
กต.เผยไม่มีคนไทยได้รับผลกระทบจากเหตุประท้วงในกรุงธากา
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เผยยังไม่มีรายงานคนไทยได้รับผลกระทบจากเหตุประท้วงรุนแรงของกลุ่มนักศึกษาในกรุงธากา บังกลาเทศ เตือนงดการเดินทางออกจากที่พัก ติดตามประกาศจากทางการท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เผยยังไม่มีรายงานคนไทยได้รับผลกระทบจากเหตุประท้วงรุนแรงของกลุ่มนักศึกษาในกรุงธากา บังกลาเทศ เตือนงดการเดินทางออกจากที่พัก ติดตามประกาศจากทางการท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด
นายกรัฐมนตรี ห่วงสถานการณ์ความรุนแรงในบังกลาเทศ พร้อมประสานความช่วยเหลือคนไทย
ธากา 17 ก.ค.- บังกลาเทศประกาศว่า จะปิดมหาวิทยาลัยทุกแห่งอย่างไม่มีกำหนดตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทั้งของรัฐและของเอกชน หลังจากการประท้วงต่อต้านระบบโควต้ารับราชการกลายเป็นเหตุรุนแรง มีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 คน บาดเจ็บอีก 10 กว่าคน คณะกรรมาธิการเงินอุดหนุนมหาวิทยาลัยมีคำสั่งเมื่อค่ำวันอังคารให้มหาวิทยาลัยทุกแห่งปิดการเรียนการสอน และให้นักศึกษาออกจากมหาวิทยาลัยทุกแห่งโดยทันที ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย นอกจากนี้ยังรวมถึงโรงเรียนมัธยมศึกษา วิทยาลัย และสถานศึกษาอื่น ๆ ด้วย นักศึกษาในบังกลาเทศประท้วงมาหลายสัปดาห์ เนื่องจากไม่พอใจระบบโควต้าที่สงวนตำแหน่งงานรับราชการไว้ร้อยละ 56 โดยแบ่งเป็นร้อยละ 30 ให้แก่ครอบครัวนักต่อสู้ในสงครามเรียกร้องเอกราชจากปากีสถานปี 2514, ร้อยละ 10 ให้แก่สตรี, ร้อยละ 10 ให้แก่ผู้มาจากเขตด้อยพัฒนา, ร้อยละ 5 ให้แก่ชุมชนคนพื้นเมือง และร้อยละ 1 ให้แก่คนพิการ ขณะที่คนหนุ่มสาวชาวบังกลาเทศเกือบ 32 ล้านคนไม่มีงานทำ หรือออกจากระบบการศึกษา จากจำนวนประชากรทั้งประเทศ 170 ล้านคน การประท้วงรุนแรงขึ้นเมื่อนายกรัฐมนตรีเชค ฮาสินาไม่ทำตามข้อเรียกร้องของผู้ประท้วง โดยอ้างเรื่องกระบวนการทางศาล และตราหน้าผู้ประท้วงด้วยคำที่บังกลาเทศเคยใช้เรียกผู้ถูกกล่าวหาว่าคบคิดกับกองทัพปากีสถานช่วงสงครามเรียกร้องเอกราช การประท้วงกลายเป็นความรุนแรงในสัปดาห์นี้ เมื่อผู้ประท้วงจำนวนมากปะทะกับสมาชิกกลุ่มนักศึกษาของพรรคสันนิบาตอวามี ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล ตำรวจใช้กระสุนยางและแก๊สน้ำตาสลายการประท้วงที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ […]
“นลินี ทวีสิน” หารือนายกฯ บังกลาเทศ มุ่งขยายการค้า-ลงทุน ส่งเสริมความสัมพันธ์ทุกมิติ นักธุรกิจบังกลาเทศร่วมกิจกรรมจับคู่กับนักธุรกิจไทยกว่า 120 คู่
กระทรวงด้านกิจการภัยพิบัติและบรรเทาทุกข์ของบังกลาเทศกล่าววันนี้ว่า อุทกภัยในบังกลาเทศได้พัดพาบ้านเรือนประชาชนและทำให้โรงเรียนต้องปิดการเรียนการสอน
นิวเดลี 28 พ.ค.- ฝนตกกระหน่ำเพราะไซโคลนริมาล (Remal) ทำให้เหมืองหินแห่งหนึ่งในรัฐมิโซรัม ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดียพังถล่ม มีคนเสียชีวิต 15 คน และติดอยู่ข้างใน 7 คน เจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยาแจ้งว่า ไซโคลนได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว หลังจากพัดกระหน่ำพื้นที่ริมชายฝั่งเมื่อวานนี้ ทำให้ประชาชนหลายล้านคนทางตะวันออกของอินเดียและบังกลาเทศไม่มีไฟฟ้าใช้ อย่างไรก็ดี ฝนที่ยังตกไม่หยุดในวันนี้เป็นอุปสรรคต่อการช่วยเหลือผู้ติดอยู่ในเหมืองหิน 7 คน บริเวณชานเมืองไอซอล ที่เป็นเมืองเอกของรัฐมิโซรัม หลังจากเหมืองหินพังถล่มเพราะฝนตกหนัก นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิตอีก 7 คน ในพื้นที่อื่นของรัฐมิโซรัมและ 1 คนในรัฐอัสสัมของอินเดีย ส่วนที่บังกลาเทศประชาชนตามริมฝั่งยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้และถูกตัดขาดด้านการสื่อสาร เจ้าหน้าที่ด้านภัยพิบัติระบุว่า ไซโคลนสร้างความเสียหายด้านทรัพย์สิน แต่ไม่ทำให้มีคนเสียชีวิตและบาดเจ็บมากนัก เนื่องจากมีการอพยพประชาชนครั้งใหญ่เป็นการล่วงหน้า ริมาลเป็นไซโคลนลูกแรกในปีนี้ของเอเชียใต้ คาดว่าพื้นที่ลุ่มต่ำของภูมิภาคนี้จะเผชิญกับพายุถี่ขึ้น อันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทำให้ผิวน้ำทะเลมีอุณหภูมิสูงขึ้น.-814.-สำนักข่าวไทย
ไซโคลนริมาลถล่มพื้นที่ชายฝั่งของอินเดียและบังกลาเทศ สร้างความเสียหายหนัก โดยเฉพาะตามแนวชายฝั่ง ผู้คนตามเมืองต่างๆ หลายล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้ เนื่องจากเสาไฟฟ้าถูกลมพัดโค่น
ธากา/โกลกาตา 27 พ.ค.- ไซโคลนริมาล (Remal) ขึ้นฝั่งบังกลาเทศและอินเดียเมื่อค่ำวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้เกิดลมกระโชกแรงและฝนตกหนัก โค่นเสาไฟฟ้าและต้นไม้ล้ม ประชาชนหลายล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้ สำนักอุตุนิยมวิทยาอินเดียแจ้งว่า ไซโคลนพัดผ่านพื้นที่ริมชายฝั่งของท่าเรือมองลาของบังกลาเทศ และหมู่เกาะซาการ์ของอินเดีย โดยมีความเร็วลมวัดได้สูงสุด 135 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่สำนักอุตนิยมวิทยาระดับภูมิภาคในเมืองโกลกาตาของอินเดียแจ้งว่า ไซโคลนเริ่มขึ้นฝั่งเมื่อเวลา 21:00 น.วันอาทิตย์ตามเวลาอินเดีย และพัดกระหน่ำต่อเนื่องนานถึง 5 ชั่วโมง ตำรวจโกลกาตาได้รับรายงานผู้เสียชีวิต 1 คนเพราะก้อนคอนกรีตตกใส่ขณะเดินอยู่บนถนน มีรายงานว่า กระท่อมและบ้านดินตามริมชายฝั่งของอินเดียและบังกลาเทศได้รับความเสียหายจากไซโคลนริมาล ซึ่งเป็นไซโคลนลูกแรกของปีนี้ ทางการบังกลาเทศได้อพยประชาชนประมาณ 800,000 คนออกจากพื้นที่ท่าเรือของเมืองมองลาและเมืองจิตตะกอง รวมถึงอำเภอริมชายฝั่งอีก 9 แห่ง ไปยังสถานที่พักพิงตั้งแต่บ่ายวันอาทิตย์ก่อนไซโคลนขึ้นฝั่ง ส่วนอินเดียอพยพประชาชนประมาณ 110,000 คน.-814.-สำนักข่าวไทย
นิวเดลี 30 เม.ย.- อินเดียมีผู้เสียชีวิตเพิ่มจากโรคลมแดดขณะคลื่นความร้อนปกคลุมทั่วประเทศ อุณหภูมิสูงสุดเกือบ 50 องศาเซลเซียส ส่วนบังกลาเทศเผชิญคลื่นความร้อนจนต้องประกาศปิดโรงเรียนประถมของรัฐทั่วประเทศอีกครั้ง หลังกลับมาเปิดได้วันเดียว เช่นเดียวกับฟิลิปปินส์ต้องปิดโรงเรียน กระทบทั้งเด็กๆ และคนหาเช้ากินค่ำ สำนักอุตุนิยมวิทยาอินเดียรายงานว่า เกิดคลื่นความร้อนรุนแรงกว่าปกติหลายวันระหว่างเดือนเมษายนและมิถุนายนในปีนี้ ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คนในรัฐเกรละ ทางภาคใต้ของประเทศจากโรคลมแดด หรือฮีทสโตรก ขณะที่อินเดียกำลังต่อสู้กับอุณหภูมิที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ อุณหภูมิในรัฐเกรละพุ่งถึง 41.9 องศาเซลเซียส สูงกว่าปกติเกือบ 5.5 องศาเซลเซียส ทางการท้องถิ่นต้องประกาศเตือนให้ประชาชนหาทางป้องกันตนเองจากอากาศร้อน