“บารัค โอบามา” จุดประกายในประชุมใหญ่เดโมแครต

การประชุมใหญ่ของพรรคเดโมแครต หรือ ดีเอ็นซี ที่นครชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ วันที่สองมีบุคคลสำคัญขึ้นเวทีมากมายโดยเฉพาะนายบารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดี แล้วยังมีอดีตเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นมาประกาศย้ายข้าง โดยระบุรักชาติมากกว่ารักพรรคการเมือง

เดโมแครตเปิดให้อินฟลูฯ ทำข่าวประชุมใหญ่พรรคเป็นครั้งแรก

ชิคาโก 20 ส.ค. – พรรคเดโมแครตเปิดโอกาสให้ผู้มีอิทธิพลทางความคิดและการตัดสินใจบนสื่อสังคมออนไลน์ หรืออินฟลูเอนเซอร์ ได้เข้าไปรายงานข่าวการประชุมใหญ่พรรคเป็นครั้งแรก หวังเข้าถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งวัยหนุ่มสาวที่สื่อกระแสหลักเข้าไม่ถึง ในการประชุมใหญ่พรรคที่เปิดฉากขึ้นที่เมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์เมื่อคืนวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อฉลองการเสนอชื่อนางคอมมาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตอย่างเป็นทางการในการลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ คณะกรรมการพรรคเดโมแครตได้อนุญาตให้อินฟลูเอนเซอร์เข้ามารายงานข่าวการประชุมตลอด 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 19- 22 สิงหาคม อินฟลูเอนเซอร์หลายรายมองว่า งานนี้นอกจากเป็นโอกาสให้ผู้สร้างเนื้อหาได้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ยังเป็นโอกาสให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลอย่างใกล้ชิด และได้มีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนหนุ่มสาวที่ไม่ได้รับข่าวสารจากสื่อกระแสหลักอย่างโทรทัศน์อีกแล้ว กลุ่มผู้สนับสนุนนางแฮร์ริสพยายามเพิ่มการใช้สื่อสังคมออนไลน์และคลิปไวรัลต่าง ๆ เพื่อต้านทานทีมหาเสียงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งที่เป็นตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน ปัจจุบันแฮร์ริสมีผู้ติดตามบัญชีติ๊กต็อก (TikTok) ราว 4.5 ล้านคน ขณะที่นายทรัมป์มีผู้ติดตามบัญชีติ๊กต็อก 10.4 ล้านรายตั้งแต่เปิดใช้งานในวันที่ 1 มิถุนายน.-814.-สำนักข่าวไทย  

“ไบเดน” หลั่งน้ำตาบนเวทีประชุมใหญ่เดโมแครต

ชิคาโก 20 ส.ค.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐหลั่งน้ำตาขณะขึ้นเวทีการประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตในคืนแรก พรรคเดโมแครตของสหรัฐได้เปิดการประชุมใหญ่ที่เมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ เมื่อคืนวันที่ 19 สิงหาคมตามเวลาท้องถิ่น กำหนดปิดประชุมในวันที่ 22 สิงหาคม ไฮไลต์ของการประชุมคืนแรก คือ การกล่าวสุนทรพจน์ของนายไบเดน ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน นายไบเดน ซี่งเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนยังเป็นตัวแทนพรรคในการสู้ศึกเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน แต่จำต้องเปิดทางให้นางคอมมาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีของเขามาชิงชัยแทน เนื่องจากปัญหาเรื่องความสูงอายุและความนิยมที่ลดต่ำลง การขึ้นปราศัยครั้งนี้จึงได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นทำให้เขากลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้ และต้องหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตา หลังจากนางแอชลีย์ ไบเดน บุตรสาววัย 43 ปี กล่าวแนะนำตัวเขาบนเวที ในคำปราศัยนั้นนายไบเดน ได้กล่าวถึงผลงานที่ทำร่วมกันมากับนางแฮร์ริส พลิกฟื้นเศรษฐกิจหลังจากวิกฤติโควิด และเสริมสร้างให้ชนชั้นกลางมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จากนั้นเขาได้กล่าวโจมตีคู่แข่งการเมืองว่า เขาตัดสินใจลงสมัครเลือกตั้งเพราะความรุนแรงทางการเมืองที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและได้ตำหนินักการเมืองฝ่ายตรงข้ามที่ทำให้เกิดเหตุจลาจลรัฐสภาโดยผู้สนับสนุนนาย โดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อพยายามล้มล้างผลการเลือกตั้ง.-812(814).-สำนักข่าวไทย

