ชี้นายกฯ ใหม่อังกฤษจะเผชิญปัญหารุมเร้าราวพายุ
ผู้บริหารหน่วยงานวิจัยอังกฤษชี้ว่า นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษที่จะมีการประกาศชื่อในวันนี้จะต้องรับมือกับปัญหาต่าง ๆ ที่รุมเร้าราวกับพายุที่รุนแรงมากเป็นพิเศษ
ผู้บริหารหน่วยงานวิจัยอังกฤษชี้ว่า นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษที่จะมีการประกาศชื่อในวันนี้จะต้องรับมือกับปัญหาต่าง ๆ ที่รุมเร้าราวกับพายุที่รุนแรงมากเป็นพิเศษ
ดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่น ๆ ทะยานขึ้นมาแข็งค่าที่สุดในรอบ 20 ปี ในวันนี้ หลังจากนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด (Fed) ส่งสัญญาณว่าจะคงนโยบายดอกเบี้ยสูงนานขึ้น หวังลดอัตราเงินเฟ้อที่สูงอยู่ในขณะนี้
แอตแลนตา 29 ส.ค.- ส.ว.เอลิซาเบธ วอร์เรน รัฐแมสซาชูเซตส์ จากพรรคเดโมแครตตำหนินายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด (Fed) ว่าอาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยได้ จากการสนับสนุนให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ ส.ว.วอร์เรน ซึ่งเคยคัดค้านการเสนอชื่อนายพาวเวลล์เป็นประธานเฟดสมัยที่ 2 ให้สัมภาษณ์ในรายการ State of the Union ของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น (CNN) เมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาสหรัฐว่า เธอเป็นห่วงมากเพราะปัจจัยที่ทำเกิดภาวะเงินเฟ้อสูงในขณะนี้คือ โควิดที่ทำให้เศรษฐกิจโลกหลายส่วนยังปิดตัวและห่วงโซ่อุปทานโลกสะดุด สงครามในยูเครนที่ทำให้ราคาพลังงานสูงขึ้น และบริษัทขนาดใหญ่ที่รวมหัวกันขึ้นราคา แต่การขึ้นอัตราดอกเบี้ยและเครื่องมือทุกอย่างของนายพาวเวลล์กลับไม่ได้แก้ไขปัจจัยเหล่านี้โดยตรง นายพาวเวลล์เองยอมรับเรื่องนี้ระหว่างตอบข้อซักถามของเธอในการไต่สวนของรัฐสภา เธอกังวลว่า เฟดกำลังทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย เพราะสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าเงินเฟ้อสูงและการว่างงานต่ำคือ เงินเฟ้อสูงในช่วงที่เศรษฐกิจถดถอยและคนว่างงานเป็นล้าน ๆ คน ส.ว.วอร์เรนตำหนิดังกล่าว หลังจากนายพาวเวลล์กล่าวในการประชุมสัมมนาประจำปีของเฟดที่แจ็คสันโฮลเมื่อวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐว่า เฟดมุ่งให้ความสำคัญกับอัตราเงินเฟ้อ และจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยครั้งประวัติศาสตร์ต่อไปในอนาคตอันใกล้ พร้อมกับยอมรับว่า ในขณะที่ดอกเบี้ยสูง เศรษฐกิจชะลอการเติบโต และตลาดจ้างงานอ่อนตัวลง จะช่วยให้อัตราเงินเฟ้อลดลง แต่ก็จะส่งผลกระทบบางประการต่อครัวเรือนและภาคธุรกิจ.-สำนักข่าวไทย
ลอนดอน 22 ส.ค.- ทนายความในอังกฤษและเวลส์ที่กำลังทำคดีอาญาลงมติในวันนี้เรื่องจะผละงานอย่างไม่มีกำหนดตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน ซึ่งเป็นวันที่อังกฤษจะประกาศชื่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพราะถูกรัฐบาลบอกปัดเรื่องขอขึ้นค่าจ้างมาโดยตลอด เนติบัณฑิตยสภาของสหราชอาณาจักรหรือซีบีเอ (CBA) แจ้งว่า สมาชิกที่มีสิทธิออกเสียงเกือบร้อยละ 80 สนับสนุนให้เพิ่มการเคลื่อนไหว หลังจากดำเนินการเป็นระยะมาหลายเดือน เช่น ไม่รับทำคดีใหม่ ไม่รับคดีของเพื่อนร่วมงานที่มีคดีล้นมือ เป็นการตัดสินใจหลังจากถูกระบบกระบวนการยุติธรรมทางอาญาเพิกเฉยอย่างน่าสังเวชมาตลอดหลายปี และถูกรัฐบาลชุดแล้วชุดเล่าฉวยประโยชน์จากเวลา ความทุ่มเทและความหวังดี ทนายความที่ทำคดีอาญามีรายได้ที่แท้จริงลดลงร้อยละ 28 ตั้งแต่ปี 2549 ทนายความหลายรายออกจากอาชีพนี้เพราะมีรายได้เพียง 12,200 ปอนด์ (ราว 519,776 บาท) ในช่วง 3 ปีแรกของการทำงาน รัฐบาลเสนอขึ้นเงินเดือนให้ร้อยละ 15 แต่จะไม่มีผลก่อนสิ้นปี 2566 เป็นอย่างเร็วที่สุด ปัจจุบันศาลในอังกฤษมีคดีค้างอยู่แล้วราว 58,000 คดี ส่วนหนึ่งเพราะสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แต่ซีบีเอระบุว่า ระบบกระบวนการยุติธรรมยุ่งเหยิงอยู่ก่อนแล้ว เพราะขาดแคลนทนายความ นอกจากทนายความแล้ว คนทำงานภาคส่วนอื่นในอังกฤษ เช่น รถไฟ ท่าเรือ สายการบิน ก็ผละงานเช่นกัน […]
เงินวอนของเกาหลีใต้อ่อนค่าต่ำกว่า 1,330 วอนต่อดอลลาร์สหรัฐในวันนี้ เป็นการอ่อนค่าที่สุดในรอบกว่า 13 ปี
ลอนดอน 21 ส.ค.- คนงานที่ท่าเรือคอนเทนเนอร์ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ ผละงานเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี เพราะตกลงเรื่องขึ้นค่าจ้างกับบริษัทไม่ได้ สหภาพแรงงานยูไนต์เผยว่า สมาชิก 1,900 คนที่ท่าเรือฟีลิกสโตว์ เทศมณฑลซัฟฟอล์กกำลังผละงานเป็นเวลา 8 วัน พวกเขาไม่ยอมรับข้อเสนอของบริษัทท่าเรือและทางรถไฟฟีลิกสโตว์ที่เสนอขึ้นค่าจ้างร้อยละ 7 เพราะต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อ บริษัทนี้และบริษัทแม่มีกำไรมหาศาลจึงควรขึ้นค่าจ้างให้คนงานอย่างเหมาะสม อีกทั้งคนงานยังไม่เคยเรียกร้องใด ๆ มาตลอด 30 ปีที่ผ่านมา การผละงานที่เริ่มขึ้นในวันนี้จะสิ้นสุดในเวลา 22:00 น.ของแต่ละวัน ด้านโฆษกบริษัทเผยว่า บริษัทเสนอขึ้นค่าจ้างร้อยละ 7 บวกกับการให้เงินครั้งเดียว 500 ปอนด์ (ราว 21,120 บาท) เท่ากับขึ้นค่าจ้างร้อยละ 8.1-9.6 สูงกว่าการขึ้นค่าจ้างเฉลี่ยทั้งประเทศที่ขึ้นเพียงร้อยละ 5 การยื่นข้อเสนอดังกล่าวในช่วงที่เศรษฐกิจหดตัวและกำลังจะเข้าสู่ภาวะถดถอยถือว่าเป็นข้อเสนอที่ดีมากแล้ว ท่าเรือฟีลิกสโตว์มีขนาดใหญ่ที่สุดในอังกฤษ ขนส่งคอนเทนเนอร์ราวร้อยละ 48 ของทั้งประเทศ และมีคนงานประมาณ 2,550 คน โลจิสติกส์ยูเค ซึ่งเป็นสมาคมด้านการขนส่งสินค้าในอังกฤษชี้ว่า การผละงานจะไม่ส่งผลกระทบมากนัก เพราะท่าเรือแห่งนี้ขนส่งคอนเทนเนอร์ตามตารางที่กำหนดไว้ล่วงหน้าอย่างดีแล้ว ไม่ใช่การขนส่งวันต่อวัน และหากการผละงานยืดเยื้อนานกว่า 8 […]
อังกฤษมีอัตราเงินเฟ้อสูงกว่าร้อยละ 10 ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปี เนื่องจากราคาอาหารและน้ำมันเชื้อเพลิงที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้ประชาชนต้องแบกรับวิกฤติปัญหาค่าครองชีพที่เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
กทม. 15 ส.ค.- “นฤมล”คาดกนง.เล็งขึ้นดอกเบี้ยอีกรอบปีนี้ ชี้แนวโน้มเงินเฟ้อยังเพิ่มเร่งดูแลกลุ่มเปราะบาง
ลอนดอน 14 ส.ค.- ค่าครองชีพสูงเพราะอัตราเงินเฟ้อสูงในอังกฤษขณะนี้ทำให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงจำนวนหนึ่งตัดสินใจนำสัตว์เลี้ยงไปปล่อยทิ้ง เพราะไม่สามารถรับมือกับค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูได้อีกต่อไป บ้านสุนัขและแมวเบ็ทเทอร์ซี องค์กรการกุศลสำหรับสัตว์ในอังกฤษเผยว่า กำลังหาบ้านใหม่ให้สุนัข 206 ตัวและแมว 164 ตัวที่เจ้าของเดิมเลี้ยงไม่ไหวเพราะค่าครองชีพที่สูงที่สุดนับจากช่วงคริสต์ทศวรรษปี 1960 และมีแนวโน้มว่าจะมีจำนวนมากขึ้น เพราะเจ้าของไม่สามารถจ่ายค่าอาหารและค่าสัตวแพทย์ได้แล้ว เช่นเดียวกับสัตว์เลี้ยงแปลก ๆ อย่าง งู จิ้งจก ที่ต้องการแสงสว่างและความร้อนที่พิเศษจากอุณหภูมิปกติ ราชสมาคมเพื่อการป้องกันการทารุณสัตว์เผยว่า เมื่อไม่นานมานี้มีผู้พบงู 3 ตัว ซึ่งมีงูเหลือมรวมอยู่ด้วย 1 ตัว ถูกนำใส่กล่องมาทิ้งไว้หน้าร้านขายสัตว์เลื้อยคลาน วูดกรีน องค์กรการกุศลสำหรับสัตว์อีกแห่งหนึ่งเผยว่า ช่วงอังกฤษล็อกดาวน์เพราะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 มีคนยื่นขออุปการะสัตว์เลี้ยงเฉลี่ยเดือนละ 1,000 ตัว แต่ขณะนี้เหลือเพียงเดือนละ 100 ตัวเท่านั้น ด้านด็อกทรัสต์ ซึ่งกำลังดูแลสุนัข 692 ตัวตามศูนย์ดูแล 21 แห่งทั่วประเทศเผยว่า ครั้งหลังสุดที่เกิดสถานการณ์แบบนี้คือช่วงวิกฤตการเงินโลกปี 2551 ทางองค์กรกำลังพิจารณาเรื่องควรจะขยายเงินช่วยเหลือฉุกเฉินดูแลสัตว์เลี้ยงให้ครอบคลุมถึงผู้มีรายได้ปานกลางหรือไม่ จากปกติที่ให้เฉพพาะผู้พึ่งพาสวัสดิการของรัฐเท่านั้น ธนาคารกลางอังกฤษเตือนว่า ประเทศจะต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยยาวนาน เฉพาะเดือนมกราคมปีนี้ค่าครองชีพสูงจากเดือนมกราคมปีก่อนถึง 3 เท่า.-สำนักข่าวไทย
โซล 7 ส.ค.- หน่วยงานวิชาการของรัฐในเกาหลีใต้เตือนว่า เศรษฐกิจเกาหลีใต้กำลังเผชิญความเสี่ยงขาลงมากยิ่งขึ้น อันเป็นผลจากอัตราเงินเฟ้อสูงและสภาพเศรษฐกิจโลกที่ย่ำแย่ลง สถาบันพัฒนาเกาหลีหรือเคดีไอ (KDI) ออกรายงานประเมินเศรษฐกิจรายเดือนในวันนี้ว่า เศรษฐกิจใหญ่อันดับ 4 ของเอเชียแห่งนี้อยู่ระหว่างฟื้นตัวเล็กน้อย แต่ความเสี่ยงขาลงกลับเพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมภาคการผลิต สาเหตุหลักเกิดจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในสหรัฐและจีน ขณะที่การขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็กระทบหนักต่อการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวม เดือนกรกฎาคมปีนี้เกาหลีใต้ส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.4 ต่อปี เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 21 ติดต่อกัน แต่ขาดดุลการค้าเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันเนื่องจากราคาพลังงานโลกปรับตัวสูงขึ้น รัฐบาลเกาหลีใต้เตือนว่า ความไม่แน่นอนจากสภาพเศรษฐกิจภายนอกอาจกระทบต่อการเติบโตด้านการลงทุนและการส่งออก ขณะนี้มีกระแสวิตกมากขึ้นว่า เศรษฐกิจโลกอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพราะการที่ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างมากอาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย นอกจากนี้เกาหลีใต้ยังเผชิญแรงกดดันเงินเฟ้อเพราะราคาอาหารและพลังงานปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ความต้องการบริโภคดีดตัวกลับมาอีกครั้ง ราคาผู้บริโภคเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.3 จากเดือนเดียวกันปีก่อน สูงที่สุดในรอบ 24 ปี เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาธนาคารกลางเกาหลีของเกาหลีใต้ได้ขึ้นดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.5 มกาที่สุดเท่าที่เคยมีมา หวังควบคุมอัตราเงินเฟ้อ โดยเป็นการขึ้นครั้งที่ 6 นับจากเดือนสิงหาคม 2564 คาดว่าจะขึ้นอีกในเร็ว ๆ นี้ และได้ประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจปี 2565 ไว้ที่ร้อยละ 2.6 และอัตราเงินเฟ้อไว้ที่ร้อยละ 4.5.-สำนักข่าวไทย
ลอนดอน 30 ก.ค.- คนขับรถไฟในอังกฤษประมาณ 5,000 คน หรือเกือบ 1 ใน 4 ของบริการเดินรถไฟทั้งประเทศ ผละงานในวันนี้ หลังจากพนักงาน 40,000 คน ผละงานไปเมื่อวันพุธ ตามมาตรการเรียกร้องขอขึ้นค่าแรงในยามที่อัตราเงินเฟ้อสูงที่สุดในรอบ 40 ปี คนขับรถไฟที่เป็นสมาชิกสหภาพเอเอสแอลอีเอฟ (ASLEF) ผละงานเป็นเวลา 24 ชั่วโมงในวันนี้ เน็ตเวิร์กเรล ซึ่งเป็นหน่วยงานของกระทรวงคมนาคมที่ดูแลเรื่องโครงสร้างพื้นฐานเกือบทั้งหมดของระบบรถไฟในอังกฤษคาดว่า การผละงานจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อการเดินรถไฟตลอดวันนี้ไปจนถึงเช้าวันอาทิตย์ เพราะบริการเดินรถไฟเกือบทั้งหมดของผู้เดินรถไฟ 7 แห่งจากทั้งหมด 34 แห่งถูกยกเลิกไปหมด เช่น รถไฟภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันออกของอังกฤษ รถไฟทางไกลเชื่อมกรุงลอนดอนกับฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษ ฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของอังกฤษ และเมืองเอดินบะระของสกอตแลนด์ สหภาพเอเอสแอลอีเอฟเผยว่า ข้อตกลงปกติอนุญาตให้ขึ้นค่าแรงคนขับรถไฟได้ร้อยละ 2 แต่ขณะนี้ค่าครองชีพเข้าขั้นวิกฤตแล้ว การขึ้นตามตัวเลขดังกล่าวจึงไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ และเตรียมผละงานครั้งต่อไปในวันที่ 13 สิงหาคม ด้านบริษัทเดินรถไฟเผยว่า จะขึ้นให้มากกว่านี้ หากคนขับรถไฟตกลงที่จะปรับปรุงการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากกว่าปัจจุบันเพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของบริษัท.-สำนักข่าวไทย
ธนาคารกลางสหรัฐ ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกร้อยละ 0.75 เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่กำลังกระทบการจับจ่ายของครัวเรือนชาวอเมริกัน