fbpx

ตอลิบานสั่งห้ามผู้หญิงขึ้นเครื่องบินคนเดียว

คาบูล 28 มี.ค. – กลุ่มตอลิบานสั่งให้สายการบินของอัฟกานิสถานห้ามรับผู้โดยสารหญิงขึ้นเครื่องบินยกเว้นมีญาติผู้ชายเดินทางด้วย  ออกข้อบังคับให้ชายหญิงไม่สามารถไปสวนสาธารณะในกรุงคาบูลได้ในวันเดียวกัน รวมถึงสั่งให้สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นยุติการเผยแพร่การรายงานข่าวของบรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี กลุ่มตอลิบานสั่งให้สายการบินอาเรียนา อัฟกัน แอร์ไลน์ และสายการบินคัม แอร์ ของอัฟกานิสถาน ห้ามรับผู้โดยสารหญิงขึ้นเครื่องบินยกเว้นมีญาติผู้ชายเดินทางด้วย เจ้าหน้าที่ด้านการบินของอัฟกานิสถานเผยว่า การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นหลังเสร็จสิ้นการประชุมร่วมกันระหว่างตัวแทนกลุ่มตอลิบาน สายการบินทั้งสองแห่ง และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของท่าอากาศยานคาบูลเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสายการบินอาเรียนา อัฟกัน แอร์ไลน์ ได้ส่งจดหมายเวียนแจ้งเป็นการภายในที่มีข้อความระบุว่า สายการบินฯ จะไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารหญิงขึ้นเที่ยวบินในประเทศและต่างประเทศตามลำพัง ยกเว้นในกรณีที่มีญาติผู้ชายเดินทางด้วย อย่างไรก็ดี โฆษกกระทรวงส่งเสริมศีลธรรมและป้องกันความชั่วร้ายของกลุ่มตอลิบานได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ออกคำสั่งดังกล่าว แต่มีตัวแทนบริษัทนำเที่ยวสองแห่งของอัฟกานิสถานยืนยันว่าสายการบินทั้งสองสายได้หยุดจำหน่ายตั๋วโดยสารให้แก่ผู้หญิงอัฟกันที่ต้องการเดินทางเพียงคนเดียวแล้ว ขณะนี้ ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าคำสั่งดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ครอบคลุมผู้โดยสารชาวต่างชาติหรือไม่ แต่สื่อท้องถิ่นของอัฟกานิสถานรายงานว่า มีหญิงเชื้อสายอัฟกันที่ถือพาสปอร์ตของสหรัฐถูกห้ามขึ้นเครื่องบินตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ก่อน คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่กระทรวงส่งเสริมศีลธรรมและป้องกันความชั่วร้ายได้สั่งห้ามผู้ชายและผู้หญิงไปเที่ยวสวนสาธารณะในกรุงคาบูลในวันเดียวกัน โดยกำหนดให้ผู้หญิงสามารถไปสวนสาธารณะได้เฉพาะวันอาทิตย์ วันจันทร์ และวันอังคาร ส่วนผู้ชายไปสวนสาธารณะได้ในวันพุธ พฤหัสบดี ศุกร์ และเสาร์ นอกจากนี้ นายทาริก คาฟาลา หัวหน้าฝ่ายการบริการด้านภาษาของบีบีซี เวิลด์ เซอร์วิส ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ว่า กลุ่มตอลิบานได้สั่งให้สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นยุติการเผยแพร่รายงานข่าวของบีบีซี เวิลด์ เซอร์วิส ภาคภาษาปาทาน ภาษาเปอร์เซีย และภาษาอุซเบก เขารู้สึกว่าสถานการณ์ของชาวอัฟกานิสถานในตอนนี้ตกอยู่ในความไม่แน่นอนและวุ่นวาย […]