“ฮิลลารี คลินตัน” ขึ้นเวทีสนับสนุน “แฮร์ริส”

ชิคาโก 20 ส.ค.- นางฮิลลารี คลินตัน อดีตสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐขึ้นเวทีการประชุมใหญ่พรรคเดโมแครต สนับสนุนนางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรคเดโมแครตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ นางคลินตัน วัย 76 ปี ขึ้นเวทีที่เมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ เมื่อคืนวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นวันแรกของการประชุมทั้งหมด 4 วัน เธอกล่าวว่า เมื่อปี 2559 เธอรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรคชิงตำแหน่งประธานาธิบดี หลังจากนั้นทุกคนยังคงเดินหน้าเพื่ออนาคต ขณะนี้อนาคตดังกล่าวได้อยู่ ณ ที่นี่แล้ว ขอให้ทุกคนช่วยกันส่งให้นางแฮร์ริสและนายทิม วอลซ์ ผู้สมัครคู่ชิงรองประธานาธิบดีได้เข้าไปในทำเนียบขาว คลินตันยกย่องแฮร์ริสว่า มีคุณลักษณะ มีประสบการณ์ และมีวิสัยทัศน์ที่จะนำพาทุกคนไปข้างหน้า จะต่อสู้เพื่อลดค่าครองชีพให้แก่ครอบครัวที่ทำงานหนัก จะเปิดโอกาสให้มีการจ้างงานค่าตอบแทนสูง และจะคืนสิทธิการทำแท้งทั่วประเทศ คลินตันกล่าวถึงทรัมป์ว่า แฮร์ริสได้กล่าวปฏิญาณในวันแรกที่ทำงานในฐานะอัยการว่า เธอจะอุทิศตัวเพื่อประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกันไม่มีวันเข้าใจ จึงไม่แปลกใจที่ทรัมป์ได้โกหกเกี่ยวกับประวัติของแฮร์ริส ล้อเลียนชื่อและการหัวเราะของเธอ.-814.-สำนักข่าวไทย  

การประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตเริ่มแล้ว

ชิคาโก 20 ส.ค.- การประชุมใหญ่ของพรรคเดโมแครตที่นครชิคาโกได้เริ่มเปิดฉากขึ้นแล้ว โดยที่นางคอมมาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีซึ่งเป็นตัวแทนพรรคในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ได้สร้างความประหลาดใจด้วยการขึ้นเวทีก่อนกำหนดเวลา ทั้งนี้ตามกำหนดเดิมนางแฮร์ริสจะขึ้นเวทีพร้อมกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนที่จะเป็นผู้กล่าวสุนทรพจน์คนสำคัญในคืนวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น และทันทีที่เธอปรากฎตัวก็ได้รับการปรบมือต้อนรับเสียงดังกึกก้องเป็นเวลานาน  ขณะที่นางฮิลลารี คลินตัน อดีตสตรีหมายเลขหนึ่งมีกำหนดจะขึ้นเวทีด้วย การประชุมใหญ่ของพรรคเดโมแครตจะมีขึ้นทั้งหมด 4 วัน  ผลโพลล์ชี้ว่า แม้นายโดนัลด์ ทรัมป์จากพรรครีพับลิกันยังมีคะแนนนำ แต่นางแฮร์ริสก็มีคะแนนตีตื้นมากขึ้น รวมทั้งในรัฐที่มีการแข่งขันสูง.-816(814).-สำนักข่าวไทย

อดีตนายกฯ หญิงนิวซีแลนด์จะไปประชุมใหญ่พรรคเดโมแครต

เวลลิงตัน 19 ส.ค. – นางจาซินดา อาร์เดิร์น อดีตนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ จะไปร่วมการประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตของสหรัฐที่จะเปิดฉากขึ้นที่เมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ โฆษกส่วนตัวของอาร์เดิร์นส่งอีเมลยืนยันกระแสข่าวก่อนหน้านี้เรื่องนางอาร์เดิร์นจะไปเข้าร่วมการประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 สิงหาคม นอกจากนี้ยังจะเข้าร่วมการประชุมนอกรอบของการประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตด้วย การประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตจะเป็นการเฉิลมฉลองการเสนอชื่อนางคอมมาลา แฮร์ริส เป็นตัวแทนพรรคอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะมีคนจำนวนมากเดินทางมายังเมืองชิคาโก เพื่อแสดงการสนับสนุนเธอ   สำหรับประวัติของนางอาร์เดิร์น วัย 44 ปี เธอรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์คนที่ 40 ในปี 2560 นับเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 3 ของประเทศ อาร์เดิร์นเป็นที่จับตาในระดับโลกนับตั้งแต่นำบุตรสาววัย 3 เดือนไปเข้าร่วมการประชุมใหญ่สหประชาชาติในปี 2561 เธอสวมฮิญาบเพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับชุมชนมุสลิม หลังเกิดเหตุสังหารหมู่ชาวมุสลิมที่เมืองไครสต์เชิร์ชในปี 2562 และประสบความสำเร็จในเบื้องต้นในการรับมือกับโรคโควิด-19 ระบาด เธอประกาศลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนมกราคม 2566 โดยให้เหตุผลว่า หมดพลังแล้ว จากนั้นก็ไม่ปรากฏตัวต่อสื่อเท่าใดนัก.-814.-สำนักข่าวไทย

“แฮร์ริส” ยืนยันไม่แทรกแซงเฟดถ้าได้เป็น ปธน.สหรัฐ

แอริโซนา 11 ส.ค. – รองประธานาธิบดีคอมมาลา แฮร์ริส ของสหรัฐ ย้ำว่า จะไม่แทรกแซงการตัดสินใจของธนาคารกลางของสหรัฐ หรือเฟด (Fed) หากเธอชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี วันที่ 5 พฤศจิกายน นางแฮร์ริส ซึ่งได้รับการเสนอชื่ออย่างเป็นทางการให้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตเมื่อวันที่ 5 สิงหาคมตามเวลาท้องถิ่น เผยกับสื่อระหว่างหาเสียงที่เมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนาเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า เฟดเป็นสถาบันอิสระ และในฐานะประธานาธิบดีเธอจะไม่มีทางแทรกแซงการตัดสินใจของเฟดอย่างแน่นอน จุดยืนของนางแฮร์ริสแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีและตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่ย้ำระหว่างให้สัมภาษณ์สื่อที่บ้านพักมาร์อะลาโกของเขาในรัฐฟลอริดาเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า ประธานาธิบดีสหรัฐควรมีสิทธิมีเสียงในการตัดสินใจของเฟด ประธานเฟดคนปัจจุบัน คือ นายเจอโรม พาวเวล วัย 71 ปี ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมัยแรกเมื่อปลายปี 2560 โดยทรัมป์ที่เป็นประธานาธิบดีในขณะนั้น และได้รับแต่งตั้งอีกสมัยเมื่อต้นปี 2565 โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน และมีกำหนดครบวาระดำรงตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม 2569.-814.-สำนักข่าวไทย

