Sky with sun blazing

เกาหลีใต้ร้อนเป็นประวัติการณ์ปีที่ 2 ติดต่อกัน

โซล 1 ก.ย.- เกาหลีใต้เผชิญกับฤดูร้อนที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันในปีนี้ ขณะที่ผู้นำเกาหลีใต้ต้องประกาศภาวะภัยพิบัติในเมืองทางตะวันออกที่ประสบภัยแล้ง สำนักอุตุนิยมวิทยาเกาหลีของเกาหลีใต้รายงานวันนี้ว่า ช่วงวันที่ 1 มิถุนายน จนถึง 31 สิงหาคม 2568 บันทึกอุณหภูมิเฉลี่ยได้ที่ 25.7 องศาเซลเซียส ลบสถิติปี 2567 ที่แตะ 25.6 องศาเซลเซียส กลายเป็นฤดูร้อนที่ร้อนที่สุดของเกาหลีใต้นับตั้งแต่เริ่มเก็บสถิติในปี 2516 ฤดูร้อนปีนี้เกาหลีใต้เผชิญคลื่นความร้อน (heat wave) เมื่ออุณหภูมิสูงสุดรายวันสูงเกิน 33 องศาเซลเซียส รวมทั้งหมด 28.1 วัน มากเป็นอันดับ 3 รองจากปี 2561 ที่มีทั้งหมด 31 วัน และปี 2537 ที่มีทั้งหมด 28.5 วัน และเผชิญคืนเขตร้อน (tropical night) เมื่ออุณหภูมิยามค่ำคืนสูงกว่า 25 องศาเซลเซียส รวมทั้งหมด 15.5 คืน […]

South Korea Foreign Minister Cho Hyun

เกาหลีใต้ชี้เป็นไปได้น้อยมากที่ “ทรัมป์-คิม” จะพบที่เอเปค

โซล 31 ส.ค.- นายโช ฮยอน รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ กล่าวว่า ณ เวลานี้มีความเป็นไปได้น้อยมากที่จะมีการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำสหรัฐกับผู้นำเกาหลีเหนือ นอกรอบการประชุมกลุ่มเศรษฐกิจที่เกาหลีใต้ในปลายปีนี้ นายโชให้สัมภาษณ์รายการข่าวของสถานีโทรทัศน์เคบีเอส (KBS) ในวันนี้ว่า บอกได้เพียงว่า ณ เวลานี้มีความเป็นไปได้น้อยมาก ต่อกระแสข่าวเรื่องประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐกับนายคิม จอง อึนของเกาหลีเหนือจะพบกันนอกรอบการประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกหรือเอเปค (APEC) ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม ถึง 1 พฤศจิกายน 2568 ที่เมืองคยองจู ห่างจากกรุงโซลไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 330 กิโลเมตร นอกจากนี้เกาหลีใต้ในฐานะเจ้าภาพการประชุมเอเปคยังไม่ได้ส่งคำเชิญไปยังเกาหลีเหนือด้วย อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้กล่าวว่า หากการประชุมสุดยอดผู้นำสหรัฐและเกาหลีเหนือเกิดขึ้นได้จริง ก็จะเปิดโอกาสให้แก่การผ่อนคลายความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี และนำมาซึ่งการปลดนิวเคลียร์เกาหลีเหนือในที่สุด ส่วนเรื่องที่ผู้นำเกาหลีเหนือจะไปจีนในสัปดาห์นี้เพื่อร่วมชมขบวนสวนสนามที่กรุงปักกิ่งในวันที่ 3 กันยายน เนื่องในวันแห่งชัยชนะ ฉลองครบ 80 ปีของการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น นายโชมองว่า เกาหลีเหนือคงจะใช้โอกาสนี้ฟื้นฟูความสัมพันธ์กับจีนที่ตึงเครียดเพราะเกาหลีเหนือหันไปใกล้ชิดกับรัสเซียมากขึ้นในช่วงไม่นานมานี้ และอาจจะได้เรียนรู้ถึงข้อจำกัดของรัสเซีย รวมทั้งอาจเรียนรู้ถึงข้อจำกัดของจีนด้วย กระแสข่าวเรื่องผู้นำสหรัฐจะประชุมสุดยอดกับผู้นำเกาหลีเหนือที่เกาหลีใต้เกิดขึ้นหลังจากนายทรัมป์กล่าวกับนายอี แจ มยอง ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ที่ไปพบที่ทำเนียบขาวเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า […]

