ชัวร์ก่อนแชร์: แพทย์อังกฤษอ้างวัคซีนป้องกันโควิดแค่ 8 สัปดาห์ จริงหรือ?

08 กุมภาพันธ์ 2565
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Fullfact (สหราชอาณาจักร)
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ


ประเภทข่าวปลอม: ข้อมูลเท็จ

บทสรุป:


  1. งานวิจัยพบว่าการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสเดลต้าได้อย่างน้อย 12 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับชนิดของวัคซีน
  2. การอุบัติของไวรัสโอไมครอนเพิ่มโอกาสติดเชื้อโควิด 19 ไม่ว่าจะเคยฉีดวัคซีนหรือเคยติดเชื้อโควิดมาก่อนก็ตาม

ข้อมูลที่ถูกแชร์:

มีข้อมูลเท็จเผยแพร่ทาง YouTube ในสหราชอาณาจักร เมื่อ ดร.สตีฟ เจมส์ แพทย์ประจำโรงพยาบาล King’s College Hospital โต้แย้งแผนบังคับให้บุคลากรทางการแพทย์ฉีดวัคซีนโควิด 19 ด้วยการด้อยค่าวัคซีนโควิด 19 ว่ามีประสิทธิผลป้องกันการติดเชื้อแค่ 8 สัปดาห์ และภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อโควิด 19 ก็มีประสิทธิผลเทียบเท่ากับการฉีดวัคซีนอีกด้วย

FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง:


เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 มกราคมปี 2022 เมื่อ ซาจิด จาวิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและการดูแลสังคมของสหราชอาณาจักร เดินทางไปยังโรงพยาบาล King’s College Hospital เพื่อสอบถามความเห็นบุคลากรทางการแพทย์เรื่องนโยบายให้เจ้าหน้าที่ด่านหน้าของระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) ต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ทุกคน ส่งผลให้ ดร.สตีฟ เจมส์ วิสัญญีแพทย์ของ King’s College Hospital แสดงความเห็นโต้แย้งว่า ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ยังมีไม่มากพอที่จะสนับสนุนประโยชน์ของการบังคับให้บุคลากรทางการแพทย์ต้องฉีดวัคซีนทุกคน โดย ดร.สตีฟ เจมส์ ยอมรับตนเองไม่ได้ฉีดวัคซีนและไม่ต้องการฉีดวัคซีน แต่ตัวเขามีแอนติบอดีจากการติดเชื้อโควิด 19 มาก่อน ซึ่งมีประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อพอๆ กับวัคซีน และย้ำว่าวัคซีนป้องกันการติดเชื้อเดลต้าได้แค่ 8 สัปดาห์ และยิ่งน้อยกว่าเมื่อต้องเผชิญกับไวรัสโอไมครอน

คลิปวิดีโอการโต้แย้งของ ดร.สตีฟ เจมส์ ถูกอัพโหลดทางช่อง YouTube ของสำนักข่าว Sky News และทำยอดวิวเกือบ 2.5 ล้านวิวใน 10 วัน และมีผู้แสดงความเห็นเกือบ 2 หมื่นคอมเมนต์

แม้การแสดงความเห็นของ ดร.สตีฟ เจมส์ จะทำให้เขาได้รับความนิยมจากผู้ที่มีแนวคิดต่อต้านวัคซีนอย่างมาก แต่ข้อมูลที่นำมาโต้แย้งล้วนไม่เป็นไปตามข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งแม้แต่ตัวเขาเองก็ออกมายอมรับผิดในภายหลัง

สำนักข่าว BBC รายงานว่า ดร.สตีฟ เจมส์ ยอมรับว่าความเห็นที่ว่าวัคซีนโควิด 19 ว่ามีประสิทธิผลป้องกันไวรัสเดลต้า แค่ 8 สัปดาห์ไม่ถูกต้อง เพราะมีการศึกษาที่พบว่าวัคซีนสามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสเดลต้าได้ถึง 12 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับชนิดของวัคซีน

การศึกษาพบว่า หลังผ่านไป 12 สัปดาห์ ผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิด 19 ของบริษัท AstraZeneca แบบครบโดส มีโอกาสแพร่เชื้อโควิด 19 น้อยกว่าผู้ไม่ฉีดวัคซีนโควิด 19 เพียงแค่ 2% ตรงข้ามกับผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิด 19 ของบริษัท Pfizer BioNTech แบบครบโดส เมื่อผ่านไปแล้ว 12 สัปดาห์ โอกาสในการแพร่เชื้อยังน้อยกว่าผู้ไม่ฉีดวัคซีนถึง 24%

