Canada Prime Minister Justin Trudeau

สัมพันธ์แคนาดา-อินเดียร้าวฉานหนัก

ออตตาวา 15 ต.ค.- ความสัมพันธ์ระหว่างแคนาดากับอินเดียกำลังร้าวฉานอย่างหนัก ถึงขั้นที่แต่ละฝ่ายสั่งขับนักการทูตของอีกฝ่าย นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดของแคนาดาแถลงเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นเรื่องการขับนักการทูตอินเดีย 6 คน เนื่องจากต้องสงสัยว่าบุคคลเหล่านี้มีส่วนรู้เห็นกับการลอบสังหารนายฮาร์ดีป ซิงห์ นิจจาร์ ผู้นำกลุ่มแบ่งแยกชาวซิกข์ในแคนาดาเมื่อปี 2566 ผู้นำแคนาดากล่าวว่า มีหลักฐานเชื่อมโยงสายลับชาวอินเดียกับเหตุการณ์ดังกล่าว ด้านนางเมลานี จอย รัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดากล่าวว่า ทางการแคนาดาเคยร้องขอให้อินเดียยกเลิกความคุ้มกันทางการทูตของนักการทูตอินเดียทั้ง 6 คน เพื่อให้หน่วยงานสอบสวนของแคนาดาสามารถสอบปากคำบุคคลเหล่านี้ได้ แต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือจากอินเดีย แคนาดาจึงจำเป็นต้องขับนักนักการทูตเหล่านี้ ขณะที่อินเดียตอบโต้ด้วยการสั่งให้นักการทูตระดับสูงของแคนาดา 6 คนเดินทางออกจากอินเดียภายในวันที่ 19 ตุลาคมนี้ นอกจากนี้กระทรวงการต่างประเทศอินเดียยังเรียกตัวข้าหลวงใหญ่แคนาดาเข้าพบอีกด้วย อินเดียให้เห็นผลในการขับนักการทูตแคนาดาว่า เป็นเพราะไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยของบุคคลเหล่านี้ได้ ส่วนนักการทูตอินเดียในแคนาดากลับประเทศตามที่รัฐบาลเรียกกลับ ไม่ได้ถูกแคนาดาขับออกนอกประเทศตามที่แคนาดาแถลงแต่อย่างใด แคนาดาได้เรียกตัวนักการทูตกลับจากอินเดียมากกว่า 40 คนเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน หลังจากอินเดียขอให้แคนาดาลดจำนวนเจ้าหน้าที่ทูตลง และที่ผ่านมาอินเดียได้ยืนกรานปฏิเสธมาตลอดว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ลอบสังหารผู้นำชาวซิกข์ในแคนาดา.-816(814).-สำนักข่าวไทย

“บิล ริชาร์ดสัน” นักการทูตผู้เดินทางรอบโลกของสหรัฐถึงแก่กรรม

วอชิงตัน 3 ก.ย.- นายบิล ริชาร์ดสัน นักการเมืองและนักการทูตสหรัฐที่เดินทางปฏิบัติภารกิจรอบโลกถึงแก่กรรมแล้วด้วยวัย 75 ปี ศูนย์ริชาร์ดสันเพื่อการข้องเกี่ยวกับโลกแถลงว่า ริชาร์ดสันถึงแก่กรรมอย่างสงบในขณะนอนหลับเมื่อคืนวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น เขาใช้ทั้งชีวิตเพื่อคนอื่น ทั้งเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งในรัฐบาลและในหน้าที่การงานหลังจากนั้น เพื่อช่วยผู้ถูกจับเป็นตัวประกันหรือถูกคุมขังอย่างไม่ถูกต้องในต่างประเทศ ริชาร์ดสันมีบิดาเป็นชาวอเมริกัน มารดาเป็นชาวเม็กซิกัน ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐนิวเม็กซิโกปี 2546-2554 รัฐมนตรีพลังงานปี 2541-2544 เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติปี 2540-2541 เขาเคยสมัครชิงเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2551 แต่ถอนตัวและให้การสนับสนุนบารัค โอบามาที่ได้เป็นตัวแทนพรรค ริชาร์ดสันได้รับฉายา “อินเดียน่า โจนส์” แห่งการทูตสหรัฐ และเป็นที่รู้จักเรื่องการกล้าเผชิญหน้ากับผู้นำหลายประเทศที่ถูกสหรัฐตราหน้าให้เป็นรัฐนอกรีต เช่น อดีตประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซนของอิรัก อดีตประธานาธิบดีฟิเดล คาสโตรของคิวบา ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐแถลงยกย่องนายริชาร์ดสันว่า เดินทางไปทุกที่และพบกับทุกคนเพื่อช่วยชาวอเมริกันที่ถูกควบคุมตัวในสถานที่ที่อันตรายที่สุดในโลก เช่น เกาหลีเหนือ อิรัก ซูดาน ล่าสุดเขามีบทบาทในการช่วยให้บริตนีย์ ไกรเนอร์ นักบาสเก็ตบอลชื่อดังได้กลับประเทศในเดือนธันวาคม 2565 หลังจากถูกรัสเซียควบคุมตัวโทษฐานครอบครองตลับน้ำมันกัญชา.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียขอให้ข้าราชการเยอรมนีกลับประเทศ

เบอร์ลิน 27 พ.ค.- แหล่งข่าวในรัฐบาลเยอรมนีเผยว่า ข้าราชการของเยอรมนีหลายร้อยคนที่ทำงานในภาคการศึกษาและวัฒนธรรมที่รัสเซียจะต้องเดินทางออกจากรัสเซียตามที่ทางการรัสเซียขอมา แหล่งข่าวเผยว่า ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากทางการรัสเซียบังคับให้เยอรมนีต้องลดจำนวนเจ้าหน้าที่ทางการทูตและเจ้าหน้าที่ประจำสถาบันสาธารณะอย่างสถาบันเกอเธ่ที่เป็นองค์กรทางวัฒนธรรม และโรงเรียนเยอรมันในกรุงมอสโกตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน เยอรมนีเคยเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจกับรัสเซีย แต่หลังจากเกิดสงครามในยูเครน เยอรมนีได้ตีตัวออกห่างจากรัสเซียและหันไปให้ความช่วยเหลือทางการเงินและการทหารแก่ยูเครน หน่วยงานด้านความมั่นคงของเยอรมนีเผยว่า ตั้งแต่เกิดสงครามในยูเครน รัสเซียมีการจารกรรมในเยอรมนีเพิ่มขึ้น เยอรมนีได้ขับนักการทูตรัสเซียจำนวนหนึ่งออกนอกประเทศเมื่อกลางเดือนเมษายน โดยระบุว่า เพื่อลดกำลังคนของหน่วยข่าวกรอง ทำให้รัสเซียตอบโต้ด้วยการขับเจ้าหน้าที่สถานทูตเยอรมนีประมาณ 20 คน ก่อนหน้านี้เยอรมนีได้ขับนักการทูตรัสเซียราว 40 คนเมื่อฤดูใบไม้ร่วงปี 2565 เพราะเชื่อว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติ และเมื่อเดือนตุลาคมปีเดียวกันเยอรมนีได้ปลดหัวหน้าสำนักงานความมั่นคงไซเบอร์ หลังจากมีข่าวว่าสนิทสนมกับที่ปรึกษาความมั่นคงไซเบอร์คนหนึ่งที่เชื่อกันว่าติดต่อกับหน่วยข่าวกรองรัสเซีย จากนั้นในเดือนพฤศจิกายนเยอรมนีได้ลงโทษจำคุก 1 ปี 9 เดือนโดยให้รอลงอาญากับทหารกองเกินนายหนึ่งในข้อหาเป็นสายลับให้รัสเซีย.-สำนักข่าวไทย

จีนขับกงสุลแคนาดาในเซี่ยงไฮ้ตอบโต้แคนาดา

จีนขับกงสุลแคนาดาประจำนครเซี่ยงไฮ้ออกนอกประเทศ เพื่อตอบโต้หลังจากแคนาดาแจ้งว่า จะขับนักการทูตจีนที่ถูกกล่าวหาว่าข่มขู่นักการเมืองแคนาดาที่วิพากษ์วิจารณ์จีน

จีนประกาศตอบโต้หลังแคนาดาจะขับนักการทูต

ปักกิ่ง 9 พ.ค.- จีนประกาศจะตอบโต้ด้วยมาตรการเด็ดขาด หลังจากแคนาดาเผยว่าจะขับนักการทูตจีนที่ข่มขู่นักการเมืองแคนาดาที่วิพากษ์วิจารณ์จีน สถานทูตจีนในแคนาดาแถลงว่า จีนจะดำเนินมาตรการตอบโต้อย่างเด็ดขาด และแคนาดาจะต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบผลที่เกิดขึ้นตามมาทุกอย่าง ด้านรัฐบาลจีนแถลงว่า ได้ยื่นหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการเรื่องแคนาดาละเมิดกฎหมายสากลและบรรทัดฐานทางการทูต พร้อมกับกล่าวหาแคนาดาว่าจงใจบั่นทอนความสัมพันธ์กับจีนที่เป็นคู่ค้าอันดับ 2 ของแคนาดา หลังจากเมลานี โจลี รัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดาประกาศเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า นายจ้าว เหว่ย เจ้าหน้าที่ที่สถานกงสุลจีนในนครโทรอนโตเป็น “บุคคลที่ไม่พึงปรารถนา” แคนาดาจะไม่ยอมให้ต่างชาติแทรกแซงกิจการภายในของแคนาดาในทุกรูปแบบ แคนาดายืนหยัดในความแน่วแน่เรื่องการปกป้องประชาธิปไตยคือสิ่งที่สำคัญที่สุด และได้เตือนนักการทูตต่างชาติในแคนาดามาโดยตลอดว่า หากมีพฤติกรรมไม่พึงปรารถนาก็จะถูกส่งกลับประเทศ นายจ้าว เหว่ยถูกทางการแคนาดาขีดเส้นตายให้เดินทางออกจากแคนาดาภายใน 5 วัน หลังจากนายไมเคิล ชง สมาชิกรัฐสภาแคนาดาเป็นแกนนำร้องเรียนตามที่หนังสือพิมพ์โกลบแอนด์เมลในแคนาดาอ้างรายงานของหน่วยข่าวกรองแคนาดาว่า หน่วยข่าวกรองของจีนได้วางแผนเล่นงานนายชงและญาติในฮ่องกง เพื่อลงโทษที่เขาสนับสนุนญัตติประณามการกระทำของจีนในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564.-สำนักข่าวไทย

ประชุมสุดยอดอาเซียนจะเน้นเรื่องเมียนมา

ลาบวน บาโจ 9 พ.ค.- การประชุมสุดยอดสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนที่อินโดนีเซียในสัปดาห์นี้จะเน้นเรื่องเมียนมาเป็นหลัก หลังจากมีข่าวกองทัพเมียนมาสังหารคนในหมู่บ้านกว่าร้อยคน และเกิดเหตุโจมตีขบวนรถนักการทูตอาเซียน การประชุมสุดยอดอาเซียน 9-11 พฤษภาคมจะมีขึ้นที่เมืองลาบวน บาโจ บนเกาะฟลอเรส รัฐมนตรีต่างประเทศและผู้นำอาเซียนจะเดินหน้าความพยายามทำให้เกิดการปฏิบัติตามแผนฉันทามติ 5 ประการที่อาเซียนและเมียนมาเห็นพ้องกันตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 เนื่องจากความพยายามทำให้รัฐบาลทหารเมียนมาเจรจากับฝ่ายต่อต้านเพื่อยุติความรุนแรงที่เกิดขึ้นตั้งแต่กองทัพรัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ล้มเหลวมาแล้วหลายครั้ง อาเซียนเผชิญกระแสเรียกร้องให้ดำเนินการอย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น หลังจากกองทัพเมียนมาใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศกับหมู่บ้านแห่งหนึ่งในฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏชาติพันธุ์เมื่อเดือนเมษายน มีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 170 คน ล่าสุดเกิดเหตุขบวนรถนักการทูตและเจ้าหน้าที่ประสานงานด้านบรรเทาทุกข์ในเมียนมาถูกโจมตีในรัฐฉาน ทางตะวันออกของเมียนมาเมื่อวันอาทิตย์ มีรายงานว่ามีนักการทูตอินโดนีเซียและสิงคโปร์รวมอยู่ในขบวนนี้ด้วย แต่ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติม.-สำนักข่าวไทย

เปิดเผยผลสรุปเหตุนักการทูตสหรัฐป่วยในหลายประเทศ

แมคลีน 2 มี.ค.- ผลการสอบสวนด้านข่าวกรองของสหรัฐได้ข้อสรุปว่า เหตุนักการทูตและบุคลากรของสหรัฐที่ประจำอยู่ในหลายประเทศทั่วโลกมีอาการป่วยปริศนาที่เรียกว่า “ฮาวานา ซินโดรม” มีความเป็นไปได้น้อยมากว่าเป็นฝีมือของศัตรูต่างชาติ เจ้าหน้าที่ข่าวกรองสหรัฐแถลงผลการสอบสวนต่อสื่อเมื่อวันพุธตามเวลาสหรัฐว่า หน่วยงานด้านข่าวกรองส่วนใหญ่ได้ข้อสรุปว่า มีความเป็นไปได้น้อยมากที่จะเป็นฝีมือของศัตรูต่างชาติ และไม่มีหลักฐานที่เชื่อถือได้ว่า ศัตรูของสหรัฐครอบครองอาวุธหรืออุปกรณ์อย่างตัวปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าพลังงานสูงที่ทำให้บุคลากรของสหรัฐในต่างประเทศมีอาการป่วย เช่น ปวดศีรษะไมเกรน คลื่นไส้ หลงลืมชั่วขณะ มึนงง อาการเหล่านี้น่าจะเป็นผลจากปัจจัยอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับศัตรูต่างชาติ เช่น มีโรคประจำตัว อาการป่วยทั่วไป ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เพราะหลายอาการสามารถอธิบายได้ด้วยเหตุผลทางการแพทย์ สิ่งแวดล้อม และสังคม หน่วยงานข่าวกรองสหรัฐ 18 แห่งทำการสอบสวนนานกว่า 2 ปี ในกว่า 90 ประเทศรวมทั้งในสหรัฐ หลังจากเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐในกรุงฮาวานาของคิวบารายงานเป็นแห่งแรกในปี 2559 ว่า มีอาการข้างต้น หลังจากนั้นก็มีรายงานจากหน่วยงานต่าง ๆ ในสหรัฐประมาณ 1,500 รายนับจนถึงปัจจุบัน.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรียขับนักการทูตรัสเซีย 4 คนออกนอกประเทศ

กระทรวงต่างประเทศออสเตรียกล่าววันนี้ว่า ออสเตรียกำลังขับนักการทูตรัสเซีย 4 คน ออกนอกประเทศ ซึ่งในจำนวนนี้มี 2 คน ที่เป็นตัวแทนของรัสเซียประจำหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติในกรุงเวียนนาของออสเตรีย

วิจารณ์ญี่ปุ่นเชิญเมียนมาร่วมรัฐพิธีศพอาเบะ

โตเกียว 25 ก.ย.- อดีตนักการทูตเมียนมาที่ถูกรัฐบาลไล่ออก วิจารณ์ญี่ปุ่นที่เชิญเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำญี่ปุ่นเข้าร่วมรัฐพิธีศพของอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะในวันที่ 27 กันยายนนี้ นายอ่อง โซ โม ถูกกระทรวงต่างประเทศเมียนมาไล่ออกจากตำแหน่งเลขานุการเอกในสถานทูตเมียนมาประจำญี่ปุ่นเมื่อเดือนพฤษภาคม 2564 เนื่องจากเข้าร่วมกับขบวนการอารยะขัดขืนต่อต้านรัฐบาลทหาร นับจากนั้นก็อุทิศตัวให้แก่การเคลื่อนไหวในญี่ปุ่นเพื่อฟื้นฟูประชาธิปไตยในเมียนมา เว็บไซต์สำนักข่าวเกียวโดนิวส์รายงานว่า นายอ่อง โซ โมให้สัมภาษณ์สื่อในญี่ปุ่นเมื่อวันเสาร์ว่า เขาและนักเคลื่อนไหวคนอื่น ๆ ไม่เข้าใจว่า เหตุใดนายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะจึงเชิญตัวแทนของระบอบที่ใช้ความรุนแรงปราบปรามประชาชนซึ่งมีทั้งเด็กและผู้หญิง ไปร่วมรัฐพิธีศพของอดีตนายกรัฐมนตรีที่ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงเช่นเดียวกัน ต่อข้อถามว่าเขาคิดว่าญี่ปุ่นควรเชิญตัวแทนจากรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติหรือเอ็นยูจี (NUG) ซึ่งเป็นรัฐบาลเงาของเมียนมาไปร่วมรัฐพิธีศพแทนหรือไม่ นายอ่อง โซ โมตอบว่า ชาวเมียนมาหลายคนคิดเช่นนั้น ส่วนตัวเขาคิดว่าญี่ปุ่นควรทำตามอังกฤษที่ไม่เชิญตัวแทนเมียนมาเข้าร่วมพระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พวกเขาไม่เห็นด้วยกับการที่ญี่ปุ่นปล่อยให้ผู้ที่ไม่ใช่ตัวแทนของประชาชนชาวเมียนมาเข้าร่วมรัฐพิธีศพในวันอังคารนี้ และอยากให้ญี่ปุ่นตัดความสัมพันธ์กับกองทัพเมียนมาโดยทันที เกียวโดนิวส์ระบุว่า แม้รัฐบาลญี่ปุ่นประณามการรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 และขอให้รัฐบาลทหารเมียนมาถอยหลังกลับไป แต่ก็ยังไม่รับรองเอ็นยูจีให้เป็นรัฐบาลที่ชอบธรรมของเมียนมา กลุ่มนี้ตั้งขึ้นในเดือนเมษายนปีเดียวกัน เป็นการรวมกลุ่มของสมาชิกรัฐสภาที่ถูกปลด ผู้ประท้วง และแกนนำชนกลุ่มน้อยที่ต่อต้านการปกครองของกองทัพ.-สำนักข่าวไทย

คุก 14 ปี ครูอเมริกันลอบขนกัญชาเข้ารัสเซีย

มอสโก 18 มิ.ย.- ศาลรัสเซียตัดสินจำคุก 14 ปี อดีตนักการทูตอเมริกันที่ผันตัวเป็นครูสอนภาษาอังกฤษและถูกจับกุมขณะลอบขนกัญชาเข้ารัสเซีย ศาลเมืองคิมกี แคว้นมอสโกอ่านคำตัดสินว่า นายมาร์ก โฟเกล พลเมืองชาวอเมริกันมีความผิด เนื่องจากลอบนำเข้ายาเสพติดปริมาณมาก นายโฟเกลวัย 60 ปีเศษบอกกับทนายว่า มีกัญชา 17 กรัมในกระเป๋าเดินทางขณะถูกควบคุมตัวที่ท่าอากาศยานเชเรเมเตียโว ในกรุงมอสโกเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2564 แพทย์เป็นคนสั่งจ่ายให้เพราะเขาผ่านการผ่าตัดกระดูกสันหลัง เขาไม่ทราบมาก่อนว่าการใช้กัญชาทางการแพทย์เป็นสิ่งผิดกฎหมายในรัสเซีย เว็บไซต์บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษหรือบีบีซีรายงานเพิ่มเติมว่า ทางการรัสเซียไม่ได้กล่าวถึงปริมาณกัญชาของเขา แต่กฎหมายรัสเซียกำหนดไว้ว่า กัญชาตั้งแต่ 100 กรัมขึ้นไปถือว่าเป็นปริมาณมาก และว่านายโฟเกลเคยทำงานในสถานทูตสหรัฐในกรุงมอสโก แต่ช่วงเวลาที่ถูกจับในกรุงมอสโก เขาทำงานเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ สำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ของรัสเซียรายงานว่า นายโฟเกลรับสารภาพผิดในข้อหาลอบนำเข้า เก็บรักษา ขนส่ง ผลิต และครอบครองสารเสพติด และถูกตัดสินจำคุกในทัณฑสถานที่มีการรักษาความปลอดภัยสูงสุด ศาลตัดสินคดีนี้หลังจากเมื่อ 2 วันก่อนได้เลื่อนการไต่สวนคดีของบริตต์นีย์ ไกรเนอร์ นักบาสเก็ตบอลอาชีพของสหรัฐและเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกวัย 31 ปีที่ถูกจับเมื่อเจ้าหน้าที่ศุลกากรพบน้ำมันกัญชาในกระเป๋าเดินทางของเธอ ขณะเดินทางเข้าไปแข่งบาสเก็ตบอลในรัสเซียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐชี้รัฐบาลทหารเมียนมาปราบกลุ่มต่อต้านไม่ได้

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.- นักการทูตระดับสูงของสหรัฐชี้ว่า รัฐบาลทหารเมียนมาไม่น่าจะปราบปรามกลุ่มต่อต้านได้ และควรฟื้นฟูการปกครองระบอบประชาธิปไตย หลังจากยึดอำนาจไปเมื่อกว่า 1 ปีก่อน นายเดเร็ก โชเลต์ ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวกับสื่อที่กรุงเทพฯ เมื่อวันศุกร์ว่า เป็นการยากมากที่รัฐบาลทหารเมียนจะคิดในแง่ความเป็นจริงว่าจะสามารถเอาชนะได้ เพราะกำลังสูญเสียดินแดน และสูญเสียอย่างร้ายแรง รัฐบาลทหารเมียนมาไม่เพียงแต่กำลังถูกโดดเดี่ยวในประชาคมโลก แต่ยังถูกโดดเดี่ยวในประเทศด้วย จึงควรยุติการสู้รบและกลับสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตย นายโชเลต์ ซึ่งอยู่ระหว่างตระเวนเยือนไทย สิงคโปร์และบรูไน เพื่อติดตามผลการหารือระหว่างสหรัฐและสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนที่สหรัฐเมื่อเดือนก่อนเผยด้วยว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังทำงานร่วมกับอาเซียนและสมาชิกอาเซียนอย่างสิงคโปร์ อินโดนีเซีย และมาเลเซียในเรื่องเกี่ยวกับเมียนมา และหวังว่าจีนจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการหาทางออกเรื่องเมียนมาด้วย กองทัพเมียนมารัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนของนางออง ซาน ซู จีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 แล้วใช้กำลังปราบปรามผู้ประท้วง รวมทั้งพลเรือนที่จับอาวุธขึ้นต่อสู้ตามการเรียกร้องของกลุ่มต่อต้าน โดยประกาศให้กลุ่มเหล่านี้เป็นกลุ่มก่อการร้าย.-สำนักข่าวไทย

นักการทูตรัสเซียในยูเอ็นยื่นใบลาออกต่อต้านสงครามยูเครน

เจนีวา 24 พ.ค. – นายบอริส บอนดาเรฟ นักการทูตชาวรัสเซียที่ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาผู้แทนถาวรรัสเซียประจำสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ที่สำนักงานใหญ่ในนครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ ประกาศยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง พร้อมระบุในถ้อยแถลงประณามรัสเซียที่เปิดฉากทำสงครามรุนแรงในยูเครน นายบอนดาเรฟ วัย 41 ปี เผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า เขาเข้าไปที่สำนักงานของยูเอ็นเมื่อช่วงเช้าวันจันทร์เหมือนวันทำงานปกติ ยื่นใบลาออก และเดินออกจากที่นั่น ทั้งยังระบุในถ้อยแถลงที่ส่งถึงคณะทูตหลายคนในนครเจนีวาว่า เขาขอประณามรัสเซียที่นำกองทหารรุกรานยูเครนและกล่าวโจมตีกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย นับตั้งแต่ที่ทำงานเป็นนักการทูตมานานถึง 20 ปี เขาได้เห็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายต่างประเทศหลายครั้งของรัสเซีย แต่ไม่มีครั้งใดที่น่าอับอายเท่ากับคำสั่งบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ นายบอนดาเรฟมองว่าคำสั่งดังกล่าวของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ที่มุ่งทำสงครามกับยูเครนและชาติตะวันตก ไม่ได้เป็นการก่ออาชญากรรมต่อชาวยูเครนเท่านั้น แต่ยังเป็นการก่ออาชญากรรมครั้งใหญ่ต่อชาวรัสเซียอีกด้วย  นายบอนดาเรฟ ซึ่งคร่ำหวอดอยู่ในวงการทูต ยังกล่าวกับสำนักข่าวเอพีว่า ขณะนี้ เขายังไม่ได้รับการติดต่อใด ๆ จากเจ้าหน้าที่ของทางการรัสเซีย และมองว่ากระทรวงต่างประเทศรัสเซียไม่ได้ทำหน้าที่เกี่ยวกับการทูตอีกแล้ว แต่กลับต้องการทำให้เกิดสงคราม รวมถึงเผยแพร่คำโกหกและความเกลียดชัง ทั้งนี้ การประกาศลาออกของนักการทูตรัสเซียเพื่อแสดงจุดยืนประท้วงรัฐบาลรัสเซียนั้นเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก เนื่องจากรัฐบาลของประธานาธิบดีปูตินได้ออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้ปราบปรามผู้ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งบุกโจมตียูเครน.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 6
...