ทั่วโลกแห่ชมซูเปอร์มูนครั้งสุดท้ายของปีนี้
เมื่อคืนที่ผ่านมาผู้คนทั่วโลกมีโอกาสได้ชมดวงจันทร์ที่เรียกว่าซูเปอร์มูนซึ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้
เมื่อคืนที่ผ่านมาผู้คนทั่วโลกมีโอกาสได้ชมดวงจันทร์ที่เรียกว่าซูเปอร์มูนซึ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้
ลิมา 14 พ.ย.- เกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างตำรวจปราบจลาจลของเปรูกับผู้ประท้วงกลุ่มต่าง ๆ ที่เคลื่อนไหวก่อนที่จะมีการประชุมสุดยอดผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคที่กรุงลิมาของเปรูระหว่างวันที่ 14-17 พฤศจิกายน ผู้ประท้วงบางส่วนพยายามเคลื่อนขบวนเข้าไปใกล้กับอาคารรัฐสภา ขณะที่บางกลุ่มชุมนุมกันอยู่ที่จัตุรัสซาน มาร์ติน และมีคนพยายามจะปีนขึ้นไปบนอนุสาวรีย์ ซึ่งมีตำรวจปราบจลาจลประจำการอยู่ ผู้ชุมนุมพยายามผลักดันและขว้างปาสิ่งของเข้าใส่เจ้าหน้าที่จนเกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้น เหตุปะทะกันทำให้มีผู้ประท้วงบางส่วนได้รับบาดเจ็บ ในเวลาเดียวกันที่ทำเนียบประธานาธิบดีเปรูในกรุงลิมา ประธานาธิบดีดินา โบลัวเต กำลังให้การต้อนรับประธานาธิบดีเลือง เกื่อง ของเวียดนาม เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างกัน นับเป็นครั้งแรกที่ประธานาธิบดีเวียดนามได้เยือนเปรูอย่างเป็นทางการ โอกาสนี้ผู้นำเปรูได้มอบเครื่องอิสริยาภรณ์พระอาทิตย์แห่งเปรู ซึ่งเป็นเครื่องอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดของเปรูเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้นำเวียดนามด้วย.-816(814).-สำนักข่าวไทย
ฮานอย 12 พ.ย.- นายโต เลิม เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสนทนาทางโทรศัพท์กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงความยินดีที่ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และหารือหนทางกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างกัน พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเผยแพร่แถลงการณ์ในเว็บไซต์วันนี้ว่า นายโต เลิมได้กล่าวระหว่างสนทนาทางโทรศัพท์กับนายทรัมป์เมื่อวานนี้ว่า เวียดนามพร้อมส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีระยะยาวและยั่งยืน เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ขณะที่นายทรัมป์แสดงความชื่นชมความสัมพันธ์กับเวียดนามและความร่วมมือระหว่างกัน และต้องการเดินหน้าส่งเสริมต่อไป นอกจากนี้ผู้นำทั้ง 2 คนยังได้เชิญอีกฝ่ายเยือนประเทศตนเองด้วย ทรัมป์เคยเยือนเวียดนาม 2 ครั้งขณะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐสมัยแรก ครั้งแรกเป็นการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดเอเปคปี 2560 ที่เมืองดานัง และครั้งที่ 2 เป็นการประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 กับนายคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือที่กรุงฮานอยปี 2562 สหรัฐเป็นตลาดส่งออกใหญ่ที่สุดของเวียดนาม และเมื่อเดือนกันยายน ปี 2566 ทั้ง 2 ประเทศได้ยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นเป็นความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างครอบคลุม ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ระดับสูงสุดของเวียดนาม เจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญด้านห่วงโซ่อุปทานเผยกับรอยเตอร์เมื่อสัปดาห์ก่อนว่า เวียดนามอาจเผชิญกับความผันผวนทางการค้าภายใต้รัฐบาลทรัมป์ เพราะในขณะที่เวียดนามอาจได้ประโยชน์จากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่เพิ่มขึ้น แต่ก็เสี่ยงได้รับผลกระทบทางอ้อมจากมาตรการปกป้องทางการค้าของทรัมป์.-814.-สำนักข่าวไทย