เป็นเรื่องยากที่จะรู้ได้อย่างแน่ชัดว่า วัคซีนสามารถป้องกันการติดเชื้อได้นานแค่ไหน แต่ ดร.ปีเตอร์ อิงลิช อดีตบรรณาธิการวารสาร Vaccines in Practice ชี้แจงว่า ถึงแม้ประสิทธิผลของวัคซีนจะลดลงตามเวลา แต่การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นจะทำให้ร่างกายมีระดับแอนติบอดีมากกว่าการฉีดโดสที่ 2 แบบทวีคูณ และคงต้องใช้เวลานานกว่าแอนติบอดีจะกลับมาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าจะสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ โดย ดร.ปีเตอร์ อิงลิช ยอมรับว่า ต่อให้การฉีดวัคซีนลดโอกาสติดเชื้อและแพร่เชื้อของบุคลากรทางการแพทย์ได้เพียงครึ่งเดียว การฉีดวัคซีนก็ยังมีความจำเป็นอย่างมาก

รายงานสรุปล่าสุดของสำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพของสหราชอาณาจักร (UKHSA) ได้ตรวจสอบประสิทธิศักย์การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในสหราชอาณาจักร พบว่า หลังฉีดวัคซีน AstraZeneca เข็มที่ 2 ไปแล้ว 20 สัปดาห์ ประสิทธิผลของวัคซีนต่อการป้องกันไวรัสโอไมครอนจะหายไป ส่วนผู้รับวัคซีนเข็มที่ 2 ของ Pfizer และ Moderna ประสิทธิผลของวัคซีนจะยังคงเหลืออยู่ประมาณ 10% หลังผ่านไปแล้ว 20 สัปดาห์

ส่วนประสิทธิผลของการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นจะลดลงอยู่ระดับ 40% ถึง 50% หลังจากเวลาผ่านไป 10 สัปดาห์

อีกความเข้าใจผิดของ ดร.สตีฟ เจมส์ คือการอ้างว่าแอนติบอดีจากการติดเชื้อโควิด 19 มีค่าเท่ากับการฉีดวัคซีน เพราะถึงแม้จะมีแอนติบอดีจากการติดเชื้อโควิด 19 แล้ว แต่ไวรัสโอไมครอนซึ่งสามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ดีกว่าทุกสายพันธุ์ ทำให้มีโอกาสสูงที่คนซึ่งเคยป่วยจากโควิด 19 แล้ว จะกลับมาติดเชื้ออีกครั้ง

นอกจากนี้ จุดประสงค์หลักของการฉีดวัคซีนคือการป้องกันการป่วยหนักหรือเสียชีวิตจากการติดเชื้อ

รายงานจากมหาวิทยาลัย Imperial College London เมื่อเดือนธันวาคมปี 2021 พบว่าการติดเชื้อโควิด 19 มาก่อน ช่วยป้องกันไม่ให้บุคลาการทางการแพทย์ในสหราชอาณาจักรกลับมาติดเชื้อโควิด 19 อีกครั้งในช่วง 6 เดือนที่ 85% แต่การอุบัติของไวรัสโอไมครอน ทำให้การติดเชื้อโควิด 19 มาก่อน ช่วยป้องกันการติดเชื้อโอไมครอนในรอบ 6 เดือนได้เพียง 19% เท่านั้น

ก่อนการอุบัติของไวรัสโอไมครอน มีงานวิจัยเบื้องต้นที่ยังไม่ผ่านการพิชญพิจารณ์ (Peer Review) หรือการประเมินความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญในแวดวงวิชาการ พบว่าผู้ที่ฉีดวัคซีน Pfizer แบบครบโดสมีโอกาสติดเชื้อโควิด 19 มากกว่าคนที่เคยป่วยจากโควิด 19 แล้วไม่เคยฉีดวัคซีนถึง 6 เท่า

แต่ปัจจุบัน กลุ่มคนที่ได้รับการปกป้องจากการติดเชื้อโควิด 19 สูงสุด คือคนที่เคยติดเชื้อโควิด 19 มาแล้ว และได้รับวัคซีนโควิด 19 ในภายหลัง ซึ่งงานวิจัยพบว่าผู้ที่เคยติดเชื้อแล้วไม่ฉีดวัคซีน มีโอกาสติดเชื้อซ้ำมากกว่าคนที่เคยติดเชื้อแล้วฉีดวัคซีนถึง 2 เท่า

นอกจากนี้ งานวิจัยขนาดเล็กที่เผยแพร่เมื่อเดือนธันวาคมปี 2021 พบว่า กลุ่มคนที่ผ่านการฉีดวัคซีนครบโดส แล้วติดเชื้อโควิด 19 จะมีระดับแอนติบอดีสูงกว่ากลุ่มคนที่ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ถึง 1000% ซึ่งเรียกภูมิคุ้มกันชนิดนี้ว่า Super Immunity หรือภูมิคุ้มกันขั้นสุดยอด ซึ่งผู้วิจัยประเมินว่า อาจเป็นปัจจัยที่ช่วยให้การแพร่ระบาดของโควิด 19 ยุติลงในอนาคตอีกด้วย

ข้อมูลอ้างอิง:

https://fullfact.org/health/sky-news-covid-sajid-javid-doctor/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

พญ. สังกัด รพ.ตำรวจ แอบสั่งยาเสียสาว ขายนอกระบบ

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจ และ อย. ร่วมกันตรวจค้นแฟลตตำรวจ พร้อมคุมตัวแพทย์หญิงสังกัด รพ.ตำรวจ หลังพบหลักฐานสั่งซื้อยาเสียสาว มาขายนอกระบบ ตั้งแต่ปี 65 อ้างชื่อ 11 คลินิก เงินหมุนเวียนกว่า 80 ล้านบาท เตรียมขยายผลต่อถึงผู้เกี่ยวข้อง นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ลงพื้นที่แฟลตตำรวจแห่งหนึ่งย่านอารีย์ เขตพญาไท กรุงเทพ โดยได้รับรายงานจากนายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ว่าพบความผิดปกติในการสั่งซื้อยาอัลปราโซแลม หรือยานอนหลับ หรือ ยาเสียสาวที่ทำให้หลับและเคลิ้มไป ในทางสืบสวนสอบสวน พบว่า หมอคนนี้ สั่งซื้อยาจาก อย. ตั้งแต่ปี 2565-2568 15 ล้านบาท ทาง อย. เห็นความผิดปกติ จึงพูดคุยกับตำรวจและตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบมีการแอบอ้าง 11 คลินิกในการสั่งซื้อยา […]

สามียิงภรรยาดับคารถ ซอยเพชรเกษม 67

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจปิดล้อมจับกุมสามีวัย 40 ยิงภรรยาวัย 36 เสียชีวิตคารถ ก่อนหนีไปหลบในบ้าน ซอยเพชรเกษม 67 ตรวจค้นที่เกิดเหตุพบอาวุธปืน 3 กระบอก ตำรวจ สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุ พบศพภายในรถเก๋ง HRV ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จอดอยู่ภายในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เบื้องต้น ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายมีพาพัฒน์ อายุ 40 ปี สามี ส่วนผู้เสียชีวิต น.ส.นันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยา ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า ผู้ก่อเหตุยังอยู่ภายในบ้านพัก จึงตรึงกำลังปิดล้อมบ้านพักซึ่งลักษณะเป็นทาวน์เฮาส์ ระหว่างนั้นญาติของผู้ตายได้เดินทางมาเพื่อสอบถามเหตุ ทันทีที่รับรายงานจากตำรวจ ญาติก็มีสีหน้าเครียด น้ำตาคลอ ให้ข้อมูลว่านายมีพาพัฒน์ คบหากับผู้เสียชีวิตมาเป็นเวลาหลาย 10 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน ตำรวจปิดล้อมพื้นที่นานกว่า […]

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

ข่าวแนะนำ

ทหาร-ตร.วางกำลังแน่นตลอดแนวชายแดน จ.สระแก้ว

สระแก้ว 10 มิ.ย. – ทหารพราน-ตำรวจ วางกำลังแน่นตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว เพิ่มความเข้มงวดลาดตระเวน-ตั้งจุดตรวจคัดกรอง ขณะที่ตลาดโรงเกลือยังเปิดทำการ แต่บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา ด้านชาวบ้าน จ.บุรีรัมย์ เริ่มคลายกังวล ออกทำไร่ทำสวน ใช้ชีวิตปกติ บรรยากาศบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ อ.โคกสูง และ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ยังคงเคร่งครัดมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 12-13 ตชด. จัดกำลังออกลาดตระเวนตลอดแนวชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โคกสูง ซึ่งอยู่ใกล้แนวชายแดนเพียงไม่กี่กิโลเมตร นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ได้เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบตามแนวถนนสีเพ็ญ เส้นทางที่เชื่อมชายแดนไทยกับกัมพูชา ใกล้ตลาดโรงเกลือ จุดยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ แม้จะมีการวางกำลังแน่นหนา แต่ในช่วงเช้าวันนี้ (10 มิ.ย.) ตลาดโรงเกลือยังคงเปิดทำการตามปกติ พ่อค้าแม่ค้านำสินค้านานาชนิดมาวางขาย เช่น เสื้อผ้า รองเท้า และของใช้ทั่วไป มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินจับจ่ายซื้อของอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม บรรยากาศโดยรวมยังค่อนข้างเงียบเหงากว่าช่วงก่อนหน้า เนื่องจากความวิตกของนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับความปลอดภัย หลังเกิดข้อพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชาในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ ทางการมีการปรับเปลี่ยนเวลาเปิด-ปิดด่านพรมแดน ส่งผลให้การเดินทางเข้า-ออกของนักท่องเที่ยวลดลงอย่างเห็นได้ชัด บรรดานักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งยังคงรู้สึกไม่มั่นใจในการเดินทางเข้ามาในพื้นที่ชายแดน […]

