อียูเสียงแตกเรื่องแบนวีซ่านักท่องเที่ยวรัสเซีย

ปราก 30 ส.ค. – เยอรมนีและฝรั่งเศสเตือนเรื่องคำสั่งแบนวีซ่านักท่องเที่ยวรัสเซียของสหภาพยุโรป หรืออียู โดยระบุร่วมกันว่า แนวทางดังกล่าว ซึ่งได้รับเสียงสนับสนุนจากคณะกรรมการของอียู จะให้ผลลัพธ์ตรงข้ามกับวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ก่อนที่อียูจะเปิดฉากการประชุมคณะรัฐมนตรีของอียูในวันพุธและพฤหัสบดี สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า การสั่งแบนวีซ่านักท่องเที่ยวรัสเซียจะกลายเป็นประเด็นสำคัญในการประชุมคณะรัฐมนตรีต่างประเทศของอียู ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นที่กรุงปรากของสาธารณรัฐเช็กในวันพุธและพฤหัสบดี โดยที่การประชุมในครั้งนี้จะหารือเกี่ยวกับการใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียเพิ่มมากขึ้นในขณะที่รัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครนมาเป็นเวลากว่า 6 เดือน สำนักข่าวรอยเตอร์สยังรายงานอ้างเอกสารบันทึกข้อความของฝรั่งเศสและเยอรมนีที่ระบุว่า ทั้งสองประเทศขอเตือนเรื่องการใช้คำสั่งแบนวีซ่านักท่องเที่ยวรัสเซียของอียู เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจลุกลามมากขึ้นต่อไปในอนาคต นโยบายด้านวีซ่าของอียูควรสะท้อนให้เห็นถึงสังคมที่สนับสนุนประชาธิปไตย และอนุญาตให้ประชาชนรัสเซียที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐบาลรัสเซียได้มีโอกาสติดต่อกับประชาชนของอียู นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีกลาโหมของอียูจะประชุมร่วมกันในกรุงปรากของสาธารณรัฐเช็กด้วย และมีแนวโน้มว่าจะเห็นพ้องกับหลักการจัดภารกิจฝึกทหารร่วมกับกองทัพยูเครน.-สำนักข่าวไทย

“ก๊าซพรอม” ลดปริมาณส่งก๊าซให้ฝรั่งเศสตั้งแต่วันนี้

ปารีส 30 ส.ค. – ก๊าซพรอม (Gazprom) รัฐวิสาหกิจพลังงานรายใหญ่ของรัสเซีย แจ้งต่อ เอ็นจี (ENGIE) บริษัทพลังงานข้ามชาติของฝรั่งเศสว่า ก๊าซพรอมจะลดปริมาณส่งก๊าซธรรมชาติให้ฝรั่งเศสตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เนื่องจากทั้งสองฝ่ายมีข้อขัดแย้งในสัญญาบางส่วน ทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการจัดหาพลังงานใหม่เพื่อชดเชยปริมาณที่หายไป เอ็นจีระบุในแถลงการณ์วันนี้ว่า ก๊าซพรอมจะลดปริมาณส่งก๊าซธรรมชาติให้ฝรั่งเศสตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เนื่องจากทั้งสองฝ่ายมีข้อขัดแย้งในสัญญาบางส่วน แต่เอ็นจีได้จัดหาพลังงานทดแทนเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน และพยายามใช้มาตรการหลายอย่างเพื่อลดผลกระทบทางการเงินและทางกายภาพที่อาจเกิดขึ้นจากการที่ก๊าซพรอมลดปริมาณก๊าซที่ส่งให้ฝรั่งเศส ก่อนหน้านี้ เอ็นจียืนยันเมื่อวันจันทร์ว่า กำลังเจรจากับบริษัทพลังงานของแอลจีเรียเพื่อเพิ่มการนำเข้าพลังงานจากประเทศในภูมิภาคแอฟริกาเหนือ ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันและก๊าซรายใหญ่ สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ก๊าซพรอมได้ลดปริมาณส่งก๊าซธรรมชาติให้เอ็นจีเป็นจำนวนมากนับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ขณะนี้ ก๊าซพรอมส่งก๊าซให้เอ็นจีเดือนละ 1.5 เทระวัตต์ต่อชั่วโมงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นปริมาณน้อยมากเมื่อเทียบกับความต้องการใช้พลังงานประจำปีของเอ็นจีที่มีสูงกว่า 400 เทระวัตต์ต่อชั่วโมง ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีเอลิซาเบธ บอร์น ของฝรั่งเศส ได้เรียกร้องเมื่อวันจันทร์ให้บริษัทต่าง ๆ ช่วยกันร่างแผนประหยัดพลังงานภายในเดือนกันยายน และเตือนว่าบริษัทในฝรั่งเศสจะได้รับผลกระทบเป็นอันดับแรกในกรณีที่ฝรั่งเศสไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องใช้มาตรการจัดสรรปันส่วนก๊าซและพลังงานไฟฟ้า อย่างไรก็ดี แม้ฝรั่งเศสพึ่งพาการนำเข้าพลังงานร้อยละ 16 จากรัสเซีย ซึ่งน้อยกว่าประเทศอื่น ๆ ในสหภาพยุโรป หรืออียู แต่ก็ทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับปริมาณก๊าซที่ลดลง.-สำนักข่าวไทย

“เซเลนสกี” เตือนรัสเซียให้หนีสมรภูมิรบใกล้แคว้นเคอร์ซอน

เคียฟ 30 ส.ค. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เตือนกองทัพรัสเซียให้หนีออกจากสมรภูมิรบใกล้แคว้นเคอร์ซอน ทางตอนใต้ของยูเครน เนื่องจากยูเครนได้เปิดฉากบุกโจมตีอย่างหนักหน่วงเพื่อยึดพื้นที่ดังกล่าวคืนมาจากรัสเซีย แต่รัสเซียระบุว่า การโจมตีดังกล่าวของยูเครนประสบความล้มเหลว ประธานาธิบดีเซเลนสกีแถลงเมื่อคืนวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า เขาให้คำมั่นว่ากองทัพยูเครนจะบุกโจมตีจนทำให้กองทัพรัสเซียต้องหนีกลับไปยังพื้นที่ชายแดน หากทหารรัสเซียต้องการมีชีวิตรอด ก็ถึงเวลาที่ต้องหนีออกจากสมรภูมิรบแห่งนี้และกลับบ้านไปเสีย เพราะยูเครนกำลังเดินหน้ายึดพื้นที่ดังกล่าวคืนจากรัสเซีย ด้านที่ปรึกษาระดับสูงของประธานาธิบดีเซเลนสกี เผยว่า การป้องกันตนเองของกองทัพรัสเซียประสบความล้มเหลวในช่วงไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ทั้งยังระบุว่า ยูเครนได้ยิงโจมตีเรือเฟอร์รี่หลายลำที่รัสเซียใช้ขนส่งเสบียงไปยังพื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำดนิโปรในแคว้นเคอร์ซอน ในขณะเดียวกัน สำนักข่าวอาร์ไอเอของรัสเซีย รายงานอ้างแถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมรัสเซียที่ระบุว่า กองทัพยูเครนได้พยายามโจมตีเมืองไมโคลาอีฟและแคว้นเคอร์ซอนอย่างหนัก แต่ฝั่งยูเครนก็มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ทั้งยังระบุว่า การโจมตีดังกล่าวของยูเครนประสบความล้มเหลว ขณะที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซีย เผยว่า การโจมตีของยูเครนทำให้เมืองโนวาคาโคฟกาในแคว้นเคอร์ซอนขาดแคลนน้ำและไม่มีไฟฟ้าใช้.-สำนักข่าวไทย