สำรวจเส้นทางที่รัสเซียอาจใช้บุกยูเครน

ลอนดอน 24 ก.พ.- เว็บไซต์บรรษัทกระจายเสียงและแพร่ภาพอังกฤษหรือบีบีซี (BBC) สำรวจเส้นทางที่รัสเซียอาจใช้บุกยูเครน หลังจากรัสเซียสั่งทหารเข้าไปประจำการทางตะวันออกของยูเครน แต่ชาติตะวันตกเชื่อว่า รัสเซียอาจกำลังวางแผนยึดยูเครนทั้งประเทศ บีบีซีอ้างนักวิเคราะห์ทางทหารว่า กำลังพลที่รัสเซียประจำการใกล้ยูเครนรวมมากถึง 190,000 นาย ทำให้รัสเซียมีทางเลือกหลายทางหากคิดจะรุกรานยูเครน ทางเลือกแรกคือ การโจมตีจากทางฝั่งตะวันออก นายเซธ โจนส์ จากศูนย์ยุทธศาสตร์และนานาชาติศึกษาชี้ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียได้รับรองแคว้นโดเนตสก์และแคว้นลูฮันสก์ ทางตะวันออกของยูเครนว่าเป็นรัฐอิสระ และได้สั่งให้ส่งทหารรัสเซียเข้าไปรักษาสันติภาพ หากปูตินคิดจะรุกคืบเข้าไปมากกว่านั้น อาจมุ่งหน้าไปยังเมืองดนิโปรและเมืองซาโปริชเชีย ควบคู่ไปกับการเคลื่อนกำลังพลจากเมืองรอสตอฟออนดอนของรัสเซียเข้าไปยังเมืองเมลิโตโปลของยูเครน เพื่อเชื่อมเส้นทางทางบกกับคาบสมุทรไครเมียของยูเครนที่รัสเซียผนวกเป็นส่วนหนึ่งในปี 2557 นอกจากนี้รัสเซียยังอาจให้ทหารที่ประจำการอยู่ที่เมืองเบลโกรอดมาหลายเดือนเข้าไปยึดเมืองคาร์คิฟและเมืองเครเมนชุกของยูเครน การบุกจากฝั่งตะวันออกอาจได้รับความช่วยเหลือจากกลุ่มแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซียในโดเนตสก์และลูฮันก์ที่คาดว่ามีประมาณมีกำลังคน 15,000 คน ทางเลือกที่ 2 คือ การบุกจากเบลารุสที่อยู่ทางเหนือของยูเครน นายไมเคิล คอฟแมน จากศูนย์วิเคราะห์ทางทะเลในสหรัฐคาดว่า รัสเซียจะเลือกทางนี้หากต้องการเปลี่ยนแปลงระบอบในยูเครนอย่างเต็มรูปแบบ รัสเซียได้ส่งทหาร 30,000 นาย พร้อมยุทโธปกรณ์ไปซ้อมรบร่วมกับเบลารุส และได้ขยายระยะการซ้อมออกไปอย่างไม่มีกำหนด หากกองกำลังนี้จะมุ่งหน้าเข้ายึดกรุงเคียฟอาจหลีกเลี่ยงเขตหวงห้ามรอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลที่ระเบิดใหญ่ในปี 2529 ทางเลือกที่ 3 คือ การรุกจากคาบสมุทรไครเมีย นายเบน แบร์รี จากสถาบันยุทธศาสตร์ศึกษามองว่า เป็นทางเลือกที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด […]

นายกฯ อังกฤษเผยรัสเซียจะทำสงครามครั้งใหญ่ที่สุด

ลอนดอน 20 ก.พ.- นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษอ้างว่า มีหลักฐานบ่งชี้ว่า รัสเซียกำลังวางแผนจะทำสงครามในยุโรปครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ.2488 นายกรัฐมนตรีจอห์นสัน ซึ่งอยู่ระหว่างประชุมความมั่นคงประจำปีกับผู้นำโลกที่เมืองมิวนิกของเยอรมนี ให้สัมภาษณ์บรรษัทกระจายเสียงและแพร่ภาพอังกฤษหรือบีบีซี (BBC) ที่จะออกอากาศในเวลา 09:00 น.วันนี้ตามเวลามาตรฐานสากล ตรงกับเวลา 16:00 น.วันนี้ตามเวลาในไทยว่า สัญญาณทุกอย่างบ่งชี้ว่าแผนการของรัสเซียได้เริ่มขึ้นแล้ว ข่าวกรองชี้ว่า รัสเซียจะล้อมกรอบกรุงเคียฟของยูเครน ซึ่งจะทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตอย่างมากมายติดตามมา นอกจากนี้ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐยังได้แจ้งกับผู้นำชาติตะวันตกว่า มีข่าวกรองชี้ว่า กองกำลังรัสเซียไม่เพียงวางแผนจะบุกยูเครนจากทางฝั่งตะวันออกผ่านภูมิภาคดอนบาสเท่านั้น แต่ยังจะบุกลงมาจากเบลารุสและพื้นที่รอบกรุงเคียฟด้วย แผนการของรัสเซียจะเป็นสงครามในยุโรปครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่เพียงจะทำให้ชาวยูเครนต้องสูญเสียชีวิต แต่ยังจะทำให้คนหนุ่มสาวชาวรัสเซียต้องล้มตายด้วย.-สำนักข่าวไทย

