เมียนมา

กระแสการประท้วงการรัฐประหารทคุกรุ่นต่อเนื่องมาตั้งแต่สุดสัปดาห์ เช้าวันนี้ที่ครบรอบ 1 สัปดาห์การยึดอำนาจ มีผู้ประท้วงหลายร้อยคน

เมียวดี 7 ก.พ.- คลิปถ่ายทอดสดที่เผยแพร่ในเฟซบุ๊กได้ยินเสียงปืนดัง ในขณะที่ตำรวจเมียนมากำลังสลายผู้ชุมนุมในเมืองเมียวดี ติดกับอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ของไทย ส่วนที่เมืองย่างกุ้ง การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเริ่มใช้งานได้แล้ว หลังถูกตัดไปวันกว่า คลิปดังกล่าวเห็นตำรวจในเครื่องแบบพร้อมอาวุธปืนวิ่งเข้าไปในกลุ่มผู้ชุมนุมที่รวมตัวกันอยู่หลายร้อยคน ในคลิปได้ยินเสียงปืน แต่ยังไม่แน่ชัดว่ามาจากที่ใด และมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตหรือไม่ ส่วนที่เมืองย่างกุ้ง ชาวเมืองเผยว่า เข้าอินเทอร์เน็ตได้แล้วในวันนี้ หลังจากถูกตัดการเชื่อมต่อไปตั้งแต่วันเสาร์ เมื่อประชาชนเริ่มชุมนุมจำนวนมาก ต่อต้านการรัฐประหารและเรียกร้องให้ปล่อยตัวนางออง ซาน ซู จี รอยเตอร์ ระบุว่า การชุมนุมเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันในเมืองย่างกุ้ง และการชุมนุมในอีกหลายเมืองทั่วเมียนมาในขณะนี้ ถือเป็นการชุมนุมใหญ่ที่สุด นับจากการชุมนุมที่มีพระสงฆ์เป็นแกนนำในปี 2550 ด้านนายโทมัส แอนดรูส์ ผู้รายงานพิเศษเรื่องเมียนมาของสหประชาชาติ แถลงวันนี้ว่า มีคนถูกจับกุมแล้วกว่า 160 คน นับตั้งแต่กองทัพเมียนมารัฐประหารยึดอำนาจ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ขอให้ทุกคนยืนหยัดเคียงข้างชาวเมียนมาที่กำลังตกอยู่ในอันตรายและต้องการความช่วยเหลือ.-สำนกข่าวไทย

ปักกิ่ง 7 ก.พ.- นักสังเกตการณ์เตือนว่า รัฐประหารในเมียนมาเมื่อไม่กี่วันมานี้ควรเป็นเครื่องเตือนใจนักลงทุนชาวจีนที่จะให้เงินสนับสนุนโครงการในต่างประเทศว่า ควรพิจารณาเรื่องความเสี่ยงทางการเมือง โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจำเป็นต้องมีการสอบทานธุรกิจ นักวิจัยของสถาบันไท่เหอในกรุงปักกิ่งชี้ว่า นางออง ซาน ซู จี ดูเหมือนจะอยู่ในจุดที่มั่นคงมากเพราะอยู่ในอำนาจมา 5 ปี และพรรคของเธอชนะการเลือกตั้ง แต่เมื่อมองให้ลึกลงไปจะเห็นว่ากองทัพยังคงทรงอำนาจและเมียนมายังคงมีความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์สูงอยู่ บริษัทจีนที่ทำธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีไม่กี่แห่งที่ประเมินความเสี่ยงเมื่อเทียบกับบริษัทญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ เพราะชอบที่จะสร้างสัมพันธ์กับรัฐบาลท้องถิ่น ทำให้การลงทุนเปราะบางเมื่อเกิดการเปลี่ยนขั้วอำนาจ เรื่องนี้เห็นได้ชัดมากกับการลงทุนในเมียนมาและกัมพูชา กรณีกัมพูชาดูเหมือนมั่นคงเพราะนายกรัฐมนตรีฮุน เซนยังอยู่ในอำนาจอีกนาน แต่ทันทีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงขั้วอำนาจจะเกิดผลกระทบทางสังคม รวมถึงบรรยากาศการลงทุนอย่างใหญ่หลวง นักลงทุนจีนจึงควรประเมินล่วงหน้าอย่างดีและมองในระยะยาว ด้านนักวิจัยอาวุโสของสถาบันวิจัยความปลอดภัยโพ้นทะเลของจีนแนะว่า นักลงทุนจีน โดยเฉพาะบริษัทของรัฐจะต้องประเมินโอกาสที่จะถูกลูกหลงอย่างรอบคอบ โดยยกตัวอย่างเรื่องที่นายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัดของมาเลเซียขู่ในปี 2561 ว่าจะยกเลิกโครงการทางรถไฟที่จีนสนับสนุนและลงนามไปในสมัยรัฐบาลนาจิบ ราซักว่า แม้มีการจรจาใหม่ในภายหลังแต่ก็เป็นอุปสรรคใหญ่ต่อความริเริ่มเส้นทางสายไหมในศตวรรษใหม่ (Belt and Road Initiative) ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง สำหรับกรณีของเมียนมา ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐขู่จะคว่ำบาตร ซึ่งอาจเป็นปัญหาต่อธุรกิจจีน หากสหรัฐคว่ำบาตรบริษัทที่ทำธุรกิจกับเมียนมา เหมือนที่คว่ำบาตรบริษัทที่ทำธุรกิจกับอิหร่านมาแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ย่างกุ้ง 7 ก.พ.- ชาวเมียนมาชุมนุมใหญ่ในเมืองย่างกุ้ง เมืองใหญ่ที่สุดของประเทศเป็นวันที่สองติดต่อกันในวันนี้ แม้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตถูกตัดหวังยับยั้งกระแสต่อต้านการรัฐประหาร ยึดอำนาจจากรัฐบาลของนางออง ซาน ซู จีเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ผู้ชุมนุมจำนวนมากสวมเสื้อสีแดงที่เป็นสีประจำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยหรือเอ็นแอลดี (NLD) ของนางซู จี ผู้ชุมนุมวัย 37 ปีกล่าวว่า จะเดินหน้าต่อไปและเรียกร้องจนกว่าจะได้ประชาธิปไตย ขอให้เผด็จการทหารล่มสลาย ผู้ชุมนุมอีกคนวัย 27 ปีกล่าวว่า เผด็จการทหารฝังรากลึกในเมียนมามานาน จึงต้องเคลื่อนไหวต่อต้าน ผู้ชุมนุมหลายคนถือป้ายต่อต้านเผด็จการทหาร ชูสามนิ้วขณะเคลื่อนขบวนและตะโกนคำขวัญไปด้วย รายงานระบุด้วยว่า เห็นรถบรรทุกตำรวจหลายคันจอดอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยย่างกุ้ง โดยมีตำรวจปราบจลาจลประจำการอยู่ใกล้ ๆ.สำนักข่าวไทย

นายฌอน เทอร์เนลล์ ชาวออสเตรเลีย ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางด้านเศรษฐกิจให้กับนางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐของเมียนมา แจ้งในข้อความที่ส่งถึงสำนักข่าวรอยเตอร์สในวันนี้ว่า เขาถูกควบคุมตัว หลังจากที่กองทัพเมียนมาก่อรัฐประหารโค่นล้มอำนาจของนางซูจี

ทนายร้องศาลปล่อยตัว “ออง ซาน ซูจี” และประธานาธิบดี วิน มินต์ เนื่องจากไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ขณะที่กองทัพไม่อนุญาตให้ทนายเข้าพบทั้งคู่ อ้างอยู่ระหว่างสอบสวน

อาจารย์และนักศึกษาราว 200 คนชุมนุมประท้วงที่มหาวิทยาลัยดากอง ในนครย่างกุ้งชองเมียนมาในวันนี้เพื่อประท้วงการที่ทหารก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและโค่นล้มรัฐบาลของนางอองซาน ซูจี ซึ่งเป็นผู้นำโดนพฤตินัยของเมียนมา

คิริน โฮลดิงส์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นกล่าววันนี้ว่า ทางบริษัทกำลังยกเลิกข้อตกลงเป็นพันธมิตรกับบริษัทระดับแนวหน้าของเมียนมาที่มีกิจการหลายประเภท ซึ่งเจ้าของถูกสหประชาชาติระบุว่าเป็นสมาชิกในกองทัพเมียนมา ที่ก่อรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเมื่อต้นสัปดาห์นี้