เตือนอียูจะหนาวเหน็บถ้าไม่ลดราคาก๊าซ

บรัสเซลส์ 29 ส.ค.- เบลเยียมเตือนว่า ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปหรืออียู (EU) จะเผชิญกับฤดูหนาวที่หนาวเหน็บ 5-10 ฤดู หากไม่ดำเนินการใด ๆ เพื่อลดราคาก๊าซธรรมชาติที่เป็นแหล่งผลิตไฟฟ้า ทินเนอ ฟาน แดร์ สทราเทน รัฐมนตรีพลังงานเบลเยียมทวีตผ่านทวิตเตอร์ว่า จำเป็นต้องตรึงราคาก๊าซในยุโรปอย่างเร่งด่วน และปฏิรูปการเชื่อมโยงราคาก๊าซกับค่าไฟฟ้าซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกัน ฤดูหนาวในช่วง 5-10 ปีข้างหน้าจะเลวร้ายอย่างมากหากไม่มีการดำเนินการใด ๆ โดยจำเป็นต้องดำเนินการในระดับอียู และตรึงราคาก๊าซ ด้านนายกรัฐมนตรีคาร์ล นีฮามเมอร์ของออสเตรียชี้ว่า จะต้องยุติความบ้าคลั่งที่กำลังเกิดขึ้นในตลาดพลังงานอยู่ในขณะนี้ ค่าไฟฟ้าจะต้องลดลง และอียูจะต้องแยกราคาก๊าซออกจากค่าไฟฟ้า เพื่อไม่ให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียเป็นผู้กำหนดค่าไฟฟ้ารายวันของยุโรป เว็บไซต์บรรษัทกระจายเสียงอังกฤษหรือบีบีซี (BBC) รายงานว่า เริ่มมีกระแสเรียกร้องมากขึ้นเรื่องกำหนดเพดานราคาก๊าซในระดับอียู และเรื่องแยกราคาก๊าซออกจากค่าไฟฟ้า หลายประเทศกำลังประสบปัญหาค่าไฟฟ้าแพงนับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ สัญญาค่าไฟฟ้าล่วงหน้า 1 ปีของเยอรมนีและฝรั่งเศสเมื่อวันศุกร์แตะเมกะวัตต์-ชั่วโมงละ 995 ยูโร (ราว 36,040 บาท) และ 1,130 ยูโร (ราว 40,930 บาท) ตามลำดับ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนกว่า 10 […]

ผอ.ไอเออีเอจะเยือนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในยูเครนสัปดาห์นี้

เวียนนา 29 ส.ค. – นายราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือไอเออีเอ ระบุว่าเขากำลังเดินทางไปโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียของยูเครนในสัปดาห์นี้ หลังโรงไฟฟ้าแห่งนี้ตกอยู่ในสมรภูมิรบดุเดือด ระหว่างรัสเซียกับยูเครน ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา นายกรอสซี ระบุผ่านทวิตเตอร์ในวันนี้ว่า ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง วันที่ทีมงานด้านการช่วยเหลือและสนับสนุนซาปอริชเชียของไอเออีเอ กำลังออกเดินทางไปยังโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียในยูเครน ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สุดของทวีปยุโรป  และจะเดินทางถึงโรงไฟฟ้าดังกล่าวในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ นายกรอสซียังได้โพสต์รูปภาพที่มีตัวเขาพร้อมทีมงานอีก 13 คนสวมหมวกแก๊ปและเสื้อกั๊กที่มีตราสัญลักษณ์ของไอเออีเอ ทั้งนี้ นายกรอสซีได้ออกมาเรียกร้องเป็นเวลานานหลายเดือนเพื่อขอเดินทางไปเยือนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชีย พร้อมทั้งเตือนว่าโรงไฟฟ้าแห่งนี้มีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดหายนะทางนิวเคลียร์ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชีย ซึ่งมีเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 6 เครื่อง ถูกกองทัพรัสเซียยึดครองเพียงไม่นานหลังจากที่รัสเซียเปิดฉากบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ และตกเป็นสมรภูมิด่านรบแนวหน้าระหว่างรัสเซียกับยูเครนนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังกล่าวโทษกันไปมาว่าแต่ละฝ่ายเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีในพื้นที่รอบโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชีย ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เมืองเอเนอร์โฮดาร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของแคว้นซาปอริชเชีย ก่อนหน้านี้ อีเนอร์โกอะตอม (energoatom) รัฐวิสาหกิจด้านพลังงานนิวเคลียร์ของยูเครน เผยเมื่อวันเสาร์ว่า โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียมีความเสี่ยงที่จะเกิดรังสีรั่วไหลและไฟไหม้จากการโจมตี ขณะที่องค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เรียกร้องให้ยุติกิจกรรมทางทหารในสมรภูมิรบที่อยู่รอบโรงไฟฟ้าแห่งนี้. -สำนักข่าวไทย

ชี้อันตรายยังอยู่แม้ป้อนไฟฟ้าให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์แล้ว

ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ที่ โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ซาปอริชเชีย ยังถือว่ามีความเสี่ยงสูงมาก แม้ว่าเตาปฎิกรณ์นิวเคลียร์ 2 เตา จากจำนวน 6 เตาสามารถกลับไปเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าของยูเครนได้แล้ว หลังจากที่การโจมตีทำให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์

ผู้นำยูเครนเผยโลกรอดพ้นอุบัติเหตุนิวเคลียร์ฉิวเฉียด

เคียฟ 26 ส.ค. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ระบุว่าทวีปยุโรปรอดพ้นจากหายนะกัมมันภาพรังสีรั่วไหลมาได้อย่างฉิวเฉียดเมื่อวันพฤหัสบดี หลังโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ซาปอริชเชีย ที่ถูกรัสเซียยึดครอง ถูกตัดขาดจากระบบไฟฟ้าของยูเครนไปชั่วขณะ ประธานาธิบดีเซเลนสกี กล่าวเมื่อคืนวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า หากเครื่องปั่นไฟพลังงานดีเซลไม่ทำงาน ระบบอัตโนมัติและเจ้าหน้าที่ของยูเครนไม่ได้เร่งดำเนินการแก้ไขหลังเกิดเหตุไฟดับที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชีย ทั่วโลกคงต้องเผชิญกับหายนะที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุกัมมันภาพรังสีรั่วไหล ขณะที่หน่วยงานด้านนิวเคลียร์ของยูเครน ระบุว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นจากเหตุไฟไหม้ที่ส่งผลกระทบต่อสายไฟฟ้าแรงสูงที่เชื่อมต่อกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียในวันพฤหัสบดี ทำให้โรงไฟฟ้าแห่งนี้ถูกตัดไฟชั่วคราวเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานอ้างภาพถ่ายดาวเทียมเมื่อวันพุธที่แสดงให้เห็นภาพไฟลุกไหม้เป็นวงกว้างในพื้นที่ใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชีย โดยมีรายงานว่าเหตุไฟไหม้ทำให้สายไฟฟ้าแรงสูงเสียหาย และทำให้เกิดไฟดับที่โรงไฟฟ้าดังกล่าว ขณะที่ประธานาธิบดีเซเลนสกีโทษว่าเหตุดังกล่าวเกิดจากการโจมตีของรัสเซีย และกล่าวหารัสเซียว่าทำให้ยูเครนและทวีปยุโรปเกือบตกอยู่ในหายนะครั้งใหญ่ ด้านผู้ว่าการเมืองซาปอริชเชียที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซีย กล่าวโทษยูเครนว่าเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ดังกล่าวเอง ทั้งยังกล่าวหาว่ายูเครนเป็นฝ่ายทำให้ไฟฟ้าดับในพื้นที่นี้ ทั้งนี้ ทั่วโลกกำลังรู้สึกวิตกกังวลมากขึ้นจากสถานการณ์สู้รบในพื้นที่ใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชีย ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สุดของทวีปยุโรป.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียยิงจรวดใส่สถานีรถไฟยูเครน ตาย 22 คน