เจ้าชายวิลเลียมตำหนิบีบีซีกรณีการสัมภาษณ์เจ้าหญิงไดอานา

เจ้าชายวิลเลียม ดยุคแห่งเคมบริดจ์ ทรงตำหนิการกระทำของบีบีซีที่สร้างความผิดหวังให้เจ้าหญิงไดอานา พระมารดาและทำให่ชีวิตสมรสของพระองค์กับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารอังกฤษต้องย่ำแย่ลงไปอีก หลังจากผลการไต่สวนอิสระพบว่า ผู้สื่อข่าวบีบีซีใช้วิธีการหลอกลวงเพื่อให้ได้โอกาสเข้าสัมภาษณ์พระมารดาในปี 1995

BBC ถูกร้องรายงานข่าวเจ้าชายฟิลิปมากเกินไป

สื่ออังกฤษรายงานว่า การที่บรรษัทกระจายเสียงอังกฤษหรือบีบีซี (BBC) ยกเลิกรายการโทรทัศน์และวิทยุเพื่อออกอากาศรายการและข่าวเกี่ยวกับการสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระและพระสวามีในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทำให้มีคนร้องเรียนมากกว่า 110,000 ครั้ง

เผยรายละเอียดพระราชพิธีพระศพเจ้าชายฟิลิป

ลอนดอน 10 เม.ย.- เว็บไซต์บรรษัทกระจายเสียงอังกฤษหรือบีบีซี (BBC) เผยแพร่รายละเอียดพระราชพิธีพระศพเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ และพระสวามีในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่สิ้นพระชนม์เมื่อวานนี้ขณะมีพระชนมายุ 99 พรรษา รัฐบาลอังกฤษประกาศว่า ที่ทำการรัฐบาลทุกแห่งจะลดธงสหภาพ (ยูเนียนแจ็ก) และธงชาติในสหราชอาณาจักรลงครึ่งเสาจนถึงเวลา 08:00 น.ตามเวลาฤดูร้อนอังกฤษ ช้ากว่าไทย 6 ชั่วโมงจนถึงวันหลังพระราชพิธีพระศพ เช่นเดียวกับธงสหภาพตามพระราชวังและพระตำหนักที่สมเด็จพระราชินีนาถไม่ได้ประทับอยู่ ณ เวลานั้น จะมีการยิงสลุตสดุดีเจ้าชายฟิลิปในเวลา 12:00 น.วันนี้ตามเวลาฤดูร้อนอังกฤษทั่วสหราชอาณาจักรและยิบรอลตา ดินแดนโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักรใกล้กับสเปนนาทีละ 1 นัด รวมทั้งหมด 41 นัด ขอให้ประชาชนชมการยิงสลุตจากบ้าน จากการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์หรือออนไลน์ ขณะที่พรรคการเมืองใหญ่ในอังกฤษ สกอตแลนด์และเวลส์จะพักการหาเสียงสำหรับการเลือกตั้งเดือนหน้า สภาสามัญหรือสภาผู้แทนราษฎรจะเปิดประชุมในวันจันทร์เพื่อให้ ส.ส. ถวายความอาลัย เว็บไซต์ราชวงศ์อังกฤษขอให้ประชาชนบริจาคเงินเพื่อการกุศล แทนการนำดอกไม้ไปถวายความอาลัยตามพระราชวังและพระตำหนัก และโพสต์ถวายความอาลัยทางออนไลน์ อย่างไรก็ดี ยังคงมีประชาชนนำดอกไม้และบัตรแสดงความอาลัยไปไว้หน้าพระราชวังบักกิงแฮม แม้ว่าสำนักพระราชวังได้นำป้ายประกาศข่าวการสิ้นพระชนม์ออกไปแล้ว เพราะเกรงประชาชนจะมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก ในขณะที่สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในอังกฤษยังไม่ดีขึ้น บีบีซีเผยว่า มีรายงานว่าเจ้าชายฟิลิปทรงขอให้จัดพระราชพิธีพระศพอย่างเรียบง่าย ไม่เป็นรัฐพิธีที่เปิดให้ประชาชนถวายความอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย และพระศพของพระองค์จะอยู่ที่พระราชวังวินด์เซอร์.-สำนักข่าวไทย

