แรงงานเกาหลีใต้กลับถึงบ้าน หลังถูกบุกจับในสหรัฐ

อินชอน 12 ก.ย. – แรงงานชาวเกาหลีใต้ประมาณ 300 คน ได้เดินทางกลับถึงเกาหลีใต้แล้วในวันศุกร์ หลังจากถูกควบคุมตัวจากการบุกตรวจค้นครั้งใหญ่ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐ ที่ไซต์งานโครงการผลิตแบตเตอรี่ในรัฐจอร์เจียของสหรัฐ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แรงงานที่สวมหน้ากากอนามัยทยอยลงจากเครื่องบินเช่าเหมาลำที่สนามบินอินชอน โดยมีเจ้าหน้าที่ รวมถึงหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ของประธานาธิบดี คอยต้อนรับอย่างอบอุ่น การเดินทางกลับบ้านครั้งนี้เป็นผลมาจากการเจรจาอย่างเข้มข้นตลอดสัปดาห์ของรัฐบาลเกาหลีใต้ เพื่อให้แรงงานได้รับการปล่อยตัวและเดินทางกลับประเทศ หลังจากที่พวกเขาถูกจับกุมโดยใส่กุญแจมือและล่ามโซ่ ซึ่งสร้างความตกใจให้กับชาวเกาหลีใต้ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐอย่างมาก ธุรกิจของเกาหลีใต้ประสบปัญหามาอย่างยาวนานในการขอวีซ่าที่เหมาะสมสำหรับแรงงานผู้เชี่ยวชาญที่จำเป็นในไซต์งานเป็นเวลาหลายเดือน ทำให้แรงงานบางส่วนต้องพึ่งพาช่องโหว่ในการบังคับใช้วีซ่าของสหรัฐ รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ที่เดินทางไปเยือนกรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้ กล่าวว่า ทั้งสองประเทศกำลังพิจารณาจัดตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาวีซ่าประเภทใหม่สำหรับชาวเกาหลีใต้ แรงงานที่เดินทางกลับครั้งนี้ ซึ่งรวมถึงชาวจีน 10 คน ชาวญี่ปุ่น 3 คน และชาวอินโดนีเซีย 1 คน ได้รับการต้อนรับจากสมาชิกในครอบครัวและเจ้าหน้าที่จากบริษัท แอลจี เอนเนอจี โซลูชัน (LG Energy Solution) รวมถึงบริษัทผู้รับเหมาช่วง บริษัทแบตเตอรี่ดังกล่าวเป็นพันธมิตรกับบริษัท ฮุนได มอเตอร์ (Hyundai Motor) ในการสร้างโรงงานที่รัฐจอร์เจีย การบุกตรวจค้นไซต์ก่อสร้างครั้งนี้สร้างความตกใจอย่างยิ่งให้กับชาวเกาหลีใต้ และอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ในช่วงเวลาที่กำลังจะสรุปข้อตกลงทางการค้า ซึ่งรวมถึงกองทุนเพื่อการลงทุนมูลค่า 350,000 ล้านดอลลาร์ฯ เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐ […]