เกาหลีใต้ติดตั้งโฮโลแกรมภาพตำรวจเพื่อยับยั้งอาชญากรรม

โซล 30 ส.ค. – ตำรวจเกาหลีใต้ติดตั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ “โฮโลแกรม” ขนาดเท่าคนจริงในใจกลางกรุงโซล เพื่อช่วยยับยั้งอาชญากรรม ภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะถูกฉายลงบนแผ่นอะคริลิกทุกๆ สองนาที ตั้งแต่เวลา 19.00 น. ถึง 22.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น กล้องวงจรปิดที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ จะคอยสอดส่องพื้นที่ ซึ่งมักจะคึกคักในเวลากลางคืน เนื่องจากมีบาร์อยู่ใกล้เคียง คิม ซู-ฮยัง เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจจุงบู-โซล ผู้ริเริ่มการติดตั้งโฮโลแกรมนี้ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่กล้องวงจรปิดหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจจะประจำการอยู่ทุกที่ตลอด 24 ชั่วโมง นั่นเป็นเหตุผลที่เขาคิดว่า ถ้าสามารถสร้างการปรากฏตัวของตำรวจให้เห็นได้ชัดเจน มันอาจจะช่วยได้ คิม ฮยอน-ดน เพื่อนร่วมงานของเธอ กล่าวว่า อัตราการเกิดอาชญากรรมในพื้นที่นี้ ซึ่งรวมถึงเหตุการณ์ความรุนแรงจากคนเมา ลดลงประมาณ 22 เปอร์เซ็นต์ หลังจากติดตั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจโฮโลแกรม ผู้ที่อาศัยในพื้นที่คนหนึ่ง กล่าวว่า การติดตั้งนี้ยังช่วยสร้างความมั่นใจให้กับพวกเธอได้ ทำให้รู้สึกปลอดภัยมากขึ้น เธอกล่าวว่า ภาพโฮโลแกรมดูเหมือนตำรวจจริงๆ โดยให้ความรู้สึกเหมือนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนอยู่ข้างๆ จริงๆ.-813.-สำนักข่าวไทย

เผยเศรษฐกิจเกาหลีเหนือปี 2024 โตเร็วสุดในรอบ 8 ปี

กรุงโซล 29 ส.ค. – ธนาคารกลางเกาหลีใต้ เปิดเผยในวันศุกร์ว่า จากการประมาณการของธนาคารกลางเกาหลีใต้ เศรษฐกิจของเกาหลีเหนือเติบโตขึ้นร้อยละ 3.7 ในปี 2024 ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตรายปีที่เร็วที่สุดในรอบ 8 ปี โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับรัสเซีย ธนาคารกลางเกาหลีใต้ระบุว่า ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือในปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นจากปี 2023 ที่เติบโต ร้อยละ 3.1 และปี 2022 ที่ลดลงร้อยละ 0.2 อัตราการเติบโตที่ร้อยละ 3.7 ในปี 2024 ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2016 ซึ่งเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือเคยขยายตัวที่ร้อยละ 3.9 เจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางเกาหลีใต้กล่าวว่า สาเหตุหลักของการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือมาจากการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในอุตสาหกรรมการผลิต การก่อสร้าง และการทำเหมืองแร่ ซึ่งเป็นผลมาจากโครงการนโยบายระดับชาติที่เข้มแข็งในประเทศ และการขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาคอุตสาหกรรมเคมีหนักทะยานขึ้นถึงร้อยละ 10.7 ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดนับตั้งแต่มีการบันทึกข้อมูลมา โดยเป็นผลมาจากการขยายการผลิตผลิตภัณฑ์โลหะสำหรับอาวุธที่ส่งออกไปยังรัสเซีย การประมาณการของธนาคารกลางเกาหลีใต้ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่น่าเชื่อถือที่สุดของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในเกาหลีเหนือ เนื่องจากเกาหลีเหนือไม่มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการ ในปี 2024 ปริมาณการค้าของเกาหลีเหนือลดลงร้อยละ 2.6 อยู่ที่ 2,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 97,580 […]

อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งเกาหลีใต้ถูกดำเนินคดีรับสินบน

กรุงโซล 29 ส.ค. – คณะอัยการพิเศษเกาหลีใต้เปิดเผยในวันศุกร์ว่า นางคิม กอนฮี ภรรยาของนายยุน ซ็อกยอล อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ที่ถูกถอดถอนจากตำแหน่ง ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีในคดีรับสินบน และข้อหาอื่นๆ ท่ามกลางการสอบสวนที่ขยายวงกว้างในวิกฤตการณ์กรณีการประกาศกฎอัยการศึก และคดีอื้อฉาวที่เกี่ยวข้องกับอดีตคู่รักผู้ทรงอิทธิพลคู่นี้ ทั้งนายยุนและนางคิม ถูกจับกุมและคุมขังในเรือนจำ โดยนายยุนอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีในข้อหากบฏ หลังถูกถอดถอนจากตำแหน่งเมื่อเดือนเมษายน จากความพยายามประกาศใช้กฎอัยการศึกที่ล้มเหลวเมื่อเดือนธันวาคม อัยการพิเศษที่ได้รับการแต่งตั้งหลังจากการถอดถอนนายยุน และนายอี แจ มย็อง เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี ได้ดำเนินการสอบสวนทั้งคู่แยกจากกัน ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของเกาหลีใต้ถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ข้อกล่าวหาต่อนางคิมนั้นมีตั้งแต่การฉ้อโกงหุ้นไปจนถึงการรับสินบน ซึ่งหากเธอถูกตัดสินว่ามีความผิดจะต้องรับโทษจำคุกหลายปี โดยคดีดังกล่าวพัวพันกับเจ้าของธุรกิจ บุคคลสำคัญทางศาสนา และผู้มีอิทธิพลทางการเมือง อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งผู้นี้ตกเป็นประเด็นในคดีอื้อฉาวหลายคดี ซึ่งบางส่วนย้อนกลับไปกว่า 15 ปี คดีเหล่านี้บดบังการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอันวุ่นวายของนายยุน และสร้างความเสียหายทางการเมืองให้กับเขาและพรรคอนุรักษ์นิยม ทนายความของนางคิมได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดและกล่าวว่ารายงานข่าวเกี่ยวกับของขวัญบางชิ้นที่เธอกล่าวหาว่าได้รับเป็นเพียงการคาดเดาที่ไม่มีมูลความจริง โฆษกอัยการระบุว่า ในวันศุกร์นี้ อัยการพิเศษที่สอบสวนวิกฤตการณ์กฎอัยการศึกของประเทศ ยังได้ฟ้องร้องนายฮัน ด็อกซู อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับการแต่งตั้งโดยนายยุน ในข้อหาสนับสนุนการกบฏและเบิกความเท็จอีกด้วย.-813.-สำนักข่าวไทย

