนามเริ่มจริงจังกับการใช้บทลงโทษรุนแรงเพื่อปราบปรามกลุ่มผู้ค้าสัตว์ป่าโดยผิดกฎหมาย องค์กรดังกล่าวยังระบุว่า เวียดนามมีคดีที่เกี่ยวข้องกับการค้านอแรกทั้งหมด 317 คดีนับตั้งแต่ปี 2560 ในจำนวนนี้ มีผู้ค้านอแรดที่ถูกจับกุมและตั้งข้อหา 24 คน โดยส่วนใหญ่ผู้ที่มีความผิดมักถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลากว่า 5 ปี ทั้งนี้ เวียดนามถือเป็นศูนย์กลางการบริโภคและจุดแวะพักยอดนิยมสำหรับการค้าอวัยวะสัตว์ป่าที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ทางการเวียดนามได้ให้คำมั่นมาเป็นเวลานานแล้วว่าจะปราบปรามขบวนการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายข้ามพรมแดน แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนให้ความเห็นว่า ยังคงมีตลาดมืดค้าสัตว์ป่าอยู่ในเวียดนาม เนื่องจากการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เข้มงวด.-สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมดินถล่มในเวียดนาม สูญหาย 18 คน

ฮานอย 2 ธ.ค.- รัฐบาลเวียดนามแจ้งว่า ฝนที่ตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มทางตอนกลางของประเทศ เป็นเหตุให้มีผู้สูญหาย 18 คน ในจำนวนนี้บางรายอาจเสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนและถนนเสียหาย แถลงการณ์ของรัฐบาลเวียดนามระบุว่า ปริมาณฝนเริ่มลดลงแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังคงอยู่ระหว่างตามหาผู้สูญหาย ขณะที่ทางหลวง ทางเชื่อมระหว่างจังหวัด และถนนสายย่อยถูกกีดขวางบางส่วน ภาพข่าวตามเว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์ช่วงหลายวันมานี้เห็นน้ำท่วมสีโคลนไหลเชี่ยว ประชาชนต้องใช้เรือสัญจรบนถนนที่แปรสภาพเป็นคลอง หรือเดินลุยน้ำท่วมสูงระดับเอว หลายคนเข็นรถจักรยานยนต์ที่เครื่องดับแล่นต่อไม่ได้ จังหวัดฟู้เอียนและจังหวัดบิ่ญดิ่ญที่อยู่ริมชายฝั่งตอนกลาง และจังหวัดดั๊กลัก แหล่งปลูกกาแฟของเวียดนามเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด มีรายงานว่า น้ำท่วมนาข้าวกินพื้นที่ราว 7.8 ตารางกิโลเมตร แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายของไร่กาแฟ เวียดนามมีแนวชายฝั่งยาวจึงเสี่ยงประสบภัยพายุและน้ำท่วมอยู่เสมอ ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ส่วนใหญ่เป็นน้ำท่วมและดินถล่มคร่าชีวิตคนไป 378 คนเมื่อปีก่อน.-สำนักข่าวไทย

ไทย-เวียดนาม ดันการค้า 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ไทย-เวียดนาม จับมือสร้างหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ดันการค้า 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 68 ชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดการค้าชายแดน

เวียดนามเปิดเกาะรับนักท่องเที่ยวครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี

นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 200 คน ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว เดินทางถึงเกาะฟู่ก๊วก สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเวียดนามในวันนี้ ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกที่เดินทางมายังเวียดนามในรอบเกือบ 2 ปี ในขณะที่เวียดนามพยายามจะฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของโควิด-19

เรือบรรทุกน้ำมันเวียดนามออกจากน่านน้ำอิหร่านแล้ว

เรือบรรทุกน้ำมันจดทะเบียนในเวียดนามล่องออกจากน่านน้ำอิหร่านเข้าสู่น่านน้ำสากลแล้วในวันนี้ หลังจากถูกกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่านยึดไว้ตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม

เฟซบุ๊กเลิกบล็อกแฮชแท็กที่มี รมต. เวียดนามกินสเต๊กห่อทอง

ฮานอย 9 พ.ย. – เมตา บริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก ระบุวันนี้ว่า ได้ปลดบล็อกแฮชแท็กซอลต์เบ (#saltbae) ที่เป็นชื่อเล่นของนูสเรต โกเช เชฟชาวตุรกีเจ้าของท่าโรยเกลือที่ดังไปทั่วโลก โดยแฮชแท็กดังกล่าวถูกบล็อกทั่วโลกเพียงไม่กี่วันหลังจากที่เขาได้โพสต์คลิปวิดีโอป้อนสเต๊กเนื้อห่อทองคำให้นายโต เลิม รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของเวียดนาม โฆษกของเมตาเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า บริษัทได้ปลดบล็อกแฮชแท็กซอลต์เบในเฟซบุ๊กแล้ว และกำลังสืบสวนว่าทำไมจึงเกิดเรื่องนี้ขึ้น ทั้งยังยืนยันว่าการบล็อกแฮชแท็กดังกล่าวเกิดขึ้นในผู้งานเฟซบุ๊กทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะในเวียดนาม สำนักข่าวรอยเตอร์สยังไม่ทราบแน่ชัดว่า เพราะเหตุใดแฮชแท็กนี้จึงถูกบล็อก และโฆษกคนดังกล่าวก็ปฏิเสธพูดถึงสาเหตุที่เป็นไปได้ ทั้งนี้ ในขณะที่แฮชแท็กซอลต์เบถูกบล็อก มีข้อความแจ้งเตือนว่าการค้นหาแฮชแท็กดังกล่าวละเมิดมาตรฐานชุมชน ก่อนหน้านี้ โกเชได้โพสต์คลิปวิดีโอลงในบัญชีผู้ใช้งานติ๊กต็อก (TikTok) ของเขาเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งแสดงให้เห็นภาพที่เขากำลังป้อนสเต๊กเนื้อห่อทองคำให้นายโต เลิม ที่ร้านอาหารของเขาในกรุงลอนดอน โดยที่สเต๊กดังกล่าวมีราคาสูงถึง 1,450 ปอนด์ (ราว 65,000 บาท) คลิปวิดีโอดังกล่าวทำให้นายเลิม วัย 64 ปี ซึ่งเดินทางไปอังกฤษเพื่อเข้าร่วมการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสมัยที่ 26 (COP26) ที่เมืองกลาสโกว์ในสกอตแลนด์ ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ทั้งในสื่อออนไลน์และออฟไลน์ของเวียดนาม โดยที่ผู้คนส่วนใหญ่ตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมสมาชิกระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามจึงไปนั่งรับประทานอาหารหรูราคาแพงในขณะที่เวียดนามดำเนินนโยบายปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างจริงจัง.-สำนักข่าวไทย

1 28 29 30 31 32 89
...