นายกฯ ปลื้มแรงงานไทยเนื้อหอม เป็นที่ต้องการของนายจ้างอิสราเอล
ปลัดกระทรวงแรงงาน เผยนายกรัฐมนตรียินดีที่แรงงานไทยทำงานได้ดี มีทักษะ และเป็นที่ต้องการของนายจ้างในอิสราเอล จนมีความต้องการจ้างงานเพิ่มขึ้น แม้ในช่วงสถานการณ์โควิด-19
ปลัดกระทรวงแรงงาน เผยนายกรัฐมนตรียินดีที่แรงงานไทยทำงานได้ดี มีทักษะ และเป็นที่ต้องการของนายจ้างในอิสราเอล จนมีความต้องการจ้างงานเพิ่มขึ้น แม้ในช่วงสถานการณ์โควิด-19
อิสราเอลตรวจพบผู้ป่วยโรคฝีดาษวานร หรือฝีดาษลิง รายแรกของประเทศ และเชื่อกันว่าเป็นรายแรกในตะวันออกกลาง เป็นชายที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ
เยรูซาเลม 11 พ.ค. – นักข่าวหญิงของสถานีโทรทัศน์อัลจาซีราของกาตาร์ถูกยิงเสียชีวิตในขณะรายงานข่าวกองทัพอิสราเอลปฏิบัติการจู่โจมเมืองเจนินในเขตเวสต์แบงก์ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น กระทรวงสาธารณสุขของปาเลสไตน์ระบุว่า ชีรีน อาบู อักเลห์ ผู้สื่อข่าวหญิงชาวปาเลสไตน์ชื่อดังของอัลจาซีราถูกยิงและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนผู้สื่อข่าวชาวปาเลสไตน์อีกคนของหนังสือพิมพ์อัล-กุดส์ (Al-Quds) ที่มีสำนักงานใหญ่ในนครเยรูซาเลมได้รับบาดเจ็บแต่มีอาการคงที่แล้ว ทั้งยังอ้างว่า ผู้สื่อข่าวทั้งสองคนถูกกองทัพอิสราเอลยิงกระสุนใส่ ขณะที่คลิปวิดีโอของเหตุการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า อาบู อักเลห์ สวมเสื้อเกราะกันกระสุนสีน้ำเงินที่มีคำว่า ‘สื่อมวลชน’ (PRESS) อยู่บนเสื้อ ในขณะเดียวกัน กองทัพอิสราเอลเผยว่า ทหารอิสราเอลถูกระดมยิงและถูกระเบิดโจมตีอย่างหนักในระหว่างปฏิบัติภารกิจที่เมืองเจนิน ทำให้กองทหารตัดสินใจยิงตอบโต้ ทั้งยังระบุว่า กองทัพกำลังเร่งสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและหาสาเหตุถึงความเป็นไปได้ที่นักข่าวทั้งสองคนถูกกระสุนจากกลุ่มมือปืนชาวปาเลสไตน์หรือไม่ ด้านรัฐมนตรีช่วยกระทรวงต่างประเทศของกาตาร์ได้ออกมาประณามเหตุยิงนักข่าวของอัลจาซีราเสียชีวิตในเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครองโดยอิสราเอล ก่อนหน้านี้ อิสราเอลได้ส่งกองทหารไปปฏิบัติการจู่โจมเกือบทุกวันในเขตเวสต์แบงก์ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาในขณะที่อิสราเอลต้องเผชิญกับเหตุโจมตีรุนแรงหลายครั้งในประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นฝีมือของชาวปาเลสไตน์ที่อาศัยอยู่ทั้งในและรอบนอกเมืองเจนิน. -สำนักข่าวไทย
ในการยกทัพบุกยูเครนนั้น รัสเซียได้ให้เหตุผลหลักข้อหนึ่ง คือ ต้องการเข้าไปกำจัดกลุ่มนาซี แม้จะถูกแย้งว่า ผู้นำของยูเครนมีเชื้อสายยิว จนกระทั่งกลายเป็นประเด็นร้อนระหว่างประเทศ เมื่อรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ชี้ว่า “ฮิตเลอร์” ก็มีเชื้อสายยิว จนอิสราเอลไม่พอใจ
เทลอาวีฟ 3 พ.ค. – อิสราเอลระบุว่า รู้สึกไม่พอใจที่นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย กล่าวอ้างว่า อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำนาซีเยอรมนี มีเชื้อสายยิว และได้เรียกตัวเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำอิสราเอลเข้าพบชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อให้รัสเซียขอโทษ บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า นายลาฟรอฟให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ของอิตาลีเมื่อวันอาทิตย์ หลังจากอิสราเอลเพิ่งจัดพิธีเนื่องในวันรำลึกเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Holocaust Remembrance Day) เมื่อปลายเดือนเมษายน เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์สังหารหมู่ชาวยิวในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง นายลาฟรอฟถูกถามว่า รัสเซียอ้างว่าใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารเพื่อกำจัดนาซีในยูเครนได้อย่างไรในเมื่อประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนนั้นมีเชื้อสายยิว เขาตอบว่า เขาอาจเข้าใจผิด แต่คิดว่าฮิตเลอร์เองก็มีเชื้อสายยิวเช่นกัน เรื่องที่ผู้นำยูเครนมีเชื้อสายยิวจึงไม่มีความหมาย แม้แต่ชาวยิวด้วยกันเองยังมองว่ากลุ่มต่อต้านชาวยิวอย่างรุนแรงส่วนใหญ่ก็เป็นชาวยิวทั้งนั้น ถ้อยแถลงของนายลาฟรอฟทำให้ทางการอิสราเอลรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก นายกรัฐมนตรีนาฟตาลี เบนเน็ตต์ ของอิสราเอล กล่าวว่า การปั้นเรื่องโกหกดังกล่าวมีขึ้นเพื่อกล่าวโทษชาวยิวที่ได้รับผลกระทบในอาชญากรรมครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์และทำให้ผู้กดขี่ชาวยิวไม่ต้องรับผิดใด ๆ ขณะที่นายยาอีร์ ลาปิด รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศอิสราเอล กล่าวตอบโต้อย่างไม่พอใจว่า ถ้อยคำของนายลาฟรอฟเป็นเรื่องที่ให้อภัยไม่ได้ ส่วนกระทรวงต่างประเทศอิสราเอลได้เรียกตัวเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำอิสราเอลเข้าพบเพื่อชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นและเรียกร้องให้รัสเซียขอโทษอิสราเอล ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีเซเลนสกีได้กล่าวผ่านคลิปวิดีโอว่า เขาหมดคำพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะไม่มีใครเคยได้ยินคำปฏิเสธหรือการอธิบายเหตุผลใด ๆ จากรัฐบาลรัสเซียที่มีแต่ความเงียบ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารัสเซียลืมบทเรียนทั้งหมดที่ได้จากสงครามโลกครั้งที่สองไปแล้ว หรือไม่เคยเรียนรู้จากบทเรียนเหล่านั้น ด้านนายเนด […]
อิสราเอลยกเลิกการบังคับสวมหน้ากากอนามัยภายในอาคารที่เป็นมาตรการที่บังคับใช้มาเป็นเวลาเกือบ 1 ปี หลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ลดลงอย่างต่อเนื่อง
อิสราเอลโจมตีค่ายพักของกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา หลังยิงสกัดจรวดที่ถูกยิงมาจากฉนวนกาซาได้ นับเป็นการโจมตีครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค. ปีที่แล้ว
เยรูซาเลม 28 มี.ค. – นายกรัฐมนตรีนาฟตาลี เบนเน็ตต์ ของอิสราเอล มีผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นบวกในวันนี้ หลังจากที่เพิ่งพบปะกับนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ เมื่อวันอาทิตย์ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีอิสราเอลระบุในแถลงการณ์วันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีเบนเน็ตต์ติดเชื้อโควิด มีอาการโดยรวมคงที่ และจะปฏิบัติงานตามแผนที่วางไว้ตามเดิมจากที่บ้าน โดยที่ก่อนหน้านี้ผู้นำอิสราเอลได้พบกับนายบลิงเคนนอกรอบเวทีประชุมสุดยอดผู้นำด้านประวัติศาสตร์ระหว่างตัวแทนของอิสราเอลและกลุ่มชาติอาหรับ ซึ่งจัดขึ้นในนครเยรูซาเลมของอิสราเอล นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีเบนเน็ตต์ยังได้เดินทางไปลงพื้นที่เมืองฮาเดรา ทางตอนเหนือของอิสราเอล หลังเกิดเหตุมือปืนยิงตำรวจเสียชีวิต 2 นายในเมืองนี้ โดยกลุ่มรัฐอิสลามญิฮาดอ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าว ทำเนียบนายกรัฐมนตรีอิสราเอลยังระบุในแถลงการณ์ว่า นายกรัฐมนตรีเบนเน็ตต์จะจัดประชุมผ่านระบบออนไลน์ในวันนี้เพื่อประเมินสถานการณ์เหตุโจมตีดังกล่าวร่วมกับรัฐมนตรีจากกระทรวงกลาโหมและกระทรวงความปลอดภัยสาธารณะ รวมถึงเสนาธิการทหารบก และเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า สื่อท้องถิ่นของอิสราเอลได้เผยแพร่ภาพถ่ายการเดินทางลงพื้นที่เมืองฮาเดราของนายกรัฐมนตรีเบนเน็ตต์เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปจากตำรวจเกี่ยวกับเหตุโจมตีดังกล่าว โดยที่ผู้นำอิสราเอลได้สวมหน้ากากอนามัยอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีเบนเน็ตต์กลับไม่ได้สวมหน้ากากอนามัยในระหว่างการแถลงข่าวเคียงข้างนายบลิงเคนในวันเดียวกัน ทั้งนี้ นายบลิงเคนได้เดินทางเยือนอิสราเอลเพื่อเข้าร่วมการประชุมครั้งสำคัญระหว่างสหรัฐ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี บาห์เรน และโมร็อกโก ซึ่งเป็นชาติที่สานสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอลมาตั้งแต่ปี 2563 โดยที่การประชุมดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่หลายฝ่ายรู้สึกวิตกกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับข่าวที่ว่าสหรัฐจะฟื้นฟูและบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านในปี 2558 อีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย
เคียฟ 21 มี.ค. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เผยว่า อิสราเอลได้พยายามดำเนินการหลายอย่างเพื่อจัดการเจรจาสันติภาพระหว่างตัวแทนระดับสูงของยูเครนกับรัสเซีย พร้อมทั้งแนะว่า การเจรจาดังกล่าวอาจเกิดขึ้นที่นครเยรูซาเล็มของอิสราเอล ประธานาธิบดีเซเลนสกีเผยภายหลังเสร็จสิ้นการกล่าวคำปราศรัยต่อรัฐสภาของอิสราเอลผ่านคลิปวิดีโอเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาในยูเครนว่า นายกรัฐมนตรีนาฟตาลี เบนเน็ตต์ ของอิสราเอล ได้ใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อที่จะเข้ามาเป็นตัวกลางในการจัดการเจรจาสันติภาพระหว่างรัฐบาลยูเครนกับรัสเซีย ยูเครนรู้สึกขอบคุณผู้นำอิสราเอลอย่างยิ่ง เขาเชื่อว่าจะมีการนัดเจรจากับรัสเซียเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งอาจจะจัดขึ้นที่นครเยรูซาเล็มของอิสราเอลก็เป็นได้ เนื่องจากที่แห่งนี้สะท้อนถึงความสำคัญและความหมายของสันติภาพ นอกจากนี้ ประธานาธิบดีเซเลนสกี ซึ่งเป็นคนเชื้อสายยิว ยังได้กล่าวต่อรัฐสภาและประชาชนอิสราเอลเป็นครั้งแรกว่า รัฐบาลยูเครนถูกรัฐบาลรัสเซียใส่ร้ายว่าเป็นนาซี และข้อเท็จจริงในตอนนี้ก็พิสูจน์แล้วว่าข้อกล่าวหาของรัสเซียนั้นไม่เป็นความจริง ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีเบนเน็ตต์ได้ใช้ความพยายามอย่างมากในการเป็นตัวกลางเชื่อมระหว่างยูเครนกับรัสเซียผ่านการพูดคุยกับประธานาธิบดีเซเลนสกีและประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงการเดินทางเยือนกรุงมอสโกอย่างไม่เป็นทางการเพื่อเข้าพบผู้นำรัสเซียเมื่อสัปดาห์ก่อน.-สำนักข่าวไทย
อิสราเอลแจ้งวันนี้ว่า อาจระงับเที่ยวบินของสายการบินอิสราเอลไปยังดูไบ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เนื่องจากมีความเห็นต่างกันเรื่องการจัดการด้านความปลอดภัย และอาจเปลี่ยนเส้นทางไปลงอาบูดาบีแทน
ดูไบ 31 ม.ค.- สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี (UAE) ยิงสกัดขีปนาวุธทิ้งตัวที่ยิงโดยกลุ่มกบฏฮูธีในเยเมนได้ในเช้าวันนี้ นับเป็นครั้งที่ 3 แล้วในเดือนนี้ และตรงกับช่วงที่ประธานาธิบดีอิสราเอลกำลังเยือนยูเออีอย่างเป็นทางการ สำนักข่าวของทางการยูเออีรายงานอ้างกระทรวงกลาโหมแถลงว่า กองทัพอากาศยิงสกัดและทำลายขีปนาวุธทิ้งตัวที่กลุ่มกบฏฮูธียิงโจมตี โดยไม่มีประชาชนบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เนื่องจากเศษขีปนาวุธตกนอกพื้นที่ที่มีประชาชนอาศัยอยู่ จากนั้นได้ตอบโต้กลับด้วยการยิงถล่มฐานยิงขีปนาวุธของกลุ่มกบฏฮูธีในเขตอัลจอฟ ทางเหนือของเยเมน พร้อมกับเผยแพร่คลิปภาพขาวดำเห็นการระเบิดและกลุ่มควันดำโขมง กลุ่มกบฏฮูธีโจมตียูเออีครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 มกราคมด้วยการใช้โดรนและขีปนาวุธเล็งเป้าหมายโรงกลั่นน้ำมัน ทำให้คนงานเสียชีวิต 3 คน จากนั้นโจมตีครั้งที่ 2 ในอีก 1 สัปดาห์ต่อมา แต่ถูกยูเออียิงสกัดไว้ได้ ส่วนการโจมตีล่าสุดในเช้าวันนี้มีขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดีอิซฮาก เฮอร์โซก ของอิสราเอลเดินทางถึงยูเออีเมื่อวานนี้ นับเป็นประมุขคนแรกของอิสราเอลที่เยือนยูเออี หลังจากทั้งสองประเทศสถาปนาความสัมพันธ์ในระดับปกติในปี 2563 ทำเนียบประธานาธิบดีอิสราเอลแถลงว่า การเยือนยูเออีจะดำเนินต่อไปตามกำหนด.-สำนักข่าวไทย
ดูไบ 30 ม.ค.- ประธานาธิบดีอิซฮาก เฮอร์โซก ของอิสราเอลเดินทางถึงสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี (UAE) แล้วในวันนี้ นับเป็นประมุขคนแรกของอิสราเอลที่เยือนยูเออี หลังจากทั้งสองประเทศสถาปนาความสัมพันธ์ในระดับปกติ ประธานาธิบดีเฮอร์โซก วัย 61 ปี เป็นประมุขอิสราเอลคนแรกที่เยือนยูเออี หลังจากทั้งสองสถาปนาความสัมพันธ์ในระดับปกติเมื่อเดือนสิงหาคม 2563 เขาได้รับเลือกตั้งจากสภานิติบัญญัติอิสราเอลในเดือนมิถุนายน 2564 และสาบานตนรับตำแหน่งในเดือนกรกฎาคม ทำเนียบประธานาธิบดีแถลงว่า เขาจะเข้าเฝ้าเชค มูฮัมเหม็ด บิน ซายอิด อัลนาห์ยาน มกุฎราชกุมาร พบปะคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเออี รวมทั้งชุมชนชาวยิวที่มีจำนวนน้อยแต่เริ่มเติบโตมากขึ้น และไปเยี่ยมชมเวิลด์เอ็กซ์โป 2020 ในนครดูไบที่อิสราเอลเปิดพาวิลเลียนด้วย ส่วนนายกรัฐมนตรีนาฟตาลี เบนเน็ตต์ของอิสราเอล ซึ่งมีอำนาจบริหารประเทศมากกว่าประธานาธิบดีตามระบอบรัฐสภาอิสราเอลได้ไปเยือนยูเออีอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อเดือนก่อน ยูเออีเป็นประเทศอาหรับประเทศที่ 3 ที่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอล ต่อจากอียิปต์ในปี 2522 และจอร์แดนในปี 2537 และเป็นประเทศริมอ่าวเปอร์เซียประเทศแรกที่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอล การกระชับความสัมพันธ์นี้มีขึ้นในช่วงที่สถานการณ์ในตะวันออกกลางกำลังตึงเครียด เนื่องจากสงครามเยเมนที่ดำเนินมานาน 7 ปี ได้ขยายวงมาถึงยูเออีเป็นครั้งแรก เมื่อกลุ่มกบฏฮูธีที่ยึดกรุงซานาของเยเมนอ้างว่า โจมตียูเออีหลายครั้งในเดือนนี้ ขณะสู้รบกับกองกำลังพันธมิตรนำโดยซาอุดีอาระเบีย.-สำนักข่าวไทย