เผยผู้นำเกาหลีเหนือเสริมสถานะบุตรสาวให้เป็นผู้สืบทอดอำนาจ

โซล 11 ก.ย. – สมาชิกรัฐสภาเกาหลีใต้เปิดเผยในวันพฤหัสบดีโดยอ้างข้อมูลจากสำนักข่าวกรองของประเทศว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ดูเหมือนจะกำลังเสริมสถานะของ คิม จู แอ บุตรสาวของเขา ให้เป็นผู้สืบทอดอำนาจคนต่อไป หลังจากที่เธอได้ร่วมเดินทางไปเยือนประเทศจีนพร้อมกับเขา นายอี ซอง-กเวิน สมาชิกรัฐสภาในคณะกรรมาธิการข่าวกรองของรัฐสภาเกาหลีใต้ กล่าวว่า คิม จู แอ ได้พักอยู่ในสถานทูตเกาหลีเหนือและหลีกเลี่ยงการปรากฏตัวต่อสาธารณะระหว่างการเยือนกรุงปักกิ่ง แต่การที่ได้เดินทางไปต่างประเทศกับบิดาของเธอก็เพียงพอแล้วที่จะสร้างเรื่องราวในฐานะผู้สืบทอดอำนาจคนต่อไปของระบอบการปกครอง นายพัค ซุน-วอน สมาชิกรัฐสภาอีกคนในคณะกรรมาธิการกล่าวว่า มีการให้ข้อสังเกตว่า สถานะของ คิม จู แอ ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งในฐานะผู้สืบทอดอำนาจคนต่อไป ด้วยการให้เธอปรากฏตัวเป็นครั้งคราว ในขณะที่เปิดโอกาสให้เธอได้สร้างประสบการณ์ในต่างประเทศ แต่ไม่ต้องออกงานสาธารณะ นอกจากนี้ สำนักข่าวกรองของเกาหลีใต้ยังเปิดเผยกับสมาชิกรัฐสภาอีกว่า เจ้าหน้าที่ของเกาหลีเหนือได้ถูกพบว่าพยายามทำลายร่องรอยเพื่อไม่ให้ข้อมูลทางชีวภาพของนายคิมและลูกสาวของเขาถูกเปิดเผยระหว่างการเดินทางไปจีน ซึ่งรวมถึงการใช้เครื่องบินพิเศษเพื่อขนส่งขยะ และการที่ทั้งสองคนเข้าพักในสถานทูตเกาหลีเหนือ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา นายคิมได้เดินทางไปกรุงปักกิ่งอย่างไม่เคยมีมาก่อนเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมขนาดใหญ่ โดยได้ยืนเคียงข้างกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ในพิธีสวนสนามทางทหารครั้งใหญ่ของจีน สมาชิกรัฐสภาเกาหลีใต้กล่าวอีกว่า นายคิมยังได้ประชุมทวิภาคีกับผู้นำจีนและรัสเซียเพื่อแสดงภาพลักษณ์ว่าเกาหลีเหนือไม่ใช่ประเทศที่โดดเดี่ยวอีกต่อไป และกำลังพยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์กับจีน […]

South Korea's Lee says immigration raid targeting Korean workers could hit US investment

เกาหลีใต้ชี้เหตุจับแรงงานอาจกระทบลงทุนในสหรัฐ

โซล 11 ก.ย.- ประธานาธิบดีอี แจ มยองของเกาหลีใต้ระบุว่า การที่สหรัฐบุกจับแรงงานหลายร้อยคนในโครงการของธุรกิจเกาหลีใต้ในสหรัฐ อาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของบริษัทเกาหลีใต้เรื่องการลงทุนในสหรัฐ ประธานาธิบดีอีกล่าวในการแถลงข่าววันนี้ว่า การที่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐบุกค้นสถานที่ก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรียานยนต์ไฟฟ้าที่เป็นการร่วมทุนระหว่างฮุนไดมอเตอร์กรุ๊ปกับแอลจีเอนเนอร์จีโซลูชัน ในรัฐจอร์เจียเมื่อวันที่ 4 กันยายน เป็นเหตุการณ์ที่สร้างความตกตะลึงและสร้างความสับสนอย่างใหญ่หลวง ซึ่งอาจทำให้ภาคธุรกิจของเกาหลีใต้เกิดความลังเลใจที่จะลงทุนในสหรัฐ ขณะนี้รัฐบาลยังไม่ได้พิจารณาว่า ควรปรับเปลี่ยนวิธีการเรื่องความร่วมมือทางธุรกิจระหว่าง 2 ประเทศหรือไม่ แต่ธุรกิจเกาหลีใต้ที่เข้าตลาดสหรัฐไปแล้วน่าจะตกอยู่ในภาวะสับสนอย่างหนัก ผู้นำเกาหลีใต้กล่าวถึงแรงงานชาวเกาหลีใต้ 316 คนที่ถูกควบคุมตัวจากสถานที่ก่อสร้างว่า จะเดินทางออกจากสถานกักกันในสหรัฐราวเวลา 15.00 น.วันนี้ตามเวลาเกาหลีใต้ เพื่อขึ้นเครื่องบินเช่าเหมาลำกลับประเทศ ส่วนเรื่องที่ภาคธุรกิจเกาหลีใต้ร้องเรียนว่า การที่สหรัฐจำกัดการออกวีซ่าให้แรงงานต่างชาติมีทักษะ ทำให้มีปัญหาในการดูแลการก่อสร้างโรงงานในสหรัฐ หรือฝึกอบรมให้แรงงานท้องถิ่นในสหรัฐ นายอีกล่าวว่า รัฐบาลทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางปรับปรุงขั้นตอนการออกวีซ่าให้ชาวเกาหลีใต้ คาดว่าสหรัฐจะหาทางออกที่สมเหตุสมผล พร้อมกับย้ำว่าสถานการณ์ขณะนี้จะทำให้ธุรกิจเกาหลีใต้ที่กำลังลงทุนในสหรัฐเกิดความสับสนอย่างแน่นอน.-814.-สำนักข่าวไทย