“ไซ” ศิลปินดังเกาหลีใต้ถูกสอบสวนละเมิดกฎหมายการแพทย์

โซล 28 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยวันพฤหัสบดีว่า “ไซ” (Psy) นักร้องและแรปเปอร์ชื่อดัง เจ้าของผลงานเพลง “กังนัมสไตล์” (Gangnam Style) ที่กลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลก กำลังถูกตำรวจสอบสวนในข้อกล่าวหาว่า ต้องสงสัยว่าละเมิดกฎหมายทางการแพทย์ โดยการให้บุคคลที่สามรับยาจิตเวชแทนโดยที่เขาไม่ได้ไปพบแพทย์ด้วยตนเอง สำนักข่าวยอนฮับ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจโซล ซอแดมุน กำลังสอบสวน “ไซ” ซึ่งมีชื่อจริงว่า พัก แจ-ซัง และแพทย์จากโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง หลังจากแจ้งข้อกล่าวหาพวกเขาในข้อหามีส่วนเกี่ยวข้องกับการให้บุคคลที่สาม ซึ่งรวมถึงผู้จัดการของ “ไซ” ไปรับยาตามใบสั่งแพทย์โดยที่ไม่ได้พบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาด้วยตนเอง “ไซ” ถูกกล่าวหาว่าได้รับยาจิตเวชชนิด “ซาแน็กซ์” (Xanax) และ “สทิลน็อกซ์” (Stilnox) จากโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยในกรุงโซล โดยที่เขาไม่ได้เดินทางไปพบแพทย์ด้วยตัวเองตั้งแต่ปี 2022 จนถึงปัจจุบัน และได้ให้ผู้จัดการและบุคคลที่สามคนอื่น ๆ ไปรับยาแทน รายงานข่าวระบุว่า ตำรวจตรวจพบพฤติกรรมที่น่าสงสัยดังกล่าวจากการที่มีผู้ให้เบาะแส และเพิ่งเข้าตรวจค้นโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง สำหรับกฎหมายปัจจุบันของเกาหลีใต้น้ัน การให้บุคคลอื่นรับยาแทนนั้นเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ยาซาแน็กซ์และสทิลน็อกซ์เป็นยาจิตเวชที่ใช้รักษาโรคการนอนไม่หลับ โรควิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า ซึ่งเป็นยาที่มีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้เกิดการติดยาหรือเกิดภาวะต้องพึ่งพายา ดังนั้นจึงต้องมีการตรวจรักษาแบบตัวต่อตัวและมีใบสั่งยาจากแพทย์เท่านั้น อย่างไรก็ตาม […]

ผู้นำเกาหลีเหนือเน้นย้ำความสำคัญของหน่วยรบพิเศษ

โซล 28 ส.ค. – สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือ เคซีเอ็นเอ (KCNA) ของทางการเกาหลีเหนือ รายงานวันพฤหัสบดีว่า นายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับหน่วยรบพิเศษและพลซุ่มยิงที่เชี่ยวชาญ เพื่อสร้างกองกำลังติดอาวุธให้แข็งแกร่งขึ้น เคซีเอ็นเอรายงานว่า นายคิมได้กล่าวระหว่างการเยี่ยมชมฐานฝึกอบรมหน่วยรบพิเศษแห่งหนึ่งว่า การเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกองกำลังปฏิบัติการพิเศษและกองกำลังพลซุ่มยิงผู้เชี่ยวชาญในอนาคต เป็นภารกิจสำคัญสำหรับการสร้างกองทัพ นอกจากนี้เขายังได้ตรวจสอบปืนไรเฟิลสำหรับการซุ่มยิงรุ่นใหม่ด้วย การเดินทางไปเยี่ยมค่ายฝึกซ้อมทางทหารของคิมมีขึ้นหลังจากที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐและประธานาธิบดีอี แจ-มย็อง ของเกาหลีใต้ ได้พบปะกันในระหว่างการประชุมสุดยอดสัปดาห์นี้ ซึ่งมีการพูดคุยถึงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนายทรัมป์กับนายคิม และความเป็นไปได้ในการจัดการประชุมสุดยอดครั้งต่อไประหว่างผู้นำสหรัฐและเกาหลีเหนือ ในวันเดียวกันนั้น กองกำลังสหรัฐประจำเกาหลีได้ออกแถลงการณ์ว่า การฝึกซ้อมรบทางทหารประจำปีร่วมระหว่างสหรัฐและเกาหลีใต้ได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยมีการฝึกปฏิบัติการพิเศษร่วมกัน ซึ่งครอบคลุมถึง การซ้อมรับมือภารกิจอาวุธทำลายล้างสูง เจ้าหน้าที่รัฐบาลเกาหลีใต้รายหนึ่งกล่าวว่า การชะลอการฝึกซ้อมบางส่วนออกไปในเดือนหน้า มีจุดประสงค์เพื่อลดความตึงเครียดกับเกาหลีเหนือ นับตั้งแต่ประธานาธิบดีอีเข้ารับตำแหน่งในเดือนมิถุนายน เขาได้แสดงท่าทีและแนวทางเพื่อให้เกิดสันติภาพกับเกาหลีเหนือ แต่เกาหลีเหนือปฏิเสธข้อเรียกร้องการเจรจาและวิจารณ์การเคลื่อนไหวของเขาว่าเป็นเรื่องหลอกลวง หลังการประชุมสุดยอดกับนายทรัมป์ นายอีกล่าวว่าทั้งสองประเทศจะทำงานร่วมกันเพื่อปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี โดยยอมรับว่ามาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือที่เป็นเสมือน “เพื่อนบ้านที่ยากจนแต่ดุดัน” ไม่สามารถยับยั้งโครงการอาวุธของเกาหลีเหนือได้ ขณะที่สื่อทางการของเกาหลีเหนือเรียกผู้นำอีว่าเป็น “คนปากว่าตาขยิบ” และระบุว่าเกาหลีเหนือจะไม่มีวันยอมละทิ้งอาวุธนิวเคลียร์.-813.-สำนักข่าวไทย

เกาหลีใต้ผ่านร่างกฎหมายห้ามใช้โทรศัพท์ในห้องเรียน

โซล 27 ส.ค. – เกาหลีใต้ผ่านร่างกฎหมายห้ามใช้โทรศัพท์มือถือในห้องเรียนเริ่มมีผลปีการศึกษาหน้าเป็นต้นไป หวังแก้ปัญหาเด็กติดโทรศัพท์ และผลการเรียนตกต่ำ วันนี้สภานิติบัญญัติของเกาหลีใต้มีมติด้วยคะแนน 115 เสียงจากสมาชิกที่เข้าร่วมประชุมทั้งหมด 163 คน เห็นชอบร่างกฎหมายห้ามใช้โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อัจฉริยะในห้องเรียน โดยกฎหมายนี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปีการศึกษาหน้า ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม 2569 เป็นต้นไป นับเป็นความสำเร็จในการผลักดันกฎหมายนี้ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างพรรคฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลที่หวังจะแก้ปัญหาเด็กติดโทรศัพท์และมีผลการเรียนตกต่ำ การออกกฎหมายห้ามใช้โทรศัพท์ในห้องเรียนอาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่เสียทีเดียวสำหรับเกาหลีใต้ เพราะโรงเรียนส่วนใหญ่เริ่มมีการห้ามใช้โทรศัพท์ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งอยู่แล้ว ที่ผ่านมาทั้งนักการเมือง ผู้ปกครอง และครูผู้สอนต่างมีความกังวลว่าการใช้โทรศัพท์มือถือส่งผลกระทบต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเด็กและทำให้เสียเวลาที่ควรจะใช้ไปกับการเรียนหรือการทำกิจกรรมอย่างอื่น นายโจ จองฮุน ส.ส. ฝ่ายค้านซึ่งเป็นผู้เสนอร่างกฎหมายฉบับนี้บอกว่าเขาสนับสนุนการห้ามใช้โทรศัพท์ในห้องเรียนเหมือนกับในอีกหลายประเทศ และบอกด้วยว่ามีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ที่บ่งชี้ว่าการติดสมาร์ทโฟนส่งผลเสียร้ายแรงต่อพัฒนาการทางสมองและการพัฒนาทางอารมณ์ของเด็กนักเรียน แม้ว่าข้อห้ามนี้มีผลเฉพาะในชั้นเรียนเท่านั้น แต่กฎหมายยังให้อำนาจครูในการห้ามนักเรียนใช้โทรศัพท์ภายในโรงเรียนได้ นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ทางโรงเรียนให้ความรู้แก่นักเรียนเกี่ยวกับการใช้สมาร์ทโฟนอย่างเหมาะสม แต่การห้ามใช้โทรศัพท์ก็มีข้อยกเว้นสำหรับนักเรียนพิการหรือผู้มีความต้องการพิเศษ รวมถึงการใช้เพื่อการศึกษาและใช้ในเหตุฉุกเฉินตามความเหมาะสม.-816.-สำนักข่าวไทย