“แฮร์ริส” ขึ้นเวทีหาเสียงกับผู้สมัครคู่เป็นครั้งแรก

เพนซิลเวเนีย 7 ส.ค.- นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ขึ้นเวทีหาเสียงเป็นครั้งแรกร่วมกับนายทิม วอลซ์ ที่เธอเพิ่งเลือกให้เป็นคู่ชิงเลือกตั้งในตำแหน่งรองประธานาธิบดี นางแฮร์ริส วัย 59 ปี และนายวอลซ์ วัย 60 ปี ขึ้นเวทีหาเสียงร่วมกันที่รัฐเพนซิลเวเนีย เปิดฉากการตระเวนหาเสียงในรัฐสมรภูมิหลายรัฐ หวังเปิดตัวนายวอลซ์ให้เป็นที่รู้จักในระดับประเทศ นายวอลซ์แนะนำตัวเองว่า เติบโตในเมืองเล็ก ๆ ในรัฐรัฐเนแบรสกา รับใช้ชาติในกองกำลังพิทักษ์แห่งชาติเป็นเวลานาน 24 ปี เป็นครูสอนสังคมในโรงเรียนมัธยมศึกษา และเป็นโค้ชฟุตบอล ทั้งคู่ประกาศว่า พร้อมที่จะรักษาทำเนียบขาวและสกัดกั้นนายโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ให้ได้เป็นประธานาธิบดีอีกสมัย นายวอลซ์ ปัจจุบันเป็นผู้ว่าการรัฐมินนิโซตา มีประสบการณ์มากมายในการทำธุรกิจและในกองทัพ เขาเริ่มงานการเมืองด้วยการเป็น ส.ส. นาน 12 ปี จากนั้นจึงได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการรัฐมินนิโซตามาแล้ว 2 สมัย ด้วยการผลักดันนโยบายก้าวหน้าหลายด้าน เช่น อาหารกลางวันนักเรียนฟรี กำหนดเป้าหมายสู้โลกร้อน และลดภาษีเพิ่มสวัสดิการให้คนชั้นกลาง ด้านทีมหาเสียงของทรัมป์โจมตีนายวอลซ์ทันทีว่า มีแนวคิดเสรีนิยมเหมือนนางแฮร์ริส ซึ่งเป็นแนวคิดที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการของชาวอเมริกันส่วนใหญ่.-812(814).-สำนักข่าวไทย

“แฮร์ริส” จะเปิดตัวผู้สมัครคู่ชิงรอง ปธน.สหรัฐ

ฟิลาเดลเฟีย 31 ม.ค. – แหล่งข่าวเผยว่า นางคอมมาลา แฮร์ริส ผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ จะเปิดตัวผู้สมัครคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐ และปราศรัยหาเสียงร่วมกันเป็นครั้งแรกที่รัฐเพนซิลเวเนีย ในวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น การตัดสินใจเลือกผู้สมัครคู่กับนางแฮร์ริสกลายเป็นจุดสนใจ นับตั้งแต่ที่เธอเป็นตัวเต็งที่จะได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงเลือกตั้งประธานาธิบดีวันที่ 5 พฤศจิกายน หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศสละสิทธิและสนับสนุนเธอ สำหรับรายชื่อผู้ที่อยู่ในการพิจารณาเป็นผู้สมัครคู่กับแฮร์ริส วัย 59 ปี ได้แก่ นายจอช ชาปิโร ผู้ว่าการรัฐเพนซิลเวเนีย วัย 51 ปี, นายแอนดี บะเชียร์ ผู้ว่าการรัฐเคนทักกี วัย 46 ปี, สว. มาร์ก เคลลี รัฐแอริโซนา วัย 60 ปี, นายทิม วอลซ์ ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตา วัย 60 ปี และนายพีต บูทิเจจ รัฐมนตรีคมนาคม วัย 42 ปี การเลือกปราศรัยหาเสียงกับผู้สมัครคู่เป็นครั้งแรกที่รัฐเพนซิลเวเนียทำให้นายชาปิโร […]