เครื่องบินเกาหลีใต้ออกเดินทางไปรับแรงงานที่ถูกคุมตัวในสหรัฐ

โซล 10 ก.ย. – เครื่องบินของสายการบินเกาหลีใต้ได้ออกเดินทางจากสนามบินอินชอนของเกาหลีใต้แล้วในวันนี้ มุ่งหน้าสู่นครแอตแลนตา สหรัฐ เพื่อรับตัวแรงงานชาวเกาหลีใต้ประมาณ 300 คนที่ถูกควบคุมตัวจากการบุกตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองในรัฐจอร์เจียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แรงงานกลุ่มนี้ถูกควบคุมตัวที่ไซต์ก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า มูลค่า 4.3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนระหว่าง “ฮุนได มอเตอร์” (Hyundai Motor) และ “แอลจี เอนเนอจี โซลูชัน” (LG Energy Solution) สำนักข่าวยอนฮับรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวทางการทูตที่ไม่เปิดเผยชื่อว่า แรงงานที่ถูกควบคุมตัวจะเดินทางออกจากสหรัฐ ในเวลาประมาณ 14.30 น. วันพุธตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐ หรือ ตรงกับ 01.30 น. ของวันพฤหัสตามเวลาในประเทศไทย นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐมีกำหนดจะพบกับนายโช ฮยอน รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ที่ทำเนียบขาวในวันพุธ โดยก่อนออกเดินทางไปวอชิงตันเมื่อวันจันทร์ นายโชกล่าวว่า เขามีแผนที่จะทำงานร่วมกับสหรัฐ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ซ้ำรอย และกำลังหาทางยืนยันว่าชาวเกาหลีที่เดินทางกลับประเทศครั้งนี้จะสามารถเดินทางกลับเข้าไปยังสหรัฐ ด้อีกครั้งในอนาคต ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐโพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียเมื่อวันอาทิตย์ว่า สหรัฐจะเปิดโอกาสให้เป็นไปได้อย่างรวดเร็วและถูกกฎหมายสำหรับบริษัทต่างชาติที่จะนำพนักงานเข้ามาในประเทศ หากบริษัทเหล่านั้นเคารพกฎหมายคนเข้าเมืองของสหรัฐ เมื่อถูกถามเกี่ยวกับข้อความดังกล่าวและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับระบบวีซ่าของสหรัฐนางคาโรไลน์ เลวิตต์ […]

US immigration agents arrest hundreds at Hyundai plant, mostly Koreans

แรงงานเกาหลีใต้ที่ถูกสหรัฐจับอาจกลับแบบไม่ถูกเนรเทศ

โซล 8 ก.ย.- เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้เปิดเผยว่า แรงงานเกาหลีใต้ราว 300 คนที่ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐควบคุมตัวไว้ที่รัฐจอร์เจีย อาจกลับประเทศอย่างสมัครใจ โดยไม่ถูกเนรเทศ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐบุกค้นสถานที่ก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรียานยนต์ไฟฟ้าที่เป็นการร่วมทุนระหว่างฮุนไดมอเตอร์กรุ๊ปกับแอลจีเอนเนอร์จีโซลูชัน ใกล้เมืองซาวานนาห์ เมื่อวันที่ 4 กันยายน ตามการสอบสวนเรื่องการทำงานผิดกฎหมาย จับกุมคนได้ 475 คน ในจำนวนนี้เป็นแรงงานชาวเกาหลีใต้ราว 300 คน ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้แถลงเมื่อวันอาทิตย์ว่า รัฐบาลเตรียมส่งเครื่องบินเช่าเหมาลำไปรับแรงงานที่กำลังถูกควบคุมตัวที่เมืองโฟลค์สตัน รัฐจอร์เจีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐ เพราะเสร็จสิ้นการหารือแก้ไขปัญหานี้กับรัฐบาลสหรัฐแล้ว เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้เปิดเผยวันนี้ว่า นายโช ฮยอน รัฐมนตรีต่างประเทศจะเดินทางไปกรุงวอชิงตันในวันนี้ เพื่อสรุปประเด็นสำคัญและสร้างความมั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดขึ้นในกระบวนการปล่อยตัวพลเมืองชาวเกาหลีใต้ และจะนำพวกเขากลับประเทศโดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นได้ คาดว่าเครื่องบินเช่าเหมาลำจะออกเดินทางไปยังสหรัฐในวันที่ 10 กันยายนเป็นอย่างเร็วที่สุด เว็บไซต์สำนักข่าวยอนฮับของทางการเกาหลีใต้ระบุว่า รัฐบาลเกาหลีใต้กำลังเจรจาขอให้แรงงานเหล่านี้กลับเกาหลีใต้ด้วยความสมัครใจ เพราะหากกลับโดยการถูกเนรเทศจะมีผลการเดินทางเข้าสหรัฐในอนาคต โดยอาจถูกเข้มงวดการตรวจลงตราหนังสือเดินทางหรือวีซ่า หรืออาจถึงขั้นถูกห้ามเข้าประเทศ มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐเสนอทางเลือกให้ 2 ทาง คือ ถูกเนรเทศและห้ามกลับเข้าสหรัฐเป็นเวลา 5 ปี หรือถูกควบคุมตัวและขึ้นศาล จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่กงสุลของเกาหลีใต้ได้พบกับแรงงานที่สถานควบคุมตัวแล้วราว 250 คน แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ที่ผ่านมารัฐบาลเกาหลีใต้ได้ขอให้สหรัฐขยายโควต้าการให้วีซ่าแก่แรงงานเกาหลีใต้ แต่ไม่มีความคืบหน้า […]

‘ทรัมป์’ เตรียมเยือนเกาหลีใต้ร่วมประชุมเอเปก

วอชิงตัน 7 ก.ย.- สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานในวันอาทิตย์ อ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐหลายรายว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กำลังเตรียมการเดินทางไปเยือนเกาหลีใต้ในเดือนหน้า เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปก (APEC) เกาหลีใต้จะเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปกที่เมืองคยองจู ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ระหว่างปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยประธานาธิบดีอี แจ มย็อง ได้เชิญนายทรัมป์เข้าร่วมงานดังกล่าวเมื่อครั้งที่ทั้งสองได้พบหารือกันที่กรุงวอชิงตันเมื่อเดือนที่แล้ว เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งกล่าวว่ากำลังมีการหารือเรื่องการเดินทางไปเยือนเกาหลีใต้ ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ พร้อมเสริมว่าการเดินทางครั้งนี้ยังมีเป้าหมายเพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นการค้า การป้องกันประเทศ และความร่วมมือด้านพลังงานนิวเคลียร์สำหรับพลเรือน รายงานของซีเอ็นเอ็นระบุว่า เจ้าหน้าที่ยังกล่าวด้วยว่ามีการหารืออย่างจริงจังเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะมีการประชุมทวิภาคีระหว่างนายทรัมป์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนนอกรอบการประชุม แต่ยังไม่มีแผนการที่แน่นอน การเข้าร่วมการประชุมเอเปกของทรัมป์ยังก่อให้เกิดการคาดเดาถึงโอกาสในการพบปะกับนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ หลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐได้กล่าวระหว่างที่พบกับผู้นำเกาหลีใต้ว่า เขาหวังจะได้พบกับนายคิมในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ขณะนี้มีการให้ความสนใจไปที่การจัดเตรียมการประชุมที่เป็นไปได้กับนายสีมากกว่า.-813.-สำนักข่าวไทย