Lee Je Myong's first meeting with Trump

“ทรัมป์” อยากพบผู้นำเกาหลีเหนือ

วอชิงตัน 26 ส.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐกล่าวกับประธานาธิบดีอี แจ มยองของเกาหลีใต้ว่า เขาต้องการพบกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือในปีนี้ และเปิดกว้างเรื่องหารือการค้าต่อไปกับเกาหลีใต้ ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวเรื่องนี้ต่อหน้าผู้สื่อข่าวขณะให้การต้อนรับประธานาธิบดีอีที่มาเยือนทำเนียบขาวเป็นครั้งแรกเมื่อวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐ ขณะที่ผู้นำเกาหลีใต้กล่าวเชิญนายทรัมป์ไปร่วมการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกหรือเอเปค (APEC) ที่เกาหลีใต้จะเป็นเจ้าภาพในเดือนตุลาคมปีนี้ และอาจใช้ช่วงเวลาดังกล่าวในการพบปะกับนายคิม ซึ่งผู้นำเกาหลีใต้คาดหวังว่า ผู้นำสหรัฐจะช่วยสร้างสันติภาพระหว่างสองเกาหลีที่ยังถูกแบ่งแยกกันอยู่ นับตั้งแต่นายทรัมป์เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคมปีนี้ เขาได้เรียกร้องหลายครั้งเรื่องฟื้นฟูการติดต่อโดยตรงกับเกาหลีเหนือ หลังจากที่เคยพบกับนายคิมมาแล้วถึง 3 ครั้งเมื่อครั้งที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐสมัยแรก ก่อนหน้านี้เขากล่าวว่า ที่ผ่านมาความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนายคิมเป็นไปอย่างดีมาก อย่างไรก็ตาม เกาหลีเหนือยังไม่แสดงความเห็นต่อท่าทีล่าสุดของผู้นำสหรัฐ แต่ในเวลาต่อมาสื่อของทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า การซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐกับเกาหลีใต้พิสูจน์ให้เห็นถึงเจตนาของสหรัฐที่จะยึดครองคาบสมุทรเกาหลีและโจมตีประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค นายทรัมป์เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวหลังเสร็จสิ้นการหารือกับนายอีว่า เชื่อว่าเกาหลีใต้จะทำข้อตกลงการค้าครั้งใหญ่กับสหรัฐตามที่ได้ตกลงไว้ ด้านผู้นำเกาหลีใต้เปิดเผยในภายหลังว่า ได้หารือกับผู้นำสหรัฐเรื่องปรับปรุงความเป็นพันธมิตรทวิภาคีให้เป็นการต่างตอบแทนมากขึ้น และมุ่งสู่อนาคตมากขึ้นตามสถานการณ์ด้านความมั่นคงที่กำลังเปลี่ยนแปลง และว่าเกาหลีใต้จะเพิ่มงบกลาโหมเพื่อปรับเปลี่ยนกองทัพให้เป็นกองทัพอัจฉริยะ ซึ่งจะได้เปรียบหากเกิดความขัดแย้งขึ้นในอนาคต ทั้งนี้แม้ว่าสหรัฐและเกาหลีใต้บรรลุข้อตกลงการค้าในการเจรจาเมื่อเดือนกรกฎาคมว่า สหรัฐจะเก็บภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากเกาหลีใต้ในอัตราร้อยละ 15 แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องพลังงานนิวเคลียร์ การใช้จ่ายด้านกลาโหม และรายละเอียดของข้อตกลงการค้าที่ครอบคลุมเรื่องเกาหลีใต้รับปากจะลงทุน 350,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 11.35 ล้านล้านบาท) ในสหรัฐ.-816(814).-สำนักข่าวไทย

เกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธ

โซล 24 ส.ค. – สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือ เคซีเอ็นเอ (KCNA) ของทางการเกาหลีเหนือรายงานวันนี้ว่า เกาหลีเหนือได้ทดสอบยิงขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ 2 ชนิด ภายใต้การดูแลของนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ เพื่อประเมินสมรรถนะการรบของอาวุธใหม่นี้ เคซีเอ็นเอ รายงานว่า สำนักบริหารขีปนาวุธเกาหลีเหนือทำการทดสอบขีปนาวุธในวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยยิงขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศชนิดใหม่ 2 แบบไปยังเป้าหมายที่แตกต่างกัน ในขณะที่นายคิม ได้ควบคุมดูแลการยิงด้วยตนเอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พรรครัฐบาลและกองทัพ รวมถึงพลอากาศเอกคิม กวัง-ฮย็อก ผู้บัญชาการกองทัพอากาศ การทดสอบดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่เกาหลีใต้และสหรัฐกำลังดำเนินการซ้อมรบร่วมขนาดใหญ่ที่มีชื่อรหัสว่า “อุลชิ ฟรีดอม ชิลด์” (Ulchi Freedom Shield) ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม และจะดำเนินไปเป็นเวลา 11 วัน เคซีเอ็นเอ ระบุว่าการทดสอบยิงครั้งนี้แสดงให้เห็นถึง “สมรรถนะการรบที่เหนือกว่า” ของขีปนาวุธในการรับมือเป้าหมายทางอากาศ เช่น โดรนโจมตีหรือขีปนาวุธร่อนได้อย่างรวดเร็ว โดยการทำงานและโหมดการตอบสนองของขีปนาวุธเหล่านี้อยู่บนพื้นฐานของเทคโนโลยี “ที่เป็นเอกลักษณ์และพิเศษ” นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่า นายคิม จอง-อึน ได้มอบ “ภารกิจสำคัญ” […]