“ทรัมป์” หาเสียงโจมตี “แฮร์ริส” ชุดใหญ่

มินนิโซตา 28 ก.ค.- โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีและตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐหาเสียงโจมตีรองประธานาธิบดีคอมมาลา แฮร์ริส คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ทั้งที่เคยเรียกร้องเรื่องความเป็นเอกภาพในประเทศ หลังรอดชีวิตจากความพยายามลอบสังหาร ทรัมป์ วัย 78 ปี หาเสียงที่เมืองเซนต์คลาวด์ รัฐมินนิโซตาเมื่อวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ เริ่มด้วยการประณามเหตุยิงขีปนาวุธคร่าชีวิตเด็ก ๆ ที่สนามฟุตบอลในที่ราบสูงโกลัน ซึ่งเป็นดินแดนยึดครองของอิสราเอล ทรัมป์ระบุว่า เป็นฝีมือของฮิซบอลเลาะห์ และเกิดขึ้นในที่ราบสูงโกลันที่เขาให้การรับรองในสมัยที่เป็นรัฐบาลว่าเป็นดินแดนของอิสราเอล เหตุโจมตีนี้จะถูกจารึกในประวัติศาสตร์ว่า เกิดจากประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีที่อ่อนแอและไร้ฝีมือของสหรัฐ สิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นหากเขายังคงเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ จากนั้นทรัมป์ได้หาเสียงโจมตีแฮร์ริสว่า เป็นพวกบ้าคลั่งที่เป็นฝ่ายซ้ายหัวรุนแรง เรื่องใหญ่ของเธอมีเรื่องเดียวคือ ยุบกองกำลังตำรวจ หากคอมมาลา แฮร์ริสได้เป็นประธานาธิบดี นั่นหมายถึงอีก 4 ปีของกระแสสุดโต่ง ความอ่อนแอ ความล้มเหลว ความโกลาหล และสงครามโลกครั้งที่ 3 ที่อาจจะเกิดขึ้น ทรัมป์กล่าวหาพรรคเดโมแครตว่า เป็นพวกหัวรุนแรง ขี้โกง โกงการเลือกตั้งครั้งก่อน และจะโกงการเลือกตั้งครั้งนี้ พร้อมกับปิดท้ายการปราศรัยหาเสียงว่า เขาจะทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ต่อมานายเจ ดี แวนซ์ ผู้สมัครคู่ชิงรองประธานาธิบดีของทรัมป์ปราศรัยโจมตีแฮร์ริสว่า สงสัยในความจงรักภักดีต่อประเทศชาติของเขา ทั้งที่เขาเคยรับราชการในหน่วยนาวิกโยธิน เคยไปรบที่อิรัก […]

“แฮร์ริส” หาเสียงครั้งแรก หลัง “ไบเดน” ถอนตัว

วิสคอนซิน 24 ก.ค.- นางคอมมาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐเริ่มการหาเสียงเป็นครั้งแรก ด้วยการสร้างความเชื่อมั่นว่า เธอเป็นมือกฎหมายที่จะมาปราบนาย โดนัลด์ ทรัมป์จากพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเดือนพฤศจิกายนนี้ นางแฮร์ริส ได้ปราศัยหาเสียงเป็นครั้งแรก หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนประกาศถอนตัวและสนับสนุนให้เธอเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดี โดยเลือกไปเปิดเวทีที่รัฐวิสคอนซิน ที่ซึ่งพรรครีพับลิกันเพิ่งจัดการประชุมใหญ่และประกาศอย่างเป็นทางการให้ทรัมป์ เป็นตัวแทนพรรคชิงทำเนียบขาวเมื่อสัปดาห์ก่อน ใจความหลักของคำปราศัยที่นางแฮร์ริสใช้ในการต่อสู้กับทรัมป์ มาจากประสบการณ์ทำงานในตำแหน่งอัยการของเธอ โดยได้เปรียบเทียบว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นต่อสู้ระหว่างผู้รักษากฎหมายกับอาชญากรผู้ต้องคำพิพากษาคดีอาญา เนื่องจากทรัมป์ เป็นอดีตประธานาธิบดีคนแรกและคนเดียวที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดคดีอาญา จากกรณีจ่ายเงินเปิดปากนักแสดงภาพยนตร์ผู้ใหญ่ แล้วยังมีคดีอาญาอีก 3 คดีที่อยู่ในกระบวนการฟ้องร้อง นางแฮร์ริสกล่าวว่า เธอเป็นผู้คุ้มกฎหมายที่ต่อสู้กับคนร้ายทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นคนล่วงละเมิดทางเพศ คนคดโกง หรือ ผู้หลอกลวงเพื่อประโยชน์ตัวเอง ทั้งนี้นับตั้งแต่นางแฮร์ริสได้กลายเป็นตัวแทนพรรคอย่างไม่เป็นทางการ กระแสตอบรับและคะแนนนิยมดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากยอดเงินบริจาคที่เพิ่มสูง โดยได้รับบริจาคเพิ่มกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 3,600 ล้านบาท)  ในเวลาเพียงเวลาแค่ 1 วันครี่ง ขณะที่ผลการสำรวจของรอยเตอร์พบว่า เธอมีคะแนนนำทรัมป์เล็กน้อยร้อยละ 44 ต่อ 42  ด้านทรัมป์ได้กล่าวโจมตีนางแฮร์ริสว่า เป็นคนพูดปดที่มีแนวคิดซ้ายจัด ซึ่งจะทำลายชาติบ้านเมือง แต่เขาเชื่อว่าจะสามารถเอาชนะแฮร์ริสได้ง่ายกว่าไบเดน ส่วนสมาชิกรีพับลิกันและทีมหาเสียงของทรัมป์มุ่งโจมตีแฮร์ริสว่า ผลงานย่ำแย่เรื่องอาชญากรรม […]

