ผู้เสียชีวิตจากโควิดในสหรัฐทะลุเกิน 900,000 รายแล้ว
จำนวนสะสมของผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐเมื่อวานนี้ทะลุเกิน 900,000 รายแล้ว แม้ว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันจะเริ่มชะลอตัวลงแล้วก็ตาม
จำนวนสะสมของผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐเมื่อวานนี้ทะลุเกิน 900,000 รายแล้ว แม้ว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันจะเริ่มชะลอตัวลงแล้วก็ตาม
ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าโปรตีนหนามจากวัคซีนโควิด 19 ชนิด mRNA ไม่เป็นอันตราย และจะไม่ส่งผ่านไปยังทารกจากการดื่มน้ำนมแม่อีกด้วย
ธากา 3 ก.พ.- บังกลาเทศปิดโรงเรียนอีกครั้ง เนื่องจากมีผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์โอไมครอน เดิมบังกลาเทศประกาศปิดโรงเรียนเป็นเวลา 2 สัปดาห์จนถึงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ แต่กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศเมื่อวานนี้ว่าจะขยายการปิดโรงเรียนต่อไปอีก ครูที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในกรุงธากาไม่พอใจที่นักเรียน 500 คนต้องกลับมาเรียนออนไลน์ เพราะเด็กจะไม่ได้รับความรู้เหมือนการเรียนในชั้นเรียน และครูผู้สอนต้องใช้อุปกรณ์การสอนเพิ่มเติมเพื่อให้เด็กเข้าใจมากขึ้น นอกจากนี้การที่เด็กไม่ได้มาเจอเพื่อนที่โรงเรียน ทำให้เสียโอกาสเรื่องการพัฒนาทักษะในการเข้าสังคม หลายฝ่ายรู้สึกแปลกใจที่ทางการบังกลาเทศสั่งปิดโรงเรียน แต่ให้จัดงานทางธุรกิจ เช่น งานจัดแสดงสินค้านาน 1 เดือนที่เริ่มขึ้นเมื่อเดือนก่อน มีคนจำนวนมากแห่แหนเข้าไปดูสินค้าทุกวัน โดยไม่ใส่ใจต่อระเบียบด้านสาธารณสุข และในเดือนนี้ยังจะมีเทศกาลหนังสือนาน 1 เดือนในกรุงธากาที่คาดว่าจะมีคนไปร่วมงานหนาแน่นยิ่งขึ้นไปอีก บังกลาเทศมียอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 1 ล้าน 8 แสนคน และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 28,000 คน เดือนมกราคมที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 200,000 คน และเสียชีวิต 322 คน เพิ่มขึ้นอย่างมากจากเดือนธันวาคมที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ไม่ถึง 9,000 คน และเสียชีวิต 92 คน ขณะนี้เชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนยังไม่สร้างความโกลาหลมากเท่าสายพันธุ์เดลตาที่ระบาดก่อนหน้านี้ แต่สถานการณ์อาจย่ำแย่ลงหากยอดติดเชื้อเพิ่มขึ้นไม่หยุด […]
ศบค.ระบุ เดือน ก.พ. ระดมฉีดวัคซีนให้เด็ก 5-11 ปี เด็กมีโรคประจำตัว จะให้ฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลเท่านั้น ย้ำให้ประชาชน เข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น เผย WHO ห่วง หลายประเทศผ่อนคลายมาตรการมากเกินไป
ไม่พบเด็กเสียชีวิตจากการทดลองวัคซีน mRNA