เกาหลีใต้ผิดหวังที่สหรัฐเผยแพร่วิดีโอการจับกุมคนงานกว่า 300 คน

โซล 7 ก.ย. – เกาหลีใต้แสดงความผิดหวังอย่างยิ่งต่อการที่สหรัฐเผยแพร่ภาพถ่ายและคลิปวิดีโอการจับกุมคนงานชาวเกาหลีใต้หลายร้อยคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่นานหลังจากการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำของทั้งสองประเทศ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐได้เข้าบุกค้นโรงงานผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ของบริษัท ฮุนได มอเตอร์ เมื่อวันพฤหัสบดี และต่อมาได้เผยแพร่วิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นคนงานถูกใส่กุญแจมือ ข้อเท้า และกุญแจเอว ขณะขึ้นรถบัสหลังการตรวจค้น การปราบปรามครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญในเอเชียและเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ของสหรัฐ ในช่วงเวลาที่ทั้งสองกำลังพยายามสรุปข้อตกลงทางการค้าให้เสร็จสิ้น หลังการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกับประธานาธิบดีอี แจ-มย็อง ของเกาหลีใต้ นายพัค ยุน จู รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้ กล่าวกับนางแอลลิสัน ฮุกเกอร์ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศฝ่ายการเมืองของสหรัฐ ผ่านการสนทนาทางโทรศัพท์ว่า เป็นเรื่องน่าเสียใจที่เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญยิ่ง ที่ควรรักษาความไว้วางใจและความร่วมมือระหว่างผู้นำทั้งสองที่สร้างขึ้นจากการประชุมสุดยอดครั้งแรกเอาไว้ นายพัคยังขอให้สหรัฐ แก้ไขปัญหาอย่างเป็นธรรมและรวดเร็ว โดยเน้นว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของบริษัทเกาหลีใต้ที่ลงทุนในสหรัฐและสิทธิประโยชน์ของพลเมืองของเกาหลีใต้ไม่ควรถูกละเมิดอย่างไม่เป็นธรรม การจับกุมคนงานประมาณ 475 คนที่โรงงานใกล้เมืองซาวันนาห์ รัฐจอร์เจีย ซึ่งในจำนวนนี้มีชาวเกาหลีใต้มากกว่า 300 คน ถือเป็นการปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายในสถานที่แห่งเดียวที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐคลิปวิดีโอและภาพถ่ายของการบุกค้น แสดงให้เห็นคนงานหลายร้อยคนยืนอยู่หน้าอาคาร บางคนสวมเสื้อกั๊กสีเหลืองที่มีชื่อ “ฮุนได” หรือ “แอลจี ซีเอ็นเอส” (LG CNS) นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าคนงานสองคนพยายามซ่อนตัวในบ่อน้ำก่อนถูกจับกุม ประธานาธิบดีอี […]