ปิดตำนาน “บิ๊กสุ” นายกรัฐมนตรีคนที่ 19 ของไทย

กรุงเทพฯ 10 มิ.ย. – พล.อ.สุจินดา คราประยูร นายกรัฐมนตรีคนที่ 19 ของไทย ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคชรา สิริอายุ 91 ปี นอกจากบทบาททางการทหารแล้ว พล.อ.สุจินดา ยังมีส่วนสำคัญต่อสถานการณ์การเมืองไทย.-สำนักข่าวไทย

จ่อให้ออกจากราชการไว้ก่อน “พญ.” แอบอ้างสั่งยานอนหลับ

10 มิ.ย.- จ่อสั่งแพทย์หญิงคนดัง ให้ออกจากราชการไว้ก่อน กรณีถูกจับกุม แอบอ้างคลินิกสั่งซื้อยานอนหลับ พบก่อนหน้านี้เคยถูกสั่งตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ปมเอี่ยวจีนเทา กรณีตำรวจ ปส. และ อย. เข้าตรวจสอบคลินิกสั่งซื้อยานอนหลับ ก่อนเชื่อมโยงถึงแพทย์หญิงคนดัง พร้อมจับกุมชายรายหนึ่ง ซึ่งรับเป็นผู้ดูแลห้องพักภายในแฟลตตำรวจ ยึดของกลางกลุ่มยานอนหลับ บรรจุอยู่ในกล่องลังกว่า 10 กล่อง เบื้องต้นพบเงินหมุนเงินกว่า 80 ล้านบาท และมีเงินหมุนเวียนร่วมกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกว่า 400 ล้านบาท ล่าสุดมีรายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง จากการตรวจสอบพบว่า ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2565 มีผู้เสียหายร้องเรียนแพทย์หญิงคนดังเกี่ยวกับกรณีที่ผู้เสียหายได้นำเงินมามอบให้ เพื่อให้ช่วยต่อวีซ่าการพักอาศัยอยู่ในประเทศไทย ซึ่งอยู่ระหว่างกระบวนการฟ้องศาลคดีอาญา โดยศาลชั้นต้นสั่งจำคุก 7 ปี และมีการยื่นอุทธรณ์ ซึ่งทราบว่าสามารถตกลงกับคู่กรณีได้ อย่างไรก็ตาม กระบวนการทางวินัยยังคงดำเนินต่อ โดยทางโรงพยาบาลตำรวจ มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรงในกรณีนี้ และอยู่ระหว่างการนัดประชุมเพื่อพิจารณาผลวินัยร้ายแรงในเร็วๆ นี้ ส่วนกรณีที่มีการจับกุมสั่งซื้อ-ขายยานอนหลับ ในวันนี้ ล่าสุดชุดทำคดีได้ทำหนังสือส่งมายังต้นสังกัดว่า แพทย์หญิงคนดัง ตกเป็นผู้ต้องหาที่ 1 และมีความเห็นว่า หากให้รับราชการต่อไปอาจเกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ซึ่งจะมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง […]

นายกฯ คุย “ฮุน เซน – ฮุน มาเนต” เห็นตรงยึดสันติวิธี

ทำเนียบ 10 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำผลเจรจาชายแดนไทย-กัมพูชา เรียบร้อยดี เผยคุย “ฮุน เซน – ฮุน มาเนต” เห็นตรงยึดสันติวิธี งัดเทคนิค จริงใจเจรจา จนกัมพูชาปรับทัพ บอกรับทราบ “สนธิ” ยื่นหนังสือจี้รัฐบาลรักษาอธิปไตย ลั่นแก้ทีละปม ไม่เหมารวม MOU 44 พร้อมขอบคุณ จนท.ทุกหน่วย ขอ ปชช.มั่นใจไม่เกิดความรุนแรงแน่นอน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายผลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ในการคลี่คลายสถานการณ์ ที่มีความขัดแย้งกัน และปฏิบัติงานร่วมกันหลายภาคส่วน ซึ่งผลออกมาค่อนข้างสงบเรียบร้อยดี โดยในระดับนโยบาย รัฐบาลได้ให้หน่วยงานด้านความมั่นคง โดยเฉพาะกองทัพในพื้นที่ ประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ ตามกรอบความร่วมมือทวิภาคี ได้พูดคุยกันภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ ย้ำว่าทุกหน่วยงานได้มีการพูดคุยกัน ทั้งไทยและกัมพูชา และตนเองก็ได้พูดคุยกับพลเอกฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และสมเด็จฯฮุน เซน ประธานองคมนตรี ประธานวุฒิสภากัมพูชา ก็มีการประสานงานและเจรจากันเพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ และผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน […]