ยูเครน 22 ก.ย. – ชาวยูเครนและชาวต่างชาติกว่า 200 คน ได้รับการปล่อยตัวแล้ว ในการแลกเปลี่ยนเชลยครั้งใหญ่ที่สุดกับรัสเซีย ขณะที่กระแสตื่นกลัวการถูกบังคับให้ออกรบ ทำให้ชาวรัสเซียประท้วงและหนีออกนอกประเทศจำนวนมาก
ทหารและอาสาสมัครชาวยูเครน รวมถึงชาวต่างชาติที่ช่วยยูเครนรบแล้วถูกรัสเซียจับกุมตัวไป จำนวนทั้งหมด 215 คน ได้รับการปล่อยตัวและเดินทางกลับแล้ว จำนวนนี้มีทั้งนายทหารที่บัญชาการรบในสมรภูมิเมืองมาริอูโพล ซึ่งเคยเกิดการสู้รบอย่างหนักหน่วง และผู้ที่ถูกศาลรัสเซียตัดสินประหารชีวิตแล้วด้วย รัฐบาลยูเครนกล่าวว่า กระบวนการแลกเปลี่ยนเชลยใช้เวลายาวนาน โดยมีทั้งตุรกีและซาอุดีอาระเบียช่วยเหลือ
ในส่วนที่ซาอุดีอาระเบียช่วยเจรจาให้รัสเซียปล่อยตัวนั้น ชาวต่างชาติ 10 คน มีทั้งชาวอเมริกัน อังกฤษ โมร็อกโก สวีเดน และโครเอเชีย ที่ถูกจับกุมขณะไปช่วยยูเครนรบ ดังนั้นจึงได้นำตัวไปยังกรุงริยาด แล้วจึงจะส่งกลับประเทศบ้านเกิดต่อไป
สำหรับรัสเซียได้รับเชลยศึกกลับคืน 55 คน และที่สำคัญคือ เศรษฐีชาวยูเครนที่ใกล้ชิดกับผู้นำรัสเซีย นั่นคือ นายวิกเตอร์ เมดเวดชุก ซึ่งเป็นนักโทษในความผิดฐานกบฏ จากการช่วยเหลือรัสเซียและหนุนองค์กรก่อการร้าย ที่ผ่านมาเป็นพันธมิตรทางการเมืองและเป็นคนวงในของรัฐบาลนายวลาดิเมียร์ ปูติน
การแลกเปลี่ยนตัวเชลยนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ผู้นำรัสเซียเพิ่งสั่งระดมพลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อทำสงครามยูเครน จนมีชาวรัสเซียก่อประท้วงหลายเมืองทั่วประเทศ รวมถึงในกรุงมอสโก และนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก มีรายงานว่า มีผู้ถูกจับกุมกว่า 1,300 คน นอกจากนั้นยังมีผู้เดินทางออกนอกประเทศมากมายหลายช่องทาง โดยเฉพาะเครื่องบิน ทำให้เที่ยวบินไปยังประเทศที่ไม่ต้องใช้วีซ่า อย่างตุรกีและอาร์เมเนีย ถูกขายจนหมดเกลี้ยง ส่วนราคาตั๋วเครื่องบินไปยังบางเมือง เช่น ดูไบ ก็เพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่าตัว
ชายชาวรัสเซียต่างไม่มั่นใจว่าจะถูกสั่งให้ออกรบหรือไม่ แม้รัฐบาลระบุว่าเป็นเพียงการระดมพลบางส่วน มีผลกับกองหนุนบางประเภท รวม 300,000 นาย คัดเฉพาะผู้ที่เคยมีประสบการณ์ในกองทัพ โดยที่จะไม่มีผลกับนักศึกษามหาวิทยาลัย หรือทหารเกณฑ์ และทั้งหมดก็จะได้รับสิทธิประโยชน์เต็มที่. – สำนักข่าวไทย