เกาหลีใต้

เกาหลีเหนือดูเหมือนว่าจะทำการทดสอบยิงขีปนาวุธแบบทิ้งตัวในวันนี้ ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 มรรอบระยะเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ ทำให้ทั้งเกาหลีใต้และญี่ปุ่นออกมาประท้วงโดยเจ้าหน้าที่ของทั้งสองประเทศที่ประณามการกระทำของเกาหลีเหนือกล่าวว่า การทดสอบยิงขีปนาวุธซ้ำล้าซ้ำอีกของเกาหลีเหนือมีความเสี่ยงในการบั่นทอนเสถียรภาพในภูมิภาค

โซล 7 ม.ค.- กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ระบุว่า การที่เกาหลีเหนืออ้างว่าประสบความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงเมื่อวันพุธดูเหมือนจะเกินจริง เพราะเกาหลีเหนือยังไม่มีเทคโนโลยีสำหรับขีปนาวุธก้าวหน้าเช่นนั้น กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้แถลงว่า ผลการวิเคราะห์เบื้องต้นพบว่า ขีปนาวุธดังกล่าวเดินทางเป็นระยะทางไม่ถึง 700 กิโลเมตร ด้วยความเร็วสูงสุด 6 มัค หรือเร็วกว่าเสียง 6 เท่า ที่ระดับความสูงไม่ถึง 50 กิโลเมตร แตกต่างจากที่สำนักข่าวกลางเกาหลีหรือเคซีเอ็นเอ (KCNA) ของทางการเกาหลีเหนือรายงานเมื่อวานนี้ว่า ขีปนาวุธดังกล่าวโจมตีเป้าหมายที่อยู่ห่างออกไป 700 กิโลเมตรได้อย่างแม่นยำ และเคลื่อนที่ไปด้านข้างเป็นระยะทาง 120 กิโลเมตร กลาโหมเกาหลีใต้ระบุว่า ข้ออ้างของเกาหลีเหนือเรื่องศักยภาพของขีปนาวุธ ทั้งพิสัยทำการและการเคลื่อนที่ไปด้านข้าง ดูเหมือนจะเกินความเป็นจริง เพราะเกาหลีเหนือยังไม่มีเทคโนโลยีที่จะผลิตขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงรุ่นนี้ กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ชี้ด้วยว่า การทดสอบขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือไม่ใช่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีครั้งใหม่ เมื่อเทียบกับขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงที่เกาหลีเหนือทดสอบยิงครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายนปีก่อน และนำมาจัดแสดงที่กรุงเปียงยางในเดือนตุลาคม ขอย้ำว่าเกาหลีใต้และสหรัฐมั่นใจว่า ศักยภาพทางกลาโหมของสองประเทศรวมกันสามารถตรวจจับและสกัดขีปนาวุธล่าสุดของเกาหลีเหนือได้.-สำนักข่าวไทย

โซล 5 ม.ค.- เกาหลีใต้และญี่ปุ่นแจ้งว่า เกาหลีเหนือยิงสิ่งที่น่าจะเป็นขีปนาวุธทิ้งตัวจากฝั่งตะวันออกลงทะเลในเช้าวันนี้ ตอกย้ำสิ่งที่คิม  จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือย้ำในวันส่งท้ายปีเก่าว่าจะเสริมสร้างศักยภาพทางทหารเพื่อรับมือกับสถานการณ์ระหว่างประเทศที่ไม่แน่นอน หน่วยยามฝั่งญี่ปุ่นรายงานข่าวการยิงดังกล่าวเป็นแห่งแรกว่า น่าจะเป็นขีปนาวุธทิ้งตัว นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่นกล่าวว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธหลายครั้งตั้งแต่ปีก่อน เป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างยิ่ง ขณะที่คณะเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้แถลงว่า เกาหลีเหนือยิงสิ่งที่น่าจะเป็นขีปนาวุธทิ้งตัวจากที่ตั้งลึกเข้าไปในฝั่งลงสู่ทะเล กองทัพได้คงความเตรียมพร้อมในกรณีที่อาจมีการยิงเพิ่มเติม และกำลังประสานงานกับสหรัฐเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด สื่อทางการเกาหลีเหนือรายงานสุนทรพจน์ของผู้นำในวันส่งท้ายปีเก่า ซึ่งไม่ได้พูดเรื่องขีปนาวุธหรืออาวุธนิวเคลียร์ แต่ย้ำเรื่องจะต้องเสริมสร้างการป้องกันประเทศ ด้านผู้เชี่ยวชาญของ 38 นอร์ท เว็บไซต์ในสหรัฐที่ติดตามความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนือมองว่า แม้การประชุมใหญ่ของพรรคแรงงานให้ความสำคัญเรื่องการพัฒนาชนบท แต่ไม่ได้หมายความว่าเกาหลีเหนือจะระงับการทดสอบขีปนาวุธทิ้งตัว ขณะที่เว็บไซต์เอ็นเคนิวส์ในเกาหลีใต้ตั้งข้อสังเกตว่า ผู้นำเกาหลีเหนือไม่ได้ปรากฏตัวในการทดสอบยิงขีปนาวุธหรือซ้อมรบในปีที่แล้วเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปกครองประเทศมา 10 ปี อาจเป็นเพราะมีปัญหาสุขภาพหรือไม่ต้องการเป็นที่สนใจ.-สำนักข่าวไทย

