ดีเอสไอ

อธิบดีดีเอสไอ ยัน ลัมโบกินี่ ของ “โดม”ไม่ใช่รถที่ถูกขโมย ขอให้นำหลักฐานตรวจสอบ แม้เอกสารไม่ถูกต้องก็ถือเป็นผู้เสียหาย

ดีเอสไอร่วมกับกรมศุลกากร เดินหน้าตรวจสอบบริษัทนำเข้ารถหรู ย้อนหลัง 5 ปี แยกผู้นำเข้าถูกผิด หากมีหลักฐานจะเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาทันที

ดีเอสไอบุกตรวจค้น 6 บริษัทโชว์รูมรถชื่อดัง อายัดรถยนต์หรูเลี่ยงภาษีได้ 38 คัน

ดีเอสไอ 19 พ.ค.-‘พล.ต.อ.ศรีวราห์’ ขอข้อมูลดีเอสไอ  เดินหน้าคดีตระกูล ‘อัศวโภคิน’ ส่วนคดีระเบิดหน้าโรงละคร ยังไม่มีการออกหมายจับใคร ยอมรับการสืบสวนค่อนข้างยากแต่ยังมีเบาะแสให้ติดตาม พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล  รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) เดินทางมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อติดตามความคืบหน้าและขอข้อมูลเพิ่มเติมในการดำเนินคดีกับพระธัมมชโย ผู้ต้องหาตามหมายจับ โดย รอง ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนจับกุมยังคงเดินหน้าติดตามหาตัวพระธัมมชโยอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ยังไม่มีเบาะแสใหม่เพิ่มเติม รวมถึงก็ยังไม่พบและไม่มีหลักฐานว่าพระธัมมชโยหลบหนีออกนอกประเทศ   ส่วนการหารือร่วมกับดีเอสไอวันนี้ เพื่อเร่งรัดให้พนักงานสอบสวนออกหมายจับพระธัมมชโยเพิ่มเติมในความผิด พ.ร.บ.อาคารและหาความเชื่อมโยงเรื่องการถือครองที่ดินของตระกูลอัศวโภคิน ซึ่งหากดีเอสไอให้ข้อมูลเพิ่มเติม และมีการพาดพิงถึงบุคคลใดเพิ่มเติม ทางตำรวจได้ได้เดินหน้าดำเนินคดี และออกหมายจับต่อไป   รองผบ.ตร.ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนเหตุระเบิดที่บริเวณหน้าโรงละครแห่งชาติ โดยยอมรับว่าคดีดังกล่าวสืบสวนค่อนข้างยาก แต่ยังมีเบาะแส มีข้อมูลให้ติดตามอยู่บ้าง ส่วนรายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องทำอย่างระมัดระวัง ลักษณะการก่อเหตุมีความคล้ายคลึงกับระเบิดป่วยเมื่อปี 2550 โดยในคดีนี้มีการตั้งชุดสืบสวนกว่า 50 ชุด มีทั้งตำรวจ และทหาร ขณะนี้ยังไม่มีการออกหมายจับบุคคลใดเนื่องจากต้องรอให้หลักฐานชัดเจนก่อน ยืนยันคดีนี้ไม่ตันอย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

ดีเอสไอ ส่งหมายเรียก “อนันต์ อัศวโภคิน” รับทราบข้อกล่าวหาสมคบฟอกเงิน 7 มิ.ย.นี้แล้ว ยังไร้วี่แววตอบรับ

ดีเอสไอ แถลงผลยึดอายัดรถยนต์หรูหนีภาษีกว่า 100 คัน เสียหายกว่า 2,400 ล้านบาท รัฐสูญรายได้ปีละหมื่นล้าน

ดีเอสไอ นำกำลังเข้าตรวจค้นโชว์รูมรถยนต์หรู 9 จุด คดีนำเข้ารถเลี่ยงภาษี ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล เตรียมแถลงข่าว วันพรุ่งนี้ (19 พ.ค.)