เช่น พักอยู่ในอาคารหรือที่ร่ม ในรัฐทมิฬนาฑูที่อยู่ใกล้กัน นักการเมืองท้องถิ่นออกแจกผลไม้สด มะพร้าวและเครื่องดื่มเย็น ๆ ในเมืองเจนไน เพื่อช่วยประชาชนดับร้อน ส่วนในรัฐโอฑิศา ทางตะวันออก อุณหภูมิพุ่งแตะ 44.9 องศาเซลเซียสในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สูงที่สุดในเดือนเมษายน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คนจากโรคลมแดด ด้านรัฐบาลบังกลาเทศสั่งปิดโรงเรียนประถมศึกษาของรัฐทั่วประเทศอีกครั้ง รวมถึงสถานศึกษาระดับชั้นอื่นๆ กว่าครึ่งประเทศ รวมทั้งในกรุงธากา เนื่องจากคลื่นอากาศร้อนรุนแรง อุณหภูมิพุ่งสูงเกิน 43 องศาเซลเซียสเมื่อวานนี้ โรงเรียนทั่วประเทศ ซึ่งปิดการเรียนการสอนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจากคลื่นความร้อน กลับมาเปิดอีกครั้งในวันอาทิตย์ […]
ธากา 29 เม.ย.- บังกลาเทศกลับมาเปิดโรงเรียนหลังจากปิดเรียนทั้งสัปดาห์หนีอากาศร้อน ขณะที่ชาวอินเดียพากันไปเล่นน้ำทะเลเพื่อคลายร้อน ท่ามกลางสภาพสภาพอากาศร้อนจัด โรงเรียนในบังกลาเทศกลับมาเปิดการเรียนการสอนอีกครั้งเมื่อวันอาทิตย์ โดยมีพ่อแม่ผู้ปกครองเดินทางมาส่งบุตรหลานที่โรงเรียนเพราะเป็นห่วงเรื่องสภาพอากาศร้อนจัดอาจทำให้เด็กๆ ล้มป่วยได้ โรงเรียนของชาวมุสลิมเปิดการเรียนการสอนสัปดาห์ละ 5 วัน ตั้งแต่วันอาทิตย์ถึงวันพฤหัสบดี เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลบังกลาเทศใช้มาตรการระงับการเรียนการสอนในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ไปจนถึงวันสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อปกป้องนักเรียนนักศึกษาจำนวนกว่า 33 ล้านคนจากอากาศร้อน ภายหลังอุณหภูมิเฉลี่ยในบังกลาเทศพุ่งสูงเกิด 40 องศาเซลเซียสมานานนับสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม โรงอนุบาลและเนิร์สเซอรีจะยังคงปิดการเรียนการสอนต่อไป ส่วนการเรียนการสอนในโรงเรียนประถมศึกษาและถูกปรับลดให้สั้นลง เพื่อไม่ให้เด็กๆ เผชิญความเครียดจากสภาพอากาศที่ร้อนเกินไป สำนักอุตุนิยมวิทยาบังกลาเทศแจ้งว่า สภาพอากาศร้อนจัดจะยังปกคลุมทั่วบังกลาเทศ รวมถึงในกรุงธากาต่อไปอีก 2-3 วัน และพยากรณ์ว่าจะเกิดฝนตกหลังจากนั้น ซึ่งจะช่วยบรรเทาสภาพอากาศร้อนจัดลงได้ บังกลาเทศไม่เคยเผชิญคลื่นความร้อนรุนแรงปกคลุมทั่วประเทศรุนแรงเช่นนี้นับจากปี 2491 โดยในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา อุณหภูมิในบางวันพุ่งสูงถึง 43 องศาเซลเซียส รัฐบาลประกาศเตือนภัยความร้อนแล้ว 4 ครั้งเฉพาะในเดือนนี้ ส่วนที่อินเดีย ผู้คนในนครมุมไบและอีกหลายเมืองที่ติดริมฝั่งทะเล พากันไปเล่นน้ำทะเลในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อคลายร้อน ท่ามกลางสภาพสภาพอากาศร้อนจัด และคลื่นความร้อนแผ่ปกคลุมหลายพื้นที่ของประเทศ อุณหภูมิในนครมุมไบช่วงสุดสัปดาห์อยู่ที่ 38 องศาเซลเซียส ที่รัฐโอฑิศาเผชิญสภาพอากาศร้อนจัดเมื่อวันศุกร์ […]
คลื่นความร้อนขั้นรุนแรงแผ่ปกคลุมบังกลาเทศเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ทำให้อุณหภูมิพุ่งสูงขึ้นไปถึง 43 องศาเซลเซียส ในขณะที่เจ้าหน้าที่ออกประกาศเตือนภัยคลื่นความร้อนทั่วประเทศตั้งแต่เมื่อวานนี้
สตม.จับกุมชาวบังกลาเทศ 19 คน “ใช้ดวงตรา รอยตราประทับปลอม และลักลอบหลบหนีเข้าเมือง” เพื่อไปทำงานมาเลเซีย