ปารีส 2 ก.พ.- ฝรั่งเศสเริ่มผ่อนคลายมาตรการเพื่อจำกัดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ตั้งแต่วันนี้ หวังให้ประชาชนดำเนินชีวิตง่ายขึ้น แม้เมื่อเดือนที่แล้วยังมียอดผู้ติดเชื้อทำสถิติสูงสุดก็ตาม นายกรัฐมนตรีฌอง กัสเต็กซ์ ของฝรั่งเศสประกาศเมื่อปลายเดือนมกราคมว่า จะผ่อนคลายมาตรการจำกัดเป็น 2 ระยะ โดยจะยกเลิกมาตรการส่วนใหญ่ได้ในเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากมีการใช้บัตรผ่านโควิดแบบใหม่ที่กำหนดให้ต้องแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนเท่านั้นในการใช้บริการสาธารณะ ไม่สามารถใช้ผลการตรวจหาเชื้อเป็นลบได้อีกต่อไป การผ่อนคลายระยะแรกที่เริ่มในวันนี้จะยกเลิกการบังคับสวมหน้ากากอนามัยในที่แจ้ง การจำกัดจำนวนคนในการชมคอนเสิร์ต การแข่งขันกีฬา และงานอื่น ๆ รวมทั้งไม่บังคับให้ทำงานจากบ้านอีกต่อไป ส่วนการผ่อนคลายระยะที่สองจะให้ไนต์คลับที่ถูกปิดตั้งแต่เดือนธันวาคมเปิดได้อีกครั้งในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ อนุญาตให้มีที่ยืนชมในคอนเสิร์ต การแข่งขันกีฬาและบาร์ อนุญาตให้ดื่มกินตามสนามกีฬา โรงภาพยนตร์ และรถโดยสารสาธารณะได้อีกครั้ง ทางการฝรั่งเศสไม่ได้ตั้งเงื่อนไขว่า จะผ่อนคลายมาตรการตามสถานการณ์ด้านสาธารณสุข และเห็นว่าเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนมีอันตรายน้อยกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้านี้ แม้ว่าแพร่เชื้อได้ง่ายกว่าก็ตาม โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า เห็นแนวโน้มผู้ติดเชื้อรายวันลดลง โดยเฉลี่ยที่ 322,256 คนเมื่อสัปดาห์ก่อน เทียบกับ 366,179 คนเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านั้น เป็นสัญญาณที่ทำให้มีกำลังใจอย่างยิ่ง แต่ทางการยังคงเฝ้าระวังอยู่.-สำนักข่าวไทย
เป็นการบิดเบือนงานวิจัย แม้ผู้วิจัยพบการติดเชื้อโควิด 19 อย่างมากในชุมชนที่มีอัตราการฉีดวัคซีนสูง แต่ไม่ใช่เพราะวัคซีนไม่มีประโยชน์
โคเปนเฮเกน 1 ก.พ.- เดนมาร์กประกาศยกเลิกมาตรการทั้งหมดที่ใช้จำกัดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 นับเป็นประเทศแรกในสหภาพยุโรปหรืออียู (EU) แม้ยังคงมีผู้ติดเชื้อรายวันจำนวนมาก เดนมาร์กเคยยกเลิกมาตรการที่เป็นข้อจำกัดทั้งหมดครั้งแรกช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายนปีก่อน ล่าสุดกลับมายกเลิกอีกครั้งตั้งแต่วันนี้ ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย การใช้บัตรผ่านโควิด การจำกัดเวลาเปิดบาร์และร้านอาหาร และการจำกัดจำนวนคนรวมกลุ่มในที่ปิด แต่ยังคงมาตรการจำกัดกับผู้ยังไม่ฉีดวัคซีนที่เดินทางมาจากประเทศนอกเขตเชงเกน เดนมาร์กยกเลิกมาตรการจำกัดทั้งหมด แม้ว่ายอดติดเชื้อรายใหม่สูงถึงวันละ 40,000-50,000 คน คิดเป็นเกือบร้อยละ 1 ของประชากร 5 ล้าน 8 แสนคน มียอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 1 ล้าน 6 แสน 6 หมื่นคน และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 3,700 คน นักระบาดวิทยา มหาวิทยาลัยรอสกิลด์ในเดนมาร์กเผยว่า เดนมาร์กมีผู้ใหญ่ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันในอัตราสูงมาก โดยฉีดไปแล้วไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 เร็วกว่าเป้าหมายที่ทางการกำหนดไว้ถึง 1 เดือน และมากกว่าอัตราเฉลี่ยของอียูที่มีไม่ถึงร้อยละ 45 ประกอบกับสาธารณสุขคาดว่า หากรวมกับผู้ที่เพิ่งติดเชื้อแล้ว เดนมาร์กจะมีผู้มีภูมิคุ้มกันโรคโควิดที่มีอาการรุนแรงรวมกันราวร้อยละ 80 ดังนั้นในเมื่อเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนไม่ทำให้ผู้ฉีดวัคซีนแล้วมีอาการรุนแรง จึงมองว่าเป็นเรื่องสมเหตุผลที่จะยกเลิกมาตรการจำกัดทั้งหมด นอกจากนี้การที่เชื้อโอไมครอนแพร่ไปในวงกว้างน่าจะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ที่อยู่ได้นาน ช่วยให้เดนมาร์กสกัดการระบาดระลอกใหม่ได้ […]
กทม.1 ก.พ.- ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อเปิดให้ประชาชนเลือกด้วยความสมัครใจฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นไฟเซอร์แบบเต็มโดส หรือ ครึ่งโดส หรือ ฉีดใต้ผิวหนัง ย้ำประสิทธิภาพไม่ต่างกัน ขณะเดียวกันเตรียมเปิดให้ผู้ปกครองลงทะเบียนผ่านระบบเครือข่ายมือถือในการฉีดวัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็ก 5 -11 ปี วันที่ 8 ก.พ.นี้ พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันแรกที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อเปิดฉีดวัคซีนป้องกัน โควิด-19 เข็ม4 ให้กับผู้ลงทะเบียนผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ และวันนี้ยังเป็นวันแรกที่เปิดให้ประชาชน ที่มารับบริการฉีดวัคซีนเข็ม3 และเข็ม4 สามารรถเลือกรูปแบบการฉีดวัคซีนตามความสมัครใจ หลังจากที่คณะกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค เห็นชอบให้วัคซีน mRNA สามารถฉีดครึ่งโดส และฉีดเข้าชั้นผิวหนังได้ ซึ่งประชาชนที่เข้ารับบริการที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ สามารถเลือกได้ว่าจะฉีดวัคซีนเต็มโดส หรือครึ่งโดส และเลือกได้ว่าจะฉีดเข้าสู่ชั้นใต้ผิวหนัง หรือฉีดเข้ากล้ามเนื้อ โดยวัคซีนที่ฉีดให้จะเป็นวัคซีนไฟเซอร์ จากข้อมูลการศึกษาวิจัยทั้งในไทยและต่างประเทศ พบว่าการฉีดวัคซีนครึ่งโดสมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากันกับการฉีดเต็มโดส ใช้ปริมาณวัคซีนน้อย และมีผลข้างเคียงน้อยกว่า โดยการฉีดใต้ผิวหนังจะฉีดในระดับในชั้นหนังแท้ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้ฉีดกับวัคซีนชนิดอื่นๆ มานานแล้ว ต่างจากการฉีดเข้ากล้ามเนื้อที่ต้องฉีดลึกเข้าไปประมาณ 0.5 ถึง 1 เซนติเมตร โดยสูตรการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข้ากล้ามเนื้อจะใช้ขนาดยาปกติ อยู่ที่ 30 ไมโครกรัมต่อโดส การฉีดเข้ากล้ามเนื้อครึ่งโดส ขนาดยาอยู่ที่ 15 […]
สายพันธุ์ไวรัสโควิด 19 ที่ระบาดในลาตินอเมริกาแตกต่างจากไวรัสเดลต้าที่ระบาดในสหรัฐฯ