โซล 3 ม.ค.- กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้แถลงวันนี้ว่า บุคคลที่ลอบข้ามพรมแดนจากเกาหลีใต้เข้าไปในเกาหลีเหนือเมื่อไม่กี่วันก่อน อาจเป็นชาวเกาหลีเหนือที่แปรพักตร์มาเกาหลีใต้ คณะเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้แจ้งเมื่อวันก่อนว่าไ ด้ปฏิบัติการค้นหาหลังจากตรวจพบบุคคลดังกล่าวอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเขตปลอดทหารที่แบ่งเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้เมื่อเวลาประมาณ 21:20 น.วันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น กระทรวงกลาโหมแถลงในวันนี้ว่า ทางการสันนิษฐานว่าบุคคลนั้นเป็นผู้แปรพักตร์ชาวเกาหลีเหนือ ขณะนี้กำลังยืนยันข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้อง ด้านสำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้รายงานว่า เชื่อกันว่าผู้แปรพักตร์รายนี้เป็นชายที่ใช้ความสามารถในฐานะนักกายกรรมข้ามรั้วพรมแดน แล้วขอแปรพักตร์เข้ามาในเขตปลอดทหารของเกาหลีใต้เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563 ผู้แปรพักตร์ชาวเกาหลีเหนือส่วนใหญ่เข้าเกาหลีใต้ผ่านทางจีน มีส่วนน้อยที่ข้ามเขตปลอดทหารเข้ามา ยิ่งการข้ามเขตปลอดทหารจากเกาหลีใต้ไปเกาหลีเหนือยิ่งพบได้น้อย เนื่องจากการข้ามพรมแดนสองเกาหลีถือเป็นการกระทำผิดกฎหมายในเกาหลีใต้ อย่างไรก็ดี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เกิดข้อกังขาว่า ทหารลาดตระเวนชายแดนเกาหลีใต้ย่อหย่อนเรื่องการรักษาความปลอดภัยหรือไม่ ผู้ต้องสงสัยแปรพักตร์รายล่าสุดถูกจับกุมในปี 2563 หลังจากข้ามพรมแดนเข้ามาในเกาหลีใต้แล้ว 14 ชั่วโมง ส่วนเมื่อวันเสาร์เขาไปปรากฏตัวใกล้พรมแดนโดยไม่มีใครสังเกตเห็นเกือบ 3 ชั่วโมง หลังจากกล้องวงจรปิดจับภาพเขากำลังปีนรั้วและทำให้สัญญาณเตือนภัยดัง.-สำนักข่าวไทย

โซล 3 ม.ค.- ประธานาธิบดีมุน แจอินของเกาหลีใต้รับปากจะใช้หลายเดือนที่เหลืออยู่ของการบริหารประเทศผลักดันให้เกิดความสำเร็จทางการทูตกับเกาหลีเหนือ ประธานาธิบดีมุนกล่าวสุนทรพจน์ในวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะครบวาระดำรงตำแหน่ง 5 ปีในเดือนพฤษภาคมว่า รัฐบาลของเขาจะเดินหน้าหาทางสถาปนาความสัมพันธ์ระดับปกติระหว่างสองเกาหลี และเดินหน้าเส้นทางการมุ่งไปสู่สันติภาพที่ไม่มีวันย้อนกลับ หวังว่าความพยายามให้เกิดการเจรจานี้จะได้รับการสานต่อจากรัฐบาลชุดใหม่ด้วย เขายอมรับว่า เรื่องนี้ต้องใช้เวลาอีกนาน แต่หากความสัมพันธ์สองเกาหลีเป็นไปในทางที่ดีขึ้น ประชาคมโลกก็จะเจริญรอยตาม และว่าการที่เขาสามารถเอื้อมมือไปถึงเกาหลีเหนือได้ เป็นผลจากการสั่งสมศักยภาพกองทัพขนานใหญ่ เพราะสันติภาพจะเป็นไปได้ต่อเมื่อมีความมั่นคงที่แข็งแกร่ง ผู้นำเกาหลีใต้วัย 68 ปี ประชุมสุดยอดกับคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือวัย 37 ปี ในปี 2561 ถึง 3 ครั้ง แต่การเจรจาหยุดชะงักไป เพราะประชาคมโลกต้องการให้เกาหลีเหนือยุติโครงการอาวุธนิวเคลียร์ ขณะที่เกาหลีเหนือต้องการให้สหรัฐและเกาหลีใต้ผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรและยุตินโยบายเป็นปรปักษ์ และในการกล่าวสุนทรพจน์วันส่งท้ายปีเก่าที่ผ่านมา ผู้นำเกาหลีเหนือไม่ได้กล่าวถึงข้อเรียกร้องของผู้นำเกาหลีใต้เรื่องประกาศยุติสงครามเกาหลีอย่างเป็นทางการ หรือเรื่องการเจรจานิวเคลียร์กับสหรัฐที่ชะงักงัน.-สำนักข่าวไทย

โซล 2 ม.ค.- กองทัพเกาหลีใต้แจ้งว่า ชาวเกาหลีใต้คนหนึ่งข้ามพรมแดนที่มีการป้องกันอย่างแน่นหนา แปรพักตร์เข้าไปในเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นสิ่งที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน คณะเสนาธิการร่วมเกาหลีใต้แถลงว่า ได้ปฏิบัติการค้นหา หลังจากตรวจพบบุคคลดังกล่าวอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเขตปลอดทหารที่แบ่งเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้เมื่อเวลาประมาณ 21:20 น.วันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น จนกระทั่งสามารถยืนยันเมื่อเวลา 22:40 น.ว่าบุคคลนั้นข้ามเส้นแบ่งเขตทหารและแปรพักตร์ไปยังเกาหลีเหนือแล้ว อย่างไรก็ดี คณะเสนาธิการร่วมไม่สามารถยืนยันว่าบุคคลนั้นยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แต่ได้แจ้งไปยังเกาหลีเหนือผ่านสายด่วนทางทหารแล้วเพื่อขอให้คุ้มครองชาวเกาหลีใต้รายนั้น การข้ามพรมแดนไปเกาหลีเหนือถือเป็นการกระทำผิดกฎหมายในเกาหลีใต้ เจ้าหน้าที่ประมงเกาหลีใต้เคยหายไปกลางทะเลเมื่อเดือนกันยายน 2563 และถูกทหารเกาหลีเหนือยิงเสียชีวิต จุดกระแสไม่พอใจขึ้นในสังคมเกาหลีใต้และเป็นประเด็นทางการเมือง เกาหลีเหนือขอโทษ และอ้างว่ากระทำการตามระเบียบควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือได้ประกาศเหตุฉุกเฉินแห่งชาติและปิดเมืองพรมแดนติดกับเกาหลีใต้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม เนื่องจากชาวเกาหลีเหนือแปรพักตร์คนหนึ่งที่ติดโควิดได้ลอบข้ามพรมแดนกลับมาจากเกาหลีใต้.-สำนักข่าวไทย