เกาหลีใต้พร้อมช่วยคนงานฮุนไดในสหรัฐ

โซล 6 ก.ย. – ประธานาธิบดี อี แจ-มยอง ของเกาหลีใต้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ระดมสรรพกำลังอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือชาวเกาหลีใต้หลายร้อยคนที่ถูกกวาดจับกุมในสหรัฐ จากปฏิบัติการตรวจคนเข้าเมืองผิดกฎหมายของรัฐบาลสหรัฐ ที่โรงงานผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ของบริษัท ฮุนได มอเตอร์ ในรัฐจอร์เจียของสหรัฐ นายโช ฮยุน รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ เป็นประธานการประชุมฉุกเฉินในวันนี้เกี่ยวกับการปราบปรามผู้อพยพในสหรัฐ ได้กล่าวต่อที่ประชุมว่าทางการมีความกังวลอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ดังกล่าวและรู้สึกถึงความรับผิดชอบที่จะต้องให้การช่วยเหลือคนงานเหล่านี้ ขณะนี้กำลังหารือเรื่องส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงต่างประเทศไปยังสหรัฐเป็นการด่วน และหากมีจำเป็นเขาจะเดินทางไปด้วยตัวเอง เพื่อหารือกับรัฐบาลสหรัฐ หาทางช่วยเหลือแรงงานที่ถูกจับกุมต่อไป นายโช ยังกล่าวด้วยว่า ประธานาธิบดีอี เน้นย้ำว่าสิทธิและผลประโยชน์ของชาวเกาหลีใต้ ตลอดจนการดำเนินธุรกิจของบริษัทเกาหลีใต้ในสหรัฐจะต้องไม่ถูกละเมิด ความเคลื่อนไหวของทางการมีขึ้นหลังจากเมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐได้บุกเข้าจับกุมคนงานก่อสร้างโรงงานแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ดำเนินการโดยบริษัท แอชแอล-จีเอ แบตเตอรี ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างฮุนได มอเตอร์ กับแอลจี เอเนอร์จี โซลูชัน ตั้งอยู่ในเขตเทศมณฑลไบรอัน ใกล้กับเมืองซาวันนาห์ ในรัฐจอร์เจียของสหรัฐ ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พูดถึงเรื่องนี้ว่าคนที่ถูกจับเป็นคนต่างด้าวผิดกฎหมาย และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองก็เพียงแต่ทำตามหน้าที่เท่านั้น เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิประจำรัฐจอร์เจียระบุว่าคนที่ถูกจับมีทั้งผู้ที่เข้ามาในสหรัฐผ่านโครงการยกเว้นวีซ่าซึ่งไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงาน และบางส่วนเป็นคนที่อาศัยอยู่เกินวีซ่า แรงงานที่ถูกกวาดจับครั้งนี้มีจำนวน 457 คน ในจำนวนนี้เป็นชาวเกาหลีใต้ 300 คน ส่วนใหญ่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ศูนย์กักกันในเมืองโฟล์กสตัน […]

