เทคนาฟ 13 พ.ค.- บังกลาเทศเตรียมอพยพผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย เช่นเดียวกับประชาชนจำนวนมากที่กำลังอพยพออกจากเกาะแห่งหนึ่ง เนื่องจากไซโคลนโมคา (Mocha) ที่มีความรุนแรงที่สุดในรอบเกือบ 2 ทศวรรษกำลังมุ่งหน้ามายังบังกลาเทศและเมียนมา
ไซโคลนโมคามีความเร็วลมสูงสุด 175 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยาบังกลาเทศจัดให้เป็นพายุที่มีความร้ายแรงมาก ขณะที่อินเดียจัดให้เป็นพายุที่มีความร้ายแรงอย่างยิ่ง หัวหน้าสำนักอุตุนิยมวิทยาบังกลาเทศระบุว่า ไซโคลนโมคาเป็นพายุที่มีความรุนแรงมากที่สุดนับจากไซโคลนซิดร์ (Sidr) ที่พัดถล่มชายฝั่งทางใต้ของบังกลาเทศในเดือนพฤศจิกายน 2550 ครั้งนั้นคร่าชีวิตคนไปมากกว่า 3,000 คน และสร้างความเสียหายมหาศาล คาดว่าไซโคลนโมคาจะขึ้นฝั่งพื้นที่ที่อยู่ระหว่างค็อกซ์บาซาร์ของบังกลาเทศกับเมืองซิตตเวของเมียนมาในเช้าวันอาทิตย์
ค็อกบาซาร์เป็นเมืองท่าด้านการประมง ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของบังกลาเทศ มีชาวโรฮีนจาเกือบล้านคนอาศัยอยู่ตามค่ายผู้ลี้ภัยที่สร้างขึ้นอย่างลวก ๆ บริเวณเชิงเขา เนื่องจากทางการบังกลาเทศเกรงว่า หากสร้างที่พักถาวรพวกเขาจะไม่ยอมกลับไปเมียนมาหลังจากหนีมาเมื่อเกือบ 5 ปีก่อน เจ้าหน้าที่พยากรณ์ว่า ไซโคลนโมคาจะทำให้ฝนตกหนัก เสี่ยงทำให้เกิดดินถล่ม โดยเฉพาะอย่างบริเวณเชิงเขา อาสาสมัครจำนวนมากกำลังช่วยกันอพยพชาวโรฮีนจาออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยไปยังสถานที่ที่มีความแข็งแรง เช่น โรงเรียน
ขณะเดียวกันชาวเกาะเซนต์ มาร์ตินส์ ทางใต้สุดของบังกลาเทศประมาณ 1,000 คนพากันอพยพข้ามฝั่งขึ้นไปยังเมืองเทคนาฟ ที่อยู่ทางใต้สุดของแผ่นดินใหญ่ พร้อมกับนำเรือ 250 ลำไปด้วย เพราะเกรงว่าจะถูกพายุซัดหายไป เกาะนี้มีคนอยู่อาศัยประมาณ 8,000 คน ด้านเมืองจิตตะกองที่เป็นเมืองท่าใหญ่ที่สุดของประเทศได้สั่งงดเดินเรือและทำประมงแล้ว เพราะมีการพยากรณ์ว่า ไซโคลนอาจทำให้เกิดคลื่นพายุซัดฝั่งหรือสตอร์มเซิร์จสูงถึง 4 เมตร.-สำนักข่าวไทย