ชัวร์ก่อนแชร์: แพทย์อังกฤษอ้างวัคซีนป้องกันโควิดแค่ 8 สัปดาห์ จริงหรือ?

08 กุมภาพันธ์ 2565
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Fullfact (สหราชอาณาจักร)
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ


ประเภทข่าวปลอม: ข้อมูลเท็จ

บทสรุป:


  1. งานวิจัยพบว่าการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสเดลต้าได้อย่างน้อย 12 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับชนิดของวัคซีน
  2. การอุบัติของไวรัสโอไมครอนเพิ่มโอกาสติดเชื้อโควิด 19 ไม่ว่าจะเคยฉีดวัคซีนหรือเคยติดเชื้อโควิดมาก่อนก็ตาม

ข้อมูลที่ถูกแชร์:

มีข้อมูลเท็จเผยแพร่ทาง YouTube ในสหราชอาณาจักร เมื่อ ดร.สตีฟ เจมส์ แพทย์ประจำโรงพยาบาล King’s College Hospital โต้แย้งแผนบังคับให้บุคลากรทางการแพทย์ฉีดวัคซีนโควิด 19 ด้วยการด้อยค่าวัคซีนโควิด 19 ว่ามีประสิทธิผลป้องกันการติดเชื้อแค่ 8 สัปดาห์ และภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อโควิด 19 ก็มีประสิทธิผลเทียบเท่ากับการฉีดวัคซีนอีกด้วย

FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง:


เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 มกราคมปี 2022 เมื่อ ซาจิด จาวิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและการดูแลสังคมของสหราชอาณาจักร เดินทางไปยังโรงพยาบาล King’s College Hospital เพื่อสอบถามความเห็นบุคลากรทางการแพทย์เรื่องนโยบายให้เจ้าหน้าที่ด่านหน้าของระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) ต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ทุกคน ส่งผลให้ ดร.สตีฟ เจมส์ วิสัญญีแพทย์ของ King’s College Hospital แสดงความเห็นโต้แย้งว่า ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ยังมีไม่มากพอที่จะสนับสนุนประโยชน์ของการบังคับให้บุคลากรทางการแพทย์ต้องฉีดวัคซีนทุกคน โดย ดร.สตีฟ เจมส์ ยอมรับตนเองไม่ได้ฉีดวัคซีนและไม่ต้องการฉีดวัคซีน แต่ตัวเขามีแอนติบอดีจากการติดเชื้อโควิด 19 มาก่อน ซึ่งมีประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อพอๆ กับวัคซีน และย้ำว่าวัคซีนป้องกันการติดเชื้อเดลต้าได้แค่ 8 สัปดาห์ และยิ่งน้อยกว่าเมื่อต้องเผชิญกับไวรัสโอไมครอน

คลิปวิดีโอการโต้แย้งของ ดร.สตีฟ เจมส์ ถูกอัพโหลดทางช่อง YouTube ของสำนักข่าว Sky News และทำยอดวิวเกือบ 2.5 ล้านวิวใน 10 วัน และมีผู้แสดงความเห็นเกือบ 2 หมื่นคอมเมนต์

แม้การแสดงความเห็นของ ดร.สตีฟ เจมส์ จะทำให้เขาได้รับความนิยมจากผู้ที่มีแนวคิดต่อต้านวัคซีนอย่างมาก แต่ข้อมูลที่นำมาโต้แย้งล้วนไม่เป็นไปตามข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งแม้แต่ตัวเขาเองก็ออกมายอมรับผิดในภายหลัง

สำนักข่าว BBC รายงานว่า ดร.สตีฟ เจมส์ ยอมรับว่าความเห็นที่ว่าวัคซีนโควิด 19 ว่ามีประสิทธิผลป้องกันไวรัสเดลต้า แค่ 8 สัปดาห์ไม่ถูกต้อง เพราะมีการศึกษาที่พบว่าวัคซีนสามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสเดลต้าได้ถึง 12 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับชนิดของวัคซีน

การศึกษาพบว่า หลังผ่านไป 12 สัปดาห์ ผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิด 19 ของบริษัท AstraZeneca แบบครบโดส มีโอกาสแพร่เชื้อโควิด 19 น้อยกว่าผู้ไม่ฉีดวัคซีนโควิด 19 เพียงแค่ 2% ตรงข้ามกับผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิด 19 ของบริษัท Pfizer BioNTech แบบครบโดส เมื่อผ่านไปแล้ว 12 สัปดาห์ โอกาสในการแพร่เชื้อยังน้อยกว่าผู้ไม่ฉีดวัคซีนถึง 24%

เป็นเรื่องยากที่จะรู้ได้อย่างแน่ชัดว่า วัคซีนสามารถป้องกันการติดเชื้อได้นานแค่ไหน แต่ ดร.ปีเตอร์ อิงลิช อดีตบรรณาธิการวารสาร Vaccines in Practice ชี้แจงว่า ถึงแม้ประสิทธิผลของวัคซีนจะลดลงตามเวลา แต่การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นจะทำให้ร่างกายมีระดับแอนติบอดีมากกว่าการฉีดโดสที่ 2 แบบทวีคูณ และคงต้องใช้เวลานานกว่าแอนติบอดีจะกลับมาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าจะสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ โดย ดร.ปีเตอร์ อิงลิช ยอมรับว่า ต่อให้การฉีดวัคซีนลดโอกาสติดเชื้อและแพร่เชื้อของบุคลากรทางการแพทย์ได้เพียงครึ่งเดียว การฉีดวัคซีนก็ยังมีความจำเป็นอย่างมาก

รายงานสรุปล่าสุดของสำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพของสหราชอาณาจักร (UKHSA) ได้ตรวจสอบประสิทธิศักย์การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในสหราชอาณาจักร พบว่า หลังฉีดวัคซีน AstraZeneca เข็มที่ 2 ไปแล้ว 20 สัปดาห์ ประสิทธิผลของวัคซีนต่อการป้องกันไวรัสโอไมครอนจะหายไป ส่วนผู้รับวัคซีนเข็มที่ 2 ของ Pfizer และ Moderna ประสิทธิผลของวัคซีนจะยังคงเหลืออยู่ประมาณ 10% หลังผ่านไปแล้ว 20 สัปดาห์

ส่วนประสิทธิผลของการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นจะลดลงอยู่ระดับ 40% ถึง 50% หลังจากเวลาผ่านไป 10 สัปดาห์

อีกความเข้าใจผิดของ ดร.สตีฟ เจมส์ คือการอ้างว่าแอนติบอดีจากการติดเชื้อโควิด 19 มีค่าเท่ากับการฉีดวัคซีน เพราะถึงแม้จะมีแอนติบอดีจากการติดเชื้อโควิด 19 แล้ว แต่ไวรัสโอไมครอนซึ่งสามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ดีกว่าทุกสายพันธุ์ ทำให้มีโอกาสสูงที่คนซึ่งเคยป่วยจากโควิด 19 แล้ว จะกลับมาติดเชื้ออีกครั้ง

นอกจากนี้ จุดประสงค์หลักของการฉีดวัคซีนคือการป้องกันการป่วยหนักหรือเสียชีวิตจากการติดเชื้อ

รายงานจากมหาวิทยาลัย Imperial College London เมื่อเดือนธันวาคมปี 2021 พบว่าการติดเชื้อโควิด 19 มาก่อน ช่วยป้องกันไม่ให้บุคลาการทางการแพทย์ในสหราชอาณาจักรกลับมาติดเชื้อโควิด 19 อีกครั้งในช่วง 6 เดือนที่ 85% แต่การอุบัติของไวรัสโอไมครอน ทำให้การติดเชื้อโควิด 19 มาก่อน ช่วยป้องกันการติดเชื้อโอไมครอนในรอบ 6 เดือนได้เพียง 19% เท่านั้น

ก่อนการอุบัติของไวรัสโอไมครอน มีงานวิจัยเบื้องต้นที่ยังไม่ผ่านการพิชญพิจารณ์ (Peer Review) หรือการประเมินความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญในแวดวงวิชาการ พบว่าผู้ที่ฉีดวัคซีน Pfizer แบบครบโดสมีโอกาสติดเชื้อโควิด 19 มากกว่าคนที่เคยป่วยจากโควิด 19 แล้วไม่เคยฉีดวัคซีนถึง 6 เท่า