‘ฮุนได’ เตรียมสอบสวนการจ้างงานในสหรัฐ

โซล 6 ก.ย. – บริษัท ฮุนได มอเตอร์ แถลงในวันศุกร์ว่าจะทำการสอบสวนแนวทางการจ้างงานของซัพพลายเออร์และผู้รับเหมาช่วง หลังเจ้าหน้าที่สหรัฐได้บุกจู่โจมจับกุมแรงงานหลายร้อยคนที่ไซต์ก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ของฮุนได มอเตอร์ ในรัฐจอร์เจียของสหรัฐ ฮุนได มอร์เตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเกาหลีใต้ กล่าวในแถลงการณ์ว่า ทางบริษัทให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบอย่างจริงจัง และเหตุการณ์เช่นนี้ย้ำเตือนให้ตระหนักถึงความสำคัญของการกำกับดูแลที่เข้มแข็ง ตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทานและเครือข่ายผู้รับเหมาของทางบริษัท ฮุนได มอเตอร์ ระบุว่า คริส ซูซอก หัวหน้าฝ่ายการผลิตประจำภูมิภาคอเมริกาเหนือ จะเข้ามาดูแลไซต์งานขนาดใหญ่ทั้งหมดในรัฐจอร์เจีย และจะทำการสอบสวนเพื่อให้แน่ใจว่าซัพพลายเออร์และผู้รับเหมาช่วงทั้งหมดปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับทั้งหมด พร้อมเน้นย้ำว่าบริษัทมีนโยบายไม่ยอมให้ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้องโดยเด็ดขาด พร้อมกับระบุว่า ตามข้อมูลที่ได้รับในปัจจุบัน ไม่มีผู้ที่ถูกควบคุมตัวคนใดเป็นลูกจ้างโดยตรงของฮุนได มอเตอร์ ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า แรงงานหลายร้อยคนที่ถูกจับกุมในปฏิบัติการบุกจู่โจมไซต์ก่อสร้างโรงงานของบริษัทเกาหลีใต้ในรัฐจอร์เจียเป็น ชาวต่างชาติผิดกฎหมาย พร้อมเน้นย้ำว่าเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง แค่ทำหน้าที่เท่านั้น เจ้าหน้าที่สหรัฐยืนยันว่าการบุกจู่โจมไซต์ก่อสร้างแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งดำเนินการโดยฮุนได มอเตอร์ กรุ๊ป และแอลจี เอนเนอร์จี โซลูชัน จำกัด ในเทศมณฑลไบรอัน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ส่งผลให้มีการจับกุมผู้เกี่ยวข้อง 475 คน ซึ่ง “ส่วนใหญ่” เป็นชาวเกาหลีใต้ […]

ผู้นำเกาหลีเหนือและประธานรัฐสภาเกาหลีใต้จับมือทักทายกัน

โซล 3 ก.ย. – นายอู วอน-ชิก ประธานสมัชชาแห่งชาติเกาหลีใต้ ได้จับมือทักทายกับนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ เมื่อทั้งสองพบกันระหว่างเข้าร่วมพิธีสวนสนามครั้งใหญ่ในกรุงปักกิ่งของจีน ในวันนี้ สำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า แถลงการณ์จากสำนักงานของนายอูระบุว่าทั้งสองได้จับมือทักทายกันก่อนจะเริ่มขบวนสวนสนามทางทหารที่ทั้งสองต่างเข้าร่วมชม เพื่อเฉลิมฉลองการยอมจำนนอย่างเป็นทางการของญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่สอง โดยนายอูเป็นตัวแทนของเกาหลีใต้เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ นอกจากประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ลี แจ มย็อง แล้ว นายอูก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เรียกร้องให้มีการเจรจาระหว่างเกาหลีใต้และเกาหลีเหนืออีกครั้ง หลังจากเกิดช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่ายตึงเครียดเป็นพิเศษ ที่ผ่านมาเกาหลีเหนือได้ปฏิเสธการติดต่อทาบทามจากเกาหลีใต้ให้หันมาเจรจากัน พร้อมกับกล่าวว่าไม่สนใจที่จะพูดคุยใดๆ กับเกาหลีใต้ ก่อนเดินทางไปปักกิ่ง นายอูเคยกล่าวไว้ว่ายังไม่แน่ชัดว่าเขาจะได้พบกับคิมหรือไม่ แต่หากได้พบก็อยากจะพูดคุยกับผู้นำเกาหลีเหนือถึงวิธีการสร้างสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี สมาชิกรัฐสภาเกาหลีใต้หลายคน ซึ่งรวมถึงนักการเมืองอาวุโสที่เคยช่วยอำนวยความสะดวกในการเจรจาระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ในอดีต ได้ร่วมเดินทางไปกับนายอู ที่กรุงปักกิ่งครั้งนี้ด้วย.-813.-สำนักข่าวไทย

Sky with sun blazing

เกาหลีใต้ร้อนเป็นประวัติการณ์ปีที่ 2 ติดต่อกัน

โซล 1 ก.ย.- เกาหลีใต้เผชิญกับฤดูร้อนที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันในปีนี้ ขณะที่ผู้นำเกาหลีใต้ต้องประกาศภาวะภัยพิบัติในเมืองทางตะวันออกที่ประสบภัยแล้ง สำนักอุตุนิยมวิทยาเกาหลีของเกาหลีใต้รายงานวันนี้ว่า ช่วงวันที่ 1 มิถุนายน จนถึง 31 สิงหาคม 2568 บันทึกอุณหภูมิเฉลี่ยได้ที่ 25.7 องศาเซลเซียส ลบสถิติปี 2567 ที่แตะ 25.6 องศาเซลเซียส กลายเป็นฤดูร้อนที่ร้อนที่สุดของเกาหลีใต้นับตั้งแต่เริ่มเก็บสถิติในปี 2516 ฤดูร้อนปีนี้เกาหลีใต้เผชิญคลื่นความร้อน (heat wave) เมื่ออุณหภูมิสูงสุดรายวันสูงเกิน 33 องศาเซลเซียส รวมทั้งหมด 28.1 วัน มากเป็นอันดับ 3 รองจากปี 2561 ที่มีทั้งหมด 31 วัน และปี 2537 ที่มีทั้งหมด 28.5 วัน และเผชิญคืนเขตร้อน (tropical night) เมื่ออุณหภูมิยามค่ำคืนสูงกว่า 25 องศาเซลเซียส รวมทั้งหมด 15.5 คืน […]

South Korea Foreign Minister Cho Hyun

เกาหลีใต้ชี้เป็นไปได้น้อยมากที่ “ทรัมป์-คิม” จะพบที่เอเปค

โซล 31 ส.ค.- นายโช ฮยอน รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ กล่าวว่า ณ เวลานี้มีความเป็นไปได้น้อยมากที่จะมีการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำสหรัฐกับผู้นำเกาหลีเหนือ นอกรอบการประชุมกลุ่มเศรษฐกิจที่เกาหลีใต้ในปลายปีนี้ นายโชให้สัมภาษณ์รายการข่าวของสถานีโทรทัศน์เคบีเอส (KBS) ในวันนี้ว่า บอกได้เพียงว่า ณ เวลานี้มีความเป็นไปได้น้อยมาก ต่อกระแสข่าวเรื่องประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐกับนายคิม จอง อึนของเกาหลีเหนือจะพบกันนอกรอบการประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกหรือเอเปค (APEC) ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม ถึง 1 พฤศจิกายน 2568 ที่เมืองคยองจู ห่างจากกรุงโซลไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 330 กิโลเมตร นอกจากนี้เกาหลีใต้ในฐานะเจ้าภาพการประชุมเอเปคยังไม่ได้ส่งคำเชิญไปยังเกาหลีเหนือด้วย อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้กล่าวว่า หากการประชุมสุดยอดผู้นำสหรัฐและเกาหลีเหนือเกิดขึ้นได้จริง ก็จะเปิดโอกาสให้แก่การผ่อนคลายความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี และนำมาซึ่งการปลดนิวเคลียร์เกาหลีเหนือในที่สุด ส่วนเรื่องที่ผู้นำเกาหลีเหนือจะไปจีนในสัปดาห์นี้เพื่อร่วมชมขบวนสวนสนามที่กรุงปักกิ่งในวันที่ 3 กันยายน เนื่องในวันแห่งชัยชนะ ฉลองครบ 80 ปีของการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น นายโชมองว่า เกาหลีเหนือคงจะใช้โอกาสนี้ฟื้นฟูความสัมพันธ์กับจีนที่ตึงเครียดเพราะเกาหลีเหนือหันไปใกล้ชิดกับรัสเซียมากขึ้นในช่วงไม่นานมานี้ และอาจจะได้เรียนรู้ถึงข้อจำกัดของรัสเซีย รวมทั้งอาจเรียนรู้ถึงข้อจำกัดของจีนด้วย กระแสข่าวเรื่องผู้นำสหรัฐจะประชุมสุดยอดกับผู้นำเกาหลีเหนือที่เกาหลีใต้เกิดขึ้นหลังจากนายทรัมป์กล่าวกับนายอี แจ มยอง ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ที่ไปพบที่ทำเนียบขาวเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า […]

1 2 3 273
...