
ฟิลิปปินส์ยืนยันโอไมครอนติดต่อกันในชุมชน
กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์ ยืนยันวันนี้ว่า มีการระบาดของเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน รอบ ๆ กรุงมะนิลา โดยเป็นการระบาดในชุมชน และยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ทำสถิติสูงสุดเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันแล้ว
กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์ ยืนยันวันนี้ว่า มีการระบาดของเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน รอบ ๆ กรุงมะนิลา โดยเป็นการระบาดในชุมชน และยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ทำสถิติสูงสุดเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันแล้ว
มะนิลา 10 ม.ค. – นายอัลฟองโซ คูซี รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของฟิลิปปินส์ ขอให้อินโดนีเซียยกเลิกคำสั่งห้ามส่งออกถ่านหิน โดยระบุว่า นโยบายดังกล่าวจะสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจที่ต้องพึ่งพาถ่านหินอย่างมากในการผลิตไฟฟ้า กระทรวงพลังงานฟิลิปปินส์เผยวันนี้ว่า นายคูซีได้ส่งจดหมายเกี่ยวกับคำขอร้องดังกล่าวผ่านกระทรวงต่างประเทศฟิลิปปินส์ไปยังนายอาริฟิน ตัสรีฟ รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานและทรัพยากรแร่ของอินโดนีเซีย นายคูซีได้ขอให้กระทรวงต่างประเทศฟิลิปปินส์ขอร้องและยื่นอุทธรณ์เรื่องคำสั่งห้ามส่งออกถ่านหินของอินโดนีเซียในนามฟิลิปปินส์ผ่านกลไกความร่วมมือของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าวทำให้ราคาถ่านหินในจีนและออสเตรเลียพุ่งสูงขึ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่เรือหลายลำที่จังหวัดกาลีมันตัน ซึ่งเป็นท่าเรือหลักในการส่งออกถ่านหินของอินโดนีเซีย ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนในการขนส่งถ่านหินไปขายให้ผู้ซื้อรายใหญ่ เช่น ญี่ปุ่น จีน เกาหลีเหนือ และอินเดีย สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ท่าทีของฟิลิปปินส์เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับรัฐบาลของประเทศอื่น ๆ ในทวีปเอเชีย เช่น ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ขณะที่ฟิลิปปินส์เป็นประเทศยังต้องพึ่งถ่านหินอย่างหนักในการผลิตไฟฟ้า และจำเป็นต้องซื้อถ่านหินจำนวนมากจากอินโดนีเซีย แม้กระทั่งถ่านหินจากออสเตรเลียหรือเวียดนาม ซึ่งมีราคาแพงกว่า ข้อมูลของทางการฟิลิปปินส์ระบุว่า ฟิลิปปินส์นำเข้าถ่านหินเกือบร้อยละ 70 จากปริมาณถ่านหินทั้งหมด 42.5 ล้านตันในปี 2563 ก่อนหน้านี้ อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกถ่านหินเชื้อเพลิงรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้ประกาศระงับการส่งออกถ่านหินเมื่อวันที่ 1 มกราคม หลังได้รับรายงานว่ามีปริมาณถ่านหินอยู่ในระดับต่ำจนเข้าขั้นเป็นอันตรายต่อการผลิตไฟฟ้าในประเทศ.-สำนักข่าวไทย
มะนิลา 27 ธ.ค.- รัฐบาลฟิลิปปินส์แจ้งว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากไต้ฝุ่นราอี (Rai) พัดถล่มเมื่อกลางเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้นเป็น 388 คนแล้วในวันนี้ นอกจากนี้ยังมีโรคระบาดในพื้นที่ประสบภัยบางแห่ง สำนักงานป้องกันภัยพลเรือนในกรุงมะนิลาปรับเพิ่มยอดผู้เสียชีวิตเป็น 388 คน สูญหายอยู่ 60 คน และบาดเจ็บจำนวนมาก จากเดิมที่ตำรวจแจ้งยอดผู้เสียชีวิตไว้ที่ 375 คน ทางการจัดสรรความช่วยเหลือให้แก่ประชาชนมากกว่า 4 ล้านคน ใน 430 เมือง เนื่องจากบ้านเรือนเสียหายบางส่วนหรือทั้งหมดราว 482,000 หลัง ผู้ประสบภัยมากกว่า 300,000 คน ยังอาศัยตามศูนย์พักพิง และอีก 200,000 คนอาศัยตามบ้านญาติมิตร ขณะเดียวกันมีรายงานผู้ประสบภัยอย่างน้อย 140 คนล้มป่วย สันนิษฐานว่าเกิดจากน้ำดื่มน้ำใช้ปนเปื้อน เพราะมีอาการกระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบ และอาการท้องร่วง ไต้ฝุ่นราอีพัดถล่มตอนกลางและทางใต้ของฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 16-17 ธันวาคม โค่นต้นไม้และเสาไฟฟ้าล้มระเนระนาด อีกทั้งยังทำให้เกิดน้ำท่วมหนัก ประชาชนจำนวนมากต้องไร้ที่อยู่อาศัย ถือเป็นพายุรุนแรงที่สุดลูกหนึ่งในรอบหลายปี ผู้ประสบภัยบางคนเปรียบเทียบว่าใกล้เคียงกับซูเปอร์ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนที่พัดถล่มทางตอนกลางของประเทศในปี 2556 ครั้งนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศถึง 7,300 คน.-สำนักข่าวไทย
องค์การสหประชาชาติ และสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมในฟิลิปปินส์ วิงวอนชาติสมาชิกให้ช่วยกันบริจาคเงิน 107.2 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุไต้ฝุ่นราอี
ผู้นำฟิลิปปินส์ลงพื้นที่ประสบภัยซูเปอร์ไต้ฝุ่นราอี ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นกว่า 200 คนแล้ว
มะนิลา 20 ธ.ค.- สื่อฟิลิปปินส์รายงานอ้างตำรวจว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากไต้ฝุ่นราอี (Rai) พัดถล่มเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 208 คน บาดเจ็บ 239 คน และสูญหายอยู่ 52 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยบรรยาสภาพพื้นที่ประสบภัยว่า เสียหายยับเยิน แต่ยังไม่ทราบขอบเขตความเสียหายที่แท้จริงเพราะหลายพื้นที่ถูกตัดขาดการสื่อสาร คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีกเพราะมีน้ำท่วมและดินถล่มในวงกว้าง สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศได้ขอความช่วยเหลือฉุกเฉินมูลค่า 22 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 737 ล้านบาท) เพื่อใช้ในการบรรเทาทุกข์ระยะยาว ขณะที่ทางการฟิลิปปินส์ส่งทหาร หน่วยยามฝั่ง และนักดับเพลิงลงพื้นที่เพื่อค้นหาและกู้ภัยแล้ว ด้านประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตออกสำรวจความเสียหายทางอากาศ คนสนิทของเขาโพสต์ภาพมุมสูงเห็นความเสียหายในวงกว้างทีจังหวัดซีอาร์เกา ดินากัต และมินดาเนา สำนักงานบริการด้านบรรยากาศ ธรณีฟิสิกส์ และดาราศาสตร์ของฟิลิปปินส์หรือปากาซา (PAGASA) จัดให้ราอีเป็นไต้ฝุ่น เพราะมีความเร็วลมขณะขึ้นฝั่ง 195 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่สื่อตะวันตกหลายแห่งรายงานว่าเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นที่เป็นพายุรุนแรงที่สุดที่กระหน่ำฟิลิปปินส์ในปีนี้ บรรษัทกระจายเสียงอังกฤษหรือบีบีซี (BBC) ระบุว่า ซูเปอร์ไต้ฝุ่นราอีเกิดขึ้นช้ากว่าปกติ เพราะฤดูไต้ฝุ่นในภูมิภาคมักเกิดขึ้นช่วงเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม นักวิทยาศาสตร์เตือนมานานแล้วว่า อุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากกิจกรรมส่วนใหญ่ของคน กำลังทำให้ไต้ฝุ่นมีความรุนแรงมากขึ้นและทวีกำลังเร็วยิ่งขึ้น.-สำนักข่าวไทย
มะนิลา 19 ธ.ค.- ผู้ว่าราชการจังหวัดโบโฮล ทางตอนกลางของฟิลิปปินส์แจ้งว่า มีคนในจังหวัดเสียชีวิตจากไต้ฝุนราอี (Rai) แล้ว 63 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตทั้งประเทศจากไต้ฝุ่นที่รุนแรงที่สุดของปีนี้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 112 คนแล้ว นายอาร์เธอร์ ยับ ผู้ว่าราชการจังหวัดโบโฮล ซึ่งเป็นเกาะท่องเที่ยวยอดนิยม มีประชากรรวมกว่า 1 ล้าน 2 แสนคน โพสต์เฟซบุ๊กว่า มีผู้สูญหายอยู่ 10 คน ได้รับบาดเจ็บ 13 คน เชื่อว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้น