ไทเป 30 ม.ค.- รองประธานาธิบดีวิลเลียม ไล่ ของไต้หวัน ย้ำข้อกล่าวหาเรื่องจีนขัดขวางไม่ให้ไต้หวันได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เมื่อปีก่อน และขอบคุณสมาชิกสภาสหรัฐที่บริจาควัคซีนให้ไต้หวัน ทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวัน อ้างนางเซียว เหม่ยฉิน ผู้แทนไต้หวันประจำสหรัฐว่า ในระหว่างแวะพักที่นครซานฟรานซิสโกของสหรัฐ หลังเดินทางมาจากฮอนดูรัส เพื่อกลับไต้หวัน รองประธานาธิบดีไล่ ได้กล่าวกับ ส.ว.ลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ รัฐอิลลินอยส์ ว่า รู้สึกขอบคุณอย่างมากในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่ไต้หวันไม่สามารถได้รับวัคซีนป้องกันโควิด เพราะปัจจัยจากจีน ส.ว.ดักเวิร์ธ ไม่เพียงแนะนำอย่างแข็งขันให้รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน จัดสรรวัคซีนให้ไต้หวัน แต่ยังเดินทางไปไต้หวันด้วยตัวเอง เพื่อประกาศว่าสหรัฐจะบริจาควัคซีนให้ไต้หวัน ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ของไต้หวัน กล่าวหาเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้วว่า จีนขัดขวางข้อตกลงวัคซีนระหว่างไต้หวันกับไบออนเทคของเยอรมนี ด้วยการเสนอจะเป็นผู้จัดสรรวัคซีนให้ไต้หวันผ่านบริษัทจีน ทั้งที่ไต้หวันกำลังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น จีนปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และเสนอให้วัคซีนที่จีนพัฒนาขึ้นเอง แต่ถูกไต้หวันบอกปัดโดยอ้างเรื่องความปลอดภัย และหลังจากนั้นไม่ถึง 2 สัปดาห์ ส.ว.ดักเวิร์ธ ได้พาคณะไปไต้หวัน ประกาศเรื่องสหรัฐจะบริจาควัคซีนให้จำนวน 750,000 โดส อย่างไรก็ดี ในที่สุดแล้วไต้หวันได้รับวัคซีนที่ไบออนเทคพัฒนาร่วมกับไฟเซอร์ในเดือนกันยายน หลังจากอนุมัติให้บริษัทใหญ่ของไต้หวันอย่างฟ็อกซ์คอนน์และทีเอสเอ็มซี […]
ซิดนีย์ 30 ม.ค.- นักเรียนในออสเตรเลียเตรียมตัวกลับเข้าโรงเรียนอีกครั้งในวันจันทร์นี้ หลังจากปิดภาคการศึกษาฤดูร้อนตั้งแต่เดือนธันวาคมปีก่อน ขณะที่โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ยังระบาดหนักเพราะสายพันธุ์โอไมครอน โรงเรียนบางแห่งในออสเตรเลียเปิดตั้งแต่สัปดาห์ก่อน แต่ส่วนใหญ่จะเปิดในวันพรุ่งนี้ และหลายแห่งกำหนดให้นักเรียนต้องตรวจหาเชื้อสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ยอดติดเชื้อในออสเตรเลียเพิ่มขึ้นอย่างมากตั้งแต่เดือนธันวาคม จนขณะนี้มียอดสะสมเกิน 2 ล้านคนแล้ว ทั้งที่ตั้งแต่พบการระบาดเมื่อ 2 ปีก่อนจนถึงช่วงก่อนเดือนธันวาคมพบเพียง 40,000 คน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตรวมเป็นกว่า 3,700 คนแล้ว เฉพาะวันนี้วันเดียวมีผู้เสียชีวิตรายใหม่ 88 คน สาธารณสุขรัฐนิวเซาท์เวลส์ที่มีประชากรมากที่สุดในออสเตรเลีย 8 ล้านคนจากทั้งหมด 25 ล้านเรียกร้องให้เร่งการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกัน เพื่อลดการเสียชีวิต ชาวออสเตรเลียวัยผู้ใหญ่ฉีดวัคซีน 2 เข็มแล้วมากกว่าร้อยละ 93 แต่ฉีดเข็มกระตุ้นเพียง 8 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 30 เท่านั้น.-สำนักข่าวไทย