เกาหลีเหนือชี้ท่าทีสันติภาพของเกาหลีใต้เป็นแค่ความฝันลมๆ แล้งๆ

โซล 14 ส.ค. – คิม โย จอง น้องสาวผู้ทรงอิทธิพลของนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ กล่าววันนี้ว่า เกาหลีเหนือไม่เคยปลดลำโพงโฆษณาชวนเชื่อออก และจะไม่มีทางทำเช่นนั้น พร้อมทั้งเรียกความเชื่อของเกาหลีใต้ที่ว่าเกาหลีเหนือกำลังตอบรับท่าทีสันติภาพของเกาหลีใต้ว่าเป็น “ความฝันลมๆ แล้งๆ” คิม โย จอง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงในพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลเกาหลีเหนือ ยังระบุด้วยว่า การปรับเปลี่ยนแผนการซ้อมรบร่วมประจำปีของเกาหลีใต้และสหรัฐเป็นการกระทำที่ “ไร้ประโยชน์” ซึ่งไม่ได้เปลี่ยนแปลงเจตนาร้ายของชาติพันธมิตร ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา คิม ซึ่งเจ้าหน้าที่และนักวิเคราะห์เชื่อว่าเป็นกระบอกเสียงของพี่ชาย ปฏิเสธการเคลื่อนไหวของรัฐบาลสายเสรีนิยมใหม่ของเกาหลีใต้ที่มีเป้าหมายในการลดความตึงเครียดระหว่างสองเกาหลี สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือเคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือ รายงานอ้างคำพูดของคิมว่า เธอมั่นใจว่านโยบายของเกาหลีใต้ที่มีต่อเกาหลีเหนือยังคงไม่เปลี่ยนแปลงและจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง กองทัพเกาหลีใต้กล่าวว่า พวกเขาตรวจพบการเคลื่อนไหวของกองทัพเกาหลีเหนือในการรื้อถอนลำโพงโฆษณาชวนเชื่อบางส่วนที่หันเข้าหาเกาหลีใต้ หลังจากที่เกาหลีใต้ดำเนินการในลักษณะเดียวกันไปก่อนหน้านี้ คณะเสนาธิการร่วมของกองทัพเกาหลีใต้กล่าวในวันนี้ว่า พวกเขายืนยันการประเมินกิจกรรมที่สังเกตเห็นในบางส่วนของชายแดน และยังคงติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ลี ซอง จุน โฆษกกองทัพเกาหลีใต้ กล่าวว่า เขาเชื่อว่าควรใช้ความระมัดระวังในการตีความคำแถลงของเกาหลีเหนือเพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิด และเปียงยางมักจะ “อ้างสิ่งที่ไม่เป็นความจริง” อยู่บ่อยครั้ง แต่เขาปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติม ลีไม่ได้ตอบคำถามโดยตรงเกี่ยวกับรายงานข่าวที่ว่า เกาหลีเหนือได้รื้อถอนลำโพงเพียงตัวเดียวจากหลายสิบตัวที่ติดตั้งไว้ตามแนวชายแดน ในสมัยประธานาธิบดียุน ซุกยอล ผู้นำคนก่อน […]

ผู้นำเกาหลีใต้เตรียมเยือนญี่ปุ่น

โซล 13 ส.ค. – ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้แถลงวันนี้ว่า ประธานาธิบดีอี แจ-มย็อง ของเกาหลีใต้จะเดินทางไปเยือนญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 23-24 สิงหาคม เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกับนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่น โฆษกของประธานาธิบดีอี แถลงกับผู้สื่อข่าวว่า ผู้นำทั้งสองจะหารือถึงแนวทางในการปรับปรุงสันติภาพในภูมิภาคและส่งเสริมความร่วมมือไตรภาคีกับสหรัฐ อย่างไรก็ตาม โฆษกผู้นำเกาหลีใต้ไม่ได้ระบุวันที่จะจัดการประชุมสุดยอดที่แน่นอนระหว่างการเยือนญี่ปุ่นเป็นเวลา 2 วันของประธานาธิบดีอี ก่อนหน้านี้ นายดีอีเคยวิพากษ์วิจารณ์ความพยายามของรัฐบาลเกาหลีใต้ชุดก่อน ๆ ในการปรับปรุงความสัมพันธ์กับญี่ปุ่น และเมื่อเขาได้พบกับนายอิชิบะในการประชุมสุดยอดครั้งแรกนอกรอบการประชุมผู้นำประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก หรือ จี7 (G7) ที่แคนาดาเมื่อเดือนมิถุนายน ทั้งคู่ได้ให้คำมั่นว่าจะกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่ต่างก็เป็นพันธมิตรของสหรัฐ มักจะตึงเครียดเนื่องจากข้อพิพาททางประวัติศาสตร์ที่สืบเนื่องมาจากการที่๊ญี่ปุ่นปกครองคาบสมุทรเกาหลีในฐานะอาณานิคมในช่วงปี 1910-1945 สำหรับการประชุมสุดยอดครั้งที่สองของผู้นำทั้งสองยังมีขึ้นในขณะที่สองชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของเอเชียกำลังเผชิญกับผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐที่บังคับใช้โดยรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ การเดินทางเยือนญี่ปุ่นของประธานาธิบดีอีมีขึ้นก่อนหน้าที่เขาจะเดินทางเยือนสหรัฐ ซึ่งเขามีกำหนดประชุมสุดยอดกับนายทรัมป์ในวันที่ 25 สิงหาคม.-813.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 4 273
...