แต่ปัจจุบัน กลุ่มคนที่ได้รับการปกป้องจากการติดเชื้อโควิด 19 สูงสุด คือคนที่เคยติดเชื้อโควิด 19 มาแล้ว และได้รับวัคซีนโควิด 19 ในภายหลัง ซึ่งงานวิจัยพบว่าผู้ที่เคยติดเชื้อแล้วไม่ฉีดวัคซีน มีโอกาสติดเชื้อซ้ำมากกว่าคนที่เคยติดเชื้อแล้วฉีดวัคซีนถึง 2 เท่า

นอกจากนี้ งานวิจัยขนาดเล็กที่เผยแพร่เมื่อเดือนธันวาคมปี 2021 พบว่า กลุ่มคนที่ผ่านการฉีดวัคซีนครบโดส แล้วติดเชื้อโควิด 19 จะมีระดับแอนติบอดีสูงกว่ากลุ่มคนที่ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ถึง 1000% ซึ่งเรียกภูมิคุ้มกันชนิดนี้ว่า Super Immunity หรือภูมิคุ้มกันขั้นสุดยอด ซึ่งผู้วิจัยประเมินว่า อาจเป็นปัจจัยที่ช่วยให้การแพร่ระบาดของโควิด 19 ยุติลงในอนาคตอีกด้วย

ข้อมูลอ้างอิง:

https://fullfact.org/health/sky-news-covid-sajid-javid-doctor/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]

ตำรวจภาค 8 รวบ 3 ราย ขบวนการส่งยาขนมากับรถทัวร์

กระบี่ 11 มิ.ย. – รวบขบวนการค้ายาบ้า ขนมากับรถทัวร์ สายเชียงใหม่-ภูเก็ต 3 แสนเม็ด แวะลงกระบี่ ส่งให้เอเย่นต์สาขาสุราษฎร์ฯ ตำรวจรวบทีเดียวทั้งคนส่งและคนรับ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 รักษาการ ผบ.ภ.จ.กระบี่ แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 300,000 เม็ด ประกอบด้วย นายสัมพันธ์ อายุ 54 ปี นายสุรพล อายุ 30 ปี และนางสาวสุนารี อายุ 27 ปี พร้อมยึดรถเก๋ง 1 คัน และแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการส่งมอบยาบ้ากันบริเวณสามแยกเขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เมื่อถึงเวลาก็มีรถทัวร์สายเชียงใหม่-ภูเก็ต […]

‘ฮุน มาเนต’ ย้ำทหารกัมพูชาไม่ได้ถอยออกจากพื้นที่

ปารีส 10 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งสารจากฝรั่งเศสถึงชาวกัมพูชา ยืนยันจุดยืนกองทัพไม่ได้ถอนออกจากพื้นที่ภายใต้อธิปไตย พร้อมร่วมมือกับไทยปักปันเขตแดน ตามกลไกเจบีซี ยกเว้น 4 จุดที่จะส่งศาลโลกตัดสิน ฮุน มาเนต ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยมหาสมุทรของสหประชาชาติ ครั้งที่ 3 ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Hun Manet ส่งสารถึงชาวกัมพูชา มีใจความดังนี้ กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางแก้ไขปัญหานี้โดยสันติ แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการพยายามรุกรานใดๆ กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะเข้าร่วมสนับสนุนกลไกการเจรจาชายแดนกับไทยที่มีคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม เพื่อดำเนินงานรังวัดและปักปันเขตแดนที่เหลือระหว่าง 2 ประเทศต่อไป ยกเว้นประเด็นที่กัมพูชาจะส่งให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ไอซีเจ (ICJ) พิจารณา