เพราะมีนายกเทศมนตรีติดต่อกลับมายังส่วนกลางได้เพียง 33 คน จากทั้งหมด 48 คน เนื่องจากการสื่อสารขัดข้อง เขาได้สั่งการให้นายกเทศมนตรีทุกคนใช้อำนาจฉุกเฉินจัดหาอาหารให้แก่ประชาชน รวมทั้งน้ำดื่มที่จะเป็นปัญหาเร่งด่วนเพราะกระแสไฟฟ้าดับทำให้โรงประปาไม่สามารถทำงานได้ ผู้ว่าราชการจังหวัดโบโฮลเผยด้วยว่า ได้ออกสำรวจความเสียหายทางอากาศพบความเสียหายในวงกว้างและร้ายแรงจากไต้ฝุ่นที่พัดกระหน่ำตลอดทั้งวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ รัฐบาลฟิลิปปินส์เผยว่า มีประชาชนเดือดร้อนประมาณ 780,000 คน ในจำนวนนี้มากกว่า 300,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน นอกจากนี้ยังมีรายงานผู้เสียชีวิตอีก 39 คนในพื้นที่อื่น ส่วนจังหวัดดินากัตที่เป็นหมู่เกาะและถูกไต้ฝุ่นกระหน่ำเป็นแห่งแรกได้รับรายงานผู้เสียชีวิต 10 คน […]
มะนิลา 19 ธ.ค.- ฟิลิปปินส์ได้รับรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 75 คน จากไต้ฝุ่นที่รุนแรงที่สุดของปีนี้ และกำลังเร่งจัดส่งอาหารและน้ำไปยังพื้นที่ประสบภัย ไต้ฝุนราอี (Rai) พัดกระหน่ำพื้นที่ตอนกลางและตอนใต้ของฟิลิปปินส์ ทำให้ประชาชนมากกว่า 300,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนและรีสอร์ทริมทะเล นอกจากนี้ยังสร้างความเสียหายให้แก่การสื่อสาร ไฟฟ้า อาคารและบ้านเรือนจำนวนมาก ผู้ว่าราชการจังหวัดโบโฮล เกาะท่องเที่ยวยอดนิยมทางตอนกลางของประเทศเผยว่า ได้รับรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 49 คน สูญหายอยู่ 10 คน และได้รับบาดเจ็บ 13 คน หลังจากไต้ฝุ่นขึ้นฝั่งเมื่อวันพฤหัสบดีด้วยความเร็วลม 195 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก เพราะขณะนี้ติดต่อทางการท้องถิ่นได้เพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดดินากัตที่เป็นหมู่เกาะแจ้งว่า สภาพความเสียหายขณะนี้ใกล้เคียงกับเมื่อครั้งซูเปอร์ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศพัดถล่มในปี 2556 ทางการฟิลิปปินส์ส่งกำลังทหาร ตำรวจ หน่วยยามฝั่ง และนักดับเพลิงไปปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยในพื้นที่ประสบภัย ขณะที่กองทัพเรือจะนำอาหารและความช่วยเหลือไปยังจังหวัดโบโฮลในวันจันทร์ นอกจากจังหวัดโบโฮล และดินากัตแล้ว ไต้ฝุ่นยังสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างให้แก่เกาะซีอาร์เกาและหมู่เกาะมินดาเนา ไต้ฝุ่นได้อ่อนกำลังลงเหลือ 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในขณะที่พัดผ่านทั่วฟิลิปปินส์ ก่อนเคลื่อนตัวทางตะวันตกไปยังทะเลจีนใต้ในวันเสาร์และกำลังมุ่งหน้าไปยังเวียดนามต่อไป.-สำนักข่าวไทย
มะนิลา 17 ธ.ค. – พายุไต้ฝุ่นราอี ซึ่งเป็นพายุที่มีความรุนแรงมากที่สุดลูกหนึ่งในปีนี้ที่ขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์ ได้อ่อนกำลังลงหลังพัดถล่มหลายพื้นที่ทางภาคกลางและภาคใต้ของประเทศ และทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานวันนี้ว่า อิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นราอีที่ทวีกำลังเป็นพายุรุนแรงระดับ 5 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อวานนี้ ทำให้เสาไฟฟ้าและเสาโทรคมนาคมหักโค่น บ้านเรือนได้รับความเสียหาย และประชาชนหลายแสนคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน ในขณะที่พายุดังกล่าวได้พัดผ่านพื้นที่หมู่เกาะวิซายัสและเกาะปาลาวันที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของฟิลิปปินส์ ขณะที่เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศของฟิลิปปินส์เผยกับสถานีวิทยุท้องถิ่นว่า ไต้ฝุ่นราอีได้อ่อนกำลังลงในขณะที่พัดผ่านภูเขาหลายลูกบนเกาะวิซายัส อย่างไรก็ดี ทางการฟิลิปปินส์ยังคงประกาศแจ้งเตือนภัยจากพายุที่มีความรุนแรงระดับ 3 และ 4 ในบางพื้นที่บนเกาะวิซายัสที่ยังคงมีกระแสลมแรง ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของฟิลิปปินส์รายงานว่า พบผู้เสียชีวิต 1 รายที่มีความเชื่อมโยงกับพายุไต้ฝุ่นราอี แต่ยังไม่ได้รับรายละเอียดเพิ่มเติม ทรอปิคอล สตอร์ม ริสก์ (Tropical Strom Risk) เว็บไซต์ติดตามสถานะพายุ ระบุว่า ไต้ฝุ่นราอี ซึ่งมีความเร็วลมสูงสุดถึง 195 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก่อนขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์เมื่อวานนี้ ได้ลดความรุนแรงลงเป็นพายุระดับ 3 แล้ว และคาดว่าจะเคลื่อนตัวออกจากฟิลิปปินส์ผ่านทางจังหวัดปาลาวันภายในวันเสาร์นี้ ส่วนผู้ว่าราชการจังหวัดโบโฮลของฟิลิปปินส์ได้ออกมาเรียกร้องความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางผ่านสถานีวิทยุท้องถิ่น เนื่องจากจังหวัดโบโฮลกำลังประสบปัญหาช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม.-สำนักข่าวไทย
มะนิลา 16 ธ.ค. – พายุไต้ฝุ่นราอีทวีกำลังเป็นพายุที่มีความรุนแรงระดับ 5 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ก่อนขึ้นฝั่งพื้นที่ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ในวันนี้ ทำให้ทางการต้องเร่งอพยพประชาชนจำนวนมากออกจากพื้นที่ประสบภัยและสั่งยกเลิกเที่ยวบินหลายเที่ยว ขณะที่ชุมชนในพื้นที่ราบต่ำมีน้ำท่วมสูงถึงระดับอกแล้ว สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของฟิลิปปินส์รายงานว่า พายุไต้ฝุ่นราอี ซึ่งเป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 15 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในปีนี้ ได้พัดขึ้นฝั่งบนเกาะซูรีเกาของจังหวัดซูรีเกา เดล นอร์เต ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ โดยมีความเร็วลมสูงสุด 195 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทางการฟิลิปปินส์เร่งอพยพประชาชนเกือบ 100,000 คนออกจากบ้านเรือนไปยังที่ปลอดภัยในขณะที่พายุไต้ฝุ่นราอี ซึ่งเป็นพายุที่มีความรุนแรงสูงเป็นอันดับสองของปีนี้ ทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่หมู่เกาะทางใต้จนถึงตอนกลางของประเทศ ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า ได้รับแจ้งเหตุไฟฟ้าดับและน้ำท่วมในบางพื้นที่แล้ว แต่ยังไม่มีรายงานพบผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ ในขณะเดียวกัน หน่วยยามฝั่งของฟิลิปปินส์ได้เผยแพร่ภาพที่แสดงให้เห็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังลุยน้ำลึกระดับอกในเมืองคากายันเดโอโรที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางเหนือบนเกาะมินดาเนา และนำเรือยางเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้าน ส่วนทางการฟิลิปปินส์ได้สั่งยกเลิกเที่ยวบินหลายสิบเที่ยว รวมถึงสั่งห้ามการสัญจรทางทะเลและทางบกในพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้ของประเทศ ทำให้มีประชาชนหลายพันคนตกค้างอยู่ที่ท่าเรือ นอกจากนี้ ฟิลิปปินส์ยังสั่งหยุดการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดให้แก่ประชาชนเป็นการชั่วคราวหลังพายุไต้ฝุ่นราอีได้พัดขึ้นฝั่งในวันนี้.-สำนักข่าวไทย
ประชาชนหลายหมื่นคนอพยพออกจากพื้นที่ชายฝั่งทะเลในบริเวณภาคกลางและทางใต้ของฟิลิปปินส์ ก่อนหน้าที่พายุไต้ฝุ่นที่มีกำลังรุนแรงกำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้ฟิลิปปินส์และคาดว่าจะขึ้นฝั่งในช่วงบ่ายวันนี้
“ธีรศิลป์” ซัด 2 ประตูช่วยช้างศึกไทยเฉือนชนะฟิลิปปินส์ 2-1 ฟุตบอลซูซูกิ คัพ การันตีเข้ารอบรองชนะเลิศ พร้อมทำลายสถิติดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของ “นอห์ อลัม ชาห์”