ศปช.ย้ำพายุไต้ฝุ่น “หยินซิ่ง” ในทะเลจีนใต้ไม่กระทบไทย คาดอ่อนกำลังไม่ทันขึ้นฝั่งเวียดนาม ส่วน 4 จังหวัดภาคเหนือยังมีฝนและลมกระโชกแรงต้องเฝ้าระวัง
ฮานอย 7 พ.ย.- เจ้าหน้าที่เวียดนามและผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า เวียดนามกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนทางการค้าภายใต้รัฐบาลสหรัฐชุดใหม่ เพราะอาจได้รับลูกหลงจากนโยบายปกป้องทางการค้าของนายโดนัลด์ ทรัมป์ที่ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดี เตรียมเป็นผู้นำสหรัฐคนที่ 47 เวียดนามเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ไปสหรัฐ และมีดุลการค้าเกินดุลกับสหรัฐ 90,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3 ล้านล้านบาท) นับจนถึงเดือนกันยายน เป็นคู่ค้าที่เกินดุลกับสหรัฐมากเป็นอันดับ 4 รองจากจีน สหภาพยุโรป และเม็กซิโก และเป็นประเทศที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการที่สหรัฐขึ้นภาษีสินค้าจีน ซึ่งเป็นนโยบายที่เริ่มมาใช้มาตั้งแต่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐสมัยแรกในปี 2560-2564 เจ้าหน้าที่เวียดนามระบุว่า การที่ทรัมป์ขู่ว่าจะขึ้นภาษีสินค้าจีนสูงถึงร้อยละ 60 หากได้รับเลือกตั้งอีกสมัย เป็นเรื่องที่น่ากังวล เพราะที่ผ่านมาเวียดนามเกินดุลการค้าสหรัฐ ส่วนหนึ่งเพราะเป็นสถานที่ประกอบชิ้นส่วนที่ส่วนใหญ่ผลิตในจีน นอกจากนี้ทรัมป์ยังขู่จะขึ้นภาษีสูงสุดร้อยละ 20 กับสินค้านำเข้าจากทุกประเทศด้วย บริษัทกฎหมายสากลแห่งหนึ่งในเวียดนามชี้ว่า เวียดนามมีความเสี่ยงสูงที่จะตกเป็นเป้าหมายของมาตรการปกป้องทางการค้าและได้รับลูกหลง แต่ในขณะเดียวกันมาตรการปกป้องทางการค้าของทรัมป์อาจเร่งให้เกิดการย้ายห่วงโซ่อุปทานจากจีนไปยังตลาดอื่น ๆ ซึ่งเวียดนามน่าจะเป็นจุดหมายแรก ๆ ของบริษัทที่คิดย้ายฐานการผลิตออกจากจีน นักการทูตในเวียดนามคนหนึ่งแนะว่า เวียดนามอาจลดยอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐได้ด้วยการสั่งซื้อสินค้าราคาสูงจากสหรัฐ เช่น ก๊าซธรรมชาติเหลวหรือแอลเอ็นจี (LNG) และเครื่องบินลำเลียงซี-130 ขณะที่นักลงทุนคนหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่า เวียดนามอาจได้ประโยชน์ เพราะองค์กรทรัมป์ที่เป็นกลุ่มธุรกิจของเขา เพิ่งเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทเวียดนามเมื่อไม่นานมานี้ เพื่อพัฒนาโครงการสนามกอล์ฟและโรงแรมมูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ […]
