ภรรยาแรงงานไทยในอิสราเอลเชื่อสามีอาจยังมีชีวิตอยู่

นครพนม 16 ต.ค. – เพื่อนร่วมแคมป์เผยเห็นคนไทยถูกกลุ่มฮามาสบุกยิงเสียชีวิต ขณะที่ภรรยาเชื่อสามีน่าจะยังมีชีวิตอยู่ ด้านแม่หนุ่มแรงงานโดนระเบิดเสียชีวิตในอิสราเอล 2 ปีก่อน เห็นข่าวเหตุการณ์ซ้ำรอยลูกชาย น้ำตาไหลเข้าใจหัวอกครอบครัวที่สูญเสีย


ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านโพธิ์ตาก อ.เมือง จ.นครพนม เพื่อสอบถามความคืบหน้ากรณีที่นายณัฐพงษ์ หรือ นิค หนึ่งในแรงงานไทยที่เดินทางไปขุดทองยังอิสราเอล ขาดการติดต่อกับ น.ส.นิศรา ภรรยา อายุ 33 ปี โดย น.ส.นิศรา เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 7 ต.ค.66 ขณะที่กำลังโทรคุยกับนายณัฐพงษ์ หรือ นิค สามี ก็ได้ยินเสียงปืนรัวดังเข้ามาในโทรศัพท์ ก่อนที่สัญญาณโทรศัพท์จะขาดหายไป ซึ่งจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ติดต่อกลับมาอีกเลย อย่างไรก็ตาม น.ส.นิศรา ยังมีความเชื่อว่า สามีน่าจะยังมีชีวิตอยู่

ทั้งนี้ นายสิทธิโชค หนึ่งในแรงงานที่พักอยู่แคมป์ดังกล่าว ได้วิดีโอคอลและเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในวันที่เกิดเหตุสลด ตรงกับวันหยุดของอิสราเอล แต่ตนกับเพื่อนอีกคนได้ออกจากแคมป์ไปรับงานพิเศษช่วงวันหยุด ส่วนเพื่อนคนงานอีกคนที่รอดชีวิตเดินทางไปหาเพื่อนข้างนอก ไม่คิดว่าต้องเจอกับความสูญเสียของเพื่อนร่วมงานมากถึงขนาดนี้


นอกจากนี้ นายสิทธิโชค เพื่อนร่วมแคมป์ของนายณัฐพงษ์ หรือ นิค ยังเปิดเผยว่า เห็นคนไทยราว 6-7 คน ถูกกลุ่มฮามาสเข้ามาบุกยิงเสียชีวิตคาบังเกอร์หลบภัยชนิดไร้ทางต่อสู้ถึงภายในแคมป์ที่พัก ส่วนที่เหลือคาดว่าน่าจะถูกจับเป็นตัวประกัน ซึ่งภายในแคมป์คนงานแห่งนี้มีคนไทยพักอยู่ 19 คน เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หนึ่งในผู้เสียชีวิตมีร่างของนายณัฐพงษ์หรือไม่ ซึ่งนายสิทธิโชค ให้ข้อมูลเชิงแบ่งรับแบ่งสู้ว่า เหมือนจะมีนายณัฐพงษ์ อยู่ในกลุ่มที่ถูกยิงเสียชีวิตด้วย

น.ส.นิศรา ระบุว่า จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ จึงขอเชื่อว่า นายณัฐพงษ์ หรือ นิค สามี ยังมีชีวิตอยู่ไว้ก่อน และอยากให้ทางการเร่งติดตามช่วยเหลือสามีของตนกลับมาโดยเร็ว

แม่ที่เคยเสียลูกชายเข้าใจครอบครัวผู้สูญเสีย


และจากเหตุความรุนแรงดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ติดตามชีวิตของครอบครัวนายสิขรินทร์ หรือ ลิป หนุ่มแรงงานชาว ต.หินโคน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ที่ถูกระเบิดเสียชีวิตจากเหตุสู้รบระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ เมื่อวันที่ 18 พ.ค.64 หรือเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา

โดยนางขวัญใจ อายุ 48 ปี แม่ของนายสิขรินทร์ หรือ ลิป ได้นำรูปถ่ายหน้าศพของลูกชายออกมาให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมกับเล่าว่า แม้เวลาผ่านไป 2 ปีแล้ว แต่หัวอกคนเป็นแม่ยังคงคิดถึงลูกชายตลอดเวลา และสิ่งที่สร้างความสะเทือนใจอีกครั้ง คือ เหตุการณ์ภัยสงครามที่พรากชีวิตลูกชายไปอย่างไม่มีวันกลับก็เกิดขึ้นซ้ำอีก ทำให้พี่น้องแรงงานไทยที่ไปทำงานในอิสราเอลต้องเสียชีวิต บาดเจ็บหลายราย และยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่ทราบชะตากรรม ทุกครั้งที่เห็นข่าวเหตุการณ์สู้รบและเห็นภาพของการสูญเสียก็ถึงกับน้ำตาไหล ทำให้นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกชาย เข้าใจความรู้สึกของครอบครัวผู้เสียชีวิตทุกคน เพราะตนเคยเจอมาก่อน มันยากที่จะทำใจได้ ขอเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวแรงงานไทยทุกคน ทั้งที่เสียชีวิต บาดเจ็บ และที่ยังไม่ทราบชะตากรรมด้วย ขอให้ทุกครอบครัวสู้ๆ เพราะทุกคนไม่สามารถหลีกเลี่ยงชะตากรรมได้

นางขวัญใจ ยังบอกด้วยว่า เงินเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ทางการไทยให้ความช่วยเหลือ รวมถึงเงินจากกองทุนผู้ประสบภัยสงครามของทางฝั่งประเทศอิสราเอล หลังจากลูกชายเสียชีวิตก็มีหน่วยงานติดต่อประสานให้ และได้รับการช่วยเหลือมาตลอด โดยได้รับเฉลี่ยเดือนละ 70,000-80,000 บาท ในจำนวนนี้เป็นส่วนของภรรยาลูกชาย 35,000 บาท ของแม่เอง 20,000 บาท และของหลานอีก 2 คน คนละ 10,000 บาท โดยเขาจะโอนเข้าบัญชีให้ทุกเดือน แต่เมื่อประมาณเดือน ก.พ.66 ที่ผ่านมา ไม่เห็นมีเงินโอนเข้าบัญชี จนถึงปัจจุบันคือเดือน ต.ค.66 รวม 9 เดือน ไม่ทราบว่าเพราะสาเหตุใด จึงได้ติดต่อประสานไปทางกระทรวงแรงงาน ทราบว่าทางอิสราเอลได้ส่งเอกสารมาให้ครอบครัวทำเรื่องแจ้งกลับไป เพราะต้องยื่นเรื่องปีละครั้ง

ล่าสุดได้ยื่นเรื่องไปแล้ว รอฟังคำตอบเดือนนี้ว่าจะได้รับโอนเงินปกติหรือไม่อย่างไร อยากฝากให้ทางกระทรวงแรงงานติดตามให้ด้วย ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าว หากครอบครัวไม่มีหนี้สินก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ แต่ตอนนี้ยังมีหนี้สินที่ลูกชายนำที่ดินไปจำนอง เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงานอิสราเอล แต่ทำงานได้แค่ 3 วัน ก็ถูกระเบิดเสียชีวิต ยังไม่ทันได้รับค่าแรงแม้แต่เดือนเดียว ตอนนี้เหลือหนี้อยู่ประมาณ 70,000-80,000 บาท ก็นำเงินที่ได้รับการช่วยเหลือทยอยใช้หนี้ทุกเดือน บางส่วนไว้กินอยู่ และส่งหลาน 2 คน อายุ 4 ขวบ และ 6 ขวบ เรียนหนังสือ

นางขวัญใจ ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า หากย้อนเวลากลับไปได้ก็คงไม่ให้ลูกชายไปทำงานที่อิสราเอล ทุกวันนี้ก็ยังคิดถึงลูกทุกวัน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พยาบาลเกษียณร้องไซเบอร์ ถูกโรแมนซ์สแกม สูญ 12 ล้าน

16 มิ.ย. – พยาบาลเกษียณ วัย 65 ปี ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาว หรือโรแมนซ์สแกม ชวนลงทุนคริปโต สูญเงิน 12 ล้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาพยาบาลเกษียณอายุราชการวัย 65 ปี ผู้เสียหาย ถูกมิจฉาชีพหลอกหลอกให้รัก (Romance Scam) และชักชวนให้ลงทุนในระบบคริปโตผ่านแพลตฟอร์มเทรดปลอม สูญเงินเกือบ 12 ล้านบาท เข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 รับเรื่อง นางสาวอ้อ อายุ 65 ปี อดีตพยาบาลผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 มิจฉาชีพหรือ นางสาวพร (นามสมมติ) ทักข้อความมาหาตนผ่านแอพ TikTok และชวนพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว และต้องการหาคู่ชีวิต และชวนคุยเรื่องส่วนตัวจนเตนเชื่อใจ จนผ่านไป 2 […]

“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000

ก.ต่างประเทศ 16 มิ.ย.-“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000 แฉ “กัมพูชา” ถูกสั่งห้ามคุยปม 4 พื้นที่พิพาทในวง JBC แต่เสียดาย ไม่มีในบันทึกการประชุม เพราะหารือในวงเล็ก ยัน JBC รอบนี้ราบรื่นที่สุด บอกแต่ก่อนทะเลาะกันเยอะกว่านี้ นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC แถลงชี้แจงผลการประชุม JBC ว่า ตนเข้าร่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว จากระดับเจ้าหน้าที่ และครั้งนี้ไปประชุมในฐานะประธาน ถือว่าราบรื่นที่สุดเท่าที่เคยประชุมมา แต่ก่อนทะเลาะกันแรงกว่านี้เยอะ และครั้งนี้ ประสบความสำเร็จทางด้านเทคนิค พร้อมอธิบายภารกิจของ คณะกรรมการ JBC ว่า ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการตรวจหาหลักเขตที่ปักปันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปี 2462-2463 ซึ่งมีการปักหลักเขตไปแล้ว 73 หลัก ตอนนี้เห็นชอบไปแล้ว 45 หลัก อีก […]

นายกฯ เผย กต.เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ลั่นไทยเคารพกรอบทวิภาคี

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – นายกฯ เผย กต. เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ทำความเข้าใจกรณีไทย-กัมพูชา ย้ำไทยให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ลั่นการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการเจรจาถือเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประกาศกร้าว จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ ก.ต่างประเทศ เรียกประชุมทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบ ถ้าไม่เคารพกติกา ทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไทยมีการสื่อสารที่เป็นสาธารณะน้อยมาก เพราะให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องยึดตามกรอบการเจรจาทวิภาคี การเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการเจรจาถือว่าเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ระหว่างความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกองทัพ มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ว่าท่าทีของไทยจะเป็นอย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย และยืนยันว่าไม่มีปัญหากันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย