ทำเนียบฯ 1 ธ.ค.-อธิบดีดีเอสไอนำครอบครัวของนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นที่ถูกฆาตกรรม เข้าพบเลขาธิการนายกฯ ขอให้เร่งรัดติดตามตัวคนร้ายหลังคดีผ่านมาแล้ว 10 ปี พร้อมเพิ่มรางวัลนำจับเป็น 1,600,000 บาท เป็นแรงจูงใจให้ประชาชนแจ้งเบาะแสที่เป็นประโยชน์
พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยภายหลัง นำนายยาสึอากิ คาวาชิตะ และ นางเออิโกะ คาวาชิตะ บิดาและมารดาของ นางสาวโทโมโกะ คาวาชิตะ (Tomoko Kawashita) นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ซึ่งถูกฆาตกรรมบริเวณวัดสะพานหิน ในเขตอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2550 เข้าพบ พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ช่วยเร่งการติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ โดยเพิ่มแรงจูงใจด้วยการเพิ่มรางวัลนำจับ จาก 5 แสนบาท เป็น 1,600,000 บาท และยืนยันว่าดีเอสไอทำงานอย่างเต็มที่ ทั้งการตรวจสอบดีเอ็นเอของเจ้าหน้าที่และบุคลภายนอกที่อยู่ในเหตุการณ์ กว่า 300 คน แต่ดีเอ็นเอไม่ตรงกับดีเอ็นเอตัวอย่างที่พบในร่างผู้ตาย ยอมรับว่ากว่าคดีจะส่งมาในความรับผิดชอบของดีเอสไอ ก็ล่วงเลยไปแล้วถึง 6 ปี จึงยากต่อการเก็บหลักฐาน ต้องใช้วิธีการรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น
“นายกรัฐมนตรียังให้ความสำคัญกับคดีนี้ โดยเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ปิดคดีนี้ให้ได้เร็วที่สุด เพราะมีความล่าช้ามาถึง 10 ปี พร้อมขอความร่วมมือกรมประชาสัมพันธ์ให้ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่รู้เห็นการกระทำความผิด หรือเบาะแสในพื้นที่ ช่วยแจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือดีเอสไอ ได้ตลอด หรือผ่านทางเว็บไซต์ของดีเอสไอได้อีกหนึ่งช่องทาง” พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าว.-สำนักข่าวไทย