
ยูเครน อพยพประชาชนออกจากคูเปียนสก์
เจ้าหน้าที่งเร่งอพยพผู้สูงอายุออกจากเมืองคูเปียนสก์ เนื่องจากเกรงรัสเซียอาจโจมตีอีกครั้งเพื่อยึดครองเมือง แต่ประชาชนบางคนไม่ยอมออกจากพื้นที่
เจ้าหน้าที่งเร่งอพยพผู้สูงอายุออกจากเมืองคูเปียนสก์ เนื่องจากเกรงรัสเซียอาจโจมตีอีกครั้งเพื่อยึดครองเมือง แต่ประชาชนบางคนไม่ยอมออกจากพื้นที่
ยงเป็ง 4 มี.ค.- ทางการมาเลเซียแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 คน และต้องอพยพเกือบ 41,000 คน หลังจากเกิดน้ำท่วมเพราะฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันอย่างผิดปกติในหลายรัฐ โดยเฉพาะรัฐยะโฮร์ที่อยู่ใกล้กับสิงคโปร์ สื่อท้องถิ่นและสื่อสังคมออนไลน์ลงภาพน้ำท่วมถนน ยวดยานจมน้ำ บ้านเรือนเต็มไปด้วยน้ำ และร้านค้าปิดเป็นแถวยาวในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ขณะที่ฝนยังคงตกอย่างต่อเนื่อง เป็นอุปสรรคต่อการช่วยเหลือ ตำรวจแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 คนนับตั้งแต่วันพุธ ประกอบด้วยชายที่ถูกกระแสน้ำพัดไปขณะอยู่ในรถ คู่รักสูงวัย 2 คน และสตรีวัย 68 ปี ประชาชนเกือบ 41,000 คนใน 6 รัฐ ส่วนใหญ่อยู่ในรัฐยะโฮร์ ทางใต้ของประเทศต้องอพยพไปอาศัยตามโรงเรียนและศูนย์ชุมชน เมืองยงเป็งในรัฐยะโฮร์มีน้ำท่วมสูงกว่าระดับเข่าและมีสีน้ำตาล ประธานสมาคมอนุรักษ์ธรรมชาติมาเลเซียระบุว่า เป็นน้ำท่วมครั้งร้ายแรงที่สุดนับจากปี 2512 การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้นักอุตุนิยมวิทยาไม่สามารถพยากรณ์สภาพอากาศได้แล้ว เขาได้รับโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่อาศัยตามริมฝั่งแม่น้ำสายหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองยงเป็งขึ้นไปทางเหนือ 120 กิโลเมตร ชาวบ้านกำลังขาดแคลนอาหารและยา และหนทางเดียวที่จะเข้าถึงพวกเขาได้คือทางอากาศเท่านั้น มาเลเซียกำลังเผชิญฝนตกหนักต่อเนื่องอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน นับตั้งแต่เข้าสู่ฤดูมรสุมประจำปีที่เริ่มขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน ประธานกลุ่มเฟรนด์ส์ออฟดิเอิร์ธมาเลเซีย (Friends of the Earth Malaysia) […]
นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ขอให้ประชาชนเตรียมรับมือและเตรียมแผนอพยพ เนื่องจากไซโคลนแกเบรียล (Gabrielle) เริ่มพัดกระหน่ำพื้นที่ทางเหนือสุดของประเทศแล้ว
กัวลาลัมเปอร์ 25 ม.ค. – มาเลเซียอพยพประชาชนเพิ่มเป็นกว่า 4,000 คน หลังเกิดน้ำท่วมในรัฐยะโฮร์ ทางตอนใต้ของมาเลเซีย ซึ่งเป็นตัวเลขที่พุ่งสูงขึ้นกว่า 2 เท่าจากเมื่อวันอังคาร คณะกรรมการจัดการภัยพิบัติของรัฐยะโฮร์เผยวันนี้ว่า ได้อพยพประชาชน 4,207 คนไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว 45 แห่งใน 6 เขตของรัฐยะโฮร์ หลังเกิดน้ำท่วมจากพายุฝนตกหนักตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่พุ่งขึ้นกว่า 2 เท่าจากวันอังคารที่มีจำนวน 1,703 คน ขณะที่แม่น้ำ 3 สายในรัฐยะโฮร์มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงถึงระดับสีแดง ซึ่งเป็นระดับอันตราย และมีแม่น้ำอีก 6 สายที่มีปริมาณน้ำสูงถึงระดับสีส้ม ซึ่งเป็นระดับเตือนภัย นอกจากนี้ ยังมีรายงานเกิดเหตุดินถล่มที่ถนนสายหลักของรัฐยะโฮร์จนทำให้ทางการท้องถิ่นต้องสั่งปิดเส้นทางสัญจร ด้านสำนักอุตุนิยมวิทยาของมาเลเซียแจ้งว่า รัฐยะโฮร์จะยังคงมีฝนตกต่อเนื่องไปจนถึงช่วงกลางคืนของวันนี้ ในขณะเดียวกัน หัวหน้าสำนักงานดับเพลิงและกู้ภัยของเมืองลาบิสในเขตเซกามัตของรัฐยะโฮร์ เผยว่า เกิดอุบัติเหตุรถยนต์พุ่งตกบึงในขณะที่ฝนตกหนักเมื่อวันอังคาร โดยที่มีผู้โดยสาร 3 คน อายุ 13-23 ปี อยู่ในรถ อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นจากสาเหตุที่คนขับรถเสียการควบคุมรถ ทั้งยังระบุว่า ทั้งสามคนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว.-สำนักข่าวไทย
มาเลเซียอพยพชาวบ้านกว่า 400 คน ออกจากชุมชนเตนังที่เมืองลาบิส ในเขตเซกามัตของรัฐยะโฮร์ ทางตอนใต้ของมาเลเซีย หลังเกิดน้ำท่วมฉับพลัน
โซล 20 ม.ค.- เกาหลีใต้อพยพประชาชนประมาณ 500 คนออกจากบ้านเรือนในเช้าวันนี้ เนื่องจากเกิดไฟไหม้ในชุมชนคนยากจนที่เหลืออยู่เป็นชุมชนสุดท้ายในกรุงโซล และเป็นการไหม้ครั้งที่ 16 แล้วนับตั้งแต่ปี 2552 เจ้าหน้าที่ดับเพลิงแจ้งว่า ไฟไหม้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 06:27 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่นที่หมู่บ้านกูรยง ในย่านกังนัมของกรุงโซล ทางการระดมนักดับเพลิง ตำรวจและเจ้าหน้าที่รัฐมากกว่า 900 คนไปช่วยดับไฟและอพยพคน จนกระทั่งไฟดับสนิทเมื่อเวลา 11:46 น. ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ไฟไหม้กินพื้นที่ 2,700 ตารางเมตร บ้านเรือนเสียหายอย่างน้อย 60 หลัง จากที่มีอยู่ทั้งหมด 666 หลัง ส่วนใหญ่ปรับปรุงตัวบ้านด้วยแผ่นไม้อัดไวนิลที่ติดไฟง่าย ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล ของเกาหลีใต้ ซึ่งอยู่ระหว่างร่วมการประชุมเศรษฐกิจโลกหรือเวิลด์อีโคโนมิกฟอรัมที่สวิตเซอร์แลนด์ ขอให้ระดมนักดับเพลิงและอุปกรณ์ทุกอย่างอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ขณะที่นายอี ซัง-มิน รัฐมนตรีมหาดไทยสั่งการเจ้าหน้าที่ป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายซ้ำสองและปกป้องชาวบ้านที่อาศัยในละแวกใกล้เคียง หมู่บ้านที่ไฟไหม้นี้ตั้งอยู่ชายขอบของย่านกังนัมที่มีราคาอสังหาริมทรัพย์แพงที่สุดของประเทศ เป็นบ้านชั่วคราวที่สร้างขึ้นอย่างผิดกฎหมายบริเวณเชิงภูเขากูรยงตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1980 ซึ่งเป็นช่วงที่คนยากจนถูกบังคับให้ย้ายออกจากบ้าน เนื่องจากกรุงโซลเริ่มโครงการพัฒนาเมือง บ้านเหล่านี้เสี่ยงเกิดไฟฟ้าลัดวงจรและไฟไหม้ เนื่องจากสร้างด้วยวัสดุติดไฟ และเกิดไฟไหม้มาแล้วอย่างน้อย 16 ครั้งนับตั้งแต่ปี 2552 มีผู้เสียชีวิต 1 […]
แคลิฟอร์เนีย 15 ม.ค.- พายุลูกใหม่พัดกระหน่ำรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมหนักอยู่แล้ว และเสี่ยงทำให้บางพื้นที่มีหิมะตกหนาถึง 2 เมตร สำนักอุตนิยมวิทยาแห่งชาติของสหรัฐแจ้งว่า พายุลูกล่าสุดจะทำให้มีฝนตกหนักในพื้นที่ต่ำ มีหิมะตกหนักตามเทือกเขา มีกระแสลมแรง และคาดว่าความชื้นริมฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกจะเพิ่มสูงขึ้นครั้งใหม่ในวันจันทร์ พร้อมกับเตือนว่าจะเกิดน้ำท่วมครั้งหายนะตามหุบเขาแม่น้ำซาลินาสตอนล่าง ซึ่งเป็นพื้นที่การเกษตรสำคัญของย่านอ่าวซานฟรานซิสโก นายแกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียกล่าวหลังจากเยี่ยมผู้ประสบภัยว่า ชาวแคลิฟอร์เนียยังไม่เข้าใจว่าสถานการณ์เลวร้ายยังไม่ผ่านพ้น เนื่องจากหลายคนไม่ยอมอพยพตามคำสั่งของทางการ เขาขอให้ประชาชนทำตามสัญชาตญาณในช่วง 24-48 ชั่วโมงข้างหน้า ชาวแคลิฟอร์เนียเกือบ 26 ล้านคนอยู่ในพื้นที่ที่ทางการเตือนเฝ้าระวังน้ำท่วม และหลายหมื่นคนอยู่ในพื้นที่ที่ทางการสั่งอพยพ พายุที่เกิดขึ้นติดต่อกันในช่วงหลายสัปดาห์มานี้ ทำให้รัฐแคลิฟอร์เนียมีฝนตกหนักและน้ำท่วม แต่ก็ยังไม่สามารถบรรเทาภาวะแห้งแล้งที่เกิดขึ้นมาหลายสิบปี จนถึงขณะนี้ยังมีครัวเรือนราว 20,000 หลังไม่มีไฟฟ้าใช้ และมีผู้เสียชีวิตรวมแล้ว 19 คน.-สำนักข่าวไทย
แคลิฟอร์เนีย 11 ม.ค. – รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐประกาศคำสั่งอพยพประชาชนหลายหมื่นคนออกจากพื้นที่เมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น หลังเผชิญกับพายุรุนแรงระลอกใหม่ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 17 คน รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดของสหรัฐ ระบุว่า พายุฝนระลอกใหม่ทำให้หลายพื้นที่ของรัฐแคลิฟอร์เนียเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ต้องใช้คำสั่งปิดถนนสายหลัก ต้นไม้หักโค่น และมีผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารถูกน้ำพัดหาย ซึ่งรวมถึงเด็กชายวัย 5 ขวบในพื้นที่ตอนกลางของรัฐแคลิฟอร์เนีย ขณะที่สำนักงานบริการสภาพอากาศแห่งชาติของสหรัฐแจ้งว่า รัฐแคลิฟอร์เนียจะต้องเผชิญกับพายุลูกใหม่ที่อาจทำให้มีปริมาณฝนสูงถึง 7 นิ้วในพื้นที่ทางตอนเหนือของรัฐในวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น รวมถึงปริมาณหิมะตกหนาขึ้นที่เทือกเขาเซียร์ราเนวาดาในรัฐแคลิฟอร์เนีย ด้านพาวเวอร์เอาต์เทจ (Poweroutage.us) เว็บไซต์ติดตามสถานการณ์ไฟดับในสหรัฐ เผยว่า มีบ้านเรือนและสำนักงานราว 110,000 หลังในรัฐแคลิฟอร์เนียที่ตกอยู่ในสภาพไฟดับเมื่อวันอังคาร ในขณะเดียวกัน นายเกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ระบุว่า ขณะนี้ เขาได้สั่งอพยพประชาชนอย่างน้อย 34,000 คนออกจากพื้นที่แล้ว คาดว่าพายุลูกนี้จะทวีความรุนแรงและอันตรายมากขึ้นกว่าเดิม รัฐแคลิฟอร์เนียอาจต้องเผชิญกับพายุต่อไปจนถึงวันที่ 18 ทั้งยังระบุว่า ขณะนี้ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 17 คน.-สำนักข่าวไทย
เจ้าหน้าที่กู้ภัยฉุกเฉินเข้าช่วยเหลืออพยพผู้โดยสารออกจากเครื่องบินของสายการบินเจ็ตบลู ที่จอดอยู่ที่ท่าอากาศยานนานาชาติเจเอฟเค ในนครนิวยอร์ค ซิตี้ ของสหรัฐหลังจากมีควันพวยพุ่งออกมาจากเครื่องคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปที่อยู่บนเครื่องบิน
จาการ์ตา 5 ธ.ค.- ผู้อาศัยในจังหวัดชวาตะวันออกของอินโดนีเซียยังคงเฝ้าระวังอย่างสูงในวันนี้ หลังจากภูเขาไฟที่สูงที่สุดในประเทศปะทุเมื่อวันอาทิตย์ ทำให้ทางการต้องประกาศเขตห้ามเข้าภายในรัศมี 8 กิโลเมตร จากภูเขาไฟและบังคับอพยพคนทั้งหมู่บ้าน โฆษกสำนักงานค้นหาและกู้ภัยแห่งชาติของอินโดนีเซียเผยว่า ทีมค้นหาและกู้ภัยประจำจังหวัดได้เดินทางไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดเพื่อประเมินความเสียหาย เมื่อวานนี้มีฝนตกหนักมาก ทำให้สิ่งตกค้างบนยอดภูเขาไฟเซอเมรูไหลลงมา แต่วันนี้ไม่มีฝนตก จึงค่อนข้างปลอดภัย จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต และยังไม่มีผลกระทบทันทีต่อการเดินอากาศ ทางการสั่งอพยพประชาชนเกือบ 2,500 คน ส่วนใหญ่ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ส่วนเมื่อวานนี้สำนักงานบรรเทาภัยภูเขาไฟและธรณีวิทยาได้ยกระดับเตือนภัยเป็นระดับสูงสุด และเตือนประชาชนอย่าเข้าใกล้รัศมี 8 กิโลเมตรจากปากปล่องภูเขาไฟ และ 500 เมตร จากริมฝั่งแม่น้ำ เพราะเสี่ยงได้รับอันตรายจากธารลาวา ภูเขาไฟเซอเมรูบนเกาะชวาที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดของอินโดนีเซีย ปะทุเมื่อเวลา 14:46 น.วันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลาเดียวกันในไทย พ่นกลุ่มเถ้าสีเทาขนาดใหญ่ออกมาจากปากปล่อง จากนั้นได้แผ่ปกคลุมไปทั่วทั้งภูเขาไฟ ถนน สะพาน และนาข้าวโดยรอบ จนท้องฟ้ากลายเป็นสีดำ ขณะที่ธารลาวา หินหลอมเหลว และก๊าซร้อนไหลลงมาตามเชิงเขา ภูเขาลูกนี้มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 3,676 เมตร ห่างจากกรุงจาการ์ตาไปทางตะวันออก 640 กิโลเมตร ปะทุครั้งล่าสุดหลังจากที่เกิดแผ่นดินไหวหลายระลอกทางฝั่งตะวันตกของเกาะชวา หนึ่งในนั้นเป็นแผ่นดินไหวขนาด 5.6 ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 […]
เคอร์ซอน 26 พ.ย.- เจ้าหน้าที่ยูเครนแจ้งว่า รัสเซียยิงถล่มเมืองเคอร์ซอนที่อยู่ทางใต้ของยูเครนเมื่อวันศุกร์ ทำให้พลเรือนเสียชีวิต 15 คน ถือเป็นเหตุนองเลือดที่สุดในช่วงหลายวันมานี้ เจ้าหน้าที่เมืองเคอร์ซอนที่ยูเครนยึดคืนจากกองกำลังรัสเซียได้เมื่อไม่นานมานี้เผยว่า รัสเซียยิงจรวดใส่ย่านที่อยู่อาศัยหลายลูก มีพลเรือนเสียชีวิตทั้งหมด 15 คน บาดเจ็บ 35 คน มีเด็กบาดเจ็บด้วย 1 คน บ้านเรือนและอาคารสูงเสียหาย มีอาคารใหญ่หลังหนึ่งไฟไหม้ ทางการต้องอพยพผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลและหน่วยจิตเวช และเสนออพยพประชาชนไปพื้นที่อื่นหากประชาชนต้องการ ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนเผยในวันเดียวกันว่า ครัวเรือนมากกว่า 6 ล้านครัวเรือนยังคงเดือดร้อนจากการไม่มีไฟฟ้าใช้ หลังจากรัสเซียโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานเมื่อ 2 วันก่อน ขณะที่บริษัทพลังงานแห่งชาติของยูเครนเผยว่า ยังขาดแคลนไฟฟ้าอยู่ร้อยละ 30 ช่างเทคนิคกำลังทำงานตลอดเวลาเพื่อให้ประเทศมีไฟฟ้าใช้ตามปกติ คาดว่าจะเพิ่มปริมาณไฟฟ้าได้ในช่วงสุดสัปดาห์ โดยเพิ่มจากโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์.-สำนักข่าวไทย
กัวลาลัมเปอร์ 14 พ.ย.- ประชาชนทั่วมาเลเซียอพยพไปยังที่พักพิงชั่วคราวในช่วงเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาเนื่องจากเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ทางการเกรงว่า ฝนที่ตกหนักช่วงฤดูมรสุมจะกระทบต่อการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งและความปลอดภัยของผู้ออกไปใช้สิทธิในวันที่ 19 พฤศจิกายน สำนักอุตุนิยมวิทยามาเลเซียพยากรณ์ว่า จะมีพายุฝนฟ้าคะนองและฝนตกต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ชาวมาเลเซีย 21 ล้านคนออกไปเลือกตั้ง และคาดว่าจะมีน้ำท่วมเพิ่มเติม ขณะที่สำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติแถลงช่วงสุดสัปดาห์ว่า มี 6 รัฐบนคาบสมุทรมาเลเซียที่เผชิญน้ำท่วมฉับพลัน ประชาชน 2,388 คนต้องพักในศูนย์บรรเทาทุกข์ 25 แห่ง นายมาห์ฟุซ โอมาร์ ส.ส.ฝ่ายค้านรัฐเกดะห์กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีอิสมาอิล ซาบรี ยาคอบทำให้ชีวิตของผู้มีสิทธิเลือกตั้งตกอยู่ในอันตราย จากการจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนดในฤดูมรสุม เขาเกรงว่าจะมีฝนตกหนักทั่วประเทศมากกว่านี้เพราะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส.ส.มาห์ฟุซและ ส.ส.อีกหลายคนกล่าวหานายกรัฐมนตรีว่า ยึดเกาะอำนาจด้วยการยุบสภาจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนดเกือบ 1 ปี และเป็นช่วงที่ฝ่ายค้านยังไม่มีความกลมเกลียว แกนนำพรรคอัมโนซึ่งเป็นรัฐบาลมาเลเซียมั่นใจว่า จะมีอำนาจในการปกครองมั่นคงมากขึ้นหากจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนด แต่มีเสียงวิจารณ์ว่า รัฐบาลอาจให้ความสนใจกับการเลือกตั้งมากกว่ามุ่งแก้ไขปัญหาจากฝนตกหนักที่มักเกิดขึ้นในช่วงปลายปี โดยเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วมาเลเซียเผชิญน้ำท่วมหนักที่สุดเป็นประวัติการณ์ มีคนเสียชีวิตมากกว่า 50 คน และกลายเป็นคนพลัดถิ่นหลายพันคน.-สำนักข่าวไทย