วอนเยอรมนีให้คนแก่ฉีดวัคซีนแอสตราเซนเนกา

เบอร์ลิน 28 ก.พ.- นักภูมิคุ้มกันวิทยาชาวเยอรมันเรียกร้องรัฐบาลเปลี่ยนใจให้ผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไปสามารถฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของแอสตราเซนเนกาได้ ศ.ดร.คาร์สเทน วัตเซล ประธานสมาคมภูมิคุ้มกันเยอรมนี ให้สัมภาษณ์บรรษัทกระจายเสียงอังกฤษหรือบีบีซี (BBC) ว่า หวังว่าทางการเยอรมนีจะเปลี่ยนใจเรื่องไม่แนะนำให้ผู้สูงอายุฉีดวัคซีนของออกซ์ฟอร์ด/แอสตราเซนเนกา และขอให้นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล วัย 66 ปี รับการฉีดวัคซีนโดยมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ เพื่อยืนยันว่าปลอดภัย ศ.ดร.วัตเซลเรียกร้องดังกล่าว หลังจากสาธารณสุขสกอตแลนด์เผยว่า สี่สัปดาห์หลังรับวัคซีนโดสแรก อาสาสมัครที่รับวัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทค และของแอสตราเซนเนกามีอัตราการเข้าโรงพยาบาลลดลงร้อยละ 85 และร้อยละ 94 ตามลำดับ หากดูเฉพาะคนอายุ 80 ปีขึ้นไป อัตราการเข้าโรงพยาบาลลดลงราวร้อยละ 81 เมื่อรวมผลของวัคซีนทั้งสองขนาน สำนักงานการแพทย์ยุโรปอนุมัติให้ใช้วัคซีนของแอสตราเซนเนกากับคนทุกวัยตั้งแต่เดือนมกราคม แต่เยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลีแนะว่า ไม่ควรฉีดให้ผู้มีอายุเกิน 65 ปีขึ้นไป โดยอ้างเรื่องยังขาดข้อมูลเรื่องประสิทธิภาพกับคนชรา เยอรมนีกำลังหาทางหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดระลอกสามเนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อใหม่ยังคงสูงอยู่มาก มียอดผู้ป่วยสะสมกว่า 2.4 ล้านคน เสียชีวิตกว่า 70,000 คน จนถึงขณะนี้ฉีดวัคซีนของแอสตราเซนเนกาไม่ถึง 300,000 […]

จีนแบนบีบีซีจากข้อพิพาทเรื่องรายงานข่าวซินเจียง

หน่วยงานควบคุมการแพร่ภาพกระจายเสียงของจีนสั่งห้ามการออกอากาศของบีบีซี เวิลด์ นิวส์ ของอังกฤษ โดยกล่าวหาว่าละเมิดแนวปฏิบัติที่กำหนดไว้ จากกรณีที่บีบีซี รายงานข่าวเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อชาวอุยกูร์ที่เป็นมุสลิมชนกลุ่มน้อยในมณฑลซินเจียงของรัฐบาลจีน

จีนกล่าวหาบีบีซีรายงานข่าวปลอม

ปักกิ่ง 5 ก.พ. – บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือ บีบีซี ตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์ของเจ้าหน้าที่จีนและสื่อสังคมออนไลน์จีน ที่ทำให้ข้อพิพาททางการทูตระหว่างทั้งสองฝ่ายทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ หลังจาก 1 วันก่อนหน้านี้ อังกฤษเพิกถอนใบอนุญาตโทรทัศน์ของ ซีจีทีเอ็น โทรทัศน์ทางการของจีน อังกฤษกับจีนมีปมขัดแย้งกันมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่จีนใช้กำลังปราบปรามและลงโทษผู้เห็นต่างในฮ่องกง ความกังวลด้านความปลอดภัยในเทคโนโลยีของหัวเว่ย บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีน รวมถึงการดูแลชนกลุ่มน้อยอุยกูร์ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ของจีน ขณะที่ออฟคอม (Ofcom) หน่วยงานกำกับดูแลสื่อของอังกฤษสั่งเพิกถอนใบอนุญาตสถานีโทรทัศน์ซีจีทีเอ็น ซึ่งเป็นช่องรายการข่าวโทรทัศน์ภาคภาษาอังกฤษของสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนหรือซีซีทีวี หลังจากที่ได้ข้อสรุปว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีอำนาจสูงสุดในงานด้านบรรณาธิการข่าวของสถานีดังกล่าว นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์เทเลกราฟของอังกฤษยังรายงานว่า ในช่วงปีที่ผ่านมาอังกฤษได้ส่งตัวสายลับจีน 3 คนที่ใช้วีซ่าสื่อมวลชนบังหน้ากลับประเทศ ในขณะเดียวกัน กระทรวงต่างประเทศของจีนได้ออกแถลงการณ์กล่าวหาบีบีซีว่า รายงานข่าวปลอมเกี่ยวกับสถานการณ์โรควิด-19 ในจีน และเรียกร้องให้บีบีซีออกมาขอโทษ ทั้งยังระบุว่า บีบีซี นำเรื่องโรคโควิด-19 มาโยงกับการเมือง คำวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าวของกระทรวงต่างประเทศจีนกลายเป็นที่กล่าวถึงจนติดอันดับต้น ๆ ของเวย์ปั๋วที่เป็นแพลตฟอร์มคล้ายทวิตเตอร์ของจีน ขณะที่บีบีซีระบุว่า รายงานข่าวที่เกิดขึ้นมีความเป็นกลางและปราศจากอคติ ก่อนหน้านี้ บีบีซีได้ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหลังรายงานว่า ผู้หญิงในค่ายกักกันของชนกลุ่มน้อยอุยกูร์และชาวมุสลิมอื่น ๆ ที่เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ถูกข่มขืนและทารุณกรรม.-สำนักข่าวไทย

