ออตตาวา 9 ก.พ.- รัฐบาลท้องถิ่นรัฐซัสแคตเชวัน ทางตอนกลางค่อนไปทางตะวันตกของแคนาดาประกาศยกเลิกมาตรการจำกัดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทั้งหมดแล้ว ขณะที่ม็อบรถบรรทุกยังคงปักหลักประท้วงในเมืองหลวงเรียกร้องให้รัฐบาลกลางยกเลิกมาตรการข้อจำกัดต่าง ๆ
มุขมนตรีรัฐซัสแคตเชวันประกาศว่า มาตรการจำกัดโควิดเกือบทั้งหมดที่ประกาศใช้ตั้งแต่เดือนกันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่เชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาแพร่ระบาดหนัก จะยกเลิกตั้งแต่เที่ยงคืนวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ เช่น การแสดงใบรับรองฉีดวัคซีนเมื่อจะนั่งรับประทานอาหารในร้าน การสวมหน้ากากอนามัยในที่กลางแจ้ง ส่วนการสวมหน้ากากอนามัยในที่ร่มหรือภายในอาคารและการกักโรคผู้มีผลตรวจหาเชื้อเป็นบวกจะยังคงบังคับใช้ไปจนถึงสิ้นเดือนนี้ เหตุผลที่ยกเลิกมาตรการจำกัดเพราะประชาชนฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วมากกว่าร้อยละ 80 และฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันแล้วราวร้อยละ 50 ใกล้เคียงกับตัวเลขทั้งประเทศ จึงถึงเวลาที่จะถือว่าโควิดเป็นโรคประจำถิ่น (endemic) ได้แล้ว รัฐนี้มีประชากรประมาณ 1 ล้าน 1 แสน 8 หมื่นคน มากเป็นอันดับ 6 ของแคนาดา
ด้านมุขมนตรีรัฐแอลเบอร์ตาที่มีประชากรประมาณ 4 ล้าน 4 แสน 6 หมื่นคน มากเป็นอันดับ 4 ของประเทศ เสนอทยอยยกเลิกมาตรการจำกัดเป็นระยะ และจะแถลงรายละเอียดภายในสัปดาห์นี้ ขณะที่มุขมนตรีรัฐควิเบกที่มีประชากรประมาณ 8 ล้าน 6 แสน 3 หมื่นคน มากเป็นอันดับ 2 ของประเทศส่งสัญญาณว่า จะยกเลิกมาตรการจำกัดภายในกลางเดือนมีนาคม ทั้งนี้มาตรการจำกัดการระบาดของโควิดส่วนใหญ่เป็นอำนาจของรัฐบาลท้องถิ่น ขณะที่การบังคับให้ผู้เดินทางต้องฉีดวัคซีนเป็นคำสั่งของรัฐบาลกลาง ซึ่งบังคับให้คนขับรถบรรทุกข้ามพรมแดนแคนาดา-สหรัฐต้องฉีดวัคซีน ทำให้ม็อบรถบรรทุกปักหลักอยู่ในกรุงออตตาวาอยู่ในขณะนี้.-สำนักข่าวไทย