เซจอง 28 ธ.ค.- เกาหลีใต้จะยกเลิกมาตรการจำกัดการจำหน่ายสารละลายยูเรียที่ใช้ลดการปล่อยมลพิษในเครื่องยนต์ดีเซล เนื่องจากมีปริมาณทรงตัวแล้ว หลังจากที่ต้องจำกัดเพราะเกิดภาวะขาดแคลน กระทรวงคลังเกาหลีใต้แถลงวันนี้ว่า จะยกเลิกมาตรการจำกัดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม เปิดทางให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสารละลายยูเรียได้ตามร้านค้าและห้างสรรพสินค้า จากเดิมที่ต้องซื้อเฉพาะที่สถานีบริการเติมน้ำมันเท่านั้น และจะไม่จำกัดปริมาณการซื้ออีกต่อไป เนื่องจากช่วง 2 สัปดาห์มานี้ปริมาณการใช้สารละลายยูเรียเฉลี่ยที่วันละ 600,000 ลิตร แต่กำลังการผลิตมีมากกว่าการใช้กว่า 2 เท่า อีกทั้งยังมีการนำเข้ามาเฉลี่ยวันละ 500,000 ลิตร อย่างไรก็ดี กระทรวงยังคงหาทางนำเข้าจากประเทศอื่นนอกเหนือจากจีน เพื่อป้องกันการเกิดภาวะขาดแคลนขึ้นอีก เกาหลีใต้เริ่มใช้มาตรการจำกัดการจำหน่ายสารละลายยูเรียตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากจีนซึ่งเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่จำกัดการส่งออกเพื่อบรรเทาปัญหาขาดแคลนในประเทศ ช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้เกาหลีใต้นำเข้าสารละลายยูเรียจากจีนเกือบร้อยละ 97 ของทั้งหมด เกาหลีใต้ออกมาตรการบังคับให้ยานยนต์ดีเซลที่ผลิตตั้งแต่ปี 2558 ต้องติดตั้งระบบควบคุมการปล่อยมลพิษที่จะฉีดสารละลายยูเรียเข้าไปลดค่าไนโตรเจนออกไซด์ในไอเสีย มีผลกับยานยนต์ในปัจจุบันร้อยละ 40 หรือประมาณ 2 ล้านคันที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล ส่วนใหญ่เป็นรถบรรทุก นอกจากนี้ยังใช้ลดการปล่อยมลพิษในภาคอุตสาหกรรมด้วย.-สำนักข่าวไทย

โซล 19 ธ.ค.- สำนักอุตุนิยมวิทยาเกาหลีใต้แจ้งเตือนหิมะตกหนักในเขตมหานครโซลเป็นครั้งแรกสำหรับฤดูหนาวปีนี้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา คำเตือนดังกล่าวมีผลสำหรับกรุงโซล เมืองอินชอน และฝั่งตะวันตกของเขตมหานครโซลเมื่อเวลา 15:00 น.วันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากหิมะเริ่มตกตั้งแต่เวลา 13:00 น.หลายพื้นที่อาจมีหิมะหนาตั้งแต่ 5-8 เซนติเมตร หิมะตกหนักครั้งแรกของปี ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก และเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ไม่รุนแรงอย่างน้อย 10 ครั้งบนทางหลวงทั่วกรุงโซล ก่อนที่สำนักอุตุนิยมวิทยาจะยกเลิกคำเตือนเมื่อเวลา 17:00 น.วันเดียวกันตามเวลาท้องถิ่น สำนักอุตุนิยมวิทยาเตือนด้วยว่า จะมีหิมะตกเพิ่มเติมอีกในวันนี้ ขอให้ประชาชนติดตามการพยากรณ์อากาศอย่างใกช้ชิด ขณะเดียวกันอุณหภูมิทั้งประเทศได้ลดลงจนแตะระดับต่ำที่สุดสำหรับฤดูหนาว อุณหภูมิในกรุงโซลที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศติดลบ 11 องศาเซลเซียสเมื่อเวลา 07:00 น.วันเสาร์ ส่วนอุณหภูมิในเมืองปูซานที่เป็นเมืองท่าทางใต้ลดลงเหลือติดลบ 6.5 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย