ไซโคลน “ริมาล” ถล่มอินเดีย-บังกลาเทศ
ไซโคลนริมาลถล่มพื้นที่ชายฝั่งของอินเดียและบังกลาเทศ สร้างความเสียหายหนัก โดยเฉพาะตามแนวชายฝั่ง ผู้คนตามเมืองต่างๆ หลายล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้ เนื่องจากเสาไฟฟ้าถูกลมพัดโค่น
ไซโคลนริมาลถล่มพื้นที่ชายฝั่งของอินเดียและบังกลาเทศ สร้างความเสียหายหนัก โดยเฉพาะตามแนวชายฝั่ง ผู้คนตามเมืองต่างๆ หลายล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้ เนื่องจากเสาไฟฟ้าถูกลมพัดโค่น
ธากา/โกลกาตา 27 พ.ค.- ไซโคลนริมาล (Remal) ขึ้นฝั่งบังกลาเทศและอินเดียเมื่อค่ำวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้เกิดลมกระโชกแรงและฝนตกหนัก โค่นเสาไฟฟ้าและต้นไม้ล้ม ประชาชนหลายล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้ สำนักอุตุนิยมวิทยาอินเดียแจ้งว่า ไซโคลนพัดผ่านพื้นที่ริมชายฝั่งของท่าเรือมองลาของบังกลาเทศ และหมู่เกาะซาการ์ของอินเดีย โดยมีความเร็วลมวัดได้สูงสุด 135 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่สำนักอุตนิยมวิทยาระดับภูมิภาคในเมืองโกลกาตาของอินเดียแจ้งว่า ไซโคลนเริ่มขึ้นฝั่งเมื่อเวลา 21:00 น.วันอาทิตย์ตามเวลาอินเดีย และพัดกระหน่ำต่อเนื่องนานถึง 5 ชั่วโมง ตำรวจโกลกาตาได้รับรายงานผู้เสียชีวิต 1 คนเพราะก้อนคอนกรีตตกใส่ขณะเดินอยู่บนถนน มีรายงานว่า กระท่อมและบ้านดินตามริมชายฝั่งของอินเดียและบังกลาเทศได้รับความเสียหายจากไซโคลนริมาล ซึ่งเป็นไซโคลนลูกแรกของปีนี้ ทางการบังกลาเทศได้อพยประชาชนประมาณ 800,000 คนออกจากพื้นที่ท่าเรือของเมืองมองลาและเมืองจิตตะกอง รวมถึงอำเภอริมชายฝั่งอีก 9 แห่ง ไปยังสถานที่พักพิงตั้งแต่บ่ายวันอาทิตย์ก่อนไซโคลนขึ้นฝั่ง ส่วนอินเดียอพยพประชาชนประมาณ 110,000 คน.-814.-สำนักข่าวไทย
นิวเดลี 30 เม.ย.- อินเดียมีผู้เสียชีวิตเพิ่มจากโรคลมแดดขณะคลื่นความร้อนปกคลุมทั่วประเทศ อุณหภูมิสูงสุดเกือบ 50 องศาเซลเซียส ส่วนบังกลาเทศเผชิญคลื่นความร้อนจนต้องประกาศปิดโรงเรียนประถมของรัฐทั่วประเทศอีกครั้ง หลังกลับมาเปิดได้วันเดียว เช่นเดียวกับฟิลิปปินส์ต้องปิดโรงเรียน กระทบทั้งเด็กๆ และคนหาเช้ากินค่ำ สำนักอุตุนิยมวิทยาอินเดียรายงานว่า เกิดคลื่นความร้อนรุนแรงกว่าปกติหลายวันระหว่างเดือนเมษายนและมิถุนายนในปีนี้ ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คนในรัฐเกรละ ทางภาคใต้ของประเทศจากโรคลมแดด หรือฮีทสโตรก ขณะที่อินเดียกำลังต่อสู้กับอุณหภูมิที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ อุณหภูมิในรัฐเกรละพุ่งถึง 41.9 องศาเซลเซียส สูงกว่าปกติเกือบ 5.5 องศาเซลเซียส ทางการท้องถิ่นต้องประกาศเตือนให้ประชาชนหาทางป้องกันตนเองจากอากาศร้อน เช่น พักอยู่ในอาคารหรือที่ร่ม ในรัฐทมิฬนาฑูที่อยู่ใกล้กัน นักการเมืองท้องถิ่นออกแจกผลไม้สด มะพร้าวและเครื่องดื่มเย็น ๆ ในเมืองเจนไน เพื่อช่วยประชาชนดับร้อน ส่วนในรัฐโอฑิศา ทางตะวันออก อุณหภูมิพุ่งแตะ 44.9 องศาเซลเซียสในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สูงที่สุดในเดือนเมษายน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คนจากโรคลมแดด ด้านรัฐบาลบังกลาเทศสั่งปิดโรงเรียนประถมศึกษาของรัฐทั่วประเทศอีกครั้ง รวมถึงสถานศึกษาระดับชั้นอื่นๆ กว่าครึ่งประเทศ รวมทั้งในกรุงธากา เนื่องจากคลื่นอากาศร้อนรุนแรง อุณหภูมิพุ่งสูงเกิน 43 องศาเซลเซียสเมื่อวานนี้ โรงเรียนทั่วประเทศ ซึ่งปิดการเรียนการสอนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจากคลื่นความร้อน กลับมาเปิดอีกครั้งในวันอาทิตย์ […]
ธากา 29 เม.ย.- บังกลาเทศกลับมาเปิดโรงเรียนหลังจากปิดเรียนทั้งสัปดาห์หนีอากาศร้อน ขณะที่ชาวอินเดียพากันไปเล่นน้ำทะเลเพื่อคลายร้อน ท่ามกลางสภาพสภาพอากาศร้อนจัด โรงเรียนในบังกลาเทศกลับมาเปิดการเรียนการสอนอีกครั้งเมื่อวันอาทิตย์ โดยมีพ่อแม่ผู้ปกครองเดินทางมาส่งบุตรหลานที่โรงเรียนเพราะเป็นห่วงเรื่องสภาพอากาศร้อนจัดอาจทำให้เด็กๆ ล้มป่วยได้ โรงเรียนของชาวมุสลิมเปิดการเรียนการสอนสัปดาห์ละ 5 วัน ตั้งแต่วันอาทิตย์ถึงวันพฤหัสบดี เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลบังกลาเทศใช้มาตรการระงับการเรียนการสอนในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ไปจนถึงวันสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อปกป้องนักเรียนนักศึกษาจำนวนกว่า 33 ล้านคนจากอากาศร้อน ภายหลังอุณหภูมิเฉลี่ยในบังกลาเทศพุ่งสูงเกิด 40 องศาเซลเซียสมานานนับสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม โรงอนุบาลและเนิร์สเซอรีจะยังคงปิดการเรียนการสอนต่อไป ส่วนการเรียนการสอนในโรงเรียนประถมศึกษาและถูกปรับลดให้สั้นลง เพื่อไม่ให้เด็กๆ เผชิญความเครียดจากสภาพอากาศที่ร้อนเกินไป สำนักอุตุนิยมวิทยาบังกลาเทศแจ้งว่า สภาพอากาศร้อนจัดจะยังปกคลุมทั่วบังกลาเทศ รวมถึงในกรุงธากาต่อไปอีก 2-3 วัน และพยากรณ์ว่าจะเกิดฝนตกหลังจากนั้น ซึ่งจะช่วยบรรเทาสภาพอากาศร้อนจัดลงได้ บังกลาเทศไม่เคยเผชิญคลื่นความร้อนรุนแรงปกคลุมทั่วประเทศรุนแรงเช่นนี้นับจากปี 2491 โดยในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา อุณหภูมิในบางวันพุ่งสูงถึง 43 องศาเซลเซียส รัฐบาลประกาศเตือนภัยความร้อนแล้ว 4 ครั้งเฉพาะในเดือนนี้ ส่วนที่อินเดีย ผู้คนในนครมุมไบและอีกหลายเมืองที่ติดริมฝั่งทะเล พากันไปเล่นน้ำทะเลในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อคลายร้อน ท่ามกลางสภาพสภาพอากาศร้อนจัด และคลื่นความร้อนแผ่ปกคลุมหลายพื้นที่ของประเทศ อุณหภูมิในนครมุมไบช่วงสุดสัปดาห์อยู่ที่ 38 องศาเซลเซียส ที่รัฐโอฑิศาเผชิญสภาพอากาศร้อนจัดเมื่อวันศุกร์ […]
คลื่นความร้อนขั้นรุนแรงแผ่ปกคลุมบังกลาเทศเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ทำให้อุณหภูมิพุ่งสูงขึ้นไปถึง 43 องศาเซลเซียส ในขณะที่เจ้าหน้าที่ออกประกาศเตือนภัยคลื่นความร้อนทั่วประเทศตั้งแต่เมื่อวานนี้
สตม.จับกุมชาวบังกลาเทศ 19 คน “ใช้ดวงตรา รอยตราประทับปลอม และลักลอบหลบหนีเข้าเมือง” เพื่อไปทำงานมาเลเซีย
ซิตตเว 15 ม.ค.- กลุ่มชาติพันธุ์ในรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของเมียนมาอ้างว่า สามารถยึดเมืองชายแดนที่เป็นเมืองท่าติดกับอินเดียและบังกลาเทศ ถือเป็นการสูญเสียครั้งล่าสุดของรัฐบาลเมียนมาที่กำลังสู้รบกับกลุ่มชาติพันธุ์หลายกลุ่มในหลายพื้นที่ โฆษกกองทัพอาระกันหรือเอเอ (AA) เผยเมื่อค่ำวันอาทิตย์ว่า สามารถยึดเมืองปะและวะ (Paletwa) ในรัฐชินที่อยู่ถัดขึ้นไปทางเหนือของรัฐยะไข่ เป็นเมืองท่าริมแม่น้ำคาลาดาน (Kaladan) ที่เป็นเส้นทางหลักในการทำการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน เอเอจะร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเต็มที่ในประเด็นที่เกี่ยวกับความมั่นคงพรมแดน และจะดูแลด้านการบริหารและการบังคับใช้กฎหมายในเมืองนี้ ก่อนหน้านี้เมื่อต้นเดือนมกราคม รัฐบาลเมียนมาเพิ่งเสียเมืองเล่าก์ก่ายในรัฐฉานที่มีพรมแดนติดกับจีนให้แก่พันธมิตร 3 ภราดรภาพ (Three Brotherhood Alliance) และเมื่อสัปดาห์ที่แล้วกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอางหรือทีเอ็นแอลเอ (TNLA) ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรเผยว่า ตกลงหยุดยิงกับรัฐบาลในการเจรจาที่จีนเป็นคนกลางจัดขึ้นที่เมืองคุนหมิง แต่เมื่อวานนี้พันธมิตรเผยว่า กองทัพเมียนมาได้ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ด้วยการโจมตีหลายเมืองในรัฐฉาน.-814.-สำนักข่าวไทย
คณะกรรมการการเลือกตั้งของบังกลาเทศ ประกาศผลการเลือกตั้งทั่วไปเบื้องต้น ปรากฏว่าพรรคสันนิบาต อวามี ของนายกรัฐมนตรีชีค ฮาซินา คว้าชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จ
ายกรัฐมนตรีชีค ฮาสินา ผู้นำหญิงของบังกลาเทศ น่าจะได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกันตามความคาดหมาย โดยผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการพรรคการเมืองของเธอได้รับชัยขนะได้ครองเสียงข้างมากในรัฐสภาในการเลือกตั้งทั่วไปที่จัดขึ้นเมื่อวานนี้ ซึ่งมีผู้ออกไปใช้สิทธิกันน้อยหลังจากพรรคฝ่ายค้านคว่ำบาตรการเลือกตั้ง
ผู้อพยพชาวโรฮีนจากว่า 8,000 ตนต้องประสบภัยไร้ที่อยู่อาศัยในวันนี้ หลังจากเกิดเพลิงไหม้เป็นบริเวณกว้างในค่ายผู้อพยพในเมืองค็อกซ์บาซาร์ ทางใต้ของบังกลาเทศ
คูหาเลือกตั้งถูกวางเพลิงเผาทำลายในบังกลาเทศในวันก่อนวันเลือกตั้งทั่วไปในวันพรุ่งนี้ ขณะที่เกิดเหตุเพลิงไหม้บนขบวนรถไฟ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย ซึ่งมีเด็กรวมอยู่ด้วย 2 ราย โดยรัฐบาลกล่าวว่า เป็นการวางเพลิงที่มีเป้าหมายในการทำลายประชาธิปไตย
เหตุไฟไหม้ขบวนรถไฟโดยสารในบังกลาเทศ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย และบาดเจ็บอีกหลายคน คาดวางเพลิงก่อวินาศกรรม สร้างความตื่นตระหนกก่อนเลือกตั้งใหญ่