เปิดทวีตยอดนิยมจากดีเบตนัดสุดท้าย

ลอนดอน 23 ต.ค.- บรรษัทกระจายเสียงอังกฤษหรือบีบีซี (BBC) รวบรวมทวีตที่มีคนรีทวีตมากที่สุดจากการโต้วาทีหรือดีเบตนัดสุดท้ายระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จากพรรครีพับลิกันและนายโจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครตเมื่อคืนวันที่ 22 ตุลาคมตามเวลาสหรัฐ ตรงกับเช้าวันที่ 23 ตุลาคมตามเวลาในไทย บีบีซีออกตัวว่า สื่อสังคมออนไลน์ไม่ใช่เครื่องวัดความคิดเห็นที่เที่ยงตรง แต่ให้ภาพที่น่าสนใจว่า ผู้คนมีปฏิกิริยาต่อเหตุการณ์ทางการเมืองอย่างไร ผู้สื่อข่าวบีบีซีเข้าไปดูทวีตของคนดังหลายคนระหว่างดีเบตพบว่า ทวีตที่ได้รับความนิยมถูกรีทวีตมากที่สุดจนถึงขณะนี้คือ ทวีตของไบเดนที่เรียกร้องให้ประธานาธิบดีทรัมป์เปิดเผยการยื่นภาษี ไม่เช่นนั้นก็หุบปากเรื่องทุจริตไปเสีย ทวีตยอดนิยมอันดับสองเป็นของเบนจามิน ชาปิโร นักวิจารณ์การเมืองสายอนุรักษ์นิยมวัย 36 ปี ที่ให้ทรัมป์ชนะในหัวข้อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพราะสามารถกดดันจนไบเดนยอมรับว่าต้องการเลิกอุตสาหกรรมน้ำมัน ทวีตยอดนิยมอันดับสามเป็นของเจมส์ วูดส์ นักแสดงและผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์วัย 73 ปี ที่กล่าวหาคริสเทน เวลเกอร์ ผู้ดำเนินรายการดีเบตว่า เข้าข้างไบเดนด้วยการขัดจังหวะทรัมป์ว่าต้องเปลี่ยนไปคุยหัวข้อถัดไป แต่กลับปล่อยให้ไบเดนได้ตอบทุกครั้ง และทวีตยอดนิยมอันดับสี่เป็นของแดเนียล เดล ผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงของซีเอ็นเอ็น (CNN) วัย 35 ปี ที่กล่าวหาทรัมป์ว่าโกหกยิ่งกว่าดีเบตนัดแรก.-สำนักข่าวไทย

เผยเอมิเรตส์จะเลิกจ้างมากถึง 9,000 คน

บีบีซีอ้างประธานสายการบินเอมิเรตส์ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ว่า เตรียมจะเลิกจ้างมากถึง 9,000 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 15 เพราะผลกระทบจากโรคโควิด-19

ฝ่ายค้านอังกฤษเรียกร้องรัฐบาลมีแผนยุติปิดเมือง

ผู้นำพรรคแรงงานที่เป็นฝ่ายค้านอังกฤษเรียกร้องรัฐบาลกำหนดแผนยุติการปิดเมืองเพราะโรคโควิด-19 เพื่อให้ประชาชนมีความหวังและเพื่อไม่ให้ซ้ำรอยความผิดพลาดในอดีต

1 2 3 4 5
...