ฮานอย 27 ต.ค. – พายุจ่ามี (Trami) ขึ้นฝั่งทางตอนกลางของเวียดนามแล้วในวันนี้ ทางการเตือนว่า ฝนที่ตกกระหน่ำเพราะพายุอาจทำให้เกิดน้ำท่วมที่เป็นอันตราย สำนักอุตุนิยมวิทยาของเวียดนามพยากรณ์ว่า หลายจังหวัดตั้งแต่กว๋างบิ่ญลงไปจนถึงกว๋างนามอาจจะมีฝนตกหนักถึง 600 มิลลิเมตรในวันอาทิตย์และวันจันทร์ และมีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดน้ำท่วมในเขตเมืองไล่ตั้งแต่จังหวัดห่าติ๋ญลงไปจนถึงบิ่ญดิ่ญ นอกจากนี้ยังพยากรณ์ว่า จะมีฝนตกหนักบริเวณที่ราบสูงตอนกลาง ซึ่งเป็นแหล่งปลูกกาแฟที่สำคัญของเวียดนาม โดยเมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ตามเวลาเวียดนาม ตรงกับเวลาเดียวกันในไทย พายุจ่ามีมีความเร็วลมสูงสุด 88 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวอยู่ห่างจากเมืองดานังไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 65 กิโลเมตร สำนักงานการบินพลเรือนแห่งเวียดนามแจ้งว่า พายุได้ทำให้ท่าอากาศยาน 4 แห่ง ทางตอนกลางของประเทศต้องปิดทำการชั่วคราว หนึ่งในนั้น คือ ท่าอากาศยานนานาชาติในเมืองดานังที่จะปิดตั้งแต่เวลา 06.00 น.วันอาทิตย์จนถึงเวลา 04.00 น.วันจันทร์ (อ่านเพิ่มเติม https://tna.mcot.net/world-1438713) เดือนที่แล้ว ไต้ฝุ่นยางิ (Yagi) ได้พัดกระหน่ำพื้นที่ทางเหนือของเวียดนาม ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ คร่าชีวิตประชาชนมากกว่า 300 คน และสร้างความเสียหายทางทรัพย์สินคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 3,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (มากกว่า 111,000 ล้านบาท).-814.-สำนักข่าวไทย
วียดนามเตรียมการรับมือกับพายุโซนร้อน “จ่ามี” ที่คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งใน 1-2 วันข้างหน้านี้ ส่วนที่ฟิลิปปินส์ซึ่งถูกพายุพัดถล่มไปก่อนหน้านี้
ฟิลิปปินส์สั่งปิดทำการหน่วยงานของรัฐบาลและหยุดการเรียนการสอนที่โรงเรียนเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับพายุโซนร้อน “จ่ามี” (TRAMI)
รัฐสภาเวียดนามลงมติในวันนี้เลือก พล.อ.เลือง เกื่อง (Luong Cuong) นายทหารของกองทัพบก เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมายไว้อย่างกว้างขวาง
ประธานสมาคมอาหารเวียดนามกล่าววันนี้ว่า การส่งออกข้าวของเวียดนามในปีนี้คาดว่าจะสูงกว่า 7.6 ล้านตัน
“แพทองธาร” นายกฯ หารือทวิภาคีเวียดนาม มั่นใจบรรลุเป้าหมายการค้าระหว่างกันกว่า 850,000 ล้านบาท พร้อมขอเปิดเที่ยวบินตรง ระหว่าง จ.อุดรธานี กับเมืองต่างๆ ที่น่าสนใจในเวียดนาม
ฮานอย 5 ต.ค.- เกิดเหตุไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงที่โรงงานของบริษัทยานยนต์ไฟฟ้าเวียดนาม-ญี่ปุ่น ทางตอนเหนือของเวียดนาม มีจักรยานไฟฟ้าและจักรยานยนต์ไฟฟ้าถูกไฟเผาเสียหายราว 3,000 คัน สถานีโทรทัศน์วีทีวี (VTV) ของทางการเวียดนามรายงานว่า กลุ่มควันหนาทึบพวยพุ่งขึ้นจากโกดังของบริษัทยานยนต์ไฟฟ้าดีเค เวียดนาม-เจแปน ในเมืองหล่างเซิน ทางภาคเหนือของเวียดนาม หลังจากมีรายงานไฟไหม้เมื่อเวลา 07.00 น.วันศุกร์ตามเวลาเวียดนาม และได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นหลายครั้ง นอกจากมีจักรยานและจักรยานยนต์ไฟฟ้าถูกไฟเผาเสียหายประมาณ 3,000 คันแล้ว ยังมีชิ้นส่วนอุปกรณ์จักรยานยนต์ไฟฟ้าเสียหายอีกประมาณ 2,000 ชิ้น ไฟเริ่มจากชั้น 2 ของโกดังเก็บอะไหล่ แล้วไหม้ลามไปยังชั้นอื่น ๆ รวมถึงอาคารใกล้เคียง โรงงานแห่งนี้กินพื้นที่มากกว่า 3,000 ตารางเมตร เป็นที่ตั้งของโรงงานผลิต โรงงานประกอบ โรงงานอะไหล่ และโชว์รูม ขณะเกิดเหตุมีคนงานอยู่ไม่กี่คนและต่างหลบหนีรอดออกมาได้ เจ้าหน้าที่สามารถดับไฟได้หมดแล้วและกำลังสอบสวนหาสาเหตุไฟไหม้.-820(814).-สำนักข่าวไทย