TNA News-Now-next: ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 เกมนี้มีพลิก

วอชิงตัน 23 ก.ค.- การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2024 รูดม่านเปิดเวทีเมื่อต้นปี แบบที่ผู้สนใจการเมืองสหรัฐติดตามอย่างไม่มีลุ้นเท่าใดนัก เพราะตัวเต็งคู่แข่ง คือ คู่ปรับหน้าเดิม ระหว่างโจ ไบเดน ค่ายสีน้ำเงินจากพรรคเดโมแครต กับ โดนัลด์ ทรัมป์ ค่ายสีแดงจากพรรครีพับลิกัน แต่หลังจากผ่านพ้นไปครึ่งปี ใครจะคิดว่า เกมพลิก เกิดปัจจัยไม่คาดคิด เขย่าการแข่งขันให้สั่นไหวเป็นข่าวใหญ่ระดับโลกติดต่อกันหลายระลอก ศึกนัดล้างตาของ 2 ผู้เฒ่า ศึกครั้งนี้จะเป็นศึกนัดล้างตาของไบเดน วัย 81 ปี กับทรัมป์ วัย 78 ปี หลังจากที่ทรัมป์พ่ายแพ้ให้แก่ไบเดนในการเลือกตั้งปี 2020 โดยที่เจ้าตัวยังคงไม่ยอมรับชัยชนะของไบเดน และยืนยันมาจนถึงทุกวันนี้ว่า ตนเองถูกโกงคะแนน ปีนี้ทั้งคู่เดินหน้าเก็บชัยชนะในการเลือกตั้งขั้นต้นเพื่อเป็นตัวแทนพรรคตามรัฐต่าง ๆ ที่ทั้ง 2 พรรคเริ่มมาตั้งแต่กลางเดือนมกราคม และเสร็จสิ้นลงในต้นเดือนมิถุนายน เป็นที่คาดหมายว่า ต่างฝ่ายต่างจะได้เป็นตัวแทนพรรคสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ ไบเดนและทรัมป์หยิบยกจุดอ่อนของอีกฝ่ายมาโจมตีกันตลอดการหาเสียง ไบเดนสูงวัยกว่าทรัมป์ แต่ดูมีภาษีดีกว่า จากการที่เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวได้ดี ดัชนีตลาดหุ้นทำนิวไฮครั้งแล้วครั้งเล่า ขณะที่ทรัมป์มีคดีอาญาติดตัวมากถึง 4 […]

1 2 3 4 5 6 15
...