
ตามรอยผู้นำเอเปคชื่นชม Soft Power ของไทย
การประชุมเอเปค 2022 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ นอกจากจะสำเร็จในสาระหลักแล้ว ผลพลอยได้คือเสียงชื่นชม ซอฟต์พาวเวอร์ของไทย โดยเฉพาะมวยไทย ที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เดินทางไปชมเอง ถึงเวทีมวยราชดำเนิน
การประชุมเอเปค 2022 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ นอกจากจะสำเร็จในสาระหลักแล้ว ผลพลอยได้คือเสียงชื่นชม ซอฟต์พาวเวอร์ของไทย โดยเฉพาะมวยไทย ที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เดินทางไปชมเอง ถึงเวทีมวยราชดำเนิน
เวทีประชุม APEC CEO Summit 2022 ปิดฉากลงแล้ว ซึ่งตลอดการประชุมมีการหารือกันหลากหลายประเด็น โดยมีผู้นำและผู้แทนจากทั้งหมด 7 เขตเศรษฐกิจเอเปค เข้าร่วมกล่าวปาฐกถาและเสวนา รวมถึงฝรั่งเศสและสหรัฐอเมริกา ส่วนจีน แม้ไม่ได้ขึ้นเวทีตามกำหนดการ แต่ก็เผยแพร่คำปราศรัยที่เตรียมมา
กระทรวงต่างประเทศจีนกล่าววันนี้ว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะพบหารือกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ และประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส พร้อมเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี-20 ที่อินโดนีเซีย และการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคที่ประเทศไทย ในสัปดาห์หน้า
ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เดินหน้าผลักดันการขยายอายุเกษียณจาก 62 ปี เป็น 65 ปี ภายในปี 2574 เริ่มตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป
ปารีส 20 มิ.ย.- โฆษกรัฐบาลฝรั่งเศสเผยว่า การยุบสภาผู้แทนราษฎรยังไม่ใช่ประเด็นในเวลานี้ หลังจากพันธมิตรสายกลางของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงไม่ได้เสียงข้างมากในการเลือกตั้งทั่วไปรอบสองเมื่อวันอาทิตย์ โฆษกรัฐบาลเผยกับสถานีวิทยุฟรานซ์อินเตอร์ในวันนี้ว่า การยุบสมัชชาแห่งชาติยังไม่ใช่ประเด็นในเวลานี้ ต่อข้อถามเรื่องนายกรัฐมนตรีเอลิซาเบธ บอร์น วัย 61 ปี จะอยู่ในตำแหน่งต่อไปหรือไม่ หลังจากที่เพิ่งรับตำแหน่งเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม โฆษกรัฐบาลฝรั่งเศสกล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่เป็นประเด็นในเวลานี้ จะต้องรอดูต่อไปเพราะนางบอร์นได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาอีกสมัยในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวานนี้ ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีบอร์นเผยเมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลจะทำงานต่อไปในวันจันทร์ และจะเจรจากับพันธมิตรเพื่อการเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากและทำให้ประเทศมีเสถียรภาพ กระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศสแจ้งผลการนับคะแนนการเลือกตั้งทั่วไปรอบสองเมื่อวานนี้ว่า พันธมิตรสายกลางของประธานาธิบดีมาครงได้ที่นั่งในสมัชชาแห่งชาติซึ่งเป็นสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด 245 ที่นั่ง ไม่ถึงเกณฑ์ 289 ที่นั่งที่จะครองเสียงข้างมากในสภาทั้งหมด 577 ที่นั่ง หลังจากนายมาครง วัย 44 ปี ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2 เมื่อเดือนเมษายน โดยชนะนางมารีน เลอ เปน สายขวาจัดด้วยคะแนนร้อยละ 58.55 ต่อ 41.45.-สำนักข่าวไทย
ปารีส 13 มิ.ย.- พันธมิตรสายกลางของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสเตรียมสู้ศึกเลือกตั้งทั่วไปรอบ 2 ในวันที่ 19 มิถุนายน หลังจากชนะพันธมิตรฝ่ายซ้ายแบบเฉียดฉิวในการเลือกตั้งรอบแรกเมื่อวานนี้ ผลการนับคะแนนของกระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศสระบุว่า พันธมิตรอองซอมเบลอ! (Ensemble!) ของประธานาธิบดีมาครงได้คะแนนเสียงประชาชนร้อยละ 25.75 ส่วนพันธมิตร NUPES ของนายฌอง-ลุค เมลองชงได้คะแนนเสียงตามมาติด ๆ ที่ร้อยละ 25.66 ทำให้คนในกลุ่มของนายเมลองชงกล่าวหานายเจรัลด์ ดาร์มานอง รัฐมนตรีมหาดไทยบิดเบือนผลคะแนน โดยอ้างแบบไม่มีหลักฐานว่า กระทรวงมหาดไทยไม่รวมคะแนนเสียงที่ทางกลุ่มได้อีกกว่า 200,000 คะแนนไว้ในผลการเลือกตั้ง สำนักสำรวจหลายแห่งคาดว่า พันธมิตรของประธานาธิบดีมาครงน่าจะได้ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรราว 260-300 ที่นั่งจากทั้งหมด 577 ที่นั่ง หากต้องการครองเสียงข้างมากจะต้องได้ไม่ต่ำกว่า 289 ที่นั่ง ขณะที่พันธมิตรของนายเมลองชงน่าจะได้ 170-220 ที่นั่ง ส่วนการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหลังสุดเมื่อปี 2560 พันธมิตรของมาครงครอง 347 ที่นั่ง และพันธมิตรของเมลองชงครองเพียง 68 ที่นั่ง.-สำนักข่าวไทย
นายเอ็มมานูเอล มาครง เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส เป็นสมัยที่ 2 ในวันนี้ พิธีจัดขึ้นที่ทำเนียบประธานาธิบดี หรือ ปาแลเดอเลลีเซ
ประธานาธิบดีเอมานูว์แอล มาครง ของฝรั่งเศส สร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้นำฝรั่งเศสคนแรกในรอบ 20 ปี ที่ชนะเลือกตั้งสมัยที่ 2 ประกาศเป็นผู้นำของชาวฝรั่งเศสทุกคน ไม่แบ่งฝ่าย
ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งชาวฝรั่งเศสไปลงคะแนนเสียงเลือกประธานาธิบดีในวันนี้ ซึ่งเป็นการเลือกตั้งในรอบที่ 2 และเป็นการชิงชัยระหว่างประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ที่มีแนวนโยบายสายกลางและดำรงตำแหน่งอยู่ในขณะนี้กับนางมารีน เลอเปน คู่ปรับจากพรรคแนวนิยมขวาสุดโต่ง ซีงแม้นางมาครงจะได้รับคะแนนนิยมสูงกว่า แต่จะเป็นการแข่งขันที่สูสี
ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส กล่าววันนี้ ปฎิเสธข่าวที่ว่า มีการทำข้อตกลงทางการเมืองกับอดีตประธานาธิบดีนิโกลา ซาร์โกซี ที่มีแนวนโยบายอนุรักษ์นิยม จนทำให้นายซาร์โกซีประกาศสนับสนุนนายมาครง ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2
ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ออกหาเสียงที่เมืองสตราบูร์ก ทางภาคตะวันออก ก่อนจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบชี้ขาด ในวันที่ 24 เมษายนนี้
นีซ 7 มี.ค.- ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสยังคงติดต่อสื่อสารกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย แม้ว่าผู้นำโลกหลายคนหันหลังให้ผู้นำรัสเซีย ตั้งแต่สั่งกองทัพใช้ปฏิบัติการทางทหารในยูเครนตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ประธานาธิบดีมาครงในฐานะประธานวาระปัจจุบันของสหภาพยุโรปหรืออียู (EU) พยายามใช้วิถีทางทางการทูตสกัดการเกิดสงครามแต่ไม่เป็นผล อย่างไรก็ดี เขายังคงสนทนากับประธานาธิบดีปูติน โดยนับได้ 4 ครั้งตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ และ 11 ครั้งตลอดเดือนกุมภาพันธ์ นายเบนจามิน ฮัดดัน สมาชิกพรรคอ็องมาร์ชของมาครงเผยว่า ประธานาธิบดีต้องการเปิดช่องทางทางการทูตเอาไว้ เผื่อปูตินอาจต้องการคลี่คลายความตึงเครียดและหาทางออกจากวิกฤต ขณะเดียวกันก็เป็นตัวแทนในการสนทนากับปูตินแทนประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครน หวังได้ความเมตตาบางอย่าง เช่น หยุดยิงบางพื้นที่ เปิดเส้นทางหลบหนีอย่างปลอดภัยให้แก่พลเรือนที่ติดอยู่ในพื้นที่ปะทะ และการจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ด้านนายฌอง-อีฟว์ เลอ ดริยอง รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสกล่าวถึงเสียงวิจารณ์เรื่องมาครงติดกับดักเก่า ๆ ของยุโรปที่มักเอาใจรัสเซียว่า ประธานาธิบดีไม่ได้ไร้เดียงสา แต่เขารู้ว่าต้องใช้วิธีใด รู้ลักษณะและนิสัยของผู้นำรัสเซีย ซิลเวีย โคลอมโบ ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของอียู สถาบันระหว่างประเทศในกรุงโรมของอิตาลีมองว่า มาครงแตกต่างจากผู้นำยุโรปคนอื่น ๆ ตรงที่เขาเต็มใจจะถูกจับจ้องจากทุกฝ่ายเพื่อผลักดันนโยบายต่างประเทศที่วางไว้ เขาเคยให้การต้อนรับประธานาธิบดีปูตินครั้งแรกที่พระราชวังแวร์ซายส์ในปี 2560 หลังจากนั้น […]