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

ข่าวแนะนำ

ภรรยาช็อก สามีเสียชีวิตกลางวงสังสรรค์ที่อิสราเอล

อุดรธานี 12 มิ.ย. – ภรรยาช็อก สามีเสียชีวิตที่อิสราเอล นั่งคุยกับเพื่อนเรื่องลูกสาว จู่ๆ วูบดับคาโต๊ะกลางวงสังสรรค์ เชื่อทำงานต่างแดน โหมงานหนักจนเสียชีวิต เมื่อวานนี้ (11 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฤษฎาง พูนเจ๊กมะดัน อายุ 39 ปี ชาวบ้านลานเต อ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี เสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลว เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.68 ขณะไปทำงานที่อิสราเอล เจ้าหน้าที่จากสำนักงานจัดหางานจังหวัดอุดรธานี ประกันสังคมจังหวัด แรงงานจังหวัด และผู้สื่อข่าว เดินทางลงพื้นที่ร่วมแสดงความเสียใจกับครอบครัว จากการตรวจสอบข้อมูล ทราบว่า นายกฤษฎาง เคยเดินทางไปทำงานในรัฐอิสราเอลเมื่อปี พ.ศ.2553 โดยบริษัทจัดหางานจัดส่ง ต่อมาได้เดินทางไปทำงานในประเทศไต้หวัน เมื่อวันที่ 6 พ.ค.67 ภายหลังได้รับการติดต่อจากนายจ้างในรัฐอิสราเอลให้เดินทางกลับไปทำงานอีกเป็นครั้งที่ 2 จึงได้ตัดสินใจเดินทางเข้าไปทำงานต่อในรัฐอิสราเอลเมื่อ ม.ค.68 ในส่วนข้อมูลประกันสังคมพบข้อมูลผู้เสียชีวิตสิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2551 และมีเงินสะสมกรณีบำเหน็จชราภาพ จำนวน […]

ร่างตัวประกันไทยรายสุดท้ายที่เสียชีวิตในกาซา ถึงไทยแล้ว

11 มิ.ย. – ร่างแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันและเสียชีวิตในฉนวนกาซา ถึงไทยแล้ว ด้านกระทรวงแรงงาน เผยเร่งช่วยเหลือครอบครัวและทายาท ร่างของนายณัฐพงษ์ ปินตา แรงงานไทยที่ถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกันและเสียชีวิตในฉนวนกาซา ที่ถูกส่งกลับมาด้วยสายการบินอิสราเอลแอร์ไลน์ ออกเดินทางจากกรุงเทลอาวีฟ ได้เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เรียบร้อยแล้ว เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (11 มิ.ย.) โดยมี นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ ที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงผู้แทนเอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย มารอรับ และร่วมวางพวงหรีดหน้าหีบศพเพื่อแสดงความอาลัย โดยนายณัฐพงษ์ เป็นตัวประกันแรงงานไทยรายสุดท้ายที่ค้นพบร่างและสามารถส่งกลับไทยได้ สำหรับการช่วยเหลือเยียวยาที่ทายาทจะได้รับ คือ 1.ในส่วนของสถาบันประกันภัยอิสราเอล กรณีแรงงานเสียชีวิต ครอบครัวหรือทายาทจะได้รับเงินชดเชย ได้แก่ ค่าทำศพ ประมาณ 79,000 บาท, ค่าใช้จ่ายในการฝังศพเท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 47,000 บาท (1,300 USD), เงินช่วยเหลือการเป็นม่าย (หากมีภรรยา) ประมาณ 57,000 บาท, เงินชดเชยรายเดือนและรายปีอื่นๆ […]

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

นายกฯ ดูบังเกอร์หลบภัย ถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ มท.

11 มิ.ย.- นายกฯ ดูชาวบ้านทำบังเกอร์ ร้องโถ่ ก่อนถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ ก.มหาดไทย หลังรายงานขอรับบริจาคมาใช้แทนยางรถยนต์ วันนี้ (11 มิ.ย. 68) เวลา 13.40 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ต่อมายังหมู่บ้านสกลพัฒนา ตำบลตะเคียน อำเภอกาบเชิง เพื่อพบปะชาวบ้าน มอบสิ่งของ และตรวจดูการทำบังเกอร์หลบภัย โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้มีชาวบ้านนำผ้าขาวม้ามามอบให้ ซึ่งนายกฯ รับมาก่อนจะหันไปหานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า “ผูกกันเป็นทีม” ก่อนจะมอบสิ่งของอุปโภค – บริโภค เพื่อให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมการสร้างบังเกอร์ โดยมีนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านสกลพัฒนา รายงาน โดยนายกรัฐมนตรี ถามผู้ว่าฯ ว่า ขอเข้าไปดูได้หรือไม่ และถามชาวบ้านบ้านว่า “ทำมานานหรือยัง” โดยชาวบ้านบอกว่า […]