เคียฟ 25 ส.ค. – ยูเครนระบุว่า กองทัพรัสเซียได้ยิงจรวดใส่สถานีรถไฟในพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครนในวันครบรอบ 31 ปีที่ยูเครนประกาศเอกราชจากสหภาพโซเวียตเมื่อวันพุธ ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิต 22 คน ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวผ่านคลิปวิดีโอที่แถลงต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี ว่า รัสเซียได้ยิงจรวดใส่รถไฟโดยสารในเมืองแชปลิน ซึ่งเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปราว 145 กิโลเมตรทางตะวันตกของแคว้นโดเนตสก์ที่ถูกรัสเซียยึดครอง ทั้งยังระบุในอีกคลิปวิดีโอเมื่อช่วงค่ำวันพุธตามเวลาท้องถิ่นว่า ชาวยูเครนทุกคนรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ชาวเมืองแชปลินต้องเผชิญ ขณะนี้ เขาได้รับรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว 22 คน และยูเครนจะทำให้รัสเซียต้องชดใช้ในสิ่งที่เกิดขึ้น ในขณะเดียวกัน ผู้ช่วยของประธานาธิบดีเซเลนสกี ระบุในแถลงการณ์ว่า กองทัพรัสเซียได้โจมตีเมืองแชปลิน 2 ครั้ง ในจำนวนผู้เสียชีวิต 22 คน มีเด็กชาย 1 คนเสียชีวิตจากเหตุจรวดตกใส่บ้านในการโจมตีครั้งแรก และมีอีก 21 คนที่เสียชีวิตในเวลาต่อมาจากเหตุจรวดตกใส่สถานีรถไฟ จนทำให้เกิดไฟไหม้รถไฟ 5 ขบวน ด้านที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครนเผยว่า กองทัพรัสเซียได้หลีกเลี่ยงการโจมตีกรุงเคียฟและมุ่งโจมตีเมืองด่านหน้า เช่น คาร์คีฟ ไมโคลาอีฟ นิโคปอล และดนิโปร […]

“เซเลนสกี” ระบุยูเครนจะไม่ยอมแพ้ในการสู้เพื่อเสรีภาพ

ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวปราศรัยที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความรู้สึก เนื่องในวาระครบรอบ 31 ปีที่ยูเครนแยกตัวเป็นเอกราชจากสหภาพโซเวียตในวันนี้ว่า ยูเครนจะไม่มีวันยอมแพ้ในการต่อสู้เพื่อรักษาเสรีภาพจากการครอบงำของรัสเซีย

ยกย่องลูกสาวคนสนิทของ “ปูติน” เป็นผู้สละชีพเพื่อชาติ

มอสโก 23 ส.ค.- ชาวรัสเซียที่ไปร่วมพิธีศพดาร์ยา ดูกินา บุตรสาวของนายอเล็กซานเดอร์ ดูกิน นักชาตินิยมคนสำคัญที่เป็นคนสนิทของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ยกย่องเธอว่าเป็นผู้พลีชีพที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้แก่กองกำลังรัสเซียที่กำลังสู้รบในยูเครน ดูกินา วัย 30 ปี เสียชีวิตจากเหตุรถยนต์ถูกวางระเบิดชานกรุงมอสโกเมื่อวันเสาร์ สำนักงานความมั่นคงกลางหรือเอฟเอสบี (FSB) ที่เป็นหน่วยข่าวกรองของรัสเซียกล่าวหาหน่วยข่าวกรองยูเครนว่าอยู่เบื้องหลัง แต่ยูเครนปฏิเสธ นักการเมืองอาวุโส กลุ่มชาตินิยม และเพื่อนฝูงไปร่วมพิธีศพเธอในเช้าวันนี้ ด้วยการวางดอกไม้หน้าโลงศพกลางห้องโถงของสถานีโทรทัศน์ที่เธอทำหน้าที่ผู้สื่อข่าวและนักวิจารณ์สายชาตินิยม นายดูกิน บิดาวัย 60 ปี ที่สนับสนุนเรื่องการสร้างจักรวรรดิรัสเซียใหม่บอกกับผู้ร่วมพิธีว่า บุตรสาวพลีชีพเพื่อรัสเซีย และคงอยากบอกกับชาวรัสเซียให้ปกป้องคริสตจักรรัสเซียนออร์โธดอกซ์อันศักดิ์สิทธิ ประชาชน และปิตุภูมิ ด้านนายคอนสแตนติน มาโลฟีเยฟ เพื่อนสนิทและนักธุรกิจชาตินิยมสุดโต่ง ยกย่องเธอเป็นผู้พลีชีพที่จะทำให้การมีชัยชนะเหนือยูเครนมีความสำคัญสำหรับรัสเซียมากยิ่งขึ้นไปอีก ผู้ที่ต่อต้านรัสเซียไม่เข้าใจว่าชาวรัสเซียไม่ได้มีแค่คนที่ยังมีชีวิตอยู่เท่านั้น แต่ยังหมายถึงคนที่จากไปแล้วและคนจะอยู่หลังจากนี้.-สำนักข่าวไทย

